ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1549 อ่อนแอ
ตอนที่ 1549 อ่อนแอ
…………….
ฟึ่บ!
ร่างเงาร่างหนึ่งเคลื่อนมาสกัดกั้นเบื้องหน้าคนทั้งสองอย่างรวดเร็ว!
เป็นหนานซู่ไหวนั่นเอง!
“ที่นี่ข้าจัดการเอง หรงซิว เจ้าพาแม่นางหนูเยว่เอ๋อร์กลับไปเสีย!”
หนานซู่ไหวแผดเสียงเข้ม!
หลังคนทั้งสองออกมาได้ไม่นาน เขาก็พบว่านังหนูเยว่เอ๋อร์นอนพิงอยู่ในอ้อมอกหรงซิว ดูท่าว่าหมดสติไปเรียบร้อยแล้ว
เขายังไม่ทันรู้ถึงสถานการณ์ของนางว่าเกิดอันใดขึ้นกันแน่ จึงย่อมมิกล้าปล่อยทั้งคู่ออกไปเสี่ยงอันตราย
หรงซิวไม่มีทีท่าลังเลแม้แต่น้อย ยามได้ยินคำบอกเช่นนั้นก็สะกิดเท้าหลบฉากไปด้านหลังทันที!
ประกายแสงสีน้ำเงินเข้มพลันเรืองวาบ!
ในมือหนานซู่ไหวมีกระบี่ยาวเฉียบคมเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นมาอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ!
กระบี่ทั้งเล่มแผ่ประกายสีน้ำเงินเข้มออกมาจางๆ กว้างประมาณสามนิ้วเห็นจะได้ บนตัวกระบี่สลักลวดลายบางอย่างที่ชวนประหลาดตานัก
ยามกวัดแกว่งมัน ประกายเย็นยะเยือกจะสาดแววระยิบระยับพร่างพราย
หนานซู่ไหวสองมือจับกระบี่มั่น ยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ลมปราณทั่วทั้งร่างแผ่กระจายรุนแรง!
ทันใดนั้น พลังแห่งสวรรค์และโลกที่อยู่รอบบริเวณราวกับถูกเรียกหาก็มิปาน พวกมันเริ่มหลั่งไหลมาทางกระบี่เบื้องหน้าเขาอย่างบ้าคลั่ง!
ยิ่งตัวกระบี่กักเก็บพลังไว้มากเท่าไร สีของมันก็ยิ่งลึกล้ำบริสุทธิ์มากขึ้นเท่านั้น!
มองไปแล้วก็ดูเหมือนหยกน้ำเงินที่ถูกแกะสลักมิปาน!
ครืน…ครืน
พลังแห่งสวรรค์และโลกปริมาณมหาศาลโคจรรอบตัวหนานซู่ไหว กลายเป็นวังน้ำวนขนาดมหึมา
ดูแล้วสง่าผ่าเผยยิ่ง!
ในตอนนั้นเอง ฝ่ามือสีดำก็เข้ามาใกล้เบื้องหน้าหนานซู่ไหว!
ฟึ่บ!
สีหน้าหนานซู่ไหวดุดันยิ่ง สองมือเงื้อกระบี่ขึ้นแล้วตวัดฟันลงไปอย่างไร้ปรานี!
ประกายกระบี่สีน้ำเงินเข้มถูกปล่อยออกไปโดยพลัน!
ชึ่บ!
ความว่างเปล่าเบื้องหน้าของเขาถูกผ่าออกกลายเป็นรอยแตกอันมีช่องว่างขนาดใหญ่ด้วยสุ้มเสียงแผ่วเบา!
กระแสความโกลาหลสีดำสนิทจำนวนนับไม่ถ้วนไหลทะลักอย่างบ้าคลั่ง!
ขณะเดียวกัน ซั่งกวนจิ้งและเมิ้งเหล่าเองก็เคลื่อนไหวพร้อมกัน!
ซั่งกวนจิ้งกระชับกระบี่ยาวในมือ ก่อนจะฟันออกไปในแนวนอน!
