ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1646 ติดตาม
ตอนที่ 1646 ติดตาม
……….
ก้อนหิน
ก้อนหินกองใหญ่
ก้อนหินที่ทับถมจนเป็นภูเขาสูง!
พื้นที่โล่งตรงหน้าของนาง ถูกยึดครองโดยก้อนหินจำนวนนับไม่ถ้วนตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ!
แทบจะถูกปิดจนกลายเป็นทางตัน!
“เหตุใดมันถึงมากมายขนาดนี้เล่า!”
ฉู่หลิวเยว่พูดออกมาอย่างไม่สามารถหลบซ่อนความตกใจได้
เดิมทีนางคิดว่ามีแค่ไม่กี่สิบก้อนเท่านั้น!
หรงซิวยกคางขึ้นเล็กน้อย
หัวใจของฉู่หลิวเยว่เต้นระรัว ทันใดนั้นนางก็คิดอันใดบางอย่างขึ้นมาได้ นางหมุนศีรษะไปมองอย่างแข็งทื่อ
ก้อนหิน
ยังคงเป็นก้อนหิน!
ด้านข้างของพวกเขาทั้งสองแทบจะก่อเป็นปราการชั้นหนึ่ง
อีกทั้งเมื่อหันไปมองอย่างละเอียด บนก้อนหินเหล่านั้นก็ยังส่องแสงประกายวิบวับ ทุกอันล้วนมีสัญลักษณ์นั้น!
… ภายในก้อนหินเหล่านี้ ได้ถ่ายเทพลังอาณาเขตเทพเซียนที่แตกต่างกันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว!
ฉู่หลิวเยว่สูดลมหายใจเข้า
นางเพิ่งจะหลับตาพักผ่อนไปเพียงครู่เดียวเองไม่ใช่หรือ นางแค่ใช้ความคิดกับรูปแบบค่ายกลสองสามส่วน แต่เหตุใดเมื่อลืมตาขึ้นมา โลกกลับเปลี่ยนไปเช่นนี้ล่ะ?
มีสิ่งเดียวที่สามารถปลอบโยนนางได้ก็คือ ตอนนี้แรงกดดันสายสุดท้ายได้จางหายไปหมดแล้ว
การยืนอยู่ที่แห่งนี้ ไม่ได้แตกต่างจากอยู่ด้านนอกเลย
หางตาของฉู่หลิวเยว่กระตุกอย่างรุนแรง
ถ้าหาก… ไม่คิดไปถึงอาณาเขตเทพเซียนที่กระจายอยู่บริเวณโดยรอบแล้วละก็ นางอาจจะรู้สึกดีกว่านี้
“ตอนนี้…พวกเรายัง…ออกไปได้หรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่มองหน้าหรงซิวแล้วถามขึ้นอย่างยากลำบาก
หรงซิวเลิกคิ้วแล้วหัวเราะเบาๆ
“อาณาเขตเทพเซียนเข้าไปซ่อนในที่ของตนเองแล้ว อีกทั้งความวุ่นวายด้านบนก็สงบลงแล้ว แน่นอนว่าจะสามารถออกไปข้างนอกได้แล้ว”
ขณะที่พูดเขาก็กุมมือของฉู่หลิวเยว่เอาไว้แล้ว
นิ้วทั้งสิบสอดประสาน
ภายในใจของฉู่หลิวเยว่รู้สึกสงบลงเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้า
“หากเป็นเช่นนั้นก็ดีแล้ว”
นางรู้สึกอยู่เสมอว่าหากอยู่ที่นี่ต่อไปจะต้องเกิดอันใดบางอย่างขึ้นแน่นอน…
“ไปกันเถอะ”
หรงซิวพูดขึ้น จากนั้นก็พาตัวนางพุ่งขึ้นไป
“ช้าก่อน”
ฉู่หลิวเยว่ส่งเสียงเรียกอย่างกะทันหัน จากนั้นก็หมุนตัวกลับแล้วเดินไปหนึ่งก้าว
พรึ่บ…
ทันใดนั้นก้อนหินที่กองอยู่ด้านหน้าก็แหวกออกสองข้าง เปิดทางตรงกลางให้นางอย่างรวดเร็ว!
การเคลื่อนไหวของฉู่หลิวเยว่หยุดชะงักไป
นางเพียงแค่… อยากจะหยิบเสื้อคลุมของหรงซิวขึ้นมาเท่านั้นเอง!
