ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1511 ข้ารอวันนี้มานานมากแล้ว
ตอนที่ 1511 ข้ารอวันนี้มานานมากแล้ว
…………….
โล่สีดำสามารถป้องกันการโจมตีให้นางได้ด้านหนึ่ง แต่กลับไม่สามารถช่วยปกป้องได้ทุกด้าน
ดังนั้นโหมวเหยาจึงออกกระบวนท่านี้โดยตรง เขาต้องการ… เอาชีวิตของนางทันที!
ในครั้งแรกเป็นเพราะเขาประมาทและชะล่าใจ คิดไม่ถึงว่านางจะสามารถรับการโจมตีได้
รอบนี้จะต้องไม่เกิดเหตุการณ์ดั่งเช่นครั้งก่อนแน่นอน!
โหมวเหยาส่งเสียงคำรามภายในลำคอ ดวงตามังกรคู่นั้นจ้องมองไปทางกลุ่มเกล็ดมังกรสีม่วงทองตาเขม็ง
มันอยากจะเห็นจุดจบของนางอย่างอดรนทนไม่ไหว!
…
เกล็ดเหล่านั้นบินพุ่งตรงมาทางนี้ และวนกลับไปด้วยความเร็วอันน่าตกใจ
ทุกคนรู้สึกตกใจเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากการต่อสู้ในครั้งนี้ เกรงว่าซั่งกวนเยว่ที่อยู่ภายในน่าจะมีข่าวร้ายมากกว่าข่าวดี
“ครั้งนี้โหมวเหยาตั้งใจสังหารจริงๆ แล้ว ไม่ว่าอย่างใดเขาก็จะเอาชีวิตของซั่งกวนเยว่ให้ได้ เจ้าดูกระบวนท่าที่สองนี้ นางคงไม่สามารถต้านทานได้แล้ว…”
“อสูรศักดิ์สิทธิ์ของนางทั้งสองตัวนั้นยังเอาตัวเองไม่รอด ซึ่งไม่มีทางช่วยนางได้ แล้วนางจะสามารถทำอย่างใดได้?”
“จะว่าไปแล้วเรื่องนี้ก็โทษคนอื่นไม่ได้ ใช้โครงกระดูกของเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลง สร้างกายเนื้อให้กับสัตว์อสูรของตนเองใหม่…กล้าทำเรื่องเช่นนี้ออกมาได้ นางต้องใจกล้าขนาดนี้? ประเด็นสำคัญเลยก็คือ คาดไม่ถึงว่านางจะกล้ายอมรับอย่างเปิดเผยเช่นนี้! แล้วคนเขาจะปล่อยนางไปง่ายๆ ได้อย่างใด”
“ไม่เช่นนั้นจะทำอย่างใดได้เล่า? เรื่องนี้ไม่ช้าก็เร็วต้องถูกเปิดเผยอยู่ดี ยิ่งปิดบังไว้นานเท่าไร ก็จะยิ่งอันตรายมากเท่านั้น! ถ้าเช่นนั้นก็พูดตามตรงไปเลยดีกว่า!”
“ข้าว่า ซั่งกวนเยว่ผู้นี้มีพรสวรรค์ล้ำเลิศ ทะลวงด่านก็เร็วยิ่งนัก เขาจริงจังกับตนเองมากเกินไป เขาคิดจริงๆ ว่าตัวเองนั้นมีความสามารถบางอย่าง แต่จะสามารถเผชิญหน้ากับไท่ซวีเฟิ่งหลงได้หรือ? พวกเจ้าลองคิดดู ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ นางสร้างปัญหาให้กับสำนักหลิงเซียวของพวกเราไปตั้งไม่รู้กี่เรื่อง วัยรุ่นใจร้อน สุดท้ายแล้วก็ทำให้ขาดทุนเป็นอย่างยิ่ง!”
