ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1655 ช้าก่อน
ตอนที่ 1655 ช้าก่อน
……….
เขาลงมืออย่างกะทันหันเกินไป อีกทั้งยังมีความเร็วมาก!
กว่าทุกคนมีปฏิกิริยาตอบสนอง ของสิ่งนั้นก็ลอยมาอยู่ตรงหน้าฉู่หลิวเยว่แล้ว!
ฉู่หลิวเยว่มองมันตาเขม็ง
คาดไม่ถึงว่ามันคือคางคกหยกสีขาว!
คางคกหยกสีขาวนั้นถูกแกะสลักอย่างละเอียดอ่อน ผิวด้านนอกเป็นสีขาว แต่ยังสามารถเห็นกระดูกและเส้นเลือดที่เป็นสีแดงด้านในได้อย่างเลือนราง
ทว่าดวงตาสีดำขลับคู่นั้น ยิ่งทำให้ดูเย็นยะเยือกมากขึ้น จนทำให้ผู้คนรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
เมื่อมองไปแล้วมันดูสมจริงเป็นอย่างมาก ราวกับมีชีวิตอยู่จริงๆ!
ดวงตาของฉู่หลิวเยว่เย็นชาขึ้นมา
ดูเหมือนว่าหนานอวี่สิงผู้นี้ต้องการจะเอาชีวิตนางจริงๆ แม้กระทั่งของลักษณะแบบนี้ก็ยังเอาออกมาได้!
คางคกหยกตัวนั้น เป็นหยกเย็นที่แกะสลักมาตั้งแต่พันปีก่อน ซึ่งหายากเป็นอย่างมาก ทั้งร่างกายของมันเป็นพิษเข้มข้นอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต!
หากต้องการเพิ่มพลังสูงสุดให้กับคางคกหยกตัวนี้ จำเป็นจะต้องใส่มันลงไปในร่างกายของผู้บำเพ็ญเพียรใช้แก่นปราณและเลือดเลี้ยงดูมัน
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร คางคกหยกตัวนี้ก็จะมีพลังที่แข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น
แต่ว่าในกระบวนการนี้ผู้บำเพ็ญเพียรจะได้รับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
อีกทั้งยิ่งผ่านไปนานมากเท่าไร การทรมานก็จะยิ่งน่ากลัวมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อพิจารณาจากคางคกหยกตัวนี้แล้ว หนานอวี่สิงน่าจะลงแรงกับเรื่องนี้ไปไม่น้อย
เมื่อเขาลงมือก็หยิบของสิ่งนั้นออกมาทันที เห็นได้ชัดว่าเขาหมายจะเอาชีวิตของนาง!
หรงซิวกำลังจะลงมือ ทันใดนั้นคิ้วของเขาก็เลิกขึ้นเล็กน้อย และชะงักการกระทำไปชั่วครู่
ฉู่หลิวเยว่หรี่ตาลง เปลวเพลิงสีทองคำชาดกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏที่กลางฝ่ามือของนาง!
สายตาจ้องมองไปที่คางคกหยกที่กำลังลอยเข้ามา
ในตอนนั้นเอง ประกายคมมีดสีดำก็ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน!
เพล้ง!
ทั้งสองฝ่ายปะทะกันจนทำให้เกิดเสียงกระทบดังกังวาน!
จากนั้นคางคกหยกตัวนั้นก็ลอยกระเด็นออกไป ก่อนจะตกลงที่พื้น!
บริเวณหลังของมันมีรอยแตกร้าวปรากฏขึ้นอย่างเห็นได้ชัด!
รอยยิ้มใบหน้าของหนานอวี่สิงที่ยังไม่ได้เผยออกมาอย่างเต็มที่ก็ต้องแข็งทื่ออย่างกะทันหัน
คางคกหยกตัวนี้เขาหลอมมาได้อย่างยากลำบาก ต้องใช้เวลาหนึ่งปีเต็มกว่าจะสำเร็จ!
โดยปกติแล้วเขาจะหวงแหนมันอย่างมาก น้อยครั้งมากที่จะหยิบออกมาใช้
คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกทำลายเช่นนี้!
ต้องบอกก่อนว่าเมื่อมีรอยแตกร้าวปรากฏขึ้นมันก็ไม่สามารถซ่อมแซมได้!
เท่ากับว่าเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมานี้สูญเปล่าแล้ว!
เขาหันไปมองทางฉู่หลิวเยว่และหรงซิวด้วยสายตาโมโหระคนตื่นตระหนกมากกว่าเดิม เลือดลมที่อยู่ภายในพลุ่งพล่าน
“พวกเจ้า…”
“คุณชายหนานต้องขอบอกให้อย่างชัดเจนก่อนนะเจ้าคะ เมื่อครู่นี้ไม่ใช่ฝีมือของพวกเราทั้งสองคน”
เขายังไม่ทันได้พูดอันใด ฉู่หลิวเยว่ก็ชิงพูดออกมาก่อนแล้ว
หนานอวี่สิงโกรธมากจนรู้สึกเวียนหัว
“ถ้าไม่ใช่พวกเจ้า? แล้วจะเป็นใคร? ผีหรือไง!”
