ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1658 แลกเปลี่ยน
ตอนที่ 1658 แลกเปลี่ยน
……….
แปะๆ
ชายสวมชุดดำตบมือขึ้น พร้อมพูดด้วยใบหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
“เป็นฉากที่น่าประทับใจเสียจริง ซั่งกวนเยว่ ตราบใดที่เจ้ามอบของสิ่งนั้นให้แก่ข้า เจ้าก็สามารถพาเขาออกไปได้เลย พ่อลูกสุขสันต์ได้พบกันใหม่ ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดี เจ้าว่าใช่หรือไม่?”
เมื่อได้ยินดังนั้นฉู่หนิงก็ได้สติกลับคืนมา
เขาหันหน้ากลับไปมองทางชายสวมชุดดำผู้นั้นและขมวดคิ้วแน่นขึ้น
คนผู้นี้… การที่อีกฝ่ายพาเขาออกจากดินแดนรกร้าง และนำเขามาขังไว้ที่นี่ ที่แท้ก็เพื่อ… ข่มขู่เยว่เออร์อย่างนั้นหรือ?
“เยว่เออร์ เขาต้องการให้เจ้ามอบสิ่งใด?”
ฉู่หนิงเกาะลูกกรงด้วยมือทั้งสองข้าง พร้อมถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล
แม้ว่าร่างกายและจิตวิญญาณของเขาใกล้จะแตกสลายเต็มที แต่หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเยว่เออร์แล้ว เขายังคงรู้สึกตื่นตัวเป็นอย่างมาก
ผู้ชายคนนี้มีฝีมือแข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้มาก
คนแบบนี้จะต้องการของสิ่งใดกัน?
สิ่งที่สามารถทำให้เขาทุ่มเทมากขนาดนี้… แค่คิดก็รู้แล้วว่า ของที่เขาต้องการนั้น ต้องไม่ใช่ของธรรมดาอย่างแน่นอน!
ถ้าเช่นนั้นก็เป็นไปได้อย่างมากว่า มันจะต้องเป็นของสำคัญอย่างยิ่งของเยว่เออร์!
“เยว่เออร์ เขาต้องการอันใดกันแน่?”
ฉู่หนิงจ้องฉู่หลิวเยว่ตาเขม็ง
“พ่อไม่ต้องการให้เจ้าเสียสละเพื่อพ่อขนาดนั้น เจ้า…”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ
“ท่านพ่อวางใจเถอะ ในเมื่อข้ามาที่นี่แล้ว นั่นหมายความว่าข้าตัดสินใจดีแล้ว สำหรับข้าแล้วไม่มีของสิ่งใดที่สำคัญไปมากกว่าท่าน”
ภายในใจของฉู่หนิงรู้สึกเศร้าใจและเห็นใจ
เขาเป็นคนฉลาด แค่คำตอบของฉู่หลิวเยว่ เขาก็สามารถมั่นใจได้แล้วว่า สิ่งของที่ทำการแลกเปลี่ยนกันนั้นต้องเป็นของวิเศษที่หาได้ยากยิ่ง
ยิ่งไปกว่านั้นยังสำคัญสำหรับนางมากด้วย!
ฉู่หนิงส่ายหน้าแล้วพูดอย่างหนักแน่นว่า
“ไม่… เยว่เออร์ พ่อเป็นลูกธนูที่สุดแรงบินแล้ว เหตุผลที่สามารถอดทนได้ถึงวันนี้ เพียงแค่คิดว่าอยากจะเจอหน้าเจ้าอีกสักครั้ง ในเมื่อตอนนี้ได้เจอแล้ว ในใจของพ่อก็ไม่ได้มีอันใดให้เป็นกังวลอีก…”
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่า เยว่เออร์กับชายคนนั้นได้ทำข้อตกลงอันใดกันไว้
แต่เขาก็สามารถมั่นใจได้เลยว่า เยว่เออร์จะต้องหลีกทางให้แน่นอน
“…ก่อนหน้านี้…พ่อไม่เคยปล่อยให้ลูกได้รับความอยุติธรรมเลย…ตอนนี้…ก็เหมือนกัน…”
ฉู่หนิงมองฉู่หลิวเยว่ด้วยสายตาลึกล้ำ น้ำเสียงอ่อนแรงลงเรื่อยๆ
มันก็เป็นเพียงเรื่องของความตายเท่านั้น
เขาไม่อยากทำให้เยว่เออร์ต้องรู้สึกกดดันและเจ็บปวดโดยมีเขาเป็นสาเหตุ
“พ่อ…ทำอันใดเพื่อเจ้าได้ไม่มาก…แค่กๆ …มีเพียงสิ่งเดียวที่สามารถทำได้ นั่นคือไม่เป็นภาระของเจ้า…แค่กๆ …”
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
“ท่านพ่อ พวกเราเป็นพ่อลูกกัน เดิมทีแล้วก็สามารถเชื่อมโยงด้วยสายเลือด เรื่องนี้จะนับว่าเป็นภาระได้อย่างใด? การที่ช่วยท่านกลับไปนั้นถือเป็นสิ่งที่ข้าควรจะทำ…”
นางยังพูดไม่ทันจบ
ฉู่หนิงก็จ้องมองอย่างลึกซึ้ง จากนั้นก็ยิ้มออกมา
แววตานี้ รอยยิ้มนี้ ได้แทนคำพูดเป็นพันเป็นหมื่นคำ
เขาพูดว่า
เหมือนกับมีอันใดบางอย่างมากระแทกหัวใจของฉู่หลิวเยว่อย่างรุนแรง!
นางเม้มริมฝีปากแน่น
ความจริง…
เขาควรจะคิดได้ตั้งนานแล้ว
ตั้งแต่นางจากแคว้นเย่าเฉินมา กลับไปยังเทียนลิ่ง แล้วยังมาถึงอาณาจักรเสิ่นซวี่…
ภายในเวลาที่ยาวนานขนาดนี้ อีกทั้งยังมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย
เขาจะไม่รู้อันใดเลยได้อย่างใด?
นางสามารถยอมรับต่อหน้าทุกคนว่านางคือซั่งกวนเยว่
แต่เมื่ออยู่กับฉู่หนิงเท่านั้นที่นางยังทำตัวเป็นฉู่หลิวเยว่โดยไม่รู้ตัว
“… เยว่เออร์เกิดมาก็เป็นคนขี้ขลาดขี้อาย แล้วเหตุใดถึงเปลี่ยนแปลงไปได้มากขนาดนั้น ราวกับกลายเป็นคนละคน?”
“ต่อให้ใบหน้าและร่างกายยังเหมือนเดิมทุกประการ ความทรงจำก็ไม่ผิดเพี้ยน แต่…”
ไม่มีใครรู้จักลูกสาวดีไปมากกว่าพ่ออีกแล้ว
ฉู่หนิงหลับตาลงเบาๆ
แน่นอนว่าเขารู้เรื่องนี้มาตั้งนานแล้ว
ต่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกต้อง แต่ก็มีเรื่องบางอย่างที่เขาสามารถสัมผัสได้
มือของฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ กำแน่นขึ้น
ความจริงแล้วในตอนแรกฉู่หนิงก็สงสัยในตัวตนของนางก่อนแล้ว เดิมทีนางคิดว่าตนเองปกปิดได้อย่างแนบเนียน จนทำให้เขาเชื่อมัน
แต่คิดไม่ถึงเลยว่า…
“ตั้งแต่ที่เจ้ากลายมาเป็นลูกสาวของข้า พ่อก็ไม่เคยทำอันใดให้เจ้าเลย มีแต่เจ้ากลับทำให้พ่อมากมายตั้งไม่รู้เท่าไร…”
บนใบหน้าของฉู่หนิงมีร่องรอยความรู้สึกผิด
นางเป็นคนที่โดดเด่นอย่างมาก
ทำให้เขาภาคภูมิใจตัวเอง
“ไม่มีเยว่เออร์แล้ว สวรรค์ปิดม่านการแสดงแล้ว แต่ก็ยังพาเจ้ามาหาพ่ออีก หากเป็นไปได้ พ่ออยากให้เจ้าเป็นลูกสาวของพ่อไปตลอดชีวิต แต่… ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นพ่อที่โลภมากเอง”
เมื่อเรื่องมาถึงตรงนี้ เขาก็ไม่อยากเป็นภาระให้นางอีกต่อไป
“เจ้ามีอนาคตที่สดใส ทุกอย่างที่เจ้าได้มาในวันนี้เป็นความเพียรพยายามของเจ้าทั้งหมด เจ้าไม่จำเป็นต้องเสียสละเพราะพ่อเลย”
ฉู่หนิงลืมตาขึ้นมา ในแววตาที่เหนื่อยล้าของเขากลายเป็นสีแดงก่ำ
เดิมทีเขาก็อยากมีชีวิตเช่นนี้ไปตลอดกาล แต่…
“หากชาติหน้ามีโอกาส…”
“ท่านพ่อ”
ฉู่หลิวเยว่พูดแทรกขึ้นมาอย่างกะทันหัน
น้ำเสียงของนางแผ่วเบา แต่แววตาของนางนั้นแน่วแน่เป็นอย่างมาก
นางมองทางฉู่หนิงจนแทบจะมองเห็นก้นบึ้งในใจของเขาแล้ว
“ท่านพ่อ เยว่เออร์เป็นลูกสาวของท่าน ทั้งก่อนหน้านี้ ตอนนี้ และหลังจากนี้ก็ยังเป็นอยู่!”
