ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1341 อินทรีสามตา
ตอนที่ 1341 อินทรีสามตา
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงถอนหายใจออกมา
“รุ่ยเออร์ ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ชอบนางมาโดยตลอด แต่ท้ายที่สุดแล้วนางก็ยังเป็นศิษย์ของสำนัก อีกทั้งนางก็ยังเป็นคนเดียวในจำนวนศิษย์สามร้อยคนที่พวกเราเจอในบุพกาลชายแดนเหนือ ไม่ว่าด้านอารมณ์และเหตุผล พวกเราก็ไม่สามารถละทิ้งนางเอาไว้ที่นี่ได้”
“ผู้อาวุโสฮวาเฟิง ข้าเห็นด้วยที่จะให้นางไปพร้อมกับพวกเรา นี่ไม่ใช่เหตุผลส่วนตัวแต่เป็นเพราะ…”
ชือรุ่ยเออร์หยุดชะงักไปชั่วคราว
“ท่านก็พูดว่า ก่อนหน้านี้สำนักส่งคนมาสามร้อยกว่าคน แล้วเหตุใดนางถึงอยู่ที่นี่คนเดียว? ไม่ต้องพูดถึงเรื่องผู้อาวุโสคนอื่น ต่อให้เป็นในหมู่ศิษย์ด้วยกัน ก็น่าจะมีคนที่แข็งแกร่งกว่านางมาก? ในความคิดของข้าแล้ว การที่นางปรากฏตัวเพียงลำพัง มันเป็นเรื่องที่น่าสงสัยอย่างมาก”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงลูบเคราของตนเองเบาๆ
“รุ่ยเออร์ ความกังวลของเจ้าก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล แต่เกรงว่าตอนนี้จะไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ไม่ใช่หรือไง? หากนางมีปัญหาอันใดจริงๆ เจ้าคิดว่าจะปล่อยนางไปเพื่อความปลอดภัยหรือว่าจะให้นางอยู่ในสายตาจะดีกว่า?”
พวกเขามีคนอยู่เยอะขนาดนี้ ไม่สามารถจัดการกับเจียงจื่อหยวนเพียงคนเดียวได้อย่างนั้นหรือ?
เมื่อได้ยินดังนั้น ชือรุ่ยเออร์ก็ครุ่นคิดไปสักพักหนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ที่ท่านพูดมาก็มีเหตุผล เช่นนั้นก็ทำตามคำพูดของท่านเถอะ แต่ว่าหากพบว่านางมีปัญหา ก็ไม่มีทางรั้งไมตรี”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงถอนหายใจในใจ พร้อมพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“ได้! เจ้าทำอันใดมักมีขอบเขตอยู่เสมอ ข้าเชื่อในตัวเจ้า!”
ชือรุ่ยเออร์เองก็ยิ้มขึ้นมา
“แต่ว่า…ข้าไม่เคยเข้าใจมาโดยตลอดว่าเหตุใดเจ้าถึงไม่ชอบเจียงจื่อหยวน ข้าจำได้ว่าไม่กี่เดือนหลังจากที่นางมาอยู่สำนัก เจ้าก็กลับไปยังเฟยซิงเหมินทันที”
เรื่องที่ทั้งสองคนทะเลาะเบาะแว้งกัน เขาไม่รู้จริงๆ ว่าสาเหตุมาจากที่ใด
ชือรุ่ยเออร์ทัดผมไว้ที่หลังหู จากนั้นก็หัวเราะออกมาเบาๆ
“ความจริงแล้วมันก็ไม่ได้มีอันใด ก็แค่นางทำเรื่องอันใดบางอย่าง และทำให้ข้าเหม็นขี้หน้า ดังนั้น…แต่ว่าท่านวางใจได้เลย ระหว่างทางนี้หากนางปฏิบัติตนอย่างซื่อสัตย์ ข้าก็จะไม่ทำอันใดนางเด็ดขาด”
ไม่ทำให้มือตนเองต้องสกปรก
ไม่ต้องพูดถึงเจียงจื่อหยวนเพียงแค่คนเดียว ทั้งเซียนสุ่ยหลิง นางก็ไม่มองคนเหล่านั้นอยู่ในสายตา
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงมองสีหน้าของชือรุ่ยเออร์ และรู้ว่าสิ่งที่นางพูดนั้นเป็นความจริง ดังนั้นจึงสามารถวางใจลงได้หลายส่วน
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว”
…
หลังจากที่ทั้งสองคนคุยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็กลับมาอย่างรวดเร็ว
เจียงจื่อหยวนทำแผลเสร็จเรียบร้อย หลังจากกินยาไป ในที่สุดใบหน้าของนางก็มีเลือดฝาดขึ้น
นางยืนอยู่อย่างนิ่งๆ ท่ามกลางผู้คน ลดการเป็นจุดสนใจให้น้อยที่สุด
คนกลุ่มนี้เดินทางตามทิศทางที่นางวิ่งมาเมื่อครู่นี้
…
“ฉู่เยว่ ได้ยินมาว่าสัตว์อสูรในพันธสัญญาของเจ้าคือกษายะหางวายุหรือ?”
ชือรุ่ยเออร์เหมือนว่าจะชอบฉู่หลิวเยว่มาก อีกทั้งยังอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับตัวของนาง หลังจากเดินไปสักพักหนึ่ง นางก็หันมาคุยกับฉู่หลิวเยว่อีกครั้ง
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม
“ใช่แล้ว”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงที่เดินอยู่ด้านหน้าก็ลูบจมูกเบา ๆ
“เช่นนั้นก็พอดีเลย หากมีเวลาพวกเรามาแลกเปลี่ยนวิชากันดีหรือไม่?” ดวงตาของชือรุ่ยเออร์สว่างไสวยิ่งขึ้น “หลังจากที่ข้าทำพันธสัญญากับสัตว์อสูรตัวนี้ ก็ยังไม่เคยได้ประลองกับใครเลย”
อินทรีสามตาสู้กับกษายะหางวายุ แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างมาก
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดแล้วพูดว่า
“ถวนจื่อมักจะขี้เกียจอยู่ตลอด ช่วงนี้มันก็ชอบเอาแต่นอนหลับ ปลุกไม่ค่อยได้ เรื่องนี้…เดี๋ยวพวกเราค่อยว่ากันอีกทีเถอะ?”
ชือรุ่ยเออร์รู้สึกเสียดายอยู่เล็กน้อย แต่เรื่องแบบนี้ก็ไม่สามารถบังคับได้จริงๆ นางจึงพูดขึ้นมาว่า
“ก็ได้ ข้ารู้สึกว่ามันน่าจะกำลังเหงา ไม่รู้ว่าเหตุใด ตั้งแต่พันปีก่อนอาณาจักรเสิ่นซวี่ก็ไม่มีอินทรีสามตาปรากฏขึ้นอีกเลย ที่ท่านพ่อสามารถพบมันได้นั้นเป็นเรื่องบังเอิญทั้งสิ้น ไม่รู้ว่าจะได้เจอมันอีกตัว…”
“อินทรีสามตา?”
เจียงจื่อหยวนที่เงียบมาตลอดได้ยินดังนั้น ก็พูดขึ้นอย่างอดไม่ได้
“พระราชวังเมฆาสวรรค์มีอยู่หนึ่งตัว เหตุใดศิษย์พี่ชือรุ่ยเออร์ถึงไม่ไปประลองกันที่นั่นล่ะ?”