ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1656 ท่านพ่อ
ตอนที่ 1656 ท่านพ่อ
……….
“ข้าบอกให้พวกเจ้าไปได้แล้วหรือ?”
ชายสวมชุดคลุมสีดำพูดขึ้นอย่างเชื่องช้า
แต่ละคำพูดเหมือนมีภูเขาลูกใหญ่กดทับลงที่หัวใจของหนานอวี่สิงและคนอื่นๆ
ผู้อาวุโสอูเผิงหมุนตัวกลับไป และประสานหมัดทั้งสองข้าง
“ข้าไม่ได้มีเจตนาจะรบกวนจริงๆ และได้กล่าวขอโทษไปแล้ว ไม่ทราบว่ามีส่วนใดที่ท่านไม่พอใจหรือ?”
คนผู้นี้มีอันใดผิดปกติไปหรือไม่?
ในเมื่อคิดจะสังหารซั่งกวนเยว่ ก็ไปฆ่าเสียก็สิ้นเรื่องแล้ว จะมาข้องแวะกับพวกเขาอีกเหตุใด?
ต่อให้เมื่อครู่นี้หนานอวี่สิงเป็นฝ่ายลงมือจริงๆ ก็ยังไม่ทันได้โจมตีโดนเลยด้วยซ้ำ!
และเพราะเขาขวางทางเอาไว้ไม่ใช่หรือ!
เขายังไม่พอใจอันใดอีก?
ผู้อาวุโสอูเผิงมีฐานะเป็นช่างหลอมอาวุธระดับปรมาจารย์ สถานะสูงส่ง โดยปกติแล้วเขาไม่เคยพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำและนอบน้อมเช่นนี้กับใคร
หากไม่ใช่เพราะว่าวันนี้ทั้งหนานอวี่สิงและผู้อาวุโสไป๋ถงได้รับบาดเจ็บสาหัส กอปรกับพวกเขายังมีเรื่องที่ต้องไปทำ เขาไม่มีทางเกรงใจคนผู้นี้เช่นนี้แน่นอน!
“หึ”
ชายคนนั้นเหมือนกับได้ยินเรื่องตลกจึงหลุดหัวเราะออกมาหนึ่งเสียง
“บุกเข้ามาในถิ่นของข้าตามใจชอบ แล้วยังทำตัวกำเริบเสิบสาน บอกว่าจะไปก็สามารถไปได้ง่ายๆ เลยหรือ… บนโลกนี้มีเรื่องดีงามขนาดนี้ที่ไหนกัน?”
ผู้อาวุโสอูเผิงตกตะลึงไป
“เจ้าบอกว่า… ที่นี่คือถิ่นของเจ้าอย่างนั้นหรือ?”
หนานอีอีถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
“มีใครไม่รู้บ้างว่าสุสานสังหารเทพคือหลุมฝังศพของผู้แข็งแกร่งจำนวนนับไม่ถ้วน เป็นสถานที่ที่ไม่มีเจ้าของ แต่ตอนนี้เจ้ากลับพูดว่า ที่แห่งนี้คือถิ่นของเจ้า… เจ้าคิดว่าจะสามารถหลอกลวงพวกเราได้อย่างนั้นหรือ?”
แม้ว่านางจะรู้สึกหวาดกลัวชายชุดดำผู้นี้อยู่เล็กน้อย แต่เมื่อได้ยินดังนั้นนางก็อดโต้เถียงไปไม่ได้
จะพูดอันใดก็พูด แต่พูดว่าที่นี่คือถิ่นของเขาเนี่ยนะ?
ที่แห่งนี้คือหลุมฝังศพกลุ่มของผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ต่างหาก!
ทันใดนั้นชายที่สวมชุดคลุมสีดำก็ยกมือขึ้นมา และกำหมัดขึ้นในความว่างเปล่า
“อึก!”
ทันใดนั้นหนานอีอีก็รู้สึกว่าลำคอของตนเองถูกมือที่ไร้รูปร่างบีบเอาไว้จนแน่น! ร่างทั้งร่างของนางถูกยกสูงขึ้น!
เพราะว่านางหายใจอย่างยากลำบาก ทำให้ใบหน้าแดงก่ำขึ้นอย่างรวดเร็ว!
นางพยายามต่อสู้ดิ้นรนอย่างสุดชีวิต ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่สามารถหนีพ้น
“อีอี!”
“คุณหนูรอง!”
หนานอวี่สิงและคนอื่นๆ ที่ได้เห็นดังนั้นก็รู้สึกตื่นตระหนกกันขึ้นมา
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าชายสวมชุดคลุมสีดำคนนั้นจะลงมือทันทีโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง!