ดังนั้นในวันนี้นางจะต้องช่วยคนผู้นี้ออกมาให้ได้!
ขณะที่พูดนางก็ยืดหลังตรงแล้วมองไปทางชายสวมชุดคลุมดำคนนั้น
จากนั้นนางก็ต้องหลับตาลงแล้วกลั้นลมหายใจ
“เยว่…”
ฉู่หนิงเพิ่งจะได้สติกลับมาหลังจากที่นางพูดคำพูดนั้น จากนั้นก็เห็นว่านางยื่นมือออกไปอย่างกะทันหัน
หลังจากตกอยู่ในความเงียบครู่หนึ่ง สัญลักษณ์ที่แปลกประหลาดสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่กลางฝ่ามือของนาง!
หลังจากนั้นสัญลักษณ์ก็ค่อยๆ ควบรวมกันเป็นหยดน้ำที่มีขนาดเท่ากับเม็ดลำไยด้วยความเร็วสูงจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!
ไข่มุกธารานั้นเต็มไปด้วยแสงสว่างเจิดจ้า สัญลักษณ์สายนั้น ถูกสลักเอาไว้ด้านบนจนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
เมื่อมองจากระยะไกลก็เห็นเป็นเหมือนของวิเศษที่ใช้หยกหลากสีนำมาแกะสลักอย่างประณีต
งดงามกระจ่างใส
หัวใจของฉู่หนิงเหมือนมีอันใดบางอย่างบีบรัดเอาไว้จนแน่น
แม้เขาจะไม่รู้ว่าสิ่งนี้มันคืออันใดกันแน่ แต่ก็สามารถสัมผัสได้ว่าของสิ่งนี้ไม่ใช่ของธรรมดา!
อีกทั้งเหมือนว่าจะมีความสำคัญกับเยว่เออร์อย่างยิ่ง!
หลังจากที่ไข่มุกธาราเม็ดนั้นปรากฏขึ้นมา ใบหน้าของนางก็ซีดขาวลงไปหลายส่วน
ทว่าหลังจากชายสวมชุดดำผู้นั้นมองเห็นไข่มุกธาราแล้ว ลมปราณรอบกายของเขาก็เกิดความผันผวนขึ้นอย่างมาก
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองไปด้านหน้า และสะบัดข้อมือออกไป!
“ในเมื่อเจ้าต้องการมัน… เจ้าก็ไปเอามันเองสิ!”
พรึ่บ!
ชายสวมชุดดำสะบัดแขนเสื้อ และรีบแย่งชิงไข่มุกธารานั้นอย่างกระตือรือร้น!
กลุ่มหมอกดำที่หนาทึบพุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา และปกคลุมไข่มุกธาราเม็ดนั้นอย่างรวดเร็ว
เพียงแค่มองไป ไข่มุกธาราที่เคยสว่างแวววาวกลับมีเงามืดปกคลุมหนึ่งชั้น และดูมืดคล้ำไปอย่างมาก
ลมปราณและแรงกดดันที่ปกคลุมอยู่บนนั้นเหมือนถูกระงับลงในทันที!
หลังจากนั้นไม่นานของสิ่งนั้นก็ตกลงที่กลางฝ่ามือของชายผู้นั้น
เขามองไข่มุกธาราที่อยู่กลางฝ่ามือด้วยความโลภ แม้กระทั่งมิติที่อยู่โดยรอบก็เริ่มผันผวนขึ้น เพราะความตื่นเต้นของเขา!
“ในที่สุด…”
เพื่อตามหาของสิ่งนี้ ไม่รู้ว่าเขาจะต้องใช้เวลานานมากแค่ไหน และต้องได้รับความทุกข์ทรมานมากเท่าใด!
ในที่สุดตอนนี้ของชิ้นนี้ก็ตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!
ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้นด้วยความเย็นชา
“ตอนนี้ก็คงปล่อยท่านพ่อของข้าได้แล้วสินะ?”
ชายสวมชุดดำเบือนหน้าออกมาจากไข่มุกธาราอย่างไม่เต็มใจ จากนั้นก็หันไปมองทางฉู่หลิวเยว่
“เหอะ นับว่าเจ้าเฉลียวฉลาด…”
เดิมทีเขาคิดว่านางจะเล่นลูกไม้อันใด แต่เมื่อดูจากตอนนี้แล้ว เหมือนว่าเขาจะคิดมากไป
เพียงเพื่อฉู่หนิงคนเดียว ถึงกับยอมเสียสละของวิเศษขนาดนี้… เรื่องโง่เขลาเช่นนี้ มีแต่นางเท่านั้นที่สามารถทำได้สินะ?
เขาหัวเราะออกมาอย่างภูมิใจ
“ได้สิ”