ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1696 เนื้อเพลงฉินของข้า
ตอนที่ 1696 เนื้อเพลงฉินของข้า
……….
เนื่องจากอยู่ห่างไกลกันเกินไป จึงไม่สามารถสัมผัสถึงกันได้ หรืออาจจะเป็นเพราะมีอันใดบางอย่างทำให้พวกนางขาดการติดต่อกันไป?
ฉู่หลิวเยว่ไม่รู้
นางเก็บโล่สีดำลง แต่ยังคงกำกระบี่ชื่อเซียวในมือแน่น
หลังจากยืนอยู่ที่เดิมสักพักหนึ่งและปรับลมปราณของตนเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็สาวเท้าเดินขึ้นไปด้านหน้า
นางเลือกทิศทางแบบสุ่ม
ท้ายที่สุดแล้วภายในที่แห่งนี้นางก็ไม่สามารถหาจุดบอกตำแหน่งได้อย่างชัดเจน
แทนที่จะอยู่ที่เดิม เพื่ออาศัยความหวังอันริบหรี่ที่รอให้หรงซิวมาหา เช่นนั้นนางเป็นฝ่ายค้นหาพวกเขาเองจะดีกว่า
ต่อให้ผ่านไปสักพักแล้วนางก็ยังหาไม่เจอ แต่อย่างน้อยก็จะได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่แห่งนี้มากขึ้น
ดังนั้นฉู่หลิวเยว่จึงเดินไปตามถนนด้านหน้าตามลำพัง
…
บนถนนสายนี้มีกลิ่นคาวเลือดจางๆ ติดอยู่ที่ปลายจมูก
ถ้าไม่ใช่เพราะนางอ่อนไหวต่อกลิ่นเหล่านี้มากเป็นพิเศษ บางทีอาจจะสัมผัสไม่ได้
แต่เสียดายที่นางไม่สามารถระบุได้ว่ากลิ่นนี้มาจากที่ใดกันแน่
เหมือนว่า…ภายในอากาศเต็มไปด้วยกลิ่นนี้
รอบข้างเงียบกริบ
ฉู่หลิวเยว่ได้ยินเพียงเสียงฝีเท้าและเสียงหัวใจเต้นของตนเอง
หลังจากผ่านไปสักพักนางก็ชะงักฝีเท้าแล้วมองตรงไปด้านหน้า
ในตอนนั้นเอง หลุมที่อยู่เหนือศีรษะของนางนั้นก็มีรอยแตกร้าวเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
และลำแสงที่ส่องเข้ามานั้นก็มีจำนวนมากขึ้น จนทำให้ฉู่หลิวเยว่มองเห็นได้ไกลมากกว่าเดิม
พื้นที่ด้านหน้ายังคงเป็นที่โล่งกว้างเช่นเดิม
แต่ทว่าหัวใจของฉู่หลิวเยว่กลับเต้นระรัวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
เพราะว่า…
เสียงฉินที่นางได้ยินอยู่ตลอดนั้นได้จางหายไปอย่างกะทันหัน!
นางกำกระบี่ชื่อเซียวแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว ภายในร่างกายเหมือนจะสูบฉีดเร็วขึ้น
นางอ้าปากค้างและพบว่าลำคอของตนเองแห้งผาก
“ตึก”
“ตึก”
“ตึก”
เสียงฝีเท้าของคนแปลกหน้าดังขึ้นท่ามกลางความมืดอย่างกะทันหัน
จังหวะการเดินนุ่มนวลเหมือนกับกำลังเดินเล่นอยู่อย่างใดอย่างนั้น
แต่ทุกฝีก้าวราวกับกำลังเหยียบย่ำหัวใจของฉู่หลิวเยว่
เหมือนว่านางจะสัมผัสอันใดได้บางอย่าง ร่างกายจึงตึงเกร็งขึ้นมาทันที
ในที่สุดเงาร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในครรลองสายตาของนาง!
ขณะเดียวกัน น้ำเสียงผ่อนคลายพร้อมรอยยิ้มก็กระทบเข้าที่โสตประสาทของนาง
“ในที่สุดเจ้าก็มาแล้ว”
…
อีกด้านหนึ่ง หลังจากหรงซิวติดตามฉู่หลิวเยว่เข้ามาติดๆ เขาก็ตกอยู่ท่ามกลางความมืด
แต่ว่าหลังจากนั้นไม่นาน แสงสีขาวก็พาดผ่านตรงหน้าของเขาอย่างรวดเร็ว
หัวใจของเขาสั่นสะท้าน ก่อนจะจ้องไปทางด้านหน้า
แสงสีขาวนั้น คาดไม่ถึงว่ามันจะแพร่กระจายอยู่ตรงหน้าเขาไม่ไกลกัน!
