ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1555 เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์!
ตอนที่ 1555 เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์!
…………….
ฝ่ามือสีดำรับรู้ได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง จึงรีบแหวกอากาศหมายจะหลบหนีโดยพลัน!
หนานซู่ไหวสีหน้าดุดัน เขาสะบัดชายเสื้อคลุมในบัดดล!
ช่องว่างที่แตกระแหงพลันถูกเชื่อมต่อเข้ากันอีกคราหนึ่ง!
พลังของหนานซู่ไหวแม้ไม่เทียบเท่าอีกฝ่าย หากแต่ที่นี่คือสำนักหลิงเซียวที่ถูกคุ้มกันอย่างเข้มงวดมาหลายหมื่นปี
นอกจากค่ายกลที่อยู่นอกสำนักแล้ว ภายในสำนักเองก็มีกลไกอีกไม่น้อยที่ถูกตระเตรียมเอาไว้เผื่อเหตุไม่คาดฝัน
คิดจะเข้าออกสำนักหลิงเซียวตามอำเภอใจมิได้ทำง่ายขนาดนั้นหรอกหนา
ในตอนนั้นเอง เสียงคำรามก้องกังวานพลันดังขึ้นมา!
ฝูงชนต่างพร้อมใจกันหันไปมอง ก่อนจะพบว่าบนค่ายกลกระสวยสวรรค์ผืนฟ้าซ่อมแซมเสร็จแล้วเรียบร้อย!
จุดเชื่อมต่อที่อยู่ในค่ายกลจำนวนมากล้วนแผ่แสงสีแดงออกมารางๆ
เห็นได้เลยว่าบนค่ายกลอันนี้มีพลังของฉู่หลิวเยว่รวมอยู่ด้วยไม่น้อยเลยทีเดียว
เทียบกับค่ายกลกระสวยสวรรค์ก่อนหน้านี้แล้ว ลมปราณของค่ายกลในตอนนี้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด!
ฉู่หลิวเยว่สะกดกลั้นลมหายใจ ในหูของนางเงียบสงัดจนได้ยินเพียงแค่เสียงหัวใจของตนที่เต้นระรัวอย่างรุนแรงเท่านั้น
ตึกตัก!
ตึกตัก!
หัวใจของนางราวกับว่าจะกระดอนออกมาจากอกได้ทุกเมื่อ!
ตอนนี้นางเหนื่อยจนสายตัวแทบขาด ทว่ายามมองไปยังค่ายกลกระสวยสวรรค์ใต้เท้าที่ซ่อมแซมเสร็จสมบูรณ์ได้ในที่สุด แรงปลื้มปิติและตื่นเต้นอย่างรุนแรงทำให้จิตใจของนางดีขึ้นมากทีเดียว
สองตาของนางปกคลุมไปด้วยเส้นเลือดแดงก่ำ ทว่าพวกมันยังคงส่องสว่างดั่งดวงสุริยนก็มิปาน
มิต้องพูดถึงผู้อื่นดอก แท้จริงแล้วกระทั่งตัวนางเองก็เต็มไปด้วยความกระวนกระวายและหดหู่ใจไม่น้อย
ทว่าท้ายที่สุดแล้ว ทุกอย่างก็ยังคงสำเร็จเสร็จสิ้นได้ด้วยดี!
ในสายตาของผู้อื่นนั้น บางทีนี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่ออย่างยิ่ง
ทว่ามีเพียงตัวฉู่หลิวเยว่เท่านั้นที่รู้ดีว่าที่ครานี้นางทำสำเร็จได้ มิได้แปลว่านางบุกทะลวงระดับปรมาจารย์ได้ ทั้งยังมิได้หมายความว่าพลังของทักษะด้านนี้ของนางเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
ทุกอย่างล้วนเป็นเพราะถูกเวลา ถูกสถานที่ และกำลังใจที่ดี
บนโลกนี้ นอกจากพี่เป่า ก็ไม่มีผู้ใดที่คุ้นเคยกับค่ายกลเหล่านั้นในม้วนคัมภีร์อักษรเทวาเท่านางอีกแล้ว
อีกทั้งภายในร่างของนางยังมีไข่มุกธาราที่นับว่าพลังยอดเยี่ยมเกรียงไกรนัก!
ยิ่งไปกว่านั้น การชี้แนะของต้าเป่า…
ช่างยอดเยี่ยมโดยแท้!