เดิมทีผู้อาวุโสอูเผิงอยากจะตอบโต้ แต่เมื่อคิดอย่างละเอียดแล้ว ในเมื่ออีกฝ่ายปรากฏกายในที่แห่งนี้ ไม่ว่าที่นี่จะใช่ถิ่นของเขาหรือไม่ ที่แห่งนี้จะต้องเสริมกำลังให้เขาได้อย่างแน่นอน
หากเขาลงมือทำอันใดบุ่มบ่าม เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องดี
“พวกเราคือสมาชิกตระกูลหนานแห่งสำนักวั่นเซิง ก่อนที่ท่านจะลงมือ โปรดคิดทบทวนให้รอบคอบ ท่านอยากจะเป็นปรปักษ์กับสำนักวั่นเซิงจริงหรือ?”
ชายสวมชุดคลุมสีดำหัวเราะออกมา
หนานอวี่สิงสาวเท้าเดินขึ้นไปหนึ่งก้าวอย่างอดไม่ได้
“เจ้า…”
ผู้อาวุโสไป๋ถงรีบคว้าตัวของเขาเอาไว้
“คุณชายใหญ่! คุณหนูรองยังอยู่ในมือของเขา!”
หนานอวี่สิงกัดฟันกรอด และพยายามอดทนเอาไว้
สีหน้าของผู้อาวุโสอูเผิงไม่ได้ดีไปกว่ากันมากนัก
ในวันนี้พวกเขาได้รับความอัปยศอดสูมากกว่าตลอดเวลาหลายปีรวมกันเสียอีก
แต่น่าเสียดายที่หนานอีอียังอยู่ในเงื้อมมือของเขา พวกเขาจึงไม่กล้าทำอันใด
แรงในการดิ้นรนของหนานอีอีน้อยลงเรื่อยๆ เหลือเพียงคำพูดไม่กี่คำที่ถูกพ่นออกมาจากริมฝีปากอย่างขาดช่วงเท่านั้น
“…เจ้า…เจ้าไม่ได้…อยาก…จะ…ฆ่านาง…หรือ…”
ในเมื่อเป้าหมายของผู้ชายคนนี้คือซั่งกวนเยว่ แล้วเหตุใดไม่ลงมือโดยตรง จะมาทรมานนางเหตุใด?
นางกลับไม่รู้เลยว่า การกระทำของพวกเขาเมื่อครู่นี้เป็นการยั่วโมโหอีกฝ่ายแล้ว
เนื่องจากขาดอากาศหายใจ ภาพตรงหน้าของนางจึงดำสนิท จิตสำนึกคิดพร่าเลือน
ในตอนที่หนานอีอีคิดว่าตนเองจะต้องตายจริงๆ แล้ว ในที่สุดชายที่สวมชุดดำคนนั้นก็ปล่อยมือออก
ตุ๊บ!
ร่างกายของหนานอีอีถูกโยนลงพื้นอย่างแรง!
พื้นที่ขรุขระทำให้ร่างกายของนางมีรอยถลอกมากมาย
เสื้อผ้าด้านหลังของนางถูกฉีกขาดเผยให้เห็นบาดแผลที่มีเลือดสดไหลออกมา
“อ๊าก!”
หนานอีอีรู้สึกโกรธและเขินอาย แต่แม้กระทั่งแรงที่จะลุกขึ้นยืนยังไม่มีด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นว่าหนานอีอีมีสภาพจนตรอกเช่นนี้ หากบอกว่าหนานอวี่สิงและคนอื่นๆ ไม่รู้สึกโกรธเลยคงเป็นไปไม่ได้
แต่ในตอนนี้นางสามารถกลับมาได้ถือว่าเป็นเรื่องดีมากแล้ว พวกเขาไม่กล้าทำเรื่องสิ่งใดอีก
“จะฆ่าเจ้า ก็ทำให้มือสกปรก”
ชายสวมชุดดำพูดขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจ
ใบหน้าของหนานอีอีซีดขาวเป็นอย่างมาก แต่กลับไม่กล้าพูดอันใดเลยสักคำ มีเพียงแต่ร่างกายที่สั่นสะท้านอย่างรุนแรง
…
ฉู่หลิวเยว่ยกสองมือขึ้นกอดยก แล้วเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
น่าเสียดายที่ละครสนุกๆ จะต้องจบลงเช่นนี้
แต่ว่านางไม่ได้ต้องการยืมมือชายสวมชุดดำจัดการกับคนเหล่านี้เสียหน่อย
เดิมทีชายคนนี้มาที่นี่เพื่อเล่นงานนาง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจผู้อื่น
สามารถเห็นพวกเขาถูกบีบบังคับได้ขนาดนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าประหลาดใจมากแล้ว
นางถอนหายใจออกมา จากนั้นก็หันไปมองชายสวมชุดดำแล้วพูดขึ้นด้วยใบหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
“พวกเรารีบเข้าประเด็นกันเถอะ หากยังจะพัวพันออกนอกเรื่องอยู่ แล้วทำให้คนอื่นเสียเวลาในการหาของวิเศษ เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องดี”
สีหน้าของหนานอวี่สิงและคนอื่นๆ เปลี่ยนไปในทันที
หรือซั่งกวนเยว่จะรู้เป้าหมายในการมาที่นี่ของพวกเขาแล้ว?
แต่ดูจากสีหน้าของนางแล้ว เหมือนว่าจะไม่ใช่…
“ของวิเศษ?”
ชายสวมชุดดำชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็เหมือนตระหนักอันใดได้บางอย่าง พร้อมหัวเราะออกมาหนึ่งเสียง
หนานอวี่สิงและคนอื่นๆ รู้สึกตึงเครียดมากยิ่งขึ้น
ในตอนที่พวกเขากำลังคิดว่า ชายสวมชุดดำจะต้องหาเรื่องให้เขาลำบากใจอีกแน่นอน กลับพูดขึ้นมาอย่างกะทันหันว่า
“ยังไม่รีบไสหัวไปอีก?”
ผู้อาวุโสอูเผิงรีบลุกขึ้นยืน แล้วพาคนทั้สามออกไปในทันที!
พวกเขาล้วนได้รับบาดเจ็บ แต่ความเร็วในการหนีก็สูงมากจนน่ามหัศจรรย์ หลังจากนั้นไม่นานเงาร่างของพวกเขาก็หายลับไปไกลแล้ว
เหมือนกับกลัวว่าชายสวมชุดดำจะเปลี่ยนใจขึ้นมา
…
“ข้ามาตามนัดแล้ว ท่านพ่อของข้าล่ะ?”
คนที่ขัดขวางได้จากไปแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็พูดเข้าประเด็นในทันที
บนใบหน้าของนางยังประดับรอยยิ้มอยู่หลายส่วน แต่ลมปราณรอบกายกลับเย็นลง
ชายสวมชุดดำสะบัดแขนเสื้อ
ความว่างเปล่าที่อยู่ด้านข้างก็เกิดการสั่นสะเทือน!
จากนั้นก็มีกรงขังสีดำปรากฏขึ้น!
เงาร่างที่คุ้นตาถูกล่ามโซ่และขังอยู่ภายใน
นั่นคือฉู่หนิงที่ไม่ได้พบกันมานาน!
ในตอนนี้เขามีสภาพจนตรอก ร่างกายผอมแห้งซูบเซียว
เสื้อผ้าที่สวมอยู่ทั้งเก่าและขาด อีกทั้งยังเต็มไปด้วยรอยคราบเลือด
ผมเพ้ารกรุงรังกระจัดกระจายแทบจะปกคลุมใบหน้าครึ่งหนึ่ง
ฉู่หลิวเยว่จึงสามารถเห็นได้เพียงริมฝีปากซีดขาวและแห้งกรังเท่านั้น
แต่ แค่มองเห็นเท่านี้ นางก็สามารถมองออกแล้วว่า นี่คือฉู่หนิงตัวจริง!
“ท่านพ่อ!”
ภายในใจของฉู่หลิวเยว่มีความโศกเศร้าขึ้นมาอย่างไม่รู้จบ
ทันใดนั้นชายสวมชุดดำก็หัวเราะขึ้นมาเสียงต่ำ
“จะว่าไปแล้ว ฉู่หนิงผู้นี้ก็มีความสัมพันธ์กับเจ้าเพียงระยะเวลาสั้นๆ คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะยอมมาช่วยเขาจริงๆ”
ฉู่หลิวเยว่ระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านอยู่ภายในใจ จากนั้นก็หัวเราะเสียงเย็นขึ้นมาว่า
“ตอนที่เจ้าลงมือกับเขา เจ้าก็ย่อมรู้ดีอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?”
นางเกิดใหม่ในร่างของฉู่หลิวเยว่ และฉู่หนิงก็เป็นบิดาของนาง
แม้ว่าเวลาที่พวกเขาใช้ร่วมกันนั้นจะไม่ได้ยาวนาน แต่ในช่วงเวลานั้น ฉู่หนิงก็เห็นนางเป็นลูกแท้ๆ ทั้งยังดูแลนางเป็นอย่างดี สามารถตายแทนนางได้
ภายในใจของฉู่หลิวเยว่เห็นว่าเขาเป็นพ่อแท้ๆ มาตั้งนานแล้ว
นางคือซั่งกวนเยว่ และฉู่หลิวเยว่!
ดังนั้นที่แห่งนี้จะอันตรายมากสักเพียงใด นางก็จะต้องมาอย่างแน่นอน!
“เจ้าพยายามอย่างหนักเพื่อให้ข้ามาที่นี่ ตอนนี้ข้าก็มาแล้ว เจ้าก็ควรรักษาสัญญา ปล่อยท่านพ่อของข้าออกมา!”
……….