ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1615 สัญลักษณ์ของนาง
ตอนที่ 1615 สัญลักษณ์ของนาง
……….
แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายออกมาจากร่างของฉู่หลิวเยว่!
ในขณะเดียวกันนั้นเอง อาการบาดเจ็บบนร่างกายของนางก็เริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!
เวลาเพียงชั่วพริบตา ผิวของนางก็เรียบเนียนขาวใสดังเดิม
เหมือนว่าบาดแผลเหล่านี้จะไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน
ลำแสงสีทองชาดปกคลุมทั่วร่างกายของนางบางๆ หนึ่งชั้น ดูทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก!
เมื่อสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของนาง ถวนจื่อก็ชะงักค้างไปทันที
และไม่สนใจที่จะร้องไห้แล้ว นางเบิกตากว้างแล้วมองฉู่หลิวเยว่โดยไม่กะพริบตา
หยาดน้ำตาเกาะที่ขนตา กระจ่างใสราวกับก้อนผลึก เมื่อมองไปแล้วรู้สึกน่าสงสารเป็นอย่างมาก
นางกับฉู่หลิวเยว่มีพันธสัญญาต่อกัน นางสามารถรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่ฉู่หลิวเยว่ได้รับ และสามารถสัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงของนางได้ตั้งแต่คราวแรก
นี่มัน…
ลมปราณของนาง เหมือนว่าจะแข็งแกร่งขึ้นใช่หรือไม่?
ไม่!
ถ้าพูดให้ถูกต้องก็คือ ชีพจรดั้งเดิมของนางต่างหากที่แข็งแกร่งขึ้น!
พลังที่ปกคลุมอยู่นั้นมันปกคลุมที่ชีพจรดั้งเดิมของนาง เหมือนกับเป็นชุดเกราะที่เสริมเข้าไปอีกชั้น!
และประเด็นสำคัญก็คือ พลังนี้…มาจากบรรพบุรุษเผ่าหงส์ทองคำ!
ตอนนี้แม้กระทั่งถวนจื่อที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ ก็ไม่สามารถมาเทียบพลังกับนางได้เลย!
หลังจากนั้นถวนจื่อก็รู้สึกว่าพลังที่เหนี่ยวรั้งร่างของนางเอาไว้จางหายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
“ตอนนี้ เจ้าเชื่อที่ข้าพูดหรือยัง?”
น้ำเสียงของบรรพบุรุษแฝงด้วยรอยยิ้ม
ถวนจื่อชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ค่อยๆ ดึงสติกลับคืนมา
ใบหน้าเจ้าเนื้อมีรอยยิ้มที่สดใสปรากฏขึ้นมา
“ท่านบรรพบุรุษเป็นคนดีจริงๆ!”
ขณะที่พูดนางก็อยากจะรีบวิ่งไปเกาะขาของฉู่หลิวเยว่อย่างรวดเร็วจนแทบจะอดทนรอไม่ไหวอีกต่อไป!
หลังจากนั้นไม่นานนางก็พุ่งตัวไปด้านหน้าของฉู่หลิวเยว่
ในที่สุดนางก็หยุดยืนห่างจากฉู่หลิวเยว่อยู่สามก้าว
เพราะว่าฉู่หลิวเยว่ยังคงนั่งหลับตาทำสมาธิอยู่
แม้ถวนจื่ออยากจะพุ่งตัวเข้าไปในอ้อมกอดของนาง แต่นางก็รู้ดีว่านี่เป็นช่วงเวลาพิเศษ
ดังนั้นนางจึงต้องหยุดรออยู่ที่เดิมอย่างเชื่อฟัง พร้อมกะพริบตาปริบๆ แล้วกวาดสายตามองฉู่หลิวเยว่อยู่หลายรอบ
ยิ่งมองมากเท่าไร ก็ยิ่งมีความสุขมากเท่านั้น
ลมปราณภายในร่างกายของอาเยว่แข็งแกร่งขึ้นแต่ก่อนมากจริงๆ
อีกทั้งนี่ไม่ใช่การเพิ่มพลังเพียงอย่างเดียว แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ หนึ่งในพลังนั้นมีแรงกดดันที่น่าตกใจแฝงมาด้วย!
ทันใดนั้นคิ้วของฉู่หลิวเยว่ก็ขยับขึ้นเล็กน้อย
วินาทีถัดมา นางก็ค่อยๆ ลืมตา
ดวงตาของนางพร่างพราวเหมือนดวงดาวสุกสกาว
เปลวเพลิงสีทองคำชาดส่องสว่างมาจากดวงตาของนาง!
…
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองถวนจื่อตาเขม็ง ในแววตาของนางนั้นเหมือนมีดวงดาวนับพันส่องประกายอยู่
นางยกมือขึ้นมา
กระโปรงใบบัวบนร่างของถวนจื่อปลิวไสวทั้งที่ไม่มีลมพัด
นิ้วชี้เรียวขาวของฉู่หลิวเยว่สัมผัสไปอย่างแผ่วเบา
จากนั้นก็มีอันใดบางอย่างพวยพุ่งออกมาจากร่างกายของนาง และรวมตัวกันอยู่ที่กลางฝ่ามือด้วยความรวดเร็ว!
มันคือลูกบอลโปร่งแสงขนาดเท่ากำปั้น
ด้านในมีเปลวเพลิงสีทองคำชาดลุกโชนอยู่
ถวนจื่อเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย
ข้างในนั้นมัน…
ตอนที่นางกับอาเยว่ทำพันธสัญญากันก็คือพลังสวรรค์สายหนึ่งไม่ใช่หรือ?
