ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1275 ชนะ
แน่นอนว่าในใจของเขาหวังว่าฉู่เยว่จะเป็นฝ่ายชนะ
จากการตายของเสือดาวสุวรรณเมฆาเมื่อครู่นี้ ทำให้เขามั่นใจว่า ฝีมือของฉู่เยว่ในตอนนี้สามารถเอาชนะหนึ่งในห้าของอสูรศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ได้แน่นอน!
แม้ว่าเสือดาวสุวรรณเมฆาจะมีฝีมือที่ไม่เลว แต่เมื่อพิจารณาจากก่อนหน้านี้มันได้ต่อสู้กับลูกอสูรสันหลังเหล็กเป็นเวลานาน พละกำลังของมันจะต้องลดไปส่วนหนึ่งอย่างแน่นอน ดังนั้นผู้อาวุโสอวี๋อวี้คิดลดระดับการเปรียบเทียบลงมาอยู่เล็กน้อย
การจัดการอสูรศักดิ์สิทธิ์หนึ่งในห้าได้ ก็นับว่าโดดเด่นมากแล้ว!
เหล่าจอมยุทธ์ระดับเก้าที่อยู่ในสำนัก อาจจะจัดการอสูรศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ไม่ได้เลยสักตัว!
แม้ว่าความดีความชอบส่วนใหญ่จะเป็นของกระบี่ชื่อเซียวเล่มนั้น กระบี่เล่มนั้นก็เป็นของฉู่เยว่ ดังนั้นถือว่าเป็นความแข็งแกร่งของเขาส่วนหนึ่ง
เขาชะงักไปเล็กน้อย แล้วกดเสียงลง
“ในสวนอสูรแห่งนี้อสูรตัวนี้มีลำดับที่สูงมาก หากครั้งนี้ฉู่เยว่สามารถเอาชนะได้ นั่นจะทำให้สัตว์อสูรตัวอื่นรู้สึกหวาดกลัวแน่นอน!”
…
ฉู่หลิวเยว่และหมาป่าปีศาจทองดำได้เผชิญหน้ากันจากในระยะไกล
ฉู่หลิวเยว่กวาดสายตามองโดยรอบ แล้วส่ายหน้า
“เฮ้อ น่าเสียดาย”
ในแววตาของหมาป่าปีศาจทองดำมีประกายไม่เข้าใจ เห็นได้ชัดว่ามันไม่เข้าใจว่าเหตุใดฉู่หลิวเยว่ถึงพูดแบบนี้ออกมา
ฉู่หลิวเยว่หัวเราะขึ้น
“เดิมทีข้าคิดว่าจะหาเจ้านายให้เจ้า แต่ดูจากนิสัยของเจ้าแล้ว น่าจะเป็นฝ่ายไม่ยอมใครด้วยเช่นกัน”
ขนของหมาป่าปีศาจทองดำลุกขึ้นชูชันทั้งร่างกาย! จิตสังหารเข้มข้นขึ้น!
เห็นได้ชัดว่าฉู่หลิวเยว่กำลังยั่วมันอยู่
ฉู่หลิวเยว่กำด้ามกระบี่ชื่อเซียวกรอด และยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่นางยังไม่ได้พูด นางตัดสินใจว่าจะเลือกฆ่ามัน เพื่อเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู ดังนั้น…มันจะต้องตาย!
“อ๊าว…”
หมาป่าปีศาจทองดำเงยหน้าหอนเสียงยาว!
แต่ในวินาทีถัดมา มันเคลื่อนไหวร่างกายพุ่งตรงมาทางฉู่หลิวเยว่ในทันที!
ปีกทั้งสองข้างกระพือขึ้น จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นสองตัว! พร้อมโจมตีฉู่หลิวเยว่จากทั้งสองฝั่ง!
ผู้อาวุโสอวี๋อวี้ขมวดคิ้ว
“หมาป่าปีศาจทองดำมีความเร็วสูงมาก อีกทั้งยังสามารถแบ่งร่างได้ พลังในการต่อสู้แทบจะแข็งแกร่งเทียบเท่าร่างจริงเลยทีเดียว จำเป็นจะต้องฆ่าทั้งร่างจริงและร่างแยกพร้อมกัน มันถึงจะตายอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่เช่นนั้นหากผ่านไปเพียงชั่วพริบตา พลังของมันก็สามารถกลับมาได้ ครั้งนี้ไม่รู้ว่าฉู่เยว่จะสามารถต้านทานได้หรือไม่…”
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“เขามีอสูรศักดิ์สิทธิ์อยู่หนึ่งตัวไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงไม่ยอมเรียกออกมาเลย? หากตอนนี้หนึ่งคนหนึ่งอสูรศักดิ์สิทธิ์ร่วมมือกันละก็ โอกาสที่จะชนะมีสูงมาก”
ผู้อาวุโสวั่นเจิงรู้สึกกังวลอย่างมากจนไม่ยอมพูดออกมา หมัดทั้งสองข้างกำแน่น ฝ่ามือเต็มไปด้วยเหงื่อ
ผู้อาวุโสอวี๋อวี้รู้ว่าเขากังวล จึงพูดปลอบโยนว่า
“ความจริงแล้วถ้าฉู่เยว่สู้ไม่ไหว พวกเราค่อยหาโอกาส…”
โครมโครม!