ภายในจัตุรัสชิงหมิงมีเสียงดังกระซิบกระซาบขึ้น ไม่ว่าเรื่องใดพวกเขาก็พูดถึงทั้งนั้น
มู่หงอวี่โกรธจนใบหน้าแดงก่ำ หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง
“พวกเจ้าจะไปเข้าใจอันใด? นางไม่ใช่คนเช่นนั้น!”
น้ำเสียงตำหนินั้นทำให้รอบข้างเงียบกริบไปในทันที
มีคนจำนวนไม่น้อยหันมามองทางมู่หงอวี่ สีหน้าดูประหลาดใจอย่างยิ่ง
ในที่สุดก็มีคนพูดขึ้นมาว่า
“หากนางไม่ได้เป็นเช่นนี้ แล้วจะทำเรื่องเหล่านี้ออกมาได้อย่างใด? แล้วอีกอย่างตอนนี้มาพูดเรื่องเหล่านี้ ก็เหมือนจะไม่มีประโยชน์ไม่ใช่หรือ? นางจะสามารถมีชีวิตต่อไปหรือไม่ก็ยังไม่แน่ใจ!”
มู่หงอวี่กำหมัดแน่น
คนเหล่านี้ คนเหล่านี้มัน…
“นางสามารถรอดได้อย่างแน่นอน”
ทันใดนั้นเองกระแสเสียงสายหนึ่งที่ราบเรียบและไม่แยแสดังขึ้น
มู่หงอวี่ชะงักไปเล็กน้อย ผู้คนที่อยู่รอบข้างก็หันมองไปตามเสียงนั้น
คนที่พูดคือชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง หล่อเหลา
เขาสวมชุดคลุมสีเขียว องคาพยพทั้งห้างดงาม นิสัยสง่า และยังแฝงไปด้วยกลิ่นอายของบัณฑิตหนุ่ม
“หลินจือเฟย? เจ้าก็ช่วยซั่งกวนเยว่พูดหรือ?”
มีคนถามขึ้น
หลินจือเฟยยิ้มขึ้นมาบางๆ
“ข้าแค่… พูดความจริงเท่านั้น”
อีกทั้งไม่ต้องพูดถึงหรงซิวและคนอื่นๆ ที่อยู่บริเวณนี้ พวกเขาไม่มีทางดูนางได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอันใดไปได้อย่างแน่นอน
แม้แต่ตัวนางเองก็ยังไม่เคยทำเรื่องที่นางไม่มั่นใจ
“หึ พูดความจริงอันใดกัน ข้าว่าใช้เวลาเพียงไม่นาน ซั่งกวนเยว่ผู้นั้นจะต้อง…
”
“รีบดูนั่นสิ!”
ชายคนนั้นยังพูดประชดประชันไม่ทันจบ แต่ก็มีคนพูดแทรกขึ้นมา
ทุกคนจึงเงยหน้าทันที
วินาทีต่อมาทุกคนก็รู้สึกตกใจโดยพร้อมเพรียง
พวกเขาเห็นเพียงแค่เกล็ดสีม่วงทองเหล่านั้นที่หลอมรวมกลายเป็นกลุ่มแสงนั้นมีรอยแยกปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน!
เปลวเพลิงสีโปร่งแสงรอดออกมาจากรอยแยกเหล่านั้น!
แต่ทันใดนั้นเอง เปลวเพลิงโปร่งแสงก็กระจายออกไปโดยรอบ และปกคลุมเกล็ดเหล่านั้นอย่างต่อเนื่อง และกลืนกินลงไป!
หลังจากนั้นทุกคนก็ได้เห็นว่าพลังโจมตีที่รุนแรงที่แผ่ออกมาจากเกล็ดเหล่านั้นถูกสะกดและเริ่มหายไปอย่างรวดเร็วจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!
และแสงสว่างอันพร่างพราวที่อยู่บนนั้นก็หม่นแสงลงอย่างรวดเร็ว!