ต่อมาแสงนั้นก็ควบรวมตัวกันกลายเป็นกระจกบานใหญ่!
ทั่วทุกสารทิศเป็นสีดำเข้ม เมื่อมีกระจกบานนี้ปรากฏขึ้น ความดำมืดจึงถูกฉีกขาดในทันที
แสงจางๆ กระจายออกมาจากกระจกบานนั้น
กระจกบานนี้มีขนาดใหญ่มาก เพียงแค่มองครู่เดียวก็ไม่สามารถมองเห็นขนาดทั้งหมดของมันได้
ราวกับฝังตัวและหลอมรวมกับความมืดอย่างสมบูรณ์
มันตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าของหรงซิวอย่างเงียบเชียบ
รอบข้างเงียบงัน เหมือนกับว่าลมได้หยุดพัดไปแล้ว
หรงซิวเงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย
เงาคนร่างหนึ่งปรากฏขึ้นกลางกระจกบานนั้น
ใบหน้าเนียนใส โครงหน้ามีเสน่ห์ งดงาม
คิ้วกระบี่แหลมคม จมูกเป็นสัน ริมฝีปากบางเป็นสีแดงเข้ม
ไม่มีที่ใดที่พระเจ้าไม่ตั้งใจสรรสร้าง
ทุกสิ่งบนฟ้าดินล้วนต้องจืดจางเมื่อเปรียบเทียบกับเขา
เงาร่างที่สะท้อนก็คือ หรงซิว
ในขณะเดียวกันนั้นเองหรงซิวผู้นี้ ก็ไม่ได้เหมือนกับตัวจริงทุกประการ
หรงซิวสวมชุดสีขาวทั้งร่าง แววตาประกายอ่อนโยน ดูเปิดเผยจริงใจ สูงส่งงดงาม
แต่คนที่อยู่ในกระจกกลับสวมชุดสีดำทั้งร่าง ดวงตาหงส์ลึกล้ำ แรงคุกคามเข้มข้น กลิ่นคาวเลือดท่วมท้น!
เห็นได้ชัดว่าใบหน้าและรูปร่างเหมือนกันไม่มีผิด แต่ลักษณะท่าทางแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง!
หรงซิวหรี่ตาลงเล็กน้อย ใบหน้าไม่มีความตกใจ
ราวกับว่า…สามารถคาดเดาได้ตั้งนานแล้ว
เขายกมือขึ้น เปลวไฟสีทองกลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้นที่กลางฝ่ามือของเขา เปลวเพลิงเหล่านั้นลุกโชนด้วยความยินดี
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้นเอง คนที่อยู่ในกระจกก็ยกมือขึ้นข้างหนึ่ง และเปลวไฟก็ปรากฏขึ้นที่ปลายนิ้วของเขา
เพียงแต่ว่าเปลวไฟเหล่านั้น…เป็นสีดำเข้ม!
หรงซิวขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย แต่เขาก็สามารถผ่อนคลายได้อย่างรวดเร็ว ริมฝีปากบางยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“…รวดเร็วขนาดนี้เชียว…”
คนในกระจกมองหน้าเขา
“ในเมื่อเจ้ามาถึงที่นี่แล้ว เจ้าน่าจะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าก็ได้ถ่วงเวลามานานมากพอแล้ว”
เขาชะงักไปเล็กน้อย แล้วเลิกคิ้วถามขึ้น
“ครั้งนี้เจ้าอยากจะทะลวงด่าน หรือว่าจะทำแบบเมื่อก่อนกดให้อยู่ในระดับเทพขั้นสูงต่อไป?”
หรงซิวหลับตาลงเบาๆ
ตอนที่ลืมตาขึ้นอีกครั้ง ในดวงตาของแต่ละข้างมีเปลวเพลิงสีดำและสีทองลุกโชนขึ้นมาแล้ว!
รอยยิ้มของเขากดลึกขึ้น
“ทะลวง”
…
“อาเยว่! อาเยว่!”
หลังจากตกอยู่ในความมืดสักพัก ถวนจื่อก็เดินไปข้างหน้าพร้อมกับตะโกนเรียกชื่อหาอย่างร้อนใจ
แต่ไม่ว่านางจะตะโกนอย่างใดก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับใดๆ เลย
รอบข้างมีเพียงความเงียบที่น่ากลัว
ถวนจื่อดวงตาแดงก่ำ หยดน้ำตาไหลริน
นางรีบเช็ดน้ำตาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกำหมัดกรอดแล้วเรียกกำลังใจให้ตนเอง
อาเยว่ไม่ได้จะทิ้งนาง เพียงแค่ถูกกลืนกินเข้ามาในกำแพงที่แปลกประหลาดนี้เท่านั้น!
หากนางค้นหาต่อไปจะต้องได้เจออาเยว่แน่นอน!
แล้วอีกอย่างไม่แน่ว่าอาเยว่ก็กำลังหานางอยู่?
เมื่อคิดได้ดังนั้น ถวนจื่อก็มีพลังขึ้นมาอีกครั้งพร้อมเดินสาวเท้าไปด้านหน้าด้วยความรวดเร็ว
…
เพราะว่าหนานซู่ไหวและฉู่หนิงเข้ามาด้านในพร้อมกัน ดังนั้นจึงได้อยู่ด้วยกัน
เพียงแต่ในตอนนี้พวกเขาก็ติดอยู่ในมิติแห่งหนึ่ง ไม่สามารถพบเจอใครได้เลย
ดังนั้นในตอนนี้พวกเขาจึงหาทางออกไปด้วย และพยายามติดต่อกับคนอื่นๆ ไปด้วย
…
ฉู่หลิวเยว่จ้องที่เงาร่างด้านหน้าตาเขม็ง
แทบจะในคราแรกที่ได้เห็น นางก็มั่นใจได้ว่า คนผู้นี้จะต้องเป็นคนที่นางเคย “เจอ” มาก่อนแน่นอน คนที่เล่นฉินคนนั้น!
แม้ว่าตอนนี้ระยะห่างของพวกนางจะใกล้กันมากขึ้นแล้ว แต่เงาร่างของอีกฝ่ายก็ยังปกคลุมด้วยเงาสีดำอยู่หนึ่งชั้น ดูขมุกขมัว ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
แม้กระทั่งอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย นางก็ยังดูไม่ออก
เพราะว่าน้ำเสียงนั้นไพเราะราวกับเสียงฉิน และเหมือนว่าจะดังขึ้นมาจากที่ไกลๆ
น้ำเสียงแผ่วเบา แต่ก็ชวนฝันราวกับภาพมายา
เมื่อได้ยินเสียงนั้นนางก็รู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก และทำให้ยากที่จะคาดเดา
ฉู่หลิวเยว่คิดว่าสถานการณ์นี้แปลกประหลาดอย่างมาก
ในตอนนี้นางไม่สามารถมองเห็นรูปร่างและหน้าตาของอีกฝ่าย แม้กระทั่งน้ำเสียงก็ยังไพเราะจนชวนฝัน ยากแยกแยะว่าเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ
แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับพูดขึ้นเช่นนี้
เหมือนกับว่า…
เคยรู้จักกับนางมาก่อน อีกทั้งยังรอคอยนางอยู่เสมอ
ฉู่หลิวเยว่ถามหยั่งเชิงขึ้นว่า
“ท่าน…รู้จักข้าหรือ?”
คนผู้นั้นหัวเราะแล้วพูดว่า
“เจ้าถือเนื้อเพลงฉินของข้าอยู่ ดังนั้นข้าจึงรู้จักเจ้า”
เนื้อเพลงฉิน?
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไป
“ข้า…ข้าเปล่า…”
ทันใดนั้นเหมือนกำลังคิดอันใดขึ้นมาได้ ความประหลาดใจจึงฉายชัดขึ้นในแววตา
ที่ตัวของนางกับเสียงฉินมีความเกี่ยวข้องกัน อาจจะเป็นเพราะมี…
ไข่มุกธาราเม็ดนั้น!
ทันทีที่ความคิดนี้ปรากฏขึ้นในสมอง ฉู่หลิวเยว่สังเกตเห็นว่าภายในตันเถียนมีระลอกคลื่นที่แปลกประหลาดปรากฏขึ้น!
คนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามยกมือขึ้นมา
ไข่มุกธาราเม็ดนั้นก็พุ่งออกมาจากร่างกายของนางในทันที!
……….