ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1694 ลอบโจมตี
ตอนที่ 1694 ลอบโจมตี
……….
ลั่วเหยี่ยนมองนางด้วยสายตาลึกซึ้ง จากนั้นก็ยกมือขึ้น ตรงหน้ามีวงกลมขนาดเล็กดวงหนึ่งปรากฏขึ้น
ลำแสงกะพริบสาดส่อง เข็มทิศขนาดเท่าฝ่ามือปรากฏขึ้นที่กลางอากาศ
ในขณะเดียวกันนั้นเอง กลางหน้าผากของเขาก็มีสัญลักษณ์หนึ่งปรากฏขึ้น
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“จริงสิ พวกเจ้าอย่าลืมข้อเสนอก่อนหน้านี้นะ”
ลั่วเหยี่ยนพูดขึ้นเสียงเรียบ
“แน่นอนอยู่แล้ว”
ขณะที่เขาพูด เขาก็ใช้สองมือปัดบนหน้าปัดเข็มทิศอย่างแผ่วเบา
หลังจากผ่านไปสักพัก เข็มที่อยู่บนเข็มทิศนั้นก็สั่นไหวอย่างรุนแรง!
เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ ฉู่หลิวเยว่ก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ภายในใจมีความรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาสายหนึ่ง
ปฏิกิริยาตอบรับของของสิ่งนี้ มันผิดปกติไปจริงๆ …
ในที่สุดเข็มทิศก็หยุดลง…และชี้ไปทางฉู่หลิวเยว่!
หัวใจของฉู่หลิวเยว่จมดิ่งอย่างกะทันหัน!
ลั่วเหยี่ยนเงยหน้าขึ้นมองทันที แววตาคมกริบดุจมีด
“ซั่งกวนเยว่! เจ้ายังมีอันใดจะพูดอีกหรือไม่!”
หลักฐานชัดเจน!
จนไม่สามารถชัดเจนไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว!
ของสิ่งนั้น…อยู่บนตัวของนางจริงๆ!
…
มือในแขนเสื้อของฉู่หลิวเยว่กำหมัดกรอดขึ้นมาทันที!
ในตอนนั้นเอง ภายในสมองของนางก็มีความคิดนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น!
มันเป็นเช่นนี้ได้อย่างใด?
สิ่งที่พวกเขากำลังตามหามันคืออันใดกันแน่ เหตุใดมันถึงยืนยันแน่ชัดว่าอยู่บนร่างกายของนาง?
ลั่วเหยี่ยนไม่น่าจะจงใจชี้เป้ามาที่นางโดยเฉพาะ
ในตอนนี้ลั่วเหยี่ยนน่าจะอยากต้องการจัดการเรื่องนี้ให้ราบรื่นยิ่งกว่าพวกเขาเสียอีก
เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ยิ่งพัวพันกัน ก็จะยิ่งส่งผลเสียต่อพวกเขามากยิ่งขึ้น
เขาไม่จำเป็นจะต้องทำเรื่องเหล่านี้
ซึ่งนั่นก็หมายความว่า…
บนตัวของนางน่าจะมีสิ่งที่พวกเขาตามหาจริงๆ?
“เจ้าสำนักหนานล่วงเกินแล้ว! วันนี้ซั่งกวนเยว่จะต้องมอบของสิ่งนั้นออกมาให้ข้า!”
ลั่วเหยี่ยนตะโกนขึ้นมาเสียงดัง จากนั้นเงาร่างของเขาก็หายไปจากตำแหน่งเดิม!
ทันใดนั้นลมก็พัดแรงขึ้น!
เสียงสัญญาณเตือนดังขึ้นในจิตใจของฉู่หลิวเยว่ทันที!
“ลั่วเหยี่ยน! เจ้ากล้า!”
เมื่อหนานซู่ไหวเห็นสถานการณ์ดังนั้นก็รีบลงมือในทันที!
หรงซิวคว้าเอวของฉู่หลิวเยว่เอาไว้ และรีบพานางถอยหลังอย่างรวดเร็ว!
แต่ในตอนนั้นเองฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ!
นางรีบหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว และเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยทันที
คนผู้นั้นคือ ลั่วเหยี่ยน!
“นั่นคือร่างศักดิ์สิทธิ์ของเขา!”
หรงซิวมีปฏิกิริยาตอบรับรวดเร็วและลงมืออย่างไม่ลังเล!
แต่ลั่วเหยี่ยนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ ในตอนนี้เขาก็ได้อัญเชิญร่างศักดิ์สิทธิ์มาแล้ว เขาตั้งใจจะจัดการกับฉู่หลิวเยว่แน่นอน!
เขาสามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของหรงซิวได้อย่างรวดเร็ว เมื่อสะบัดแขนเสื้อ เข็มเงินที่แผ่กระจายไอเย็นหลายเล่มพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว!
เข็มเงินความยาวประมาณหนึ่งชุ่น ปลายแหลมคม เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ล้อมร่างของฉู่หลิวเยว่แล้ว!
ฉู่หลิวเยว่ยกกระบี่ขึ้นมาปัดป้อง!
ตึงๆ!
เสียงปะทะกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
แม้ว่าเข็มเงินเหล่านั้นจะมีขนาดเล็ก พวกมันกลับมีพลังที่แข็งแกร่งอย่างมาก
ด้วยการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ ทำให้มือที่ถือกระบี่ของฉู่หลิวเยว่ชาหนึบไปในทันที
แม้กระทั่งง่ามนิ้วระหว่างนิ้วชี้และนิ้วโป้งก็ยังมีเลือดออกด้วย
หรงซิวกำลังพุ่งตัวเข้ามา แต่ก็ถูกร่างศักดิ์สิทธิ์ของลั่วเหยี่ยนขวางเอาไว้!
ตอนที่ฉู่หลิวเยว่คิดว่าทุกอย่างกำลังจะจบลงแล้ว เข็มเงินที่นางปัดป้องไปก่อนหน้านี้ก็เปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหัน และกลับมาโจมตีนางอีกครั้ง!
อีกทั้งเหมือนว่าพลังและความเร็วจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมด้วย!
ฉู่หลิวเยว่ตกใจอย่างมากและรีบรับมือทันที!
เมื่อต้องรับการโจมตีอย่างต่อเนื่อง เป็นการบีบให้นางถอยหลังเรื่อยๆ
ทันใดนั้นนางก็รู้สึกเย็นสันหลังวาบ ในตอนนี้ไม่มีที่ให้ถอยหลังแล้ว หลังของนางก็ชนเข้ากับผนังสีดำ!
กำแพงนั้นหยาบ ตอนที่นางแนบแผ่นหลังลงไปนั้น ยังทำให้รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยด้วย
ความคิดหนึ่งของฉู่หลิวเยว่แล่นผ่าน โล่สีดำก็ปรากฏขึ้นในมือของนางแล้ว!
เข็มเงินทั้งหมดถูกขวางกั้นเอาไว้ได้!
และไม่สามารถทิ้งรอยขีดข่วนเอาไว้ได้เลยแม้แต่น้อย
ลั่วเหยี่ยนหน้าเปลี่ยนสี
โล่สีดำอันนั้น…
ในตอนที่เขากำลังเบี่ยงเบนความสนใจ หรงซิวก็ฉวยโอกาสลงมืออย่างรวดเร็ว!
เปลวเพลิงสีทองสายหนึ่งแปรเปลี่ยนกลายเป็นแส้ รัดร่างศักดิ์สิทธิ์ของเขาเอาไว้!
ลั่วเหยี่ยนหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา
“พลังของระดับเทพขั้นสูง ไม่มีทาง…”
ทันใดนั้นเองเสียงของเขาก็หยุดชะงักลง
เพราะว่าในตอนนั้นเขาเพิ่งพบได้ว่า ร่างศักดิ์สิทธิ์ของตนเองไม่สามารถสลัดแส้เพลิงของหรงซิวออกไปได้!
ยิ่งเขาดิ้นรนมากเท่าไร ความเจ็บปวดบนร่างกายก็จะแผ่ขยายอย่างรุนแรงมากยิ่งขึ้นเท่านั้น!
“เจ้า!”
ลั่วเหยี่ยนหันไปมองทางหรงซิวด้วยสายตาโมโหระคนตกใจ เมื่อต้องมองไปในดวงตาที่ไร้ก้นบึ้ง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมา
เขาว่าตกอยู่ในช่วงเวลาสับสนนี้ เขาจึงไม่ได้สังเกตเห็นประกายสีดำที่อยู่ในเปลวเพลิงสีทองที่สะท้อนขึ้นอย่างเงียบเชียบภายในแส้เพลิงที่กักขังเขาอยู่!
อย่างใดก็ตามตอนที่สถานการณ์กำลังจะชัดเจนมากยิ่งขึ้น ฉู่หลิวเยว่ก็เหลือบสายตามามอง ทันใดนั้นนางรู้สึกตึงเครียดมากขึ้น!
คาดไม่ถึงว่าหนานอวี่สิงจะเข้าโจมตีฉู่หนิง!
ใบหน้าของเขาดำคล้ำ บนร่างกายเต็มไปด้วยจิตสังหารที่น่าตกใจ!