ฉู่หลิวเยว่กัดฟันกรอด ก่อนจะหยิบเสื้อคลุมที่อยู่บนพื้นขึ้นมา
เสื้อคลุมตัวนั้นเปรอะเปื้อนฝุ่นอยู่บ้าง ฉู่หลิวเยว่สะบัดเสื้อเบาๆ
พรึ่บ…
ก้อนหินเหล่านั้นก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง จากนั้นมันก็เข้าแถวอยู่ที่ด้านหน้าของฉู่หลิวเยว่อย่างเป็นระเบียบ
ฉู่หลิวเยว่ “???”
“เหมือนว่าพวกมันจะเชื่อฟังคำสั่งของเจ้ามาก”
หรงซิวกลั้นขำ พร้อมรับเสื้อคลุมกลับไป ในขณะเดียวกันก็กระซิบที่ข้างหูของนางด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ
ลมปราณอบอุ่นรดต้นคอ ทำให้ฉู่หลิวเยว่รู้สึกคันยุบยิบเล็กน้อย
นางหดคอลง ก่อนจะหันไปจ้องหรงซิวตาเขม็ง
“พูดบ้าอัน…”
พรึ่บๆ!
ก้อนหินหลายก้อนลอยขึ้นมาอย่างกะทันหัน ก่อนจะพุ่งตรงไปทางหรงซิว!
ลมปราณเฉียบแหลม แล้วยังพุ่งออกมาด้วยความเร็วสูง!
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วขึ้นเป็นปม นางสาวเท้าก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าว พลังปราณดั้งเดิมที่อยู่ภายในกายก็พวยพุ่งขึ้นมา!
เมื่อสังเกตเห็นถึงการเคลื่อนไหวของนาง คาดไม่ถึงว่าก้อนหินเหล่านั้นก็หยุดตัวลงอย่างกะทันหัน!
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองตาเขม็ง
ก้อนหินเหล่านั้นเคลื่อนไหวอยู่ครู่หนึ่ง แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงลมปราณบนร่างกายของนาง พวกมันก็รีบเปลี่ยนทิศทางในทันที
ไม่รู้ว่าพวกมันกลัวถูกฉู่หลิวเยว่ตำหนิหรือว่าอย่างใดกันแน่ คาดไม่ถึงว่ามันจะไปแอบอยู่ด้านหลังกองหิน แล้วเฝ้ารออย่างเงียบเชียบ
ฉู่หลิวเยว่ “…”
หรงซิวหัวเราะเสียงต่ำออกมาอย่างอดไม่ได้
ขมับของฉู่หลิวเยว่เต้นตุบๆ
…
“เดินไปทางซ้ายสองก้าว”
“เดินไปทางขวาสองก้าว”
“เดินหน้า… ช่างเถอะ ถอยหลังสามก้าว”
“เมื่อครู่นี้ใครจะเริ่มลงมือก่อน? ก้าวออกมาให้หมด ใช่ ข้าหมายถึงพวกเจ้านั่นแหละ เร็วหน่อย! แสดงตัวออกมาให้ข้าเลือก”
“เอาล่ะๆ กลับไปเถอะ!”
…
ฉู่หลิวเยว่ลูบหน้าลูบตาของตนเอง
หลังจากผ่านการตรวจสอบ ในที่สุดนางก็สามารถตระหนักได้แล้วว่า สิ่งที่หรงซิวพูดเมื่อครู่นี้เป็นความจริง
… ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับก้อนหินเหล่านี้ เหมือนว่าพวกมันจะเชื่อฟังนางขึ้นมาอย่างกะทันหัน!
นางบอกให้ไปซ้าย พวกมันก็ไม่กล้าไปขวา
นางบอกให้เดินสองก้าว พวกมันก็ไม่กล้าเดินสามก้าว
นางเลือกพวกมันออกมาเพียงทีละสองสามก้อน พวกมันก็ทำตามเช่นนี้เหมือนกันหมด!
เมื่อมองก้อนหินที่อยู่ตรงหน้า ฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกปวดหัวขึ้นอย่างมาก
เกิดอันใดขึ้นหรือ?
ระหว่างนั้นมันมีอันใดผิดปกติกันแน่?