สองมือของเมิ้งเหล่าผสานไว้เบื้องหน้าแล้วปล่อยพลังปราณดั้งเดิมออกไปสายหนึ่ง ชั่วพริบตามันก็ก่อร่างกลายเป็นเข็มไตรกระจับที่แหลมคมเหนือสิ่งใด!
ทั้งสามแยกกันไปคนละทาง ก่อนจะจัดการกักขังฝ่ามือสีดำนั่นเอาไว้ตรงกลาง!
ระหว่างสวรรค์และโลกอลหม่านวุ่นวายด้วยกระแสพลัง ไอปราณแต่ละสายเผชิญหน้ากัน!
…
หรงซิวอุ้มพาฉู่หลิวเยว่ถอยหลังไปอย่างว่องไว
ตอนนี้พวกเขายังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ามือสีดำ ดังนั้นทั่วทั้งร่างจึงเปี่ยมด้วยกระแสความโกลาหลที่ปั่นป่วนอย่างบ้าคลั่ง
ลมปราณชวนเสียดผิวหลายสายพัดผ่านร่างของพวกเขาประหนึ่งดาบคมมิปาน!
ชึ่บ!
เสียงบางอย่างแหวกอากาศอย่างแผ่วเบาดังแว่วมา นัยน์ตาของหรงซิวดุดันขึ้นทันใด เขากระชับกอดคนในอ้อมแขนแน่นกว่าเก่า ก่อนจะเคลื่อนกายหลบเลี่ยง!
ขณะเดียวกัน เปลวเพลิงสีทองกลุ่มหนึ่งพลันลุกโชนขึ้นมายังเบื้องหน้าคนทั้งสอง กลายเป็นกำแพงเพลิงคอยกั้นกระแสพลังที่ปั่นป่วนวุ่นวายเหล่านั้นไว้ด้านนอก!
เรือนผมดำเงาของฉู่หลิวเยว่ที่ถูกตัดออกอย่างไร้สุ้มเสียงค่อยๆ ลอยขึ้นไปในอากาศ
จิตสังหารอันรุนแรงพลันไหลทะลักออกมาจากดวงตาของหรงซิว!
นัยน์ตาของเขาปรากฏแววดำทะมึนเคลื่อนผ่านวับไป!
“แค่ก…แค่ก…”
ในตอนนั้นเอง ฉู่หลิวเยว่ก็ส่งเสียงไอขึ้นมา
หรงซิวก้มศีรษะมองทันที พบว่าดวงหน้าขาวซีดของนางยับยู่ยี่ คิ้วเรียวขมวดเป็นปมแน่น แพขนตาหนายาวของนางค่อยๆ ขยับไหว
“เยว่เออร์!”
หรงซิวโพล่งขึ้นมา กระชับฝ่ามือที่โอบเอวนางไว้ให้แน่นกว่าเดิม
ฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ ฟื้นคืนสติได้ในท้ายที่สุด นางค่อยๆ ลืมตาขึ้น
ยามมองหรงซิว แววตาของนางแฝงท่าทีเหม่อลอยไว้ครู่หนึ่ง ราวกับยังไม่เข้าใจว่าที่ผ่านมาเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่
หรงซิวกลับผ่อนลมหายใจออกมา ก่อนจะค้อมกายลงจูบหว่างคิ้วนางเบาๆ
ด้วยท่าทีระงับอารมณ์ถึงขีดสุด ทว่าก็ทะนุถนอมรักใคร่เกินผู้ใด
เขาไม่อยากเห็นภาพฉากแบบนั้นเป็นครั้งที่สองอีก
บัดนี้ได้เห็นนางฟื้นขึ้นมาได้ นับว่าดีมากแล้วจริงๆ
ริมฝีปากนุ่มชื้นประทับจูบแผ่วเบาบนหว่างคิ้ว นางเอนพิงอกกว้างที่แข็งแรงแลอบอุ่นพลางฟังเสียงหัวใจของเขาเต้นระรัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทันใดนั้นฉู่หลิวเยว่ก็นึกถึงต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวขึ้นมาได้
“หรงซิว?”
นางเอ่ยพึมพำพลางหันมองรอบกายโดยไม่รู้ตัว
“พวกเรา…ออกมาได้แล้วหรือ?”
