ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1436 หลบหลีก
ตอนที่ 1436 หลบหลีก
โครม!
ทันใดนั้นก็มีเสียงสั่นสะเทือนเลือนลั่นจากฟากฟ้า!
ท้องฟ้าที่แจ่มใสมืดครึ้มลงอย่างรวดเร็ว เมฆดำปกคลุม ลมพายุพัดมาอย่างบ้าคลั่ง!
เจียงจื่อหยวนเงยหน้าขึ้นมองอยู่ครู่หนึ่ง และมั่นใจในการคาดเดาของตนเองมากขึ้น
แน่นอน!
ท่านประมุขจะต้องออกจากด่านฝึกแน่นอน!
การเคลื่อนไหวดังนี้ดึงดูดสายตาผู้คนจำนวนมากในพระราชวังเมฆาสวรรค์อย่างรวดเร็ว
พรึ่บ!
เสียงดังทะลุท้องฟ้าดังขึ้น!
ช่วงเวลาเพียงครู่หนึ่ง ร่างกายของนางมีเงาร่างของผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนมารวมตัวกัน!
หนึ่งในจำนวนนั้นมีองครักษ์เกราะดำผู้รับผิดชอบเฝ้าเขาว่านจง และยังมีผู้อาวุโสที่มีตำแหน่งสูงส่งอีกหลายคน!
แม้กระทั่งผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกและคนอื่นๆ ที่เห็นการเคลื่อนไหวเหล่านี้ก็มารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว!
ทุกคนมองไปทางจุดศูนย์กลางของความปั่นป่วน… เขาว่านจง!
ระหว่างท้องฟ้าที่มืดสลัว มีเพียงเขาว่านจงแห่งเดียวเท่านั้นที่มีแสงส่องสว่างเปล่งประกายสวยงาม!
“นี่… ท่านประมุขจะออกจากด่านฝึกแล้วหรือ?”
ไม่รู้ว่าเป็นใครที่อยู่ในฝูงชน ที่พูดพึมพำขึ้นอย่างปิดบังความตกใจไว้ไม่มิด
น้ำเสียงนั้นเบามากและต่ำมาก
คนที่สามารถปรากฏตัวได้ในที่แห่งนี้ มีคนไหนบ้างที่ไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งระดับสูง?
ทุกคนจึงสามารถได้ยินคำพูดนี้อย่างชัดเจน
เขาว่านจง เป็นสถานที่ที่ท่านประมุขเลือกปิดด่านฝึกในปีนั้น
หลายปีผ่านมาทุกอย่างเงียบสงบนิ่งมาโดยตลอด ไม่มีความเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้ค่ายกลที่อยู่บนยอดเขาเปิดการใช้งานแล้ว ทุกอย่างเปิดออก พลังฟ้าดินระเบิดขึ้น!
คำตอบ… มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
เปรี้ยงๆ!
สายฟ้าสีเงินสว่างจำนวนนับไม่ถ้วนเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่งท่ามกลางชั้นเมฆดำ! ลมปราณที่แผ่กระจายน่าหวาดกลัวอย่างมาก!
เสื้อผ้าหน้าผมของเจียงจื่อหยวน ปลิวตามแรงลมอย่างบ้าคลั่ง วุ่นวายยุ่งเหยิงอย่างมาก
แรงกดดันนั้นน่ากลัวอย่างมาก มันตกลงมาจากฟากฟ้า ปกคลุมทั่วเขาว่านจงทั้งหมด!
ความเจ็บปวดแผ่ซ่านทั่วทั้งร่างกาย!
ใบหน้าของนางซีดขาว จากนั้นก็กระอักเลือดออกมาโดยตรง! จนเกือบจะกลิ้งตกจากยอดเขาไปแล้ว!
นางรีบคว้าก้อนหินที่อยู่ด้านข้างเอาไว้ เพื่อตรึงร่างของตนเองอยู่กับที่
ห้ามไป!
ห้ามถอย!
ยิ่งเป็นในเวลาแบบนี้แล้ว นางจะต้องยืนหยัดให้ถึงที่สุด!
หากท่านประมุขออกมา จะต้องเห็นนางเป็นคนแรก!
นางโอบกอดความเชื่อมั่นเอาไว้ เดิมทีร่างกายของเจียงจื่อหยวนอ่อนแออย่างมาก แต่คาดไม่ถึงว่าจะสามารถระเบิดศักยภาพขั้นสูงสุดได้
ใบหน้าของนางถูกลมพัดจนเจ็บ รู้สึกว่าร่างกายไม่ใช่ของตนเองอีกต่อไป มันเจ็บปวดจนชาไปหมด
มีเพียงมือทั้งสองข้างเท่านั้นที่ยังกอดก้อนหินนั้นเอาไว้แน่น ให้ตายอย่างใดก็ไม่ยอมปล่อย!
