ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1669 ตอบโต้!
ตอนที่ 1669 ตอบโต้!
……….
ชายสวมชุดดำสะดุ้งโหยง จากนั้นก็หันกลับไปมอง และเห็นว่าค่ายกลที่อยู่ตรงหน้าของฉู่หลิวเยว่เสร็จสมบูรณ์ตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ!
แรงกดดันอันมหาศาล ค่อยๆ แผ่กระจายออกจากด้านบนนั้น!
ลมปราณนี้ทำให้ตัวของเขาสั่นสะท้านอย่างไม่รู้ตัว
“ปะ…ปรมาจารย์ค่ายกลระดับมหาราชา?”
เขาพูดโพล่งออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ!
นางทะลวงด่านจนถึงระดับนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ คาดไม่ถึงว่าเขาจะไม่รู้เรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย?
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้นางเพิ่งอายุเท่าไรกันเอง?
ทำไมนางถึงสามารถทะลวงด่านเป็นปรมาจารย์ค่ายกลระดับมหาราชาได้อย่างง่ายดายเช่นนี้?
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย แววตากระจ่างใสแฝงด้วยความเย็นชา
ทันใดนั้นริมฝีปากที่ซีดขาวของนางก็ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มที่นางเผยออกมา แต่เขาแทบจะไม่รู้ความหมายของมันด้วยซ้ำ
ต่อให้มองไม่เห็นใบหน้าของชายสวมชุดคลุมสีดำ แต่ก็คาดเดาไม่ยากเลยว่าตอนนี้เขาจะต้องตกใจและตื่นตะลึง อีกทั้งยังมีความตื่นตระหนกที่ไม่สามารถปกปิดได้อีกด้วย
“เจ้าตกใจมากอย่างนั้นหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ถามขึ้นเสียงเบา
“ความจริงจะว่าไปแล้วมันก็เป็นเรื่องบังเอิญ ข้าเพิ่งทะลวงด่านได้ก่อนที่เจ้าจะมาถึงไม่นานนี่เอง อีกทั้งยังทะลวงในที่แห่งนี้อีกด้วย! เหตุใดล่ะ ที่แห่งนี้เป็นถิ่นของเจ้าไม่ใช่หรือ เรื่องแค่นี้เจ้าก็ไม่รู้หรือไร?”
คำพูดของฉู่หลิวเยว่เหมือนกับฟ้าผ่าลงที่ข้างหูของชายสวมชุดคลุมสีดำ!
สิ่งนี้ทำให้เขาตกใจอย่างมาก!
“เป็นไปได้อย่างไร?”
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เขาจะต้องรู้เรื่องนี้เป็นคนแรกไม่ใช่หรือ
เหตุใดเขาเพิ่งรู้ในตอนนี้…
“…หรือว่า…”
ไม่รู้ว่าเป็นภาพมายาหรือไม่ ฉู่หลิวเยว่สามารถได้ยินความหวาดกลัวสายหนึ่งจากน้ำเสียงของเขา
ความหวาดกลัว?
คนผู้นี้กำเริบเสิบสานเป็นอย่างมาก และเอาแต่ใจตนเอง แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลย
ตั้งแต่เขามาถึงที่นี่ เขาก็ทำท่าทางเหมือนไม่ว่าใครก็ไม่สามารถยั่วโทสะเขาได้
ทำไมอยู่ดี ๆ ตอนนี้ถึงมีท่าทีหวาดกลัวขึ้นมาอย่างกะทันหันล่ะ?
หรือคำพูดของนางทำให้เขาคิดอะไรขึ้นได้อย่างนั้นหรือ?
ฉู่หลิวเยว่หรี่ตามอง แต่นางขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเรื่องเหล่านี้
นางเงยหน้าขึ้นมองแท่งน้ำแข็งแท่งนั้นที่กำลังต่อสู้อยู่กับถวนจื่อ
เมื่อเห็นว่ามือเล็กๆ ของถวนจื่อถูกแทงอีกทั้งเลือดยังคงไหลรินออกมาอย่างไม่ขาดสาย รอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว แทนที่ด้วยจิตสังหารเข้มข้นอย่างไม่ปกปิด
“ค่ายกลกระสวยสวรรค์เล็ก”
ฉู่หลิวเยว่ตะโกนขึ้นมา พร้อมผลักค่ายกลที่อยู่ตรงหน้าออกไป!
ค่ายกลขนาดใหญ่สีเงินลอยขึ้นไปอย่างเชื่องช้า
อาณาเขตเทพเซียนที่อยู่รอบข้างเหมือนสามารถสัมผัสอะไรได้บางอย่าง จึงค่อยๆ หลีกทางอย่างว่องไว
หลังจากนั้นไม่นานค่ายกลขนาดใหญ่สีเงินก็ลอยอยู่กลางอากาศ
มันผ่านร่างของถวนจื่อไป ก่อนจะลอยอยู่เหนือศีรษะของนาง และเผชิญหน้ากับแท่งน้ำแข็งนั้นโดยตรง!
เมื่อมีการช่วยเหลือจากค่ายกลนี้ ถวนจื่อก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ในขณะเดียวกัน ลำแสงจากค่ายกลแห่งนี้จำนวนไม่ถ้วนพันธนาการแท่งน้ำแข็งนั้นเอาไว้
หลังจากนั้นก็พันเอาไว้อย่างแน่นหนา!
กร๊อบ!
เสียงแตกร้าวดังขึ้นอย่างชัดเจน!
แท่งน้ำแข็งแตกละเอียด!
ในที่สุดถวนจื่อก็สามารถหลุดพ้นออกมาได้แล้ว ร่างกายของนางตกลงไปด้านล่าง!
ฉู่หลิวเยว่พุ่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมรับถวนจื่อเข้ามาในอ้อมกอด!
เมื่อสัมผัสถึงความอบอุ่นของอ้อมกอดอันคุ้นเคย ในที่สุดความหวั่นวิตกของถวนจื่อก็สงบลง
ฉู่หลิวเยว่ลูบหลังของนางอย่างปวดใจ
“ถวนจื่อ ลำบากเจ้าแล้วนะ”
นางเหลือบสายตามองมือของถวนจื่อ
ตอนนี้มือเล็กๆ ที่อวบอ้วนเกือบจะถูกแทงจนกลายเป็นรู เนื้อพลิกกลับด้าน หยาดเลือดไหลริน
นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ความเย็นยะเยือกแล่นผ่านหัวใจ แต่ก็เหมือนมีกองไฟมาสุมอยู่ในอก
“เจ็บมากสินะ?”
เสียงของนางนั้นเบามาก แต่การเคลื่อนไหวกลับคล่องแคล่วเป็นอย่างยิ่ง นางหยิบโอสถป้อนให้กับถวนจื่ออย่างรวดเร็ว
ถวนจื่อซุกเข้าในอ้อมกอดของนางอย่างเชื่อฟัง จากนั้นก็ส่ายหน้า
“ไม่เจ็บ! อาเยว่ไม่เป็นอันใดก็ดีแล้ว!”
ฉู่หลิวเยว่วางนางลงอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็หยิบยาและผ้าพันแผลออกมา และจัดการทำแผลให้นางอย่างระมัดระวัง
ถวนจื่อกลัวว่านางจะเป็นห่วง นางหดมือลง แล้วพูดขึ้นอย่างกระจ่างชัดว่า
“อาเยว่ ข้าไม่เป็นไร! นี่มันก็แค่แผลภายนอกเท่านั้น เดี๋ยวมันก็หายแล้ว!”
หงส์ทองคำคืออสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับบรรพกาล เรื่องพลังในการฟื้นตัวนั้นไม่ธรรมดาแน่นอน
แต่ดูจากบาดแผลของนางในตอนนี้แล้ว มันก็น่าตกใจเป็นอย่างมาก
ฉู่หลิวเยว่หลุบสายตาลงต่ำ การเคลื่อนไหวก็อ่อนโยนมากยิ่งขึ้น
นับตั้งแต่ถวนจื่อแปลงกายเป็นมนุษย์ นางก็ยิ่งเอ็นดูอีกฝ่ายมากยิ่งขึ้น
ตอนนี้ถวนจื่อได้รับบาดเจ็บ และบาดแผลนั้นก็เป็นเพราะว่าปกป้องนางด้วย…
แล้วนางจะไม่ใส่ใจได้อย่างไร?
อีกทั้งแท่งน้ำแข็งแท่งนั้นก็ยังดูอันตรายเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่ามันเป็นสิ่งสกปรกอะไรหรือไม่ นางจึงจำเป็นจะต้องจัดการด้วยตนเอง
ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้พูดอะไร ถวนจื่อหน้ามุ่ยลง
“อาเยว่…ข้าไม่เป็นไรจริงๆ นะ…”
ในที่สุดฉู่หลิวเยว่ก็หยุดการกระทำลง แล้วเงยหน้าขึ้นมองถวนจื่อ
“ข้าบอกไปแล้วไง หลังจากนี้ข้าจะดูแลเจ้าให้ดี จะไม่ให้เจ้าได้รับความไม่เป็นธรรมใดๆ ข้าพูดแล้วก็ต้องทำให้ได้”
ถวนจื่อดวงตาแดงก่ำ พร้อมเบะริมฝีปาก
ฉู่หลิวเยว่กุมมือของนางเอาไว้
“ตอนนี้ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า?”
ถวนจื่อพยักหน้าอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม
“เจ็บ”
ฉู่หลิวเยว่ดึงตัวนางให้อยู่ในอ้อมกอดอีกครั้ง
“ถ้าเจ็บ ข้าจะช่วยแก้แค้นให้เจ้าเอง!”
นางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วมองไปทางค่ายกลสีเงินนั้น
ในตอนนี้มันกำลังลอยอยู่กลางอากาศ มันค่อยๆ เคลื่อนตัว จากนั้นก็บดขยี้แท่งน้ำแข็งแท่งนั้นอย่างไร้ซุ่มไร้เสียง อีกทั้งยังป้องกันแรงคุกคามทั้งหมดเอาไว้ด้านนอกด้วย!
แต่ที่น่าตกใจกว่าก็คือ ค่ายกลนั้นก็กำลังกลืนกินพลังสวรรค์และโลกที่อยู่รอบกายด้วยเช่นกัน จนทำให้มันมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
ลมปราณที่อยู่ด้านบนนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาณาเขตของค่ายกลก็ขยายไปสู่บริเวณโดยรอบ!
จากนั้นก็จะเห็นว่าระยะห่างระหว่างลำแสงสีเลือดนั้นก็มีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ!
นี่มัน…เริ่มโจมตีแล้ว!
ชายสวมชุดคลุมสีดำตะลึงงันอยู่ที่เดิม
ก่อนหน้านี้เขายังไม่สามารถดึงสติกลับมาได้ แต่ค่ายกลของฉู่หลิวเยว่เปลี่ยนจากฝ่ายรับมาเป็นรุกแล้ว!
แต่ที่น่าตกใจที่สุดก็คือ มันมีพลังมากที่สามารถต่อกรกับกระบองจรัสฟ้าได้จริงๆ
นี่มัน…
ต่อให้เป็นปรมาจารย์ค่ายกลระดับมหาราชาก็คงไม่สามารถทำได้ถึงขั้นนี้ไม่ใช่หรือ?
ยิ่งไปกว่านั้นนางเพิ่งจะสามารถทะลวงด่านมาได้?
ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมอง แล้วจดจ้องไปที่ค่ายกลสีเงินที่กำลังเคลื่อนตัวและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
เขาไม่รู้จักค่ายกลนี้ เพียงแต่เมื่อครู่นี้เขาได้ยินฉู่หลิวเยว่พูดชื่อขึ้น เหมือนว่าจะเป็น…ค่ายกลกระสวยสวรรค์เล็ก?
มุมปากของฉู่หลิวเยว่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชา
ค่ายกลที่ธรรมดาไม่สามารถต้านทานผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ได้อยู่แล้ว
แต่ค่ายกลกระสวยสวรรค์เล็กไม่เหมือนกัน
เพราะมันสร้างมาจากพื้นฐานของค่ายกลกระสวยสวรรค์ แต่รูปแบบนั้นเรียบง่ายกว่า และเกิดเป็นค่ายกลชนิดใหม่!
แม้ว่าภาพรวมจะไม่ได้ดีเท่าค่ายกลกระสวยสวรรค์ของจริง แต่แก่นแท้ภายใน ฉู่หลิวเยว่ก็ได้เรียนรู้มาได้ไม่น้อย
ดังนั้นจึงสามารถสำแดงพลังที่อยู่ภายในออกมาได้อย่างแน่นอน!
เห็นได้ชัดว่าพลังของค่ายกลนี้สูงกว่าระดับพลังที่แท้จริงของนางในตอนนี้เสียอีก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะต้องขอบคุณพี่เป่าเป็นอย่างมาก
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาสั่งให้นางท่องค่ายกลเหล่านั้นจนจำได้ขึ้นใจ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาให้นางช่วยซ่อมแซมค่ายกลกระสวยสวรรค์
นางก็ไม่มีทางทำแบบนี้ได้แน่นอน
ค่ายกลกระสวยสวรรค์เล็กนั้น แทบจะเผาผลาญพลังของนางไปทั้งหมดแล้ว
ชนะหรือแพ้ ตัดสินในคราวเดียว!
เปรี้ยงๆ!
เหมือนว่ากระบองจรัสฟ้าจะสามารถสัมผัสได้ถึงแรงคุกคาม สถานที่ที่ผลิตลำแสงสีเลือดนั้น ได้รับผลกระทบจากระลอกคลื่น ก่อนจะเริ่มสั่นไหวไปมาอย่างรุนแรง
พลังที่อยู่บนท้องฟ้าเริ่มแสดงออกมา และปะทุขึ้นอย่างรุนแรง!
ฝ่ามือของชายที่สวมชุดคลุมสีดำตบลงที่กระบองจรัสฟ้า!
“เขาพันยอด!”
ภายในชั่วพริบตาเดียว แท่งน้ำแข็งสีเลือดจำนวนนับไม่ถ้วนควบแน่นรวมกันอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ตกลงมาอย่างบ้าคลั่ง!
……….