แท้จริงแล้วสติของนางยังพอรับรู้ได้อยู่บ้างมาโดยตลอด นางอยากฟื้น หากแต่ทำอย่างไรก็มิอาจลืมตาขึ้นมาได้
ท่ามกลางความรู้สึกนึกคิด นางกำลังวิ่งอยู่ในพื้นที่ว่างขาวโพลนไร้ที่สิ้นสุด กระทั่งเปลวเพลิงสีทองลุกโชนขึ้นมา สุดท้ายนางถึงได้เป็นอิสระจากพันธนาการไร้รูปร่าง
ตอนนี้ฟ้ามืดแล้ว ผืนนภาแปรเปลี่ยนเป็นสีเข้มทะมึน เมฆดำเคลื่อนบดบังจนมิอาจเห็นดาวเดือน
ทว่าห่างจากตรงนี้ไม่ไกลนัก กลับมีการต่อสู้อันตึงเครียดกำลังดำเนินอยู่
เมื่อเห็นฝ่ามือสีดำขนาดใหญ่มหึมา ฉู่หลิวเยว่ถึงกับตะลึงงันไปชั่วขณะ จากนั้นเข้าใจได้โดยพลัน
มันคือสิ่งที่ถูกผนึกเอาไว้ใต้เขาหมื่นเมรัยนั่นเอง!
กลิ่นอายลมปราณเช่นนี้ ย่อมไม่ผิดแน่นอน!
เพียงแต่ว่า…เหตุใดมือแบบนี้ที่มีอยู่ข้างเดียว กลับครองพลังอันน่าหวาดผวาเช่นนั้นไว้ได้?
ทันทีที่ความคิดนี้แล่นปราดในสมอง ฉู่หลิวเยว่ก็พบว่ากระแสพลังที่อยู่โดยรอบพร้อมใจกันพุ่งเข้าโจมตีฝ่ามือข้างนั้นอย่างรุนแรง!
ประกายกระบี่สีน้ำเงินเข้มสายหนึ่งพุ่งตรงเข้าไปยังเบื้องหน้าฝ่ามือข้างนั้น!
เคร้ง!
เสียงปะทะชวนหดหู่ใจดังก้อง!
ประกายกระบี่ที่ตวัดฟันฝ่ามือข้างนั้น ปะทะกันราวกับว่ากระบี่ร่วงใส่เหล็กกล้าที่แข็งมิมีสิ่งใดเทียบอย่างรุนแรงก็มิปาน!
ในใจหนานซู่ไหวถึงกับตื่นตะลึง
ครู่ต่อมา ก็พบว่าประกายกระบี่สีน้ำเงินเข้มสายนั้นแตกกระจายพร้อมเสียงดังลั่น!
ประกายลำแสงนับไม่ถ้วนกระจัดกระจายไปทั่ว!
หนานซู่ไหวสะเทือนไปทั่วหน้าอก โลหิตพลันทะลักออกมาจากมุมปาก!
ซั่งกวนจิ้งและเมิ้งเหล่าสบสายตากัน ทั้งคู่ต่างก็เห็นแววตื่นตระหนกที่ฉายชัดในดวงตาของอีกฝ่าย
เจ้าฝ่ามือนี่…พลังของมันน่าหวั่นเกรงกว่าที่พวกเขาคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้ายิ่งนัก!
กระบี่นี้ของหนานซู่ไหวนับว่าใช้พลังทั้งหมดที่มีแล้ว!
ทว่า กระบี่ที่ฟาดฟันออกไปสุดแรงของผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ เมื่ออยู่ต่อหน้าฝ่ามือนั่นแล้วกลับอ่อนแอถึงเพียงนี้!
ฝ่ามือข้างนั้นเคลื่อนตัวไปยังเบื้องหน้าต่อไม่หยุดยั้ง
หนานซู่ไหวยกกระบี่ขึ้น ทว่ากลับถูกฝ่ามือสีดำข้างนั้นคว้าเอาคมกระบี่ไว้!
