ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1443 ข้าจัดการเอง
ตอนที่ 1443 ข้าจัดการเอง
เด็กหนุ่มกล่าวเสียงดังชัดเจนและบริสุทธิ์ใจ ดวงตานิลกาฬเสมือนหยกเนื้อดีที่ถูกย้อมด้วยน้ำหมึกสีเข้ม ดูฉ่ำวาวทอประกายระยิบระยับ
จนอดมองอดคล้อยตามในสิ่งที่เขาพูดไม่ได้
หลายคนชะงัก จิตใจที่เคยหนักแน่นพลันสั่นคลอน
จริงด้วย!
หากฉู่เยว่ครอบครองสมบัติล้ำค้านั่นจริงๆ และถ้าถูกคนจับได้ เขาจะอยู่อย่างสงบสุขได้นานเช่นนี้ได้อย่างใด?
ถ้าคนมีสมอง ย่อมใช้โอกาสที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้เรื่องนี้ ชิงเอาสมบัติไปจากเขาตั้งแต่แรกแล้วมิใช่หรือ?
อย่างใดเสียตอนนี้ฉู่เยว่ก็เป็นเพียงจอมยุทธ์ระดับเก้า หากคู่ต่อสู้ต้องการแย่งชิงสมบัติจริงๆ แล้ว ย่อมมีโอกาสมากมาย เดิมทีฉู่เยว่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาอยู่แล้ว
ทว่าตอนนี้ข่าวคราวดันแพร่สะพัดไปทั่วสารทิศ ทุกคนต่างพร้อมลงมือ กระเหี้ยนกระหือรือเข้ามาแย่งชิงสมบัติกัน
ชัดเจนว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ พุ่งเป้าไปที่ฉู่เยว่!
ฉู่เยว่คนเดียว จะใช้หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ล่อลวงคนได้เชียวหรือ?
แค่นี้ก็กระจ่างแล้วมิใช่หรือ ว่าพวกเข้าพุ่งเป้ามาที่ฉู่เยว่?
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก
ขอแค่เรื่องของฉู่เยว่เป็นเพียงข่าวลือ ทุกอย่างก็จะคลี่คลายได้โดยง่าย
เพราะไม่อย่างนั้น เขาเองก็ไม่รู้จริงๆ ว่าจะลบล้างข้อกล่าวหานี้เช่นไร
“ยามนี้ข่าวลือแพร่กระจ่ายไปทั่วอาณาจักร เหล่าสำนักวิชาและตระกูลขุนนางจำนวนมากเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง ซึ่งมันมิใช่ผลดีต่อตัวเจ้าสักเท่าไร”
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนคลายแรงบีบออก และเคาะนิ้วลงบนที่วางแขนราวใช้ความคิด
“เจ้าต้องหาวิธีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้ตัวเอง ถึงจะจบเรื่อง”
ถึงมันจะฟังดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไร
เห็นได้ชัดว่ามีคนจงใจใส่ร้ายป้ายสีฉู่เยว่ แต่กลับอยากให้เขาพิสูจน์ตัวเอง
ใครๆ ก็รู้ว่าการพิสูจน์เรื่องเหล่านี้มิใช่เรื่องง่าย
และอาจไม่มีทางทำได้
…สำนักวิชาและตระกูลชนชั้นสูงเหล่านี้สูญเสียผู้คนบ้างให้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบุพกาลชายแดนเหนือ ในเมื่อนานวันเข้าแล้วยังหาตัวผู้อยู่เบื้องหลังไม่เจอ ในใจของพวกเขาจึงมีแต่ความเคียดแค้นโกรธเคืองอย่างเลี่ยงไม่ได้
ยามนี้ข่าวลือแพร่กระจายออกไป พวกเขาจึงเลือกตราหน้าเข้ามา แล้วใช้ฉู่เยว่เป็นกระสอบทราย
เพื่อระบายเคียดแค้นทั้งหมดใส่ฉู่เยว่
และฉู่เยว่ก็ทำได้เพียงก้มหน้ารับกรรมต่อไป
