ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1609 เลือกวันแต่งงาน
ตอนที่ 1609 เลือกวันแต่งงาน
……….
ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งสำลักไป ในแววตามีประกายความลังเลปรากฏขึ้น
แต่มันเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นไม่นานก็กลับเข้าสู่ความปกติ เขาพูดด้วยความหนักแน่นและมั่นคง
“ไม่รู้จริงๆ!”
รอยยิ้มที่มุมปากของหรงซิวกดลึกขึ้นเล็กน้อย และยังมีความประชดประชันเย็นชาเพิ่มขึ้นหลายส่วน
“หลังจากที่ประมุขหมดสติไปแล้ว เจ้าเป็นคนแรกที่พบ จากนั้นก็เรียกผู้อาวุโสถงชวนมา ตอนนี้หาสาเหตุที่ประมุขสลบ
ไสลพบแล้ว ซึ่งเป็นเพราะผู้อาวุโสถงชวนปิดผนึกอยู่ แต่ในตอนนี้เจ้าไม่เห็นว่ามันมีอันใดบางอย่างผิดปกติไปอย่างนั้นหรือ?”
ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งพูดอันใดไม่ออก เขาลังเลไปครู่หนึ่งแล้วอธิบายว่า
“นั่น… น่าจะเป็นเพราะเขาลงมือกับท่านประมุขก่อนแล้ว! จากนั้นเขาก็ทำทีเป็นว่าไม่มีอันใดเกิดขึ้น ก่อนจะปัดความรับผิดชอบทั้งหมด! มันต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน!”
“มีเรื่องหนึ่งที่เจ้าอาจจะไม่รู้ หลังจากผนึกนั้นเปิดใช้งานแล้ว พลังดั้งเดิมของท่านประมุขก็ไม่สามารถเชื่อมโยงกับโลกภายนอกได้ ซึ่งรวมถึงพลังดั้งเดิมที่อยู่ภายในร่างกายด้วย”
ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งเหมือนจะนึกอันใดบางอย่างขึ้นมาได้ คำพูดที่เหลือของเขาติดอยู่ในลำคอ
เขาเบิกตากว้างอย่างตกใจ ก่อนจะหันไปมองทางหรงซิว แต่สิ่งที่เขาเห็นคือดวงตาที่เหมือนจะสามารถมองทะลุทุกสิ่งอย่างได้
“…ฝ่า…ฝ่าบาท…”
ริมฝีปากของเขาสั่นระริก เหมือนกับอยากจะพูดอันใดบางอย่าง แต่กลับไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้
คำพูดของหรงซิวชัดเจนเป็นอย่างมาก
สายตาของผู้คนรอบข้างมองมาที่เขา เหมือนกับหนามที่ทิ่มแทงมายังด้านหลังของเขา
ภายในสมองของเขาขาวโพลน มีเพียงเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย
แย่แล้ว…จบเห่แล้วจริงๆ …
ตึง!
ทันใดนั้นผู้อาวุโสอวี๋จิ้งก็คุกเข่าลงอย่างกะทันหัน เข่าทั้งสองข้างกระแทกกับพื้นหยกอย่างแรง เสียงนั้นทำให้ผู้คนต้อง
ซี๊ดปากด้วยความเจ็บปวด
เขาก้มศีรษะลงติดพื้นพร้อมพูดขอร้องว่า
“ฝ่าบาท! ข้ายอมรับแล้ว ข้าทำตามคำสั่งของผู้อาวุโสถงชวน เขาให้ข้าลงมือกับท่านประมุขก่อน แต่ แต่ข้าไม่รู้จริงๆ …”
ไป๋หลีฉุนออกจากด่านฝึกในครั้งนี้ ฝีมือเพิ่มขึ้นสูงมาก
แม้ว่าเขาจะได้รับผลกระทบจากเรื่องของเจียงจื่อหยวน แต่ความสามารถในการต่อสู้ของเขานั้นก็เป็นเรื่องจริง
ในตอนนั้นพวกเขาทั้งสองคนบุกเข้าไปพร้อมกัน เขาเริ่มลงมือก่อน จากนั้นผู้อาวุโสถงชวนถึงได้โจมตี
ขณะนั้นผู้อาวุโสถงชวนพูดเพียงแค่ว่า ต้องการจะผลักเรื่องนี้ทั้งหมดนี้ไปให้กับหรงซิว พร้อมดึงเขาลงมาจากตำแหน่งโอรสสวรรค์
เดิมทีผู้อาวุโสอวี๋จิ้งก็ไม่ได้อยากจะทำเช่นนี้ แต่เมื่อคิดไปคิดมาแล้ว อีกทั้งยังได้รับการเกลี้ยกล่อมจากผู้อาวุโสถงชวน ท้ายที่สุดเขาก็ยอมตกลง
เขาคิดว่าผู้อาวุโสถงชวนทำเพื่อท่านประมุขและตำแหน่งโอรสสวรรค์ แต่ไหนเลยจะรู้เล่าว่าเขาจะเป็นคนของถ้ำปีศาจทมิฬ?
