ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1671 ช่วยเหลือ
ตอนที่ 1671 ช่วยเหลือ
……….
อาณาเขตเทพเซียนจำนวนมากรวมตัวขึ้นมาในทันที และก่อร่างกลายเป็นม่านพลังขนาดใหญ่รอบกายนาง!
แต่อย่างไรก็ตามลำแสงสีเลือดนั้นมีความแหลมคมเป็นอย่างยิ่ง เมื่อรวมกับจิตสังหารที่น่าตกใจแล้ว ก็ทำให้พื้นที่เหล่านี้แตกสลายด้วยความเร็ว!
แม้กระทั่งอาณาเขตเทพเซียนเหล่านี้ ก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แล้วค่อยๆ ถูกทำลายไปทีละแห่ง!
ชายสวมชุดสีดำหัวเราะเสียงเย็น
“สามารถทำให้พวกมันมาช่วยเหลือได้ก็ถือว่าเจ้ามีฝีมือจริงๆ! แต่ว่า…ไม่ว่าอย่างไรก็ตามพวกมันก็แค่อาณาเขตของผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูง”
หากต้องการจะต่อกรกับผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ต่างไปจากเรื่องเพ้อเจ้อเลย!
ลำแสงสีเลือดขยับเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ!
เส้นผมสีดำของฉู่หลิวเยว่ถูกลมพายุพัดปลิวอย่างบ้าคลั่ง ชายเสื้อพัดไสว!
“อาเยว่…”
ถวนจื่อตะโกนเรียกนางอย่างตื่นตระหนก พร้อมสาวเท้าไปด้านหน้าอย่างไม่รู้ตัว
ฉู่หลิวเยว่หันกลับมาดึงนางเอาไว้ที่ด้านหลัง แล้วตนเองก็เดินขึ้นไปขวางด้านหน้าของนางเอาไว้
ถวนจื่อจับแขนเสื้อของนางจนแน่น
อาเยว่อยากจะบังให้นางอย่างนั้นหรือ?
แต่ค่ายกลเมื่อครู่นี้ก็ทำให้พลังของฉู่หลิวเยว่แทบจะหายหมดสิ้น
แล้วนางจะทนต่อการโจมตีในครั้งนี้ได้อย่างไร?
ทว่าตัวนางนั้นไม่เหมือนกัน
นางคือหงส์ทองคำ พลังกายแข็งแกร่ง อีกทั้งยังสืบทอดพลังจากบรรพบุรุษ สามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน!
เพียงแต่ว่าคำพูดเหล่านี้ยังไม่ทันได้พูดออกไป ฉู่หลิวเยว่ก็พูดออกมาก่อนว่า
“อยู่ด้านหลังของข้าเอาไว้”
คำพูดนี้ไม่ใช่ประโยคคำถาม ไม่ใช่การประนีประนอม แต่เป็นคำสั่งอย่างไม่ต้องสงสัย!
ถวนจื่อเงยหน้าขึ้น เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง
ฉู่หลิวเยว่ก็หันกลับไปแล้ว นางสาวเท้าเดินไปด้านหน้าหนึ่งก้าว จากนั้นก็หยิบโล่สีดำที่อยู่บนพื้นขึ้นมา ฝีเท้าของนางซวนเซเล็กน้อย ก่อนจะหยิบโล่สีดำขึ้นมาขวางไว้ด้านหน้า!
หลังจากก้อนหินเหล่านั้นปรากฏตัวขึ้น ทุกคนก็เหมือนลืมการมีอยู่ของโล่สีดำนี้แล้ว
ในตอนนี้เมื่อเห็นว่าฉู่หลิวเยว่หยิบขึ้นมาอีกครั้ง ชายสวมชุดคลุมสีดำก็ตกตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนจะแค่นหัวเราะออกมาอย่างดูถูก
หากเป็นก่อนหน้านี้เขาคงหวาดกลัวโล่สีดำนี้อยู่บ้าง
แต่ตอนนี้…
เขาใช้กระบองจรัสฟ้าระดับที่สามแล้ว โล่นี้ก็ไม่คณามือเท่าไรหรอก!
ในขณะเดียวกันลำแสงสีเลือดนั้นก็ฟาดลงมาอย่างรุนแรงเช่นกัน!
ฉู่หลิวเยว่ยกโล่ที่อยู่ในมือของตนเองขึ้นสูง เหมือนนำมาขวางตรงหน้าตนเองและถวนจื่อ!
เปรี้ยง!
พลังนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก กระแทกเข้ากับโล่สีดำอย่างรุนแรง!
แขนของฉู่หลิวเยว่ชาหนึบ! ร่างกายสั่นสะท้านอย่างรุนแรง พร้อมกระอักเลือดออกมาหนึ่งคำ!
แม้กระทั่งเท้าทั้งสองข้างของนางก็ยังจมลึกลงในพื้นดิน รอบข้างมีรอยแตกร้าวหลายสายปรากฏขึ้น!
