ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1643 อาณาเขตเซียนเทพ
ตอนที่ 1643 อาณาเขตเซียนเทพ
……….
ทันใดนั้นลมปราณที่แข็งแกร่งก็ปะทุขึ้นรอบกายของหรงซิวอย่างรุนแรง!
วินาทีต่อมาภายในมิติตรงหน้าของเขา มีเปลวเพลิงสีทองและดำสองสี ก่อนจะควบแน่นกลายเป็นแส้ยาว ก่อนจะสะบัดไปด้านหน้าอย่างรุนแรง!
พรึ่บ!
เสียงแหวกอากาศคมชัดเป็นอย่างมาก!
ก้อนหินเหล่านั้นที่อยู่บนพื้นถูกพลังที่น่ากลัวทำลายไปในทันที!
ตู้มๆ!
เสียงก้อนหินระเบิดดังขึ้น!
หินจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนแหลกละเอียดเป็นผุยผง!
พลังที่แปลกประหลาดและอันตรายถูกบดขยี้ไปในทันที!
ตู้ม!
เมื่อพลังทั้งสองฝ่ายปะทะกัน แรงระเบิดก็กระจายออกไปรอบข้างอย่างบ้าคลั่ง!
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกเหมือนกับว่าพื้นดินที่อยู่รอบกายนางนั้นถูกพลังอันใดบางอย่างบดขยี้อย่างรุนแรง จนแทบจะหายใจไม่ออก!
นางเงยหน้าขึ้นทันที แต่ทันใดนั้นนางก็รู้สึกว่ามีฝ่ามือใหญ่ที่ทั้งอบอุ่นและแข็งแกร่งกดศีรษะของนางลงไปในอ้อมกอดอีกครั้ง
วินาทีต่อมาความรู้สึกหดหู่เหมือนหายใจไม่ออกก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“เป็นเพียงแค่ปัญหาเล็กน้อยเท่านั้น”
น้ำเสียงของหรงซิวทุ้มต่ำเป็นพิเศษ ฉู่หลิวเยว่ถูกเขากอดในอ้อมแขนจนแน่น ขณะที่เขาพูดอยู่นั้น ก็สามารถสัมผัสแรงสั่นสะเทือนจากหน้าอกได้อย่างชัดเจน
ทั้งอบอุ่นและแข็งแกร่ง
เหมือนกับว่าขอเพียงมีเขาอยู่ เขาจะสามารถป้องกันลมฝนให้นางได้อย่างแน่นอน
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้าเบาๆ
ในขณะนั้นเอง พื้นตรงกลางค่ายกลที่กระตุ้นหินเหล่านั้นก็เริ่มพังทลายอย่างกะทันหัน!
แกร๊ก!
รอยแตกร้าวนั้นพุ่งมาที่เขาทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว!
จากนั้นฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกว่าใต้ฝ่าเท้าของนางว่างเปล่า!
ร่างของคนสองคนหล่นลงไปด้านล่างอย่างกะทันหัน!
…
ด้านหน้าดำมืดมองไม่เห็นอันใดทั้งนั้น
ฉู่หลิวเยว่ได้ยินแค่เสียงลมที่พัดผ่านข้างหูไป และเสียงหัวใจเต้นของหรงซิว
ฉู่หลิวเยว่กำลังจะพูดขึ้น แต่แรงกดดันรอบกายของนางกลับหนักแน่นอย่างมาก จนทำให้นางพูดอันใดไม่ออก!
ในใจของนางรู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
ตอนนี้นางเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูงแล้ว อีกทั้งระดับการต่อสู้ยังสูงกว่าคนระดับเดียวกันไม่น้อย
สิ่งที่สามารถปราบปรามนางได้ถึงเพียงนี้… สามารถจินตนาการได้เลยว่าพลังเหล่านั้นสูงจนน่าตกใจเพียงใด!
ทันใดนั้นเองแสงสีทองจางๆ สายหนึ่งก็ปกคลุมร่างของพวกเขาทั้งสอง
แรงกดดันที่น่าหวาดกลัวเหล่านั้นลดน้อยลงไปเป็นอย่างมาก
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานขนาดไหน ในที่สุดปลายเท้าของทั้งสองคนก็แตะกับพื้น
เมื่อเท้าของนางแตะพื้น ฉู่หลิวเยว่ก็ถอนหายใจออกมา และเงยหน้าขึ้นจากอ้อมกอดของหรงซิว ก่อนจะมองไปรอบด้าน
นอกจากม่านพลังที่ถูกกางเอาไว้ นางก็ยังไม่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของที่แห่งนี้ได้เลย
“ที่นี่คือ… ที่ไหนกันแน่?”