แต่เมื่อพูดถึงตรงนี้เขาก็มีความผิดเช่นกัน!
หรงซิวเบนสายตาออกไปมองผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก
“ข้ายังต้องไปดูอาการท่านประมุข เรื่องเหล่านี้ก็ยกให้ท่านเป็นคนจัดการก็แล้วกัน”
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกพยักหน้า
“ฝ่าบาทวางใจเถอะ”
หรงซิวพูดจบก็เดินออกไปด้านนอก
ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งอยากจะกล่าวคำขอร้องอีกครั้ง แต่เมื่อเห็นสายตาของผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกตัวก็ต้องสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว จากนั้นก็ปิดปากเงียบ
ภายในห้องมีแต่ความเงียบงัน
ทุกสายตายังคงมองตามหรงซิวไปอย่างไม่รู้ตัว
เมื่อเดินไปถึงหน้าประตู เขาก็ชะงักฝีเท้าอย่างกะทันหัน ก่อนจะหันตัวกลับมาแล้วเลิกคิ้วพร้อมหัวเราะเสียงเบา
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกท่านไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลเรื่องท่านประมุขอีกต่อไปแล้ว”
คนจำนวนไม่น้อยเดี๋ยวหน้าขาวเดี๋ยวหน้าแดง สุดท้ายเขาก็ตอบรับขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง ก่อนจะทำความเคารพ
“พ่ะย่ะค่ะ”
หลังจากหรงซิวจากไปแล้ว ความเงียบยังปกคลุมอยู่ที่ห้องนี้เป็นเวลานาน
ภาพเหตุการณ์ในวันนี้น่าตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
หลังจากครุ่นคิดอย่างละเอียดแล้ว คนจำนวนไม่น้อยยังคงรู้สึกหนาวสะท้านอยู่
ด้วยวิธีการของหรงซิว หากจะมาจัดการกับพวกเขา มันจะต้องง่ายดายอย่างมากแน่นอน
ก่อนหน้านี้พวกเขายังไร้เดียงสา และคิดว่าสามารถสู้กับอีกฝ่ายได้อย่างทัดเทียม…
ดูเหมือนว่าทางเลือกที่ดีที่สุดหลังจากนี้ ก็คือการเชื่อฟังคำสั่งของเขาอย่างซื่อสัตย์…
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกกวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะหัวเราะออกมาหนึ่งเสียง
“ทุกท่าน เรื่องในวันนี้พวกเราควรจะมาชำระความให้ดีใช่หรือไม่?”
…
หรงซิวเดินออกจากห้องโถง เยี่ยนชิงที่รออยู่ด้านนอกก็ออกมาต้อนรับเขาทันที
“ฝ่าบาท อวี๋มั่วส่งข่าวมาว่า เรื่องทางนั้นได้จัดการไปพอประมาณแล้ว”
หรงซิวเลิกคิ้วเล็กน้อย
“เขายังจัดการได้ไวเสมอ”
“ฝ่าบาทได้จัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นเมื่อถึงเวลาเก็บกวาดจึงไวเป็นธรรมดา”
หรงซิวเหลือบสายตามองแล้วยิ้มขึ้น
“การแสดงของเจ้าก็สูงขึ้นไม่น้อย”
เยี่ยนชิงมีใบหน้าราวกับภูเขาน้ำแข็ง ความลำบากใจที่หาได้ยากปรากฏขึ้นในแววตา
“ฝ่าบาทชมเกินไปแล้ว เรื่องเช่นนี้ เป็นเรื่องที่สมควรทำอยู่แล้ว”
หรงซิวยอมปล่อยเขาไปแต่โดยดี ไม่ได้หยอกล้ออันใดเขาต่อ เขาเดินต่อไปหนึ่งก้าว มุ่งหน้าไปทางยอดเขาซู่หมิง
“ท่านประมุขฟื้นหรือยัง?”
“ทูลฝ่าบาท ยังเลยพ่ะย่ะค่ะ”
หรงซิวเลิกคิ้วขึ้นดวงตาสว่างวาบ
“การจัดการกับผนึกนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยากจริงๆ”
แม้ว่าในปีนั้นเขาจะสามารถรอดพ้นจากหายนะมาได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถทำลายมันได้อย่างง่ายดาย
ผนึกนี้นับว่าเป็นหนึ่งในวิชาลึกลับขั้นสูงสุดของถ้ำปีศาจทมิฬ น้อยคนนักที่จะรู้เรื่องนี้
หากจะแก้ไขให้เสร็จสิ้น เกรงว่า… คงจะต้องใช้ความพยายามเล็กน้อย
“ฝ่าบาททางด้านพระชายานั้น…”
เยี่ยนชิงพูดขึ้นมาอย่างลังเลเล็กน้อย
“ในเมื่อเรื่องทางนี้แก้ไขเสร็จเรียบร้อยแล้ว น่าจะสามารถเชิญพระชายากลับมาได้แล้ว?”
ริมฝีปากแดงของหรงซิวยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ในแววตามีความอ่อนโยนขึ้นสามส่วน
“ข้าจะไปรับนางที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงด้วยตนเอง”
ก่อนหน้านี้เขาแสร้งทำตัวรีบร้อนกลับมาที่พระราชวังเมฆาสวรรค์ โดยไม่ได้บอกความจริงกับนาง ความจริงแล้วเขาก็คิดว่าหลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จ เขาก็จะไปรับนางกลับมา
ทางด้านหงส์ทองคำก็ทำให้นางหนักใจมากพอแล้ว
เยี่ยนชิงชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็ดึงสีหน้ากลับสู่ความปกติอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ตอบรับด้วยความเคารพ
ขณะที่พูดคุยกันทั้งสองคนก็มาถึงยอดเขาซู่หมิงแล้ว
หรงซิวร่อนตัวลงมาก่อนจะเหยียบลงบนหินหยกสีดำ
ทหารที่รักษาการณ์อยู่โดยรอบก็ทำความเคารพโดยพร้อมเพรียง
“ถวายบังคมโอรสสวรรค์!”
ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือไม่ แต่วันนี้เหมือนว่าลมปราณเลือดโลหะของพวกเขาเหมือนจะเข้มข้นขึ้น
หรงซิวพยักหน้าเบาๆ และสาวเท้าก้าวเข้าไปในตำหนักสักการะเทพ
เยี่ยนชิงเดินติดตามมาด้านหลังอย่างใกล้ชิด
ไม่ว่าเขาจะเดินผ่านไปที่ใด ทหารทุกนายล้วนคุกเข่าทำความเคารพเขา
พวกเขาต่างรู้ดีว่า ภายนอกพระราชวังเมฆาสวรรค์ที่เงียบสงบ ตอนนี้กลับมีการนองเลือดเกิดขึ้นแล้ว
หรงซิวเดินมาถึงหน้าตำหนักสักการะเทพ ทันใดนั้นฝีเท้าก็ชะงักไป
“จริงสิ เรื่องงานมงคลสมรสจัดเตรียมไปถึงไหนแล้ว?”
เยี่ยนชิงรีบพูดขึ้นทันทีว่า
“ทูลฝ่าบาท เรื่องทั่วไปก็จัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว”
เขาเริ่มเตรียมตัวตั้งแต่หลายปีก่อนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังใช้กำลังคนและทรัพยากรของพระราชวังเมฆาสวรรค์เป็นจำนวนมาก จะไม่เรียบร้อยได้อย่างใด?
หรงซิวพยักหน้า ดวงตาหงส์เหมือนมีแสงสว่างวาบผ่าน
“รอกระทั่งข้าพานางกลับมา แล้วเราค่อยเลือกวันมงคลสมรสกัน”
……….