ชั่ววินาทีต่อมา ค่ายกลขนาดใหญ่ก็ระเบิดออกอย่างกะทันหัน!
โครม!
ทันใดนั้นก็มีเงาร่างสายหนึ่งพุ่งตัวออกมาจากด้านล่าง!
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้นเอง สายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนบนท้องฟ้าก็ฟาดฟันลงมา!
“โครม โครม โครม”!
ในช่วงเวลานั้นเขาว่านจงแทบจะกลายเป็นทะเลอัสนีบาต
พลังที่น่าหวาดกลัวพวยพุ่งและกระจายไปทั่วบริเวณ!
โครม!
ม่านพลังด้านนอกเขาแตกกระจายเป็นเสี่ยง!
ใบหน้าของผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกแข็งค้าง แขนเสื้อสั่นคลอน!
“ผ้าแพรกักขังสีเงิน!”
ผ้าแพรสีเงินยาวผืนหนึ่ง ลอยขึ้นไปตามลม เพียงแค่ในชั่วพริบตาเดียว คาดไม่ถึงว่ามันจะเขาว่านจงได้ครึ่งลูกแล้ว!
พลังเหล่านั้นที่ระเบิดออกมาปะทะเข้ากับผ้าแพรกักขังสีเงินแล้ว มันก็เหมือนถูกดูดซับและสลายหายไปอย่างรวดเร็ว!
“เจียงจื่อหยวน! ออกไป!”
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกตะโกนออกมาเสียงดัง ผ้าแพรกักขังสีเงินผืนนั้นกำลังลอยไปตามลม และอยู่ห่างจากด้านหลังของเจียงจื่อหยวนไม่ไกล
ตราบใดที่นางหมุนตัว และกระโดดขึ้นผ้าแพรกักขังสีเงินผืนนี้ไป นางก็จะสามารถหนีออกจากที่นี่ได้อย่างราบรื่น
แต่เจียงจื่อหยวนทำเหมือนไม่ได้ยิน นางคุกเข่านั่งลงกับพื้น หมอบตัวลงต่ำ กอดหินก้อนนั้นเอาไว้จนแน่น
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกขมวดคิ้วขึ้นเป็นปม หัวเราะอย่างเย็นชา
แม้กระทั่งในเวลานี้แล้ว เจียงจื่อหยวนก็ยังคิดเช่นนี้อยู่…
มันทำให้นางลำบากจริงๆ!
โครม!
สายฟ้าสีเงินสว่างวาบ ก่อนจะโจมตีไปที่เจียงจื่อหยวนอย่างรวดเร็ว!
นางสามารถสัมผัสได้ถึงอันตราย ในที่สุดก็เงยหน้าขึ้นมอง
หลบ?
แน่นอนว่าไม่!
เจียงจื่อหยวนกัดฟันกรอด คาดไม่ถึงว่ะนางตัดสินใจจะเผชิญหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว!
นางชักกระบี่ออกมา พร้อมสะกิดปลายเท้า ก่อนจะพุ่งเข้าหาทัณฑ์สวรรค์โดยตรง!
แกร๊ก!
ทันทีที่กระบี่ของนางสัมผัสกับทัณฑ์สวรรค์มันแตกออกเป็นเสี่ยงในทันที!
หัวใจของเจียงจื่อหยวนสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ทันใดนั้นความคิดที่จะหลบหนีความตายก็ปรากฏขึ้นมา
แต่อย่างใดก็ตามตอนที่ทัณฑ์สวรรค์กำลังจะผ่าลงที่กลางศีรษะของนาง ทันใดนั้นม่านพลังสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้านาง!
ในขณะเดียวกันนั้นเอง พลังที่แข็งแกร่งสายหนึ่งปรากฏที่ด้านข้างของนาง แล้วคว้าเอวนางไว้ ก่อนจะค่อยๆ วางนางลง
ขาทั้งสองข้างของเจียงจื่อหยวนอ่อนแรง ล้มตัวติดพื้น
และนี่เป็นครั้งแรกที่นางหันกลับไปมอง ความตกใจเพิ่มมากขึ้น หยาดน้ำตาเอ่อคลอ
“ท่านประมุข!”
เงาร่างที่มีหลังค่อมเล็กน้อย ร่างกายปกคลุมด้วยลมปราณที่น่าหวาดกลัว ลำแสงแผ่กระจายออกมาไม่มีสิ้นสุด
เขาเดินตรงไปด้านหน้า แล้วหายไปทางอากาศ
ไม่ว่าเขาจะผ่านไปที่ใด พลังที่อยู่รอบกายก็ค่อยๆ แข็งตัว และสลายหายไป!