“หรือเป็นเพราะว่าเมื่อครู่นี้มันสัมผัสตัวของข้า ดังนั้นตอนนี้ก็เลยเชื่อฟังขึ้นมาแล้ว?”
ฉู่หลิวเยว่กอดอก มือข้างหนึ่งจับปลายคางอย่างครุ่นคิด
“เดิมทีก้อนหินกับอาณาเขตเทพเซียนเหล่านั้นก็ถูกเว้นระยะกันอย่างเหินห่าง แต่เพราะเมื่อเข้าใกล้เจ้า พวกมันถึงจะสามารถผสานกายกันได้ และบางทีอาจจะทำให้จิตวิญญาณในการต่อสู้มีชีวิตอยู่ได้ยาวนานขึ้น… ดังนั้นพวกมันจึงปฏิบัติต่อเจ้าเช่นนี้”
หรงซิวอธิบาย
ฉู่หลิวเยว่นวดขมับของตนเอง
“จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้?”
ท่าทางเชื่อฟังและไม่เป็นอันตราย แบบนี้เรียกว่าจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้หรือ!
แล้วความดุร้ายที่ไม่มีใครเทียบเทียมล่ะ?
แล้วลมปราณที่รุนแรงอย่างมากนั่นล่ะ?
เหตุใดจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้เหล่านี้ เมื่อมาอยู่กับนางแล้วถึงได้กลายเป็นเช่นนี้ไปได้ล่ะ?
ฉู่หลิวเยว่คิดอันใดไม่ออก
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ยังไม่มีคำตอบ
ฉู่หลิวเยว่ถอนหายใจเสียงยาวออกมา
“ช่างเถอะ ปัญหาเหล่านี้ค่อยคิดกันอีกครั้งหนึ่ง พวกเราออกจากที่นี่กันก่อนเถอะ”
ขณะที่พูดนางก็โบกมือไปยังก้อนหินที่อยู่ตรงหน้า
“รบกวนหลีกทางให้หน่อย”
พรึ่บ…
ก้อนหินเหล่านั้นแหวกทางให้นางในทันที
ทั้งสองคนเดินไปด้านหน้าแล้วลอยขึ้นไปด้านบนโดยพร้อมเพรียง!
ไม่มีแรงกดดันที่น่าหวาดกลัว การเคลื่อนไหวของทั้งสองคนราบรื่นเป็นอย่างมาก
แต่หลังจากผ่านไปสักพัก ฉู่หลิวเยว่ก็ได้ยินเสียงระลอกคลื่นดังขึ้นมาจากด้านล่าง
หัวใจของนางเต้นกระหน่ำอย่างรุนแรง จากนั้นก็ก้มลงไปมอง
ก้อนหินที่รวมตัวกันก่อให้เกิดเป็น “สายน้ำ” ไหลจากด้านล่างขึ้นมายังด้านบน!
ซึ่งครั้งนี้แตกต่างจากตอนที่อยู่ด้านนอก ครั้งนี้ก้อนหินเหล่านี้มีมารยาทกันอย่างมาก อีกทั้งยังเชื่อฟังนางอย่างถึงที่สุด
ทุกอย่างมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและพร้อมเพรียง!
นอกจากเสียงลมพัดแล้ว แทบจะไม่มีเสียงปะทะกันระหว่างพวกมันเลย
หากฉู่หลิวเยว่ไม่ก้มลงไปมองด้านล่าง นางก็ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความผิดปกติเลย
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกว่าตนเองกำลังจะบ้าแล้ว
เหตุใดก้อนหินเหล่านี้ถึงพัวพันกับนางเช่นนี้?
ก่อนหน้านี้นางล่วงเกินคนมาเป็นจำนวนไม่น้อย แต่ก็ไม่เคยเห็นสิ่งใดที่ยืนหยัดหนักแน่นเท่ากับก้อนหินเหล่านี้มาก่อน
“หรือว่าพวกมันอยากจะไล่ตามไปเช่นนี้?”
ฉู่หลิวเยว่ถามขึ้นมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
หรงซิวชะงักไปเล็กน้อย และหัวเราะขึ้นทันที
“เจ้าไม่รู้สึกเลยหรือว่า ก้อนหินเหล่านี้ไม่ได้ไล่สังหารเจ้า แต่กลับต้องการ… ติดตามเจ้า”