เสียงอาวุธที่แหลมคมเจาะเข้าที่เลือดเนื้อสองครั้งดังขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกัน
ลำคอของผู้อาวุโสอวี๋อวี้เหมือนถูกอันใดบางอย่างมาอุดไว้ ทำให้เขาต้องกลืนคำพูดที่เหลือลงไป
เขาเบิกตากว้างอย่างตกใจ ในตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าจะพูดอย่างใดดี
เพราะว่า…
บริเวณกลางอากาศที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขา หมาป่าปีศาจทองดำตัวนั้นทั้งร่างจริงและร่างแยก ถูกแทงจนทะลุพร้อมกัน!
บริเวณกลางหน้าผาก ตายในดาบเดียว!
แม้กระทั่งเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือยังไม่ทันดังออกมา แต่มันก็ไม่มีลมหายใจแล้ว
ฝั่งซ้ายคือกระบี่ชื่อเซียว
ส่วนฝั่งขวาคือ…
หลังจากผู้อาวุโสอวี๋อวี้มองไปแล้ว เขาก็อดที่จะอ้าปากค้างไม่ได้
คาดไม่ถึงว่ามันจะเป็นฝักกระบี่!
ฝักกระบี่ด้ามนั้นดูเหมือนไม่มีพิษมีภัย ทั้งมีรูปร่างกลมและทื่อ ตามหลักการแล้วมันไม่สามารถที่จะแทงทะลุเนื้อของหมาป่าปีศาจทองดำได้
แต่…ความจริงทุกอย่างมันปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้ว!
ตั้งแต่การต่อสู้ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉู่เยว่ยังคงออกแค่กระบวนท่าเดียว!
ฉู่หลิวเยว่ยกมือขึ้น แล้วเรียกกระบี่ชื่อเซียวกลับมา
ทันทีที่กระบี่และฝักกระบี่หลุดออกมา ฝั่งซ้ายหายไป
อีกทั้งทางฝั่งขวานั้นก็หล่นลงไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านล่าง
ตึง!
กระบี่ชื่อเซียวกลับเข้าฝัก!
แต่สิ่งที่ทำให้ฉู่หลิวเยว่พอใจเลยก็คือ ไม่ใช่แค่ตัวกระบี่ชื่อเซียว แม้กระทั่งฝักกระบี่ยังไม่มีคราบเลือดติดเลยแม้แต่น้อย
นอกจากกลิ่นคาวเลือดที่มีอยู่จางๆ นอกจากนี้มองไม่ออกเลยว่า เมื่อครู่นี้มันเพิ่งฆ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ไปหนึ่งตัว
ตอนนี้นางมีท่าทีผ่อนคลายอย่างมาก และสบายอารมณ์
แต่สัตว์อสูรอื่นๆ แม้กระทั่งผู้อาวุโสทั้งสาม กลับรู้สึกสับสนวุ่นวายอย่างยิ่ง
นี่…นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่?
ฝักกระบี่…สามารถฆ่าคนได้ด้วยหรือ?
อีกทั้งที่มันฆ่าคือร่างจริง!
พวกเขายังมองเห็นไม่ชัดเจนด้วยซ้ำว่าฝักกระบี่นั้นปรากฏตัวขึ้นตั้งแต่เมื่อไร แต่วินาทีต่อมามันก็ระเบิดเข้าที่ศีรษะของหมาป่าปีศาจทองดำไปแล้ว!
กระบวนท่านี้ของฉู่เยว่…มันจะบ้าคลั่งเกินไปแล้ว!
สายตาของคนจำนวนนับไม่ถ้วนจับจ้องมาที่ร่างของฉู่หลิวเยว่
นางโคจรลมปราณของตัวเองให้สงบนิ่ง และมองลงไปด้านล่าง ริมฝีปากยกยิ้มขึ้น
“ยังมีอีกหรือไม่?”
ความจริงแล้ว สภาพของนางในตอนนี้ ไม่ได้ดีอย่างที่เห็น
เพราะว่าการใช้กระบี่ชื่อเซียวสองครั้ง ทำให้นางต้องสูญเสียพลังไปอย่างมาก
ครั้งแรกยังเห็นไม่เด่นชัดนัก ในตอนนั้นนางเพิ่งทะลวงด่านได้ อีกทั้งกำลังพะวงลูกอสูรสันหลังเหล็กที่กำลังอยู่ในอันตราย นางจึงรวบรวมสมาธิ ไม่ได้สนใจสิ่งใด
แต่ว่าในครั้งนี้นางสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน หลังจากที่นางปล่อยกระบี่ออกไปแล้ว พลังและจิตวิญญาณที่อยู่ภายในกายของนาง สูญเสียไปเป็นจำนวนมาก
หากคนบุคคลหนึ่งต้องการรักษาสภาพให้เตรียมพร้อมต่อสู้มากที่สุด ไม่ใช่จะมีแค่พลังดั้งเดิมที่เพียงพอแต่ยังต้องมีพลังชีพ พลังจิต และพละกำลัง เหล่านี้ให้เพียงพอ
เช่นเดียวกับตอนนี้ ความจริงแล้วทั้งสองครั้งนี้ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้ดึงดูดพลังดั้งเดิมมาเลย อีกทั้งการหยิบกระบี่ชื่อเซียวขึ้นมานั้นก็ง่ายดายอย่างมาก
แต่ทว่าราคาที่จะต้องจ่ายนั้นกลับสูงมาก
หลังจากความเงียบปกคลุมอยู่สักพักหนึ่ง ก็เหมือนว่ามีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้น
ฉู่หลิวเยว่ยกกระบี่ขึ้นแล้วชี้ลงไป
แต่นางยังไม่ทันได้พูดอันใด เสียงอันคุ้นเคยก็ดังขึ้นที่ข้างหู
“ฉู่เยว่ช้าก่อน!”