สามารถเห็นได้ชัดว่าการโจมตีนี้มีพลังที่น่าหวาดกลัวเพียงใด!
หลังจากนั้น…
บนโล่สีดำก็ทิ้งไว้เพียงรอยแตกร้าวสายหนึ่งเท่านั้น แต่ทว่ามันยังไม่แตก!
และฉู่หลิวเยว่ก็กลืนเลือดที่เหลือลงคอไปทั้งหมดแล้ว คาดไม่ถึงว่านางจะสามารถรับได้จริงๆ!
ชายสวมชุดคลุมสีดำสาวเท้าขึ้นมาด้านหน้าหนึ่งก้าวอย่างกะทันหัน!
มันเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?
การโจมตีของกระบองจรัสฟ้า ต่อให้ผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูงร่วมมือกัน ก็ไม่สามารถต้านทานได้อย่างแน่นอน
แต่ซั่งกวนเยว่เหตุใดถึง…
“เจ้าผิดหวังมากเลยหรือที่ข้ายังไม่ตาย?”
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมอง เลือดค่อยๆ ไหลลงมาจากมุมปาก รอยยิ้มที่กำเริบเสิบสานก็เผยออกมา
ภายในดวงตาที่กระจ่างใส จิตวิญญาณในการต่อสู้อันเข้มข้นก็เดือดพล่าน!
เมื่อชายสวมชุดดำเห็นรอยยิ้มของนาง ความไม่สบายใจก็ผุดขึ้นมา
“ไม่…”
เขากำกระบองจรัสฟ้าในมือแน่น ไหล่ทั้งสองข้างสั่นสะท้านอย่างไม่สามารถควบคุมได้
“ก่อนหน้านี้มีแต่เจ้าที่ลงมือ ตอนนี้ถึงคราวของข้าแล้วใช่หรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้นอย่างเชื่องช้า
ทันทีที่สิ้นเสียง ดวงตาของนางก็เปล่งประกายขึ้นมา!
พรึ่บๆ…
ก้อนหินเหล่านั้นที่ตกกระจายอยู่โดยรอบกายของฉู่หลิวเยว่ เหมือนได้รับแรงกระตุ้นอะไรบางอย่างขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำให้มันต้องกลิ้งไปมาอย่างไม่สงบ
พรึ่บ!
ในตอนนั้นเองกระบี่ชื่อเซียวก็ปรากฏขึ้นในมือของนางอย่างกะทันหัน พร้อมส่องประกายแสงอันเย็นชา!
ชายสวมชุดคลุมสีดำมองที่กระบี่ชื่อเซียวของนาง ก่อนจะถอนหายใจออกมา
แม้ว่านี่จะเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อ แต่ด้วยระดับพลังของนางในปัจจุบัน เดิมทีก็ไม่สามารถแสดงพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของกระบี่ชื่อเซียวออกมาได้
ดังนั้นจึงไม่มีอะไรให้กลัว
อย่างไรก็ตามเมื่อความคิดนี้เพิ่งปรากฏขึ้นมาในสมอง เขาก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติไป
เพราะเขาเห็นว่า อาณาเขตเทพเซียนเหล่านั้นเข้าไปในกระบี่ชื่อเซียวอย่างกะทันหัน
พวกมันกลายร่างเป็นลำแสง และรวมตัวกันอยู่บนกระบี่ชื่อเซียวที่แหลมคม
หลังจากนั้นไม่นาน ด้านบนของกระบี่ชื่อเซียวก็มีลำแสงอันสว่างเกิดจากปกคลุมขึ้นหนึ่งชั้น!
หากมองจากระยะใกล้แล้ว ลำแสงนั้นก็มีหลากสี!
ในขณะเดียวกันนั้นเอง แรงกดดันอันน่าประหลาดใจก็พวยพุ่งออกมา!
เมื่อสัมผัสได้ถึงลมปราณของนาง ชายสวมชุดคลุมสีดำก็ต้องถอยหลังไปครึ่งก้าวอย่างไม่รู้ตัว
คาดไม่ถึงว่า…
คาดไม่ถึงว่านางจะนำจิตวิญญาณในการต่อสู้ภายในอาณาเขตเทพหลอมรวมเข้ากับกระบี่ชื่อเซียว!
แม้ว่าจะไม่ใช่การหลอมรวมที่สมบูรณ์ แต่พลังของกระบี่ชื่อเซียวก็แข็งแกร่งขึ้นมาก!
อาณาเขตเทพเซียนเหล่านี้ไม่นับว่าแข็งแกร่ง แต่จิตวิญญาณในการต่อสู้ที่เดือดพล่านอยู่ภายใน ถูกเก็บรักษาเอาไว้เป็นเวลาหมื่นปี ดังนั้นมันจึงน่ากลัวอย่างมาก!
หากมันหลอมรวมกัน ก็จะน่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีก!