เมื่อทัณฑ์สวรรค์เหล่านั้นสัมผัสร่างกายของเขา ก็หายลงไปภายใต้ผิวหนังอย่างรวดเร็ว
เหมือนว่าถูกเขากลืนกินไปทั้งหมดแล้ว
ในที่สุดฝีเท้าของเขาก็ชะงัก ก่อนจะหยุดตัวลง
เมื่อเขายกมือขึ้น ทัณฑ์สวรรค์สายสุดท้ายก็แตกสลายกลางฝ่ามือของเขา
ภาพนี้ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนรู้สึกตกใจและหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง
ในที่สุดตอนนั้นพวกเขาถึงสามารถมองเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของชายชราผู้นี้ได้
เขาสวมชุดคลุมยาวสีเขียวคราม รูปร่างไม่นับว่าสูงใหญ่ ใบหน้าแก่ชราและธรรมดา ผมสีขาวดอกเลา ดูแล้วไม่ต่างไปจากชายชราทั่วไป
นอกจากดวงตาคู่นั้น
เหมือนผ่านชีวิตมามากมาย ทั้งสงบนิ่งและลึกยากเกินหยั่งถึง
ตอนที่เขามองมานั้น มันเหมือนกับดวงดาวที่ดับสลายไป ตะวันจันทราโคจรมาเกิดใหม่
เหมือนว่าในแววตาคู่นั้น มีจักรวาลอันกว้างใหญ่อยู่
ผู้คนโดยรอบล้วนตกอยู่ในความเงียบ
ไป๋หลีฉุนมองไปรอบด้าน ริ้วรอยที่อยู่บนแก้มทั้งสองข้างเหมือนว่าจะลึกขึ้น
ไม่ว่าเขาจะกวาดสายตามองไปทางใด ทุกคนก็ก้มหน้าลงด้วยความหวาดกลัวอย่างไม่รู้ตัว
ทันใดนั้นพวกเขามีความรู้สึกที่อยากจะคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี
คนจำนวนไม่น้อยลอบตกใจ… ท่านประมุขปิดด่านฝึกไปแค่ไม่กี่ปี แต่ก้าวหน้าถึงเพียงนี้เชียวหรือ!
แรงกดดันในตอนนี้ ทำให้คน…
“ข้าไม่ได้ออกมาข้างนอกนานมากแล้วจริงๆ…”
ไป๋หลีฉุนถอนหายใจออกมาเสียงเบา น้ำเสียงแหบพร่า จับอารมณ์ไม่ถูก!
“ขอแสดงความยินดีกับท่านประมุขที่ออกจากด่านฝึก!”
ท่ามกลางความเงียบของผู้คน ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งที่พูดขึ้นอย่างปกปิดความยินดีไว้ไม่มิด
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกเหลือบสายตามองที่ข้างกาย
เมื่อครู่นี้ตอนที่เจียงจื่อหยวนกำลังเผชิญกับอันตรายไม่เห็นเขาออกมา แต่ตอนนี้ท่านประมุขออกจากด่านฝึกแล้ว เขากลับมีปฏิกิริยาตอบสนองได้ไวมาก
แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องตั้งใจหรือไม่ก็ยังไม่สามารถพูดได้
ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งมีสีหน้าตื่นเต้น ใบหน้าแก่ชราเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างเห็นได้ยาก
“ท่านประมุข ในที่สุดท่านก็ออกมาแล้ว! หลายปีที่ผ่านมานี้ ข้านั้นคิดถึงท่านอย่างมาก!”
ในเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา วิธีการของหรงซิวเฉียบขาดอย่างมาก โหดเหี้ยมอำมหิต เขาควบคุมพระราชวังเมฆาสวรรค์ทั้งหมดไว้ในกำมืออย่างสมบูรณ์!
หากท่านประมุขยังไม่ออกมาอีก เกรงว่าหรงซิวจะต้องจัดการพวกเขาด้วยแล้ว!
น้ำเสียงของผู้อาวุโสอวี๋จิ้งได้ดึงสติของทุกคนขึ้นมา
ในตอนนั้นเองพวกเขาทุกคนก็ทำความเคารพอย่างพร้อมเพรียง
“ขอแสดงความยินดีกับท่านประมุขที่ออกจากด่านฝึก!”
ไป๋หลีฉุนยิ้มออกมาเล็กน้อย แต่อาจจะเป็นเพราะว่าเขาปิดด่านฝึกมานานเกินไป รอยยิ้มของเขาจึงแข็งทื่ออย่างเห็นได้ชัด และให้ความรู้สึกห่างเหินอย่างชัดเจน
“ไม่จำเป็นต้องมากพิธี”
ขณะที่พูดเขาก็แค่ขยับตัวไปด้านหน้า และเดินตรงไปที่เจียงจื่อหยวน
สีหน้าของเขาอ่อนโยนขึ้นมาก และเต็มไปด้วยความรักเอ็นดู
“เจ้าเด็กคนนี้ เหตุใดถึงไม่รู้จักหลบเล่า?”