คมกระบี่ที่เฉียบคมหาสิ่งใดเทียบมิได้ทิ้งรอยขีดข่วนไว้บนฝ่ามือนั่นแม้แต่รอยเดียว!
ในใจหนานซู่ไหวเห็นท่าไม่ดี จึงรีบก้าวถอยหลังในทันที!
ทว่าสายไปเสียแล้ว!
ฝ่ามือสีดำจัดการหักกระบี่ออกอย่างโหดเหี้ยม!
แกร๊ก!
กระบี่ของหนานซู่ไหวถูกบดขยี้บี้อย่างรุนแรงจนแตกสลายไปทั้งแบบนั้น!
อีกทั้งในขณะเดียวกัน หนานซู่ไหวเองก็ถูกโจมตีเข้าอย่างรุนแรงจนร่างปลิวไปไกล!
“ท่านอาจารย์!”
ฉู่หลิวเยว่ตื่นตกใจอย่างมาก!
ในเวลาเดียวกันนั้น พลังของซั่งกวนจิ้งและเมิ้งเหล่าเองก็ถูกมือข้างนั้นทำลายลงอย่างง่ายดาย!
เห็นชัดแล้วว่าการโจมตีของพวกเขาเองก็ไร้หนทางจะยับยั้งมันไว้ได้!
…
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนผืนฟ้าทำให้บรรดาฝูงชนที่เฝ้าดูกันอยู่ในสำนักทั้งหมดต่างก็ตื่นตะลึงจนตัวแข็ง
มิเพียงแต่บรรดาศิษย์ทั้งหลาย กระทั่งผู้อาวุโสที่มากด้วยประสบการณ์และความรู้เองต่างก็มีอาการตกตะลึงพรึงเพริดฉายชัดไปทั่วใบหน้า
มิน่าเล่า…มิน่าหลายปีมานี้สำนักหลิงเซียวถึงได้คอยจับตาดูแลเขาหมื่นเมรัยอย่างระมัดระวังมาโดยตลอด มิกล้าปล่อยให้เกิดความผิดพลาดใดขึ้นมาได้
ที่แท้ข้างใต้นี้ก็แอบซ่อนพลังอันน่าหวาดผวาเช่นนี้ไว้อยู่จริงๆ!
มือข้างนั้นพลิกไปพลิกมา จากนั้นก็หันมาทางหรงซิวกับฉู่หลิวเยว่ ก่อนจะชูมือขึ้นในอากาศจากที่ไกลๆ
ดูจากมุมมองของทั้งสองแล้วสามารถมองเห็นลายสลักสีเลือดที่ไหลพล่านเป็นระลอกอยู่กลางฝ่ามือได้พอดิบพอดี!
ใจของหรงซิวบังเกิดความรู้สึกตื่นตัว จึงรีบตั้งท่าถอยหลังอีกคราหนึ่ง!
ทว่าในตอนนั้นเอง พลังอันมหาศาลพลันแผ่ออกมาจากมือข้างนั้น!
ในชั่วพริบตา ราวกับมีพายุมรสุมเข้าถาโถมก็มิปาน!
แรงกดดันอันมหาศาลน่าหวาดผวาที่ไหลพล่านจัดการกวาดม้วนกลืนเอาทุกสิ่งทุกอย่างไปอย่างบ้าคลั่ง!
ไข่มุกธาราในร่างของฉู่หลิวเยว่พลันโคจรขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว คลับคล้ายคลับคลาประหนึ่งว่ากำลังถูกมือข้างนั้นใช้กำลังช่วงชิงมันไป!
หรงซิวกระชับกอดคนในอ้อมแขนให้แน่นกว่าเดิม ชายเสื้อคลุมสะบัดพลิ้วไหว!
หากแต่ขั้นพลังปราณของเขาในตอนนี้อยู่ที่ระดับเทพขั้นสูง จะไปต้านทานพลังมหาศาลของมือข้างนั้นได้อย่างไรกัน?
บาดแผลนับไม่ถ้วนปรากฏให้เห็นบนร่างของเขาอย่างรวดเร็ว
คราบเลือดสีแดงเข้มซึมลงบนเสื้อคลุมสีขาวของเขาอย่างไร้สุ้มเสียง!