ในขณะเดียวกันมือของเขาก็มีดาบเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นมา!
ตัวดาบหนาและกว้าง ปลายดาบมีแสงสว่างเรืองรองสีน้ำเงินที่ดูน่าอันตรายปรากฏ!
มีพิษ!
“ท่านพ่อระวัง!”
ฉู่หลิวเยว่เตรียมตัววิ่งพุ่งไปทางนั้น
แต่ทันใดนั้นเองตรงหน้าของนางก็มีเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว!
ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นหนานอีอีนั่นเอง!
แต่สิ่งที่น่าตกใจก็คือ แรงกดดันบนร่างกายของนางแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก!
นี่ไม่ใช่ลมปราณของนาง!
ฉู่หลิวเยว่สามารถเข้าใจได้ในทันทีว่า พลังสายนี้จะต้องไม่ใช่ของหนานอีอีอย่างแน่นอน!
หนานอีอีกำลังกำเจดีย์สามเหลี่ยมไว้ในมือแน่น และแทงเข้าที่ร่างของฉู่หลิวเยว่อย่างแรง!
ทั่วทั้งร่างของฉู่หลิวเยว่ตึงเกร็งทันที!
…พลังของผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์!
“ตายซะเถอะ!”
หนานอีอีกัดฟันแล้วพูดเสียงต่ำ!
แต่ละคำพูดเหมือนลอดออกมาจากซอกฟันของนาง ซึ่งเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและชิงชังยิ่ง!
ฉู่หลิวเยว่ยกโล่สีดำขึ้นขวางโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย!
แกร๊ง…
เสียงกระแทกของมีคมดังขึ้นอย่างรุนแรง แทบจะทำให้หนังศีรษะของคนชาหนึบ!
พลังที่แข็งแกร่งพวยพุ่งขึ้น ร่างกายของฉู่หลิวเยว่ถูกดันไปด้านหลังอย่างแรงอีกครั้ง!
เหมือนว่าหลังของนางจะสัมผัสถึงของมีคม ทำให้แผ่นหลังมีรอยแผลเกิดขึ้น!
ความเจ็บปวดบังเกิดขึ้น เลือดลมภายในร่างกายพลุ่งพล่าน ฉู่หลิวเยว่กัดฟันกรอด
เหมือนว่าหนานอีอีจะยังรู้สึกไม่พอใจ
เจดีย์สามเหลี่ยมอันนี้เป็นของที่ท่านพ่อของนางมอบให้ก่อนที่จะออกจากตระกูลมาเพื่อใช้ป้องกันตัว
ก่อนหน้านี้นางไม่อยากจะนำออกมาใช้ จนกระทั่งนางเห็นว่า ฉู่หลิวเยว่กำลังอยู่คนเดียว นางถึงมีความคิดนี้ก่อนจะรีบฉวยโอกาสลงมือทันที
เดิมทีนางคิดว่าการโจมตีนี้จะสามารถสังหารซั่งกวนเยว่ได้ในคราวเดียว
หนานอีอีกัดฟันอย่างแรง และใช้เจดีย์สามเหลี่ยมโจมตีอีกครั้งอย่างไม่ยินยอม!
ต่อให้มันไม่สามารถแทงทะลุโล่อันแปลกประหลาดนี้ได้ แต่พลังหลายสายที่ท่านพ่อทิ้งเอาไว้ให้มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ซั่งกวนเยว่รับไม่ได้!
อย่างใดก็ตามเมื่อเจดีย์สามเหลี่ยมกระแทกลงที่โล่สีดำนั้นอีกครั้ง เสียงฉินสายหนึ่งก็ดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน!
เหมือนว่าเสียงฉินนั้นจะดังมาจากระยะไกล แต่เมื่อกระทบกับโสตประสาท มันก็ดังขึ้นชัดเจนเป็นพิเศษ
แต่ที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือ ภายในเสียงฉินนั้นมีจิตสังหารเข้มข้นที่ปิดบังไม่มิด! จึงทำให้หนานอีอีสับสน และตัวชาหนึบไปทั้งร่างกาย!
แม้ว่าจะได้ยินเสียงเพียงเสียงเดียว แต่เหมือนว่านางจะได้กลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้ง!
นางหยุดมืออย่างกะทันหันแล้วเงยหน้าขึ้นมอง!
เสียงนั้น…เหมือนจะออกมาจากที่แห่งนี้!
ทันใดนั้นนางก็เห็นแสงสว่างส่องประกายออกมาจากกำแพงสีดำด้านหลังของฉู่หลิวเยว่!
……….