ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1641 พุ่งเป้ามาที่นาง
“เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน?”
ซั่งกวนจิ้งส่ายหน้า
สงครามในปีนั้น สำหรับคนรุ่นหลังแล้วเป็นเรื่องที่ลึกลับอย่างมาก
สามารถมองเห็นเบาะแสภายในนั้นได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่หาได้ยากยิ่งแล้ว
หากเขาต้องการสืบเรื่องนี้เกรงว่าจะเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่าเดิม
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดไปแล้วก็คิดว่าใช่
ทุกคนบนโลกไม่มีใครรู้ และยิ่งไปกว่านั้นองค์ปฐมกษัตริย์ก็เป็นคนของนอกพรมแดนด้วย?
อีกทั้งในปีนั้นที่เขามาที่นี่ เขาแค่ร่วมเดินทางกับสหายคนนั้นเพื่อมาตามหาสิ่งของ การที่สามารถรู้เรื่องเหล่านี้ได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์แล้ว
“… ในเมื่อสมบัติของคนเหล่านั้นถูกทำลายไปหมดแล้ว ถ้าเช่นนั้นสิ่งที่เหลือทิ้งเอาไว้… ก็น่าจะไม่ใช่ของธรรมดาใช่หรือไม่?”
ในที่สุดฉู่หลิวเยว่ก็ถามออกมาอีกครั้งอย่างอดไม่ได้
“องค์ไท่จู่ ในปีนั้นที่พวกท่านตามหาของชิ้นนั้น มันสามารถช่วยให้ผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูงกลายเป็นระดับเทพศักดิ์สิทธิ์เพียงเท่านั้นหรือ?”
องค์ปฐมกษัตริย์ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะขมวดคิ้วขึ้นมา
เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย
ทุกครั้งที่นึกถึงสุสานสังหารเทพ ภายในสมองเขาก็มีความทรงจำที่เจ็บปวดเนื่องจากโดนคนหักหลัง ดังนั้นหลายปีที่ผ่านมานี้ เขาจึงพยายามไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ อีกทั้งยังมีเรื่องที่เกิดขึ้นมากมาย ดังนั้นจึงไม่ได้คิดอย่างละเอียดรอบคอบ
แต่เมื่อฉู่หลิวเยว่พูดขึ้นมาเช่นนี้ เขาถึงได้ตระหนักว่าเหมือนว่าจะมีอันใดบางอย่างผิดปกติไป
ภายในอาณาจักรเสิ่นซวี่ คนบางคนต้องอยู่ในระดับผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูงมาทั้งชีวิต และมีผู้บำเพ็ญเพียรมากมายที่ไม่สามารถเลื่อนขั้นไปต่อได้แล้ว
เพราะบำเพ็ญเพียรมาถึงจุดนี้ ก็ถือว่าใช้พรสวรรค์ไปทั้งหมดแล้ว
ไม่ว่าจะพากเพียรมากเท่าใด เมื่อไม่มีพรสวรรค์และความเข้าใจนั้น ก็ไม่สามารถทะลวงด่านได้สำเร็จ
ดังนั้นเมื่อได้ยินว่ามีของวิเศษเช่นนี้ เขาก็ติดตามชายผู้นั้นมาอย่างไม่ลังเล
ตอนนั้นเขาคิดเพียงแค่ว่าชายผู้นั้นต้องการของสิ่งนี้มาก จึงไม่ได้เกิดความสงสัยเลย
แต่ตอนนี้เมื่อมาคิดดูแล้ว มันมีสิ่งผิดปกติอยู่ในทุกที่จริงๆ
เขาไม่ได้ต้องการของสิ่งนั้น และไม่มีทางไปแย่งมา แล้วเหตุใดอีกฝ่ายจะต้องสังหารเขาด้วย?
หากเขาตายไปแล้วเท่ากับว่าอีกฝ่ายจะต้องสูญเสียช่างหลอมอาวุธระดับปรมาจารย์ระดับหัวกระทิไปด้วยคนหนึ่ง!
สิ่งนี้พิสูจน์ได้ว่า… ในสายตาของคนผู้นั้น ของวิเศษสิ่งนี้มีค่าสูงกว่าเขาที่เป็นช่างหลอมอาวุธระดับปรมาจารย์!
ของเช่นนั้นจะต้องเป็นของที่หายากมากในโลกใบนี้!
ทันใดนั้นซั่งกวนจิ้งก็นึกขึ้นมาได้ว่า ความทรงจำในอดีตของเขาเหมือนมีม่านหมอกมาปกคลุมอยู่หนึ่งชั้น ทุกอย่างดูเลือนรางไม่ชัดเจน
ความจริงที่เขาตัดสินในปีนั้น บางที… อาจจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังอยู่ภายในอีก?
หัวใจของซั่งกวนจิ้งเต้นไม่เป็นระส่ำ
เขาหลับตาลง และสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะสงบสติอารมณ์ลง
“บางที…”
เขาชะงักไปเล็กน้อยและไม่ได้พูดอันใดต่อ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องพูด
“ช่างเถอะ เรื่องเหล่านี้ค่อยว่ากันทีหลัง”
เขาหันมองทางฉู่หลิวเยว่
“คนนั้นบอกให้เจ้ามาที่สุสานสังหารเทพ แล้วได้ระบุสถานที่นัดพบหรือยัง?”
ฉู่หลิวเยว่ส่ายหน้าจากนั้นก็มองตรงไป
“เขาไม่ได้พูดอย่างชัดเจน แต่ว่า… เมื่อมีการนำทางของป้ายไม้ซาจี๋ ก็น่าจะไปถึงได้”
อีกฝ่ายพยายามอย่างเต็มที่ที่จะให้นางมาที่นี่ ไม่มีทางที่จะไม่ออกมาพบหน้าแน่นอน
“พรุ่งนี้ก็จะถึงเวลานัดแล้ว”
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“บางที วันพรุ่งนี้เขาอาจจะปรากฏตัวขึ้นมาก็ได้”
ซั่งกวนจิ้งครุ่นคิด และยังคิดว่าคำพูดนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล
“เช่นนั้นต่อไปพวกเราจะรออยู่ที่นี่ หรือว่า…”
“เดินเข้าไปดูด้านใน”
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองไปที่ด้านหน้าตาเขม็ง มือที่อยู่ในแขนเสื้อกำหมัดกรอด
ภายในใจของนางมีลางสังหรณ์บางอย่าง
ที่อีกฝ่ายนัดนางมาที่นี่ จะต้องมีแผนการอันใดบางอย่างแน่นอน
ถ้าเช่นนั้น… มันคืออันใดกันแน่?
…
หลังจากพวกเขาทั้งหลายเดินเข้ามาในสุสานสังหารเทพอย่างเป็นทางการแล้ว
ก็เห็นว่ามีป้ายหลุมศพแตกหักกระจัดกระจายไปทั่ว แต่กลับมองไม่เห็นกระดูกสีขาวเลย
ลมพายุผ่านมาเป็นเวลาหมื่นปีทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในความสงบแล้ว
ฉู่หลิวเยว่เดินผ่านเข้าไป สายตากวาดมองป้ายหลุมศพที่อยู่โดยรอบ
ซึ่งสามารถมองเห็นว่าบนนั้นเคยมีตัวอักษรสลักอยู่ แต่ในตอนนี้ตัวอักษรเหล่านั้นถูกกัดกร่อนตามกาลเวลา จนไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแล้ว
ตัวอักษรส่วนใหญ่ก็เห็นเพียงร่องรอยที่เลือนรางเท่านั้น
หลังจากเดินไปสักพัก ฉู่หลิวเยว่รู้สึกว่าความร้อนบนร่างกายของตนเองถูกกลืนกินไปอย่างไร้เสียง
บรรยากาศเย็นยะเยือกที่อยู่โดยรอบปกคลุมตัวนางอย่างไร้ซุ่มไร้เสียง
หากไม่มีป้ายหลุมศพเหล่านี้ ก็ไม่มีใครรู้ว่า ภายใต้ดินแดนอันกว้างใหญ่และรกร้างเช่นนี้แต่ซ่อนกระดูกขาวของผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูงเอาไว้เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน
พวกเขาทั้งหลายเหมือนถูกผลกระทบจากบรรยากาศแห่งนี้
พวกเขาเดินมุ่งหน้าไปอย่างเงียบเชียบ
แม้กระทั่งถวนจื่อที่มีท่าทางร่าเริงสดใสมาโดยตลอด ในตอนนี้ก็สามารถสัมผัสอันใดได้บางอย่าง นางจับมือของฉู่หลิวเยว่เอาไว้ แล้วเม้มริมฝีปากแน่น เดินติดตามไปโดยไม่พูดไม่จา
หลังจากเดินไปได้สักพัก คิ้วของฉู่หลิวเยว่ก็ขมวดแน่นขึ้นกว่าเดิม
นางเงียบไปสักพักในที่สุดก็พูดขึ้นมาว่า
“องค์ไท่จู่ ท่านรู้หรือไม่ว่าป้ายหลุมศพเหล่านี้ใครเป็นคนทำเอาไว้”
หากเป็นคนรุ่นหลัง แล้วเหตุใดป้ายหลุมศพเหล่านี้ถึงพังเสียหายทั้งหมดเช่นนี้?
ผู้อาวุโสชะงักไปเล็กน้อย น้ำเสียงทุ้มต่ำขึ้นมาก
“น่าจะเป็นช่วงก่อนมหาสงครามในปีนั้น ผู้ที่เข้าร่วมเหล่านั้นเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง”
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกหวาดกลัวไปเล็กน้อย
ยังไม่ทันได้ประมือ ก็สร้างหลุมศพให้กับตนเองแล้วหรือ!
นี่พวกเขาตัดสินใจว่าจะมาตายที่นี่!
มิน่าล่ะสงครามในปีนั้นจึงดุเดือดเป็นอย่างมาก
ผู้แข็งแกร่งระดับเทพจำนวนมาก แต่กลับถูกทำลายจิตวิญญาณไปทั้งหมด!
หนังสือเล่มนั้น มันเป็นหนังสืออันใดกันแน่ มันดึงดูดพวกเขามากขนาดนี้เชียวหรือ?
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกมึนงงและไม่เข้าใจ
คำตอบนี้ บางทีน่าจะมีเพียงแค่คนที่เข้าร่วมเท่านั้นถึงจะรู้…
แกร๊กๆ
มีอันใดบางอย่างมาชนเข้ากับที่เท้าของนาง
ฉู่หลิวเยว่ก้มหน้าลงไป มันเป็นหินก้อนหนึ่งที่มีขนาดเท่ากับกำปั้น เหมือนกับกลิ้งมาจากด้านข้าง
เมื่อครู่นี้ฉู่หลิวเยว่กำลังครุ่นคิดอันใดบางอย่าง จึงไม่ทันได้สังเกต
แต่หินก้อนนี้ก็ดูธรรมดาเป็นอย่างมาก ตอนที่มากระทบกับเท้าของนางนั้น นางไม่ได้รู้สึกเจ็บอันใดเลย อีกทั้งตอนที่นางชะงักฝีเท้า นางก็ไม่ได้เก็บมันมาใส่ใจเลยด้วยซ้ำ
นางยังคงเดินต่อไปด้านหน้า
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีหินอีกก้อนหนึ่งกลิ้งมาอีกครั้ง
ครั้งนี้ฉู่หลิวเยว่สามารถมองเห็นได้ก่อน
นางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
เพราะว่าหินก้อนนั้นวิ่งตามนางมา
นางไม่ได้ขยับเขยื้อน เพียงแต่ตอนที่หินก้อนนั้นพุ่งตัวเข้ามา นางก็เบี่ยงตัวหลบไปด้านข้าง
หินก้อนนั้นกลิ้งผ่านตำแหน่งที่นางเคยอยู่เมื่อครู่นี้ แต่หลังจากนั้นไม่นานมันก็หยุดตัวลง
ฉู่หลิวเยว่หรี่ตามอง
นางสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหินก้อนนั้นไม่มีอันใดมาขวางทางอยู่
แต่มันกลับหยุดตัวลงเอง!
“เยว่เออร์ มีอันใดหรือ?”
ซั่งกวนจิ้งสัมผัสได้ว่านางผิดปกติไป จึงหันศีรษะกลับไปถาม
ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้พูดอันใด แต่ก็มองไปโดยรอบ
แม้ว่าที่แห่งนี้จะมีป้ายหลุมศพที่แตกหักมากมาย แต่สถานที่แห่งนี้… ก็ไม่มีหลุมไม่มีบ่อเป็นพื้นที่ราบเรียบ
อยู่ดีๆ หินก้อนนี้จะกลิ้งเข้ามาหานางได้อย่างใด?
อีกทั้งยังมีมากกว่าหนึ่งก้อน
ทันทีที่ความคิดเหล่านี้ปรากฏขึ้นภายในสมองของนาง ฉู่หลิวเยว่ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นจากด้านหลัง
นางจึงหันหน้ากลับไปมอง
และมีก้อนหินอีกก้อนหนึ่งกลิ้งมาหานางตามที่คาดเอาไว้!