“นั่นมัน…”
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนและคนอื่นๆ ถูกภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าทำให้นิ่งค้างไปแล้ว
ทันใดนั้นเองเหมือนว่าผู้อาวุโสวั่นเจิงจะนึกอันใดบางอย่างขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน จึงตะโกนขึ้นมาเสียงดัง
“หรือว่า…”
กร๊อบแกร๊บ!
กระแสเสียงหนึ่งดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน!
ทันใดนั้นเองทุกคนก็เห็นว่าเกล็ดสีม่วงทองแผ่นหนึ่งนั้น ก็แตกกระจายเป็นเสี่ยง!
หลังจากมันถูกห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงสีโปร่งแสง พลังของเกล็ดเหล่านั้นก็ถูกกลืนกินไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังดูเปราะบางอย่างยิ่ง
เพียงแค่ขยับเล็กน้อย มันก็ถูกทำลายอย่างง่ายดาย!
ระหว่างฟ้าดินมีเพียงความเงียบสงัด
โหมวเหยาเบิกตากว้างอย่างตกใจ เดิมทีดวงตาของเขามีเพียงความเฉยเมยและเย็นชา แต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ!
เป็น เป็นไปไม่…
ตู้ม!
จากนั้นก็มีเสียงระเบิดดังสนั่น เปลวเพลิงโปร่งแสงลุกลามออกมาสี่ทิศแปดทางอย่างบ้าคลั่ง!
เกล็ดเหล่านั้นที่อยู่รวมตัวกันเป็นกลุ่ม แต่ในตอนนี้เปราะบางและอ่อนแอเป็นอย่างมาก!
เหมือนกับน้ำท่วมเขื่อนทะลัก ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปทางที่ไม่สามารถคาดเดาได้!
ทุกคนมองไปทางเหนืออากาศแล้วอ้าปากค้างเบิกตากว้าง
ท่ามกลางเปลวเพลิงโปร่งแสงที่ลุกโชนอย่างบ้าคลั่ง มีเงาร่างระหงยืนตรงอยู่ภายในนั้น!
เสื้อฟ้าปลิวไสว เส้นผมดำสยาย!
คนผู้นั้นคือฉู่หลิวเยว่นั่นเอง!
บนใบหน้าและร่างกายของนางเต็มไปด้วยคราบเลือด ในตอนนี้เกราะสีทองแดงที่อยู่บนร่างกายแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงแล้ว!
ใบหน้าของนางซีดขาวราวกับหิมะ ดวงตาคู่นั้นดำขลับราวกับหยกสีดำเข้ม ลึกล้ำและหนาวเหน็บ จิตสังหารพวยพุ่งออกมาอย่างน่าตกใจ!
นางมีท่าทางจนตรอกอย่างที่สุด แต่กลับทำให้หัวใจของผู้คนหวาดกลัวและยอมจำนนอย่างไม่รู้ตัว!
บางคนต่อให้มีบาดแผลมากมาย แต่ก็ยังดูสูงส่งไร้ที่เปรียบเช่นเดิม!
ด้านหน้าของนางนั้นมีเตาหลอมโปร่งแสงตัวหนึ่งลอยอยู่อย่างเงียบเชียบ
อีกทั้งเปลวเพลิงโปร่งแสงที่น่ากลัวเหล่านั้น เห็นได้ชัดว่าทะลักทลายออกมาจากภายในเตาหลอมนี้!
“หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์!”
โหมวเหยาพูดออกมาอย่างตกใจ
เรื่องที่เกิดขึ้นภายในเมืองฝางโจว เขาย่อมไม่รู้แน่นอน
ดังนั้นเมื่อเขาเห็นเข้าในตอนนี้จึงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
มุมปากของฉู่หลิวเยว่ยกขึ้นมาเป็นรอยยิ้มกำเริบเสิบสาน
“ผู้อาวุโสโหมวเหยา ข้าขอพูดตามตรงนะเจ้าคะ ข้ารอคอยวันนี้มานานมาก! ในที่สุด…”
นางสามารถเปิดเผยไพ่ไม้ตายได้อย่างสง่าผ่าเผยและตรงไปตรงมาแล้ว!
…………….