แต่พลังแห่งสวรรค์มันไร้รูปร่างไม่ใช่หรือ เหตุใดถึง…กลายเป็นเปลวเพลิงเช่นนี้ไปได้?
หรือว่าเพราะมีบรรพบุรุษคอยช่วยเหลือ?
ถวนจื่อมีใบหน้างุนงง
ฉู่หลิวเยว่กลับพูดขึ้นมาอย่างกะทันหันว่า
“ถวนจื่อ มานี่”
น้ำเสียงของนางนั้นไพเราะนุ่มนวลเป็นอย่างมาก และยังมีแรงกดดันที่ทำให้ผู้คนยอมจำนนอย่างไม่รู้ตัว
ถวนจื่อได้ยินดังนั้นก็รีบสาวเท้าก้าวขึ้นไปอีกสองก้าว
“อาเยว่…”
ฝ่ามือของฉู่หลิวเยว่ขยับเล็กน้อย ลูกบอลแสงลูกนั้นลอยอยู่ตรงกลางพวกเขาทั้งสองอย่างเงียบเชียบ
จากนั้นฉู่หลิวเยว่ก็เงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นก็หันไปมองทางภาพฝาผนัง
“ผู้อาวุโส รบกวนท่านแล้ว”
ครั้นถวนจื่ออยากจะหันหลังกลับ แต่กลับเห็นว่าเหนือลูกบอลแสงมีแสงสว่างส่องประกายขึ้นอย่างกะทันหัน!
เพียงชั่วพริบตาเดียว ลำแสงก็ก่อร่างเป็นสัญลักษณ์ที่คุ้นตา
…นั่นคือสัญลักษณ์ของเผ่าหงส์ทองคำ!
ถวนจื่อกะพริบตาปริบๆ
นางรู้สึกได้ว่าภายในร่างกายของตนเองนั้นมีอันใดบางอย่างเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่กลับไม่รู้สาเหตุว่ามันเกิดอันใดขึ้น
จากนั้นฉู่หลิวเยว่ก็ประสานมือทั้งสองไว้ด้านหน้า และหลับตาลงอีกครั้ง
ลมปราณรอบกายของนางพุ่งสูงขึ้น
ทันใดนั้นเองประกายแสงสีเงินแดงก็ปรากฏตรงหน้าของนาง
เมื่อเวลาผ่านไป ประกายแสงยิ่งมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับทะเลดวงดาวห้อมล้อมรอบกายฉู่หลิวเยว่เอาไว้
… ฉู่หลิวเยว่ได้อัญเชิญอาณาเขตเซียนเทพของตัวเองออกมา!
บรรยากาศภายในท้องพระโรงเริ่มแปลกประหลาดมากขึ้นเรื่อยๆ
พลังแห่งสวรรค์และโลกที่อยู่โดยรอบค่อยๆ พุ่งเข้าหาฉู่หลิวเยว่
กระแสเสียงดั่งคลื่นซัดดังขึ้นเบาๆ อย่างคลุมเครือ
แม้ถวนจื่อจะไม่รู้ว่าฉู่หลิวเยว่กำลังจะทำอันใด แต่นางก็สามารถสัมผัสได้ถึงความเคร่งเครียดที่เพิ่มมากขึ้น
เป็นผลทำให้นางรู้สึกกังวลเช่นกัน
มือเล็กๆ เนื้อแน่นทั้งสองข้างกำหมัดแน่น สายตาจ้องไปทางฉู่หลิวเยว่ตาไม่กะพริบ เพราะกลัวว่าจะพลาดอันใดไป
ทันใดนั้นเองนางก็มองเห็นว่าระหว่างคิ้วของฉู่หลิวเยว่มีลำแสงสว่างสายหนึ่งปรากฏขึ้น!
จากนั้นลำแสงสายที่สองก็ตามมา ซึ่งเชื่อมต่อกับสายแรกก่อนหน้านี้
ต่อมาก็เป็นลำแสงสายที่สาม
ถวนจื่อตกใจจนอ้าปากค้าง ปากเล็กๆ
จากนั้นนางก็รู้สึกขึ้นได้ว่า ลำแสงเหล่านั้นกำลังก่อร่างสร้างตัว คล้าย…สัญลักษณ์รูปหนึ่ง?
ลำแสงที่ไหลเข้ามาบริเวณกลางหน้าผากของฉู่หลิวเยว่นั้นมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น แรงกดดันบนร่างกายของนางนั้นก็เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว!
เมื่อเวลาผ่านไปแม้แต่ถวนจื่อยังรู้สึกหายใจไม่ค่อยออก
บรรยากาศโดยรอบเหมือนว่าจะถูกพลังอันไร้รูปร่างแช่แข็งเอาไว้!
นางหันไปมองทางฉู่หลิวเยว่ด้วยความตกใจ และอยากจะถามอันใดบางอย่าง แต่ก็กลัวว่ามันจะส่งผลกระทบกับนาง สุดท้ายก็ต้องกลืนความสงสัยเหล่านั้นลงคอไปจนหมด
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใด ในที่สุดลำแสงสุดท้ายบริเวณระหว่างคิ้วของฉู่หลิวเยว่ก็ตกลง
ทันใดนั้นเองลำแสงก็สว่างเจิดจ้าแสบตา!
แรงกดดันศักดิ์สิทธิ์ลดถอยลงในทันที!
พรึ่บ!
ฉู่หลิวเยว่ลืมตาขึ้น!
รูม่านตายังคงสว่างสดใส ทันใดนั้นเองแสงดาวจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนก็ดับมอด! ก่อนจะสะท้อนด้วยแสงที่สว่างกว่านั้น!
……….