ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1698 ร้อยปี
ตอนที่ 1698 ร้อยปี
……….
ไม่รู้ว่าเหตุใดฉู่หลิวเยว่ถึงได้ยินเสียงหยอกล้อจากคำพูดเหล่านี้ อีกทั้งยังเหมือนว่ากำลังรอคอยเรื่องราวน่าสนุก
นี่มัน…
นางกลืนคำพูดที่เหลือลงคