ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1274 เจ้าเข้ามา
ทุกอย่างยังคงเงียบสนิท
ลมยามค่ำคืนที่พัดผ่านภูเขา เล็มเลียไปตามชายผ้าของนาง
ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงไหล่เขามีรูปร่างผอมบาง แต่หลังกลับเหยียดตรง พร้อมเผชิญหน้ากับสัตว์อสูร!
ประเด็นสำคัญเลยก็คือ รัศมีของเขาไม่ได้น้อยลงไปเลยแม้แต่น้อย!
ผู้อาวุโสอวี๋อวี้และอีกสองคนที่ยืนอยู่กลางอากาศ เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์เหล่านี้ ก็ชะงักไป นิ่งค้างไปในทันที
“นี่คือ…ฉู่เยว่ ลูกศิษย์ของข้าจริงๆ หรือ?”
ผู้อาวุโสวั่นเจิงรู้สึกว่าลำคอแห้งผาก ถามขึ้นมาอย่างตะกุกตะกัก
ทันทีที่เขาถามขึ้นมา เขาแทบอยากจะปิดปากลง
ถามอันใดไร้สาระแบบนี้เนี่ย!
ถ้านั่นไม่ใช่ฉู่เยว่ศิษย์รักของเจ้า แล้วจะเป็นใครได้อีก?
ใบหน้าเช่นนั้น!
รูปร่างอย่างนั้น!
บุคลิกลักษณะแบบนั้น! แล้วก็ยังมีกระบี่ชื่อเซียว!
นั่นเป็นลูกศิษย์ที่เขาคิดถึงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันไม่ใช่หรือ!
“ระดับแปด…เขาทะลวงด่านจอมยุทธ์ระดับแปดได้แล้วจริงๆ!”
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนบ่นพึมพำเสียงต่ำ ในแววตาเต็มไปด้วยความตกใจ
การทะลวงด่านจอมยุทธ์ระดับแปด นั่นไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น
มีผู้บำเพ็ญเพียรจำนวนมาก เพื่อที่ก้าวข้ามประตูบานนี้ จำเป็นจะต้องใช้เวลาเตรียมตัวนาน และแทบจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อวันนี้
แต่ว่าคนที่สามารถทะลวงด่านได้อย่างราบรื่นนั้นนับว่ามีน้อยมาก
อีกทั้งประเด็นสำคัญเลยก็คือ คนที่มีพรสวรรค์มากเท่าไร ก็จะมีพลังแฝงมากเท่านั้น ตอนที่กำลังจะทะลวงด่าน มันก็ต้องเจอปัญหาและความลำบากมากกว่าคนอื่น
เพราะว่าหลังจากจอมยุทธ์ระดับเจ็ดเป็นต้นไปนั้น การเลื่อนขั้นแต่ละก้าว จะส่งผลต่อการพัฒนาฝีมือในภายภาคหน้าอย่างยิ่ง
ทุกก้าวเหมือนเดินอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบางๆ ห้ามมีข้อผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย
แน่นอนว่าฉู่เยว่มีพรสวรรค์โดดเด่นในด้านนี้
คาดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถทะลวงด่านภายในสวนอสูรได้อย่างส่งๆ!
เขายังจำได้แม่นยำ เมื่อครู่นี้ตอนที่พวกเขารีบมากันนั้น ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่อยู่บนท้องฟ้ามันน่าตกใจอย่างมาก และยังมีการเคลื่อนไหวที่น่ากลัวจากภายในเขาอีก!
นั่นเป็นหลักฐานว่าฉู่เยว่มีพรสวรรค์ด้านจอมยุทธ์ แต่มันก็ทำให้ภายในใจของพวกเขานั้นมีความกังวลเพิ่มขึ้นอีกหลายระดับ!
ในใจของผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนตัดสินเอาไว้แล้วว่าฉู่เยว่ไม่สามารถทะลวงด่านได้สำเร็จ
แต่เพิ่งผ่านมาเพียงครู่เดียว คาดไม่ถึงว่า…จะสำเร็จแล้ว!
อีกทั้งฉู่เยว่ยังฆ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ตายได้ด้วยกระบี่เล่มเดียว!
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น อย่าว่าแต่ในระดับแปดเลย ต่อให้เขาทะลวงด่านระดับเก้าได้ ก็ไม่สามารถทำแบบนี้ได้แน่นอน!
แต่ในทางกลับกัน ผู้อาวุโสอวี๋อวี้กลับเป็นคนที่มีสีหน้าเงียบสงบมากที่สุดในบรรดาผู้อาวุโสทั้งสามคน
…เขาเฝ้ารออยู่ที่นี่มาโดยตลอด แทบจะได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาเป็นเวลานานแล้ว แน่นอนว่าเขาสามารถรับได้มากกว่าสองคนนั้นอยู่แล้ว
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วปลอบโยนว่า
“ปั๋วเหยี่ยน วั่นเจิง เจ้าสามารถวางใจได้นิดหน่อยแล้ว”
“หากเป็นช่วงเวลาปกติ ตอนนี้จะเป็นช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด เมื่อครู่นี้พลังดั้งเดิมเดือดพล่านเป็นเพราะการทะลวงด่านสำเร็จของผู้บำเพ็ญเพียร จึงได้ดึงดูดสัตว์อสูรเหล่านั้น โดยทั่วไปมันจะต้องลงมือแล้ว แต่…เป็นเพราะว่าฉู่เยว่ชิงลงมือก่อน ฆ่าเสือดาวสุวรรณเมฆาตัวนั้น ทำให้พวกมันเกิดความกลัวในใจอยู่หลายส่วน หากหลังจากที่มันชั่งน้ำหนักในใจเสร็จแล้ว และพวกมันเลือกที่จะจากไป เรื่องเหล่านี้ก็ถือว่าได้รับการแก้ไขแล้ว!”
คำพูดของผู้อาวุโสอวี๋อวี้ทำให้ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยน ผู้อาวุโสวั่นเจิงหัวใจสั่นสะท้าน
หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ก็เป็นเรื่องที่ดีมากเลย!
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้ ต่างฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บ
ถ้าสัตว์อสูรเหล่านี้ฉลาดมากพอ และรู้ความมากพอ มันก็เลือกที่จะปล่อยมือ ทุกคนลดความยุ่งยากลงไปได้อย่างไม่ต้องสงสัย
“ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญของทั้งสองฝ่าย หากสัตว์อสูรเหล่านี้เห็นว่าฉู่เยว่อ่อนแรงและขลาดกลัว มันจะต้องขึ้นมาโจมตีอย่างแน่นอน! จะสำเร็จหรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับฉู่เยว่แล้ว!”
ผู้อาวุโสอวี๋อวี้พูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ
…
การเผชิญหน้ากันอย่างเงียบๆ สัตว์อสูรเหล่านั้นก็ไม่ได้บุกขึ้นมา
แต่มันก็ไม่ได้ถอยลงไป เพียงแต่ใช้สายตาละโมบโลภมากมองมาเท่านั้น พร้อมจ้องฉู่หลิวเยว่ตาเขม็ง
แน่นอนว่าในสายตาของมันยังมีความหวาดกลัวอยู่หลายส่วน
ก่อนหน้านี้มันรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดอย่างแรง รวมตัวกันโดยไม่สนใจอันใดทั้งนั้น
แต่ว่าตอนนี้มันสามารถตระหนักได้แล้ว ด้านหลังของการดึงดูดล่อลวงนั้น คืออันตรายที่ยิ่งใหญ่!
เสือดาวสุวรรณเมฆาที่กำเริบเสิบสานคือตัวอย่าง!
“ถ้าจะต่อสู้ ก็ก้าวขึ้นมา แต่ถ้าจะยอมแพ้ ก็ถอยลงไป!”
ฉู่หลิวเยว่หมดความอดทนอยู่เล็กน้อย จึงพูดขึ้นด้วยเสียงดังลั่น
“ข้าจะนับถึงสาม! ถ้ายืนอยู่ที่เดิม ข้าจะถือว่าพวกเจ้าต้องการต่อสู้!”
ขณะที่พูดนางก็ยกมือขึ้นมาข้างหนึ่ง พร้อมเหยียดนิ้วออกไป
“หนึ่ง!”
สัตว์อสูรจำนวนน้อยเกิดความวุ่นวายขึ้นมา
“สอง!”
สัตว์อสูรที่อยู่ด้านในสุดเริ่มมองหน้ากัน และชัดว่ามันอยากจะรู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอย่างใด
ส่วนสัตว์อสูรระดับเก้าที่อยู่รอบนอก ก็เริ่มถอยลงอย่างไร้เสียงแล้ว
เผ่ามนุษย์ที่เพิ่งทะลวงด่านมาได้นั้นน่าดึงดูดก็จริง ก่อนที่จะได้ของเหล่านั้นมา มันจะต้องปกป้องชีวิตของตนเองให้ได้ก่อน
ไม่ว่าอย่างใดก็ตามเมื่อเผชิญหน้ากับอสูรศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น พวกมันก็ไม่ได้ส่วนแบ่งอันใดอยู่แล้ว เช่นนั้นออกไปแบบนี้ก็จะดีกว่า
ฉู่หลิวเยว่หรี่ตามอง จากนั้นตะโกนเป็นครั้งสุดท้าย
“สาม!”
ครั้งนี้สัตว์อสูรที่อยู่ตรงกลางมีครึ่งหนึ่งก็เริ่มจะล่าถอย
ส่วนอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ด้านในกลับไม่ขยับเลยแม้แต่ตัวเดียว
อ่า แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด
มีตัวหนึ่งที่สาวเท้าก้าวเข้ามาด้านหน้า
มันคือหมาป่าตัวหนึ่ง
ขนสีดำขลับปกคลุมทั่วร่างกาย มีเพียงตรงหน้าผากเท่านั้นที่เป็นสีทอง บนหลังของมันมีปีกหนึ่งคู่
ดวงตาของมันก็พิเศษมาก มันไม่มีรูม่านตา ทั้งหมดมีเพียงสีขาว และยังเปล่งแสงสีขาวออกมาจางๆ อีกด้วย
เมื่อหันไปมองแล้ว มันก็ดูแปลกประหลาดอย่างยิ่ง
“หมาป่าปีศาจทองดำ?”
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
มันคืออสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นอสูรที่แข็งแกร่งด้านการต่อสู้ แล้วยังอยู่เหนือกว่าเสือดาวสุวรรณเมฆาหนึ่งขั้นด้วย
แน่นอนว่าหากมันไม่มีฝีมือ มันก็ไม่กล้าเดินออกมาแบบนี้หรอก
ตอนที่ได้ยินคำพูดของนาง หมาป่าปีศาจทองดำก็ขยับตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย แยกเขี้ยวอันแหลมคมขึ้น พร้อมส่งเสียงขู่ต่ำๆ ในลำคอ
มันอยู่ในท่วงท่าพร้อมต่อสู้!
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ได้ ดูเหมือนเจ้าต้องการจะต่อสู้กับข้าสักยกสินะ”
ขณะที่พูดนางก็เบนสายตาไปด้านข้างเล็กน้อย สัตว์อสูรตัวอื่นๆ ก็จ้องมาทางด้านนี้ตาเขม็ง
ต่อมานางก็ถอนสายตาออกมา
นางสะบัดข้อมือเล็กน้อย กระบี่ชื่อเซียวเบาราวกับขนนก จากนั้นนางก็วาดเส้นโค้งในอากาศอย่างงดงาม พร้อมพุ่งเป้าไปยังหมาป่าปีศาจทองดำจากระยะไกล!
“เข้ามา!”
ทันทีที่สิ้นเสียงนั้น ฉู่หลิวเยว่ก็สะกิดปลายเท้า แล้วพุ่งตัวขึ้นไปในอากาศ!
ในขณะเดียวกัน ปีกของหมาป่าปีศาจทองดำก็กระพือขึ้น! แล้วมุ่งหน้ามาทางฉู่หลิวเยว่!
…
ผู้อาวุโสทั้งสามคนที่ดูสถานการณ์อยู่ไม่ไกล ใบหน้าของพวกเขาก็มีความกังวลปรากฏขึ้น
“หมาป่าปีศาจทองดำ? นี่เป็นหนึ่งในสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งมากที่สุด อีกทั้งยังมีนิสัยเจ้าเล่ห์ เพทุบาย ยากที่จะต่อกร ฉู่เยว่…จะไหวหรือ?”
ผู้อาวุโสวั่นเจิงอดถามขึ้นมาไม่ได้
ผู้อาวุโสอวี๋อวี้หัวเราะออกมาอย่างขมขื่น
“นี่ก็ไม่แน่เหมือนกัน…ฉู่เยว่สามารถฆ่าเสือดาวสุวรรณเมฆาตัวนั้นได้ มันก็เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงอยู่แล้ว หากพูดตามตรงแล้วละก็ ข้าคิดว่าฝีมือของนางในตอนนี้ น่าจะสูงกว่าผู้บำเพ็ญเพียรระดับแปดทั่วไป ดังนั้นเรื่องนี้ใครจะเป็นฝ่ายชนะ…ก็เป็นเรื่องที่พูดยาก”