“นางหนู เรื่องยังไม่จบ”
เสียงของพี่เป่าลอยแว่วเข้ามาในหู
ภายในสุ้มเสียงอ่อนโยนนุ่มนวลติดจะแหบพร่าอยู่หลายส่วน
เห็นได้ชัดเลยว่าแม้ครานี้ต้าเป่าจะมิได้เผยตัว ทว่าเขาก็ยังเป็นกังวลอยู่ไม่น้อย
ค่ำคืนนี้ คนที่เผชิญความยากลำบากที่สุดหากใช่ฉู่หลิวเยว่ไม่ แต่เป็นเขาต่างหาก
“ข้ารู้”
ฉู่หลิวเยว่ผงกศีรษะด้วยสีหน้าหนักแน่น นัยน์ตาแฝงแววเคร่งขรึมอยู่บ้าง
ตอนนี้ นางเพียงแค่ซ่อมแซมส่วนที่ขาดหายไปแล้วเท่านั้น ทว่าค่ายกลกระสวยสวรรค์อันนี้ยังสามารถใช้การได้ปกติหรือไม่ ต้องลองดูก่อนถึงจะรู้
“พลังภายในกายของเจ้าใช้ไปจนหมดสิ้นแล้ว มิอาจกระตุ้นให้ค่ายกลกระสวยสวรรค์เปิดใช้ได้อีก ต้องคิดหาวิธีอื่น”
คำพูดของพี่เป่าทำให้ในใจฉู่หลิวเยว่บังเกิดความกังวลน้อยๆ
“เช่นนั้น…”
“หยิบเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ออกมา”
ฉู่หลิวเยว่ตื่นตะลึง หากแต่ก็เรียกหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ออกมา
หม้อน้ำโปร่งใสใบเล็กค่อยๆ วางแหมะลงบนฝ่ามืออย่างเงียบเชียบ
ดูจากภายนอกแล้ว รูปร่างทั้งหมดของมันใสกระจ่าง ส่วนภายในมีเปลวเพลิงไร้สีที่กำลังลุกโชนอยู่
ทว่ามีเพียงฉู่หลิวเยว่เท่านั้นที่รู้ว่าข้างในนี้แอบซ่อนสิ่งใดเอาไว้บ้าง
“จำไว้ หยิบออกมาเม็ดเดียวก็พอ”
ฉู่หลิวเยว่ได้ยินดังนั้นแล้วก็ทำตาม
ไวเท่าความคิด เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ที่มีขนาดเท่าเล็บมือเม็ดหนึ่งพลันลอยออกมาจากหม้อ
ของสิ่งนั้นรูปร่างคล้ายกระสวย หัวทั้งสองข้างแหลมเรียว ตรงกลางมีช่องทรงกลมอันเล็ก
ยามมองแล้วให้ความรู้สึกธรรมดานัก
ราวกับรับรู้ได้ว่าเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์เม็ดนี้ถูกเรียกออกมา เมล็ดพันธุ์อื่นๆ ที่อยู่ในหม้อเริ่มอยู่ไม่สุข พากันล่องลอยไปมาไร้ทิศทาง
ฉู่หลิวเยว่จัดการเก็บหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์เข้าไป ก่อนจะกำเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ในมือ
ทว่าการเคลื่อนไหวน้อยๆ ของฉู่หลิวเยว่กลับถูกสายตาที่คอยจับจ้องอยู่นับไม่ถ้วนเห็นเข้า
ฝูงชนต่างสบสายตากันอย่างมึนงง ในใจเปี่ยมด้วยความสนเท่ห์
“นางหยิบเอาสิ่งใดออกมาจากหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์กัน?”
“มองไม่ชัด เหมือนจะเป็นของเล็กๆ ชิ้นหนึ่ง”
“ชิ ถูกใส่ลงไปในหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ได้ คงมิใช่ของธรรมดาสามัญหรอกกระมัง? ไม่แน่ว่าอาจเป็นสมบัติหายากบางอย่างก็ได้?”
“ก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล…เฮ้อ จะว่าไป ถ้านี่เป็นเรื่องจริง เช่นนั้นไพ่ลับในตัวซั่งกวนเยว่ออกจะเยอะเกินไปหน่อยแล้วกระมัง?”
“เฮอะ กระทั่งค่ายกลกระสวยสวรรค์คนเขายังซ่อมเสร็จได้ ในมือมีสมบัติวิเศษมากหน่อยนับเป็นเรื่องแปลกอันใด? พวกเจ้าอย่าลืมสิว่าบัดนี้นางมิใช่ฉู่เยว่อีกแล้ว แต่เป็นซั่งกวนเยว่ต่างหาก! ศิษย์ของเจ้าสำนัก ชายาแห่งพระราชวังเมฆาสวรรค์ ลูกหลานของซั่งกวนจิ้ง…ต่อไปจะมีสถานะใดโผล่มาอีกคนทั้งโลกก็อิจฉาไม่ลงแล้ว!”
ความแตกต่างอันใหญ่โตเช่นนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกไร้เรี่ยวแรงที่จะคิดอิจฉาเสียด้วยซ้ำไป
นางกำเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์เอาไว้แน่น ก่อนจะมองฝ่ามือสีดำเบื้องหน้าที่อยู่มิไกลตาไม่กะพริบ
ทันใดนั้น นางพลันถ่ายเทพลังปราณดั้งเดิมเฮือกสุดท้ายในร่างของตนลงไปในเมล็ดพันธุ์!