ซั่งกวนเยว่นาง…คิดกระบวนท่านี้ออกมาได้อย่างไร?
ความจริงแล้วที่ฉ่หลิวเยว่ทำเช่นนี้ เป็นไหวพริบของนางล้วนๆ จึงทำให้เกิดความคิดนี้ขึ้นอย่างกะทันหัน
นางรู้ดีว่าอาศัยเพียงแค่พลังของนางคนเดียว ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของชายสวมชุดสีดำได้แน่นอน
ดังนั้นจึงต้องยืมพลังจากภายนอก
จากนั้นนางก็คิดถึงก้อนหินเหล่านั้นขึ้นมา
ก่อนหน้านี้หรงซิวเคยพูดขึ้นมาว่า ภายในก้อนหินเหล่านั้นมีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่น่าตกใจอยู่
นางจึงคิดว่าอาจจะสามารถยืมพลังเหล่านี้มาใช้ในการต่อสู้ได้
แต่ผลปรากฏว่าเรื่องนี้มันดีกว่าที่นางคาดการณ์เอาไว้เสียอีก
ก้อนหินเหล่านี้เหมือนจะเชื่อฟังเป็นอย่างมาก
นางเพียงแค่ออกความคิด แต่พวกมันก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ดังนั้นต่อให้นี่เป็นครั้งแรกที่นางลองใช้วิธีนี้ แต่ผลลัพธ์มันก็น่ามหัศจรรย์อย่างมาก
เมื่อสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้บนกระบี่ชื่อเซียว ฉู่หลิวเยว่ก็มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
นางถือดาบด้วยมือข้างเดียว รอจนกระทั่งจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้สายสุดท้ายผสานเข้ากับกระบี่ได้สำเร็จ ในที่สุดนางก็ยกกระบี่ขึ้น…
พร้อมฟันลงมาอย่างแรง!
กระบี่นี้ไม่มีลูกไม้ใดๆ มีเพียงแค่ความเรียบง่ายและปราดเปรียวเท่านั้น!
ฟิ้ว!
ลำแสงกระบี่สว่างวาบ คาดไม่ถึงว่าลำแสงสีเลือนั้นจะถูกตัดลงไปโดยตรง อีกทั้งยังพังทลายลงมาทันที!
ปราณกระบี่ยังไม่หยุดแต่เพียงเท่านั้น แต่มันกลับเพิ่มความเร็วขึ้นจนน่าตกใจอย่างยิ่ง!
และพุ่งตรงไปทางชายสวมชุดคลุมสีดำคนนั้น!
ชายสวมชุดคลุมสีดำรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดี ดังนั้นจึงรีบสะกิดปลายเท้า และถอยไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว!
แม้ว่าเขาจะเร็วแล้ว แต่ปราณกระบี่นั้นกลับเร็วยิ่งกว่า!
ภายในชั่วพริบตาเดียวมันก็มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว!
เขาจึงทำได้เพียงยกกระบองจรัสฟ้าขึ้น แล้วนำมาขวางไว้ที่ด้านหน้าของตนเองอย่างช่วยไม่ได้!
เพล้ง!
กร๊อบ!
แทบจะในเวลาเดียวกันที่ปราณกระบี่ตกลง ทันใดนั้นก็มีเสียแตกกระจายอันคมชัดดังตามขึ้นมา!
บนกระบองจรัสฟ้ามีรอยแตกร้าวบังเกิดขึ้น!
ปราณกระบี่ที่แข็งแกร่งโจมตีไปยังชายสวมชุดคลุมสีดำอย่างบ้าคลั่ง!
จากนั้นเขาก็เริ่มโคจรพลังรอบกายอย่างบ้าคลั่ง
อย่างไรก็ตามเมื่อครู่นี้คือกระบองจรัสฟ้าระดับที่สาม พลังทั้งร่างของเขากำลังจะหมดลงแล้ว ไม่ว่าอย่างไรในตอนนี้เขาก็ไม่สามารถลงมือได้อีกแล้ว
ในสถานการณ์ที่เร่งร้อน เขาเริ่มหันมองรอบข้าง เหมือนกับกำลังรออะไรบางอย่างอยู่
ทว่ามันไม่มีอะไรสักอย่างเลย
เขารู้สึกกังวลใจมากขึ้นเรื่อยๆ
มันไม่ควรจะเป็นเช่นนี้สิ!
ที่แห่งนี้คือสุสานกลุ่มของผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ ตอนนี้เขาตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้แล้ว แต่ทำไมถึงไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย?
ฟิ้ว…
ในที่สุดหมวกของเขาก็ฉีกขาดเป็นการตอบสนอง!
เมื่อสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ หัวใจของเขาก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา
ในการประลองของยอดฝีมือ หากเกิดข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้ตัดสินผลแพ้ชนะได้!
วินาทีถัดมาการป้องกันของเขาก็พังทลาย ร่างกายของเขาลอยกระเด็นออกไปอย่างไม่สามารถควบคุมได้!