ผู้อาวุโสอูเผิงกลับขมวดคิ้วขึ้นมา
เมื่อครู่นี้เขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าทั้งสองคนนี้ยังไม่ได้ขยับเขยื้อน
แต่ประกายคมมีดสีดำก็ปรากฏขึ้นที่กลางอากาศจริงๆ
เขาหันไปมองตามทิศทางประกายคมมีดสีดำนั้น
หลังจากคางคกหยกตัวนั้นตกลงไปแล้ว มันก็ลอยอยู่กลางอากาศอย่างเงียบเชียบ แสงสีดำที่เข้มข้นก็เหมือนดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่าง
ผู้อาวุโสอูเผิงรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“คุณชายใหญ่…”
เขาถอยหลังไปหนึ่งก้าว เหมือนนึกอันใดบางอย่างขึ้นมาได้
ทันใดนั้นน้ำเสียงทุ้มต่ำแหบพร่าก็ส่งเสียงออกมาจากประกายคมมีดสีดำนั้น
“คนที่ข้าต้องการจะสังหาร จะให้คนอื่นแย่งไปได้อย่างใด”
เมินเฉย ดูแคลน น่าหวาดกลัว!
น้ำเสียงแฝงไปด้วยจิตสังหารเต็มเปี่ยม! แทบจะทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวสะท้าน!
ทันทีที่สิ้นเสียง แรงกดดันที่น่าหวาดกลัวก็คืบคลานเข้ามาในทันที!
เดิมทีหนานอวี่สิงบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้ว เพลิงโกรธของเขาปะทุขึ้นอีกครั้ง หลังจากแรงกดดันที่บีบบังคับนี้ ทำให้เขาไม่สามารถรับได้ จากนั้นก็กระอักเลือดออกมา!
“พี่ใหญ่!”
หนานอีอีรีบพยุงเขาขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความรีบร้อน
“มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือ? นี่ ใครเป็นคนที่กำลังพูดอยู่?”
นางหันมองตามทิศทางของเสียง ทั้งตื่นตระหนกและโมโห แต่มากไปกว่านั้นลึกๆ แล้วมีความหวาดกลัวอยู่
แม้ว่าโดยปกติแล้วนางจะเป็นคนที่เย่อหยิ่งและเอาแต่ใจ แต่ในด้านการบำเพ็ญเพียร ถือว่านางเป็นคนที่มีพรสวรรค์อย่างยิ่ง
ไม่อย่างนั้นแล้วล่ะก็นางไม่สามารถได้รับความโปรดปรานเช่นนี้แน่นอน
นางสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า เจ้าของเสียงเมื่อครู่นี้… แข็งแกร่งจนน่าหวาดกลัว!
“เจ้า… เจ้าเป็นใครกันแน่?”
ประกายคมมีดสีดำค่อยๆ เปลี่ยนรูปร่าง กลายเป็นหมอกสีดำหนาทึบแล้วก่อตัวเป็นเงาร่างสูงใหญ่
ชายคนนั้นสวมชุดสีดำ พร้อมผ้าคลุมปิดบังใบหน้า จนไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ปราณมารที่เข้มข้นแผ่กระจายออกมาจากร่างกายของเขา!
คำพูดที่เหลือของหนานอีอีติดค้างอยู่ในลำคอ นางต้องยกมือขึ้นมาปิดปากโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็ต้องก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวด้วยความหวาดกลัว
คนผู้นี้…
อันตรายเกินไปแล้ว!
ชายคนนั้นหันไป “มอง” ทางหนานอวี่สิง
“เมื่อครู่นี้เป็นเจ้าที่ลงมือสินะ?”
เขาถามขึ้นอย่างเชื่องช้า คำพูดแต่ละคำกลับทำให้รู้สึกถึงความหนาวเย็นที่เสียดแทงกระดูก
บริเวณโดยรอบหนานอวี่สิงมีแรงกดดันที่รุนแรงขึ้นอีกครั้ง!
ในตอนนั้นเขาต้องทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้นอย่างทนรับไม่ไหว!
ตุ๊บ!
ผู้อาวุโสอูเผิงรีบไปขวางตัวไว้ที่ด้านหน้าของเขา แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า
“มีอันใดเราสามารถค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากันได้!”