ฉึก!
ฝ่ามือพลันรู้สึกถึงความเจ็บแปลบที่แล่นปราดขึ้นมา
ฉู่หลิวเยว่แบมือออก กลับพบว่าส่วนหัวของเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์บาดมือนางเข้าอย่างจัง
เลือดหลั่งไหลนองไปทั่ว
เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ดูดกลืนเลือดที่เปรอะออกมาอย่างรวดเร็ว เปลือกของมันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง ดูไปแล้วราวกับหินหยกสีแดงที่ใสกระจ่างก็มิปาน
ทันใดนั้นเอง เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์เม็ดนั้นเริ่มสั่นระริกขึ้นมาแผ่วเบา
ในใจฉู่หลิวเยว่รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง นางเม้มริมฝีปากเข้าหากันเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้นางแค่เคยได้ยินองค์ไท่จู่พูดถึงเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น รู้เพียงว่าเป็นสมบัติที่มีค่าเหลือประมาณ หากแต่มิได้เข้าใจถึงเบื้องลึกเบื้องหลังที่แท้จริงของมันมากนัก
หากคำนวณคร่าวๆ นางเองก็ครอบครองเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์นี่มานานพอดูแล้วเหมือนกัน
เพียงแต่เริ่มแรกเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ถูกสะกดเอาไว้ในหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังมิได้ก่อเรื่องอันใดขึ้นมา
หากมิใช่เพราะพี่เป่าเตือนความจำ ฉู่หลิวเยว่ก็แทบจะลืมไปแล้วว่าตัวเองครอบครองสิ่งนี้ไว้อยู่กับตัว
ปั่ก!
บนเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์พลันแตกปะทุออกเป็นรูเล็กๆ รูหนึ่ง
ใบไม้สีเขียวอ่อนค่อยๆ งอกขึ้นมาจากตรงนั้น
ขนาดของเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์เดิมก็มีขนาดเล็กจ้อยอยู่แล้ว ใบของมันจึงเล็กลงตามไปอีก
ดูไปแล้วก็มีขนาดเท่าถั่วเหลืองเท่านั้น
ทว่าสีของมันเป็นสีเขียวเข้มนวลละมุน ดูแล้วอวบอิ่มนัก ด้านบนยังมีเส้นเลือดเส้นบางๆ ประดับอยู่ด้วย
ดูไปแล้วมีชีวิตชีวายิ่ง
ฉู่หลิวเยว่มองมันด้วยความใคร่รู้
ที่แท้…เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์สามารถเติบโตได้ด้วย?
นางยื่นมือออกไปลูบใบไม้ของมันอย่างอดใจไม่อยู่
ในจังหวะนั้นเอง!
ใบไม้ขนาดเล็กจ้อยพลันสั่นไหวเบาๆ
พึ่บพับ
ฉู่หลิวเยว่พลันได้ยินเสียงบางอย่างลอยเข้ามาในหู
นางหันศีรษะกลับไปมอง นัยน์ตาพลันปรากฏแววตื่นตกใจในชั่วพริบตา!
นางพบว่าผืนฟ้าที่เดิมทีสว่างสดใสอยู่ด้านหลังของตนพลันปรากฏกระแสคลื่นสายหนึ่ง!
ราวกับเกลียวคลื่นที่สาดซัดอยู่ในมหาสมุทรกว้างใหญ่ เกลียวคลื่นสายนั้นขาวดุจหิมะกวาดสาดซัดไปทั่ว!
นี่มัน…
เกลียวคลื่นที่รวมตัวขึ้นมาจากพลังแห่งสวรรค์และโลก!
โดยปกติแล้ว มีเพียงพลังแห่งสวรรค์และโลกที่บริสุทธิ์มากพอจนถึงระดับหนึ่งที่จะสามารถรวมตัวกันกลายเป็นหมอกขาว
หากว่าอยากให้รวมตัวกันกลายเป็นรูปลักษณ์คล้ายน้ำ ยิ่งต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างเข้มงวด มิอาจทำได้โดยง่าย
ทว่าตอนนี้ เกลียวคลื่นสายนี้กลับปรากฏตัวให้เห็นขึ้นมาง่ายๆ เช่นนี้เลยหรือ!
ทันใดนั้นเอง ความคิดอันบ้าบิ่นแลน่าหัวร่อพลันเคลื่อนผ่านสมองของฉู่หลิวเยว่ไป
นางหันศีรษะกลับมาโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะหลุบตามองเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ในมือ
หรือว่า…
ใบไม้สีเขียวอ่อนละมุนดั่งหยกสะบัดไหวอย่างแผ่วเบาอีกคราหนึ่ง
ซูม!
กระแสคลื่นที่รวมตัวจากพลังแห่งสวรรค์และโลกสายนั้นพุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว!
…………….