“รับทราบขอรับ”
ฉู่หลิวเยว่ระบายยิ้มบางเบา
“เมื่อก่อนศิษย์สร้างปัญหาให้แก่สำนักวิชาไว้มากมาย ยังไม่ทันได้กล่าวขอบคุณและขอโทษเหล่าผู้อาวุโสอย่างเป็นทางการเลย คิดไม่ถึงว่าประเดี๋ยวเดียว จะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นเสียได้ ศิษย์รู้สึกผิดจากใจจริงๆ ขอรับ”
สิ่งที่นางกล่าวนั้นฟังดูจริงใจมาก จนผู้อาวุโสบางคนที่กำลังจะตำหนินาง ทำได้เพียงหุบปากอย่างจำยอม
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฉู่เยว่นั้นดูไร้เดียงสาจริงๆ
เขาไม่ได้อยากตามไปที่บุพกาลชายแดนเหนือ แต่เพราะโชคดีเลยได้โอกาสมากมาย และกลับกลายเป็นเป้าหมายให้คนอื่นหมายหัว!
ไยถึงเกิดเรื่องเช่นนี้ได้กัน?
ยิ่งไปกว่านั้น ระหว่างทางเขาก็ได้ช่วยผู้อาวุโสฮวาเฟิงและคนอื่นๆ ไว้อีกหลายชีวิต
ส่วนใหญ่คนในสำนัก ไม่มีใครคิดแค้นเคืองเขา
เจ้าเด็กนี่ช่างโชคร้ายเสียจริง…
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนสะบัดมือไปมา
“เรื่องมันผ่านไปนานแล้ว ไม่ต้องพูดถึงมันหรอก เจ้าเป็นศิษย์ในสำนักหลิงเซียวของเรา ไม่ว่าเมื่อไร หรือผู้ใด ก็มิอาจทำร้ายเจ้าได้ทั้งนั้น!”
เรื่องอื่นยิ่งไม่ต้องพูดถึง แม้จะเพื่อประโยชน์ของสำนักวิชา แต่พวกเขาก็มิอาจยอมถอยได้
นอกเสียจากฉู่เยว่จะทำผิดจริง
แต่นั่นก็ยังต้องอาศัยการสอบสวนอย่างละเอียดและหลักฐานที่แน่ชัด ถึงจะสรุปได้!
ฉู่หลิวเยว่พลันอบอุ่นไปทั้งใจ มุมปากบางยกโค้งขึ้นทีละนิด พลางกล่าวด้วยใจจริง
“ขอบคุณผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนมากขอรับ”
“เพียงแต่ว่า…” เรียวคิ้วของผู้อาวุโสยังคงขมวดมุ่นไม่คลายตัว “ตามเงื่อนไขของการประนีประนอมแล้ว หลังเจ้าออกมาจากเขาเฝิงหมิน พวกเขาต้องการให้เจ้ามอบคำอธิบายที่ชัดเจนกับทุกคน”
“เกี่ยวกับบุพกาลชายแดนเหนือหรือขอรับ?”
“ตอนนี้เกรงว่า คงต้องเพิ่มเรื่องถ้ำปีศาจทมิฬกับหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์เข้าไปด้วย”
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนปวดหัวตุบๆ
เรื่องราวต่างๆ เริ่มไปกันใหญ่
ปัญหาด้านหน้ายังไม่ทันแก้ไข ก็มีปัญหาอื่นๆ ตามมาแล้ว
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้ารับเบาๆ
“เข้าใจแล้วขอรับ”
ในเมื่อทุกอย่างเริ่มต้นที่นาง นางจึงต้องเป็นคนแก้ไข
“เช่นนั้น ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนโปรดช่วยศิษย์สักอย่าง”
“เจ้าว่ามา”
“หากพวกเข้าต้องการคำอธิบาย เช่นนั้นศิษย์จักให้คำอธิบายแก่พวกเขา”
ฉู่หลิวเยว่ยกยิ้มุมปาก ดวงตากลมโตแพรวพราวระยิบระยับชัดเจน
“รบกวนท่านส่งจดหมาย เชิญให้พวกเขามาที่นี่ ศิษย์จะเผชิญหน้ากับพวกเขา และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจนเอง!”
ทันทีที่เขาพูดจบ ทุกคนในห้องโถงพลันตกตะลึง!
“ฉู่เยว่!?”
“เจ้าจะหุนหันพลันแล่นไม่ได้!”
จะว่าอย่างใดดี?
ก่อนหน้านี้ กว่าพวกเขาจะไล่คนเหล่านั้นออกไปนั้นไม่ง่ายเลย แต่ไม่ทันไร เจ้าเด็กนี่จะให้เชิญพวกนั้นกลับมาแล้วหรือ?
แค่นี้ยังวุ่นวายไม่พออีกหรือไร?
และถ้าตอนนั้นเกิดความผันผวนขึ้นอีก…
ฉู่เยว่ก็จะยิ่งตกอยู่ในอันตรายกว่าเดิม!
ฉู่หลิวเยว่ยักไหล่เบาๆ พลางจ้องเขาแล้วแสยะยิ้มอย่างไม่ทุกข์ร้อน
“ท่านอาจารย์ นี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดตอนนี้แล้ว มิใช่หรือขอรับ?”
สำนักหลิงเซียวอาจช่วยนางได้ครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่เสียทุกครั้ง
หากไม่รีบแก้ไขเรื่องนี้ สักวันหนึ่งมันจะกลายเป็นภัยเงียบที่รอวันปะทุออกมา
อีกอย่าง…
นางเองก็อยากรู้ว่าใครหมายหัวนางอยู่!
ข่าวลือเกี่ยวกับถ้ำปีศาจทมิฬและหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ นางจะต้องสืบให้ได้ ว่ามันมีต้นตอมาจากไหน!
เมื่อเห็นทัศนคติที่แน่วแน่ของฉู่เลิวเยว่ และสีหน้าที่ไร้ความหวาดกลัวนั่น ผู้อาวุโสวั่นเจิงก็ถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
ไยเขาจะไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันเสี่ยงแค่ไหน?
อย่างใดเสีย หลายปีที่ผ่านมา เขามีเพียงเด็กคนนี้ ที่เป็นศิษย์ผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจแค่คนเดียว เป็นธรรมดาที่เขาย่อมไม่เต็มใจปล่อยให้เด็กนี่ออกไปเสี่ยง!
หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง ผู้อาวุโสวั่นเจิงถึงได้ผงกศีรษะ
“ก็ได้… ในเมื่อเจ้าคิดดีแล้ว เช่นนั้น… ก็ไปทำเสีย”
ส่วนเขาจะคอยปกป้องเด็กนี่เอง
ไม่ว่าอย่างใด จะไม่มีใครทำร้ายลูกศิษย์ของเขาได้แม้แต่ปลายเล็บ!
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มรับด้วยความซาบซึ้ง พลันเบนสายตาไปมองผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยน
แต่ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนกลับหันไปมองหรงซิว
“หรงซิว เจ้าว่า…”
ครั้งก่อนที่พวกนั้นถอยกลับไป ก็เพราะได้หรงซิวช่วยไว้
ถ้าต้องตัดสินใจอีกครั้งในยามนี้ เขาก็อยากถามความเห็นของหรงซิวก่อน
หรงซิวเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ด้านหลังอย่างเกียจคร้านทว่าสง่างาม
เขาหัวเราะเบาๆ
“เขาอยากทำอันใด ก็ให้เขาทำเถอะ ครั้นคุมไม่ไหว เดี๋ยวข้าจัดการเอง”