ภายใจของเขากำลังปั่นป่วน และครุ่นคิดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้อย่างต่อเนื่อง การคาดเดาที่ไร้สาระอย่างหนึ่งปรากฏขึ้นในสมองของเขา
เมื่อสัมผัสได้ถึงลมปราณที่อันตรายของฝ่ายตรงข้าม ทำให้เขาต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ลำคอรู้สึกตีบตัน
“พะ… พวกเราไม่ได้มีความคิดที่จะเป็นปรปักษ์กับท่าน! เพียงแต่ว่า… พวกเรามีบุญคุณความแค้นกับสองคนนี้เล็กน้อย เมื่อครู่นี้คุณชายใหญ่แค่โมโหมากเกินไปจึงได้ลงมือ แต่… แต่พวกเราไม่ได้มีความหมายอื่นจริงๆ!”
ชายสวมชุดดำหันไปมองทาง “ฉู่หลิวเยว่” จากนั้นก็ส่งเสียงหัวเราะที่แปลกประหลาดออกมา ซึ่งไม่สามารถสัมผัสได้ถึงรอยยิ้มที่แฝงอยู่ในนั้นได้เลย
“ซั่งกวนเยว่ เจ้าก็ยังเป็นคนที่ชอบสร้างปัญหาเช่นเดิม ข้ามาสายเพียงครู่เดียว เจ้าก็สร้างศัตรูได้อีกคนหนึ่งแล้ว ดูเหมือนว่า… คนที่อยากสังหารเจ้าจะมีไม่น้อยเลยสินะ”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มออกมา
“ขอบคุณสำหรับคำชมเจ้าค่ะ ความจริงแล้วคนอย่างข้าไม่ได้ชอบก่อเรื่อง แต่เรื่องมักจะมาหาข้าด้วยตนเอง พวกเขาก็เป็นเช่นนี้ เจ้าก็… เป็นเหมือนกันไม่ใช่หรือ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่หลิวเยว่ ผู้อาวุโสอูเผิงและคนอื่นๆ ก็ลอบรู้สึกตกใจขึ้นมา
ดูเหมือนว่า…
ซั่งกวนเยว่ผู้นี้จะรู้จักกับชายสวมชุดคลุมที่ดูลึกลับผู้นี้?
อีกทั้ง… นางสามารถคาดเดาได้ตั้งนานแล้วว่าอีกฝ่ายจะปรากฏกายออกมา!
ชายสวมชุดคลุมสีดำผู้นั้นหัวเราะขึ้นเสียงเย็น
“เจ้าก็ยังคงใจกล้าเช่นเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลย”
ฉู่หลิวเยว่หัวเราะเบาๆ แล้วพยักหน้า
“ข้าใจกล้าที่ใดกัน ท่านอยากให้ข้ามาตาย ข้าก็มานี่แล้วไม่ใช่หรือ?”
ทั้งสองคนพูดจากันแค่ไม่กี่คำ คลื่นใต้น้ำก็ปะทุขึ้น!
หนานอวี่สิงและคนอื่นๆ เหม่อมองด้วยความตกใจ
เมื่อได้ยินดังนี้ก็หมายความว่า…
เหมือนว่าก่อนหน้านี้พวกเขาได้นัดหมายกันเอาไว้ก่อนแล้ว และที่นี่คือสถานที่ตัดสินความเป็นความตาย?
เช่นนั้น…
เหมือนอีกฝ่ายจะสามารถสังเกตได้ถึงสายตาของพวกเขา ฉู่หลิวเยว่หันกลับไปมอง มุมปากยกยิ้มขึ้น กลายเป็นรอยยิ้มคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
“ข้าบอกไปแล้ว เมื่อครู่นี้สามีของข้ารู้อยู่แก่ใจที่จะช่วยเหลือพวกเจ้า แต่น่าเสียดายที่พวกเจ้าไม่รับเอาไว้… ตอนนี้เจ้าก็อยู่กับพวกเราที่นี่ต่อไปเถอะ ไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคนแล้ว”
เมื่อผู้อาวุโสอูเผิงได้ยินดังนั้นก็สามารถตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้แล้ว
แม้ว่าเขาจะไม่ทราบถึงฐานะของอีกฝ่าย แต่เขาก็รู้ว่าฝีมือของอีกฝ่ายนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก หากเขาอยากจะรั้งให้พวกเราอยู่ที่นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ง่ายดายนัก!
แต่ที่พวกเขามาที่นี่เพื่อมาตามหาสิ่งของ ไม่ใช่มารนหาที่ตาย!
“เรื่องที่เกิดขึ้นภายในวันนี้เป็นความเข้าใจผิดกัน พวกเราไม่ได้คิดจะแย่งศัตรูของท่าน พวกเราจะจากไปบัดนี้ เพื่อเหลือพื้นที่ให้ท่านจัดการ”
ขณะที่ผู้อาวุโสอูเผิงพูดขึ้น เขาก็ถอยหลังไปหนึ่งก้าว และเตรียมตัวพาทุกคนจากไป
“ช้าก่อน”
……….