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วขึ้นพร้อมพึมพำเสียงต่ำอย่างอดไม่ได้
ลำแสงเหล่านั้นจางหายไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งลำแสงนั้นเป็นลำแสงสลัวๆ จึงทำให้ฉู่หลิวเยว่สงสัยว่าที่แห่งนี้คือภาพลวงตาหรือไม่
“เมื่อพลังของอาณาเขตเซียนเทพรวมตัวและกระทบกันก็ทำให้เกิดลำแสงเหล่านี้”
หรงซิวอธิบายขึ้น
ฉู่หลิวเยว่เบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ
“ทั้งหมด… นั่นเลยหรือ?”
เมื่อครู่นี้ที่นางเห็นว่ามีลำแสงอย่างต่ำสี่ห้าสาย
หากเป็นจริงอย่างที่หรงซิวพูดละก็ นั่นก็หมายความว่า ที่แห่งนี้ต้องมีอาณาเขตเซียนเทพอย่างน้อยสี่ถึงห้าแห่ง?
“ไม่ถูกต้อง!”
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วขึ้นเป็นปม
“ที่แห่งนี้จะมีอาณาเขตเซียนเทพได้อย่างใด?”
ถ้านางคาดเดาไม่ผิดละก็ ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ใต้ดิน
แต่ไม่ว่าจะอยู่ใต้ดินหรือบนดิน พื้นที่แห่งนี้ก็เป็นสุสานกลุ่มของผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูง ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่สามารถโต้เถียงได้
ก่อนหน้านี้องค์ปฐมกษัตริย์เคยพูดเอาไว้ว่า สงครามในปีนั้นทหารที่เข้าร่วมรบแทบจะทั้งหมดเสียชีวิตลง แม้กระทั่งจิตวิญญาณก็ถูกทำลายจนสิ้น!
เมื่อเป็นเช่นนี้จะมีอาณาเขตเซียนเทพของผู้แข็งแกร่งระดับเทพอยู่ที่นี่ได้อย่างใด?
หรงซิวมองไปโดยรอบ ดวงตาสีดำและทองเข้มจางหายไปอย่างไร้เสียงตั้งนานแล้ว แต่ฉู่หลิวเยว่ก็ไม่สามารถมองเห็นอยู่ดี
เขายกมือขึ้นแล้วหยิบไข่มุกประทีปขนาดเท่ากำปั้นออกมา
รอบข้างสว่างขึ้นกว่าเดิมมาก
แต่ว่านอกจากสามารถมองเห็นพื้นสีดำที่อยู่ใต้เท้าของพวกเขาแล้ว ทั้งสองคนก็มองไม่เห็นอันใดมากกว่านี้
พื้นที่รอบข้างดูดำมืดจนแทบจะไม่สามารถสลายไปได้
แม้ว่าแสงสว่างของไข่มุกประทีปจะสามารถขจัดความมืดออกไปได้บางส่วน แต่ก็สามารถส่องสะท้อนเพียงระยะสิบก้าวเท่านั้น
หากเป็นพื้นที่ไกลกว่านั้นก็ยังคงเป็นสีดำสนิทเช่นเดิม เหมือนกับว่าลำแสงถูกความดำมืดกลืนกิน
หรงซิวหรี่ตาลงเล็กน้อยจากนั้นก็เก็บม่านพลังที่ขวางกั้นพวกเขาทั้งสองไป
แรงกดดันของที่แห่งนี้น้อยกว่าด้านบนมาก ต่อให้ไม่มีม่านพลังปกคลุมร่างกาย โดยพื้นฐานแล้วแรงกดดันเหล่านี้ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อพวกเขาทั้งสองมากนัก
ในตอนนั้นเองนางก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังรอบกายที่เพิ่มขึ้นมาอย่างชัดเจน
ท่ามกลางความมืดมิด เห็นได้ชัดว่ามีพลังหลายสายกำลังปะทะกันอย่างไร้สุ้มเสียง
ความรู้สึกแบบนี้ ฉู่หลิวเยว่รู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างมาก
นางกลั้นลมหายใจแล้วยกข้อมือขึ้นเล็กน้อย
ลำแสงสีเงินชาดจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏที่กลางฝ่ามือของนางอย่างกะทันหัน เพียงชั่วพริบตาเดียวมันก็ล้อมร่างของนางเอาไว้
หลังจากนั้นไม่นานรอบกายของนางก็มีแสงสว่างขึ้น จากนั้นก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว
แต่ครั้งนี้ฉู่หลิวเยว่กลับสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ด้านข้างของนางนั้นเป็นอาณาเขตเซียนเทพจริงๆ เมื่อสัมผัสกับอาณาเขตเซียนเทพของนางก็เกิดเป็นระลอกคลื่นขึ้นมา!
นั่นไม่ใช่เพราะว่าอาณาเขตเซียนเทพเหล่านี้อ่อนแอ เพียงแต่มีการสัมผัสเล็กน้อย จากนั้นก็ถอยออกไป
ยิ่งไปกว่านั้นนี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ก่อนหน้านี้ฉู่หลิวเยว่ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของอาณาเขตเซียนเทพเหล่านี้เลย
“นี่มัน…”
ฉู่หลิวเยว่เก็บอาณาเขตเซียนเทพของตนเองลง แล้วขมวดคิ้วขึ้นเป็นปม พร้อมจมอยู่กับความคิด
อาณาเขตเซียนเทพไม่สามารถอยู่ด้วยตนเองได้หากปราศจากผู้บำเพ็ญเพียร
แม้ว่านางจะเคยมีประสบการณ์ผ่านความเป็นความตาย แต่เนื่องจากจิตวิญญาณของนางไม่ได้ถูกทำลายอย่างแท้จริง ดังนั้นนางจึงสามารถวางอาณาเขตเซียนเทพไว้ที่เขาเฝิงหมินได้ และสามารถเก็บรักษาได้อย่างปลอดภัยจนถึงทุกวันนี้
แต่ว่าที่นี่คือสุสานสังหารเทพ
ป้ายหลุมศพมากมายที่อยู่ด้านนอก สามารถยืนยันได้ว่าที่นี่มีปัญหา!
“หรือว่าสงครามในปีนั้น ยังมีกลุ่มคนที่รักษาจิตวิญญาณของตนเองเอาไว้ได้?”
ฉู่หลิวเยว่พูดพึมพำ แต่ก็รู้สึกไม่แน่ใจ
ในขณะเดียวกันนั้นเองทันใดนั้นหินก้อนหนึ่งก็หล่นลงมาที่เท้าของฉู่หลิวเยว่
ฉู่หลิวเยว่ก้มหน้าลงไปมอง สมองกระตุกและตึงเกร็งขึ้นมาทันที!
ก้อนหินก้อนนี้มันมาจากที่ใดกัน?
เหตุใดเหมือนมันจะชอบเข้ามาพัวพันกับนาง?
ขณะที่ฉู่หลิวเยว่กำลังจะลงมือ หรงซิวก็ขวางนางเอาไว้
“ช้าก่อน”
ฉู่หลิวเยว่เหลือบสายตามองเขาอย่างสงสัย
หรงซิวเชิดคางขึ้นเล็กน้อย
ฉู่หลิวเยว่มองตามสายตาของเขาทันที ก่อนจะกลั้นลมหายใจลง
ท่ามกลางความมืดมิดที่อยู่ด้านหน้า ทันใดนั้นก็มีลำแสงหนึ่งปรากฏขึ้น
ลำแสงนี้ไม่ได้จางหายไปอย่างรวดเร็วดั่งเช่นลำแสงก่อนหน้า อีกทั้งดูเหมือนว่ามันจะขยับเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ
นี่มัน…
อาณาเขตเซียนเทพแห่งหนึ่ง กำลังพุ่งตรงมาทางพวกเขาหรือ
ภายในสมองของฉู่หลิวเยว่เพิ่งจะมีความสงสัยนี้ปรากฏขึ้น แต่อาณาเขตเซียนเทพก็มาอยู่ตรงหน้าของพวกเขาแล้ว
ในตอนนั้นพวกเขาอาศัยแสงจากไข่มุกประทีป ในที่สุดฉู่หลิวเยว่ก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่าอาณาเขตเซียนเทพแห่งนั้นเป็นสีฟ้าอ่อน
สีของมันอ่อนเป็นอย่างมาก เหมือนกับสามารถสลายหายไปกับสายลมได้ทุกเมื่อ
ทั่วทั้งร่างของฉู่หลิวเยว่ตึงเกร็งขึ้นมาในทันที
อาณาเขตเซียนเทพแห่งนี้…
พรึ่บ!
ฉู่หลิวเยว่ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอย่างชัดเจน ก็เห็นว่าอาณาเขตเซียนเทพแห่งนั้นไหลพุ่งลงมาราวกับน้ำตก!
และไหลลงไปในก้อนหินก้อนนั้นที่อยู่แทบเท้าของฉู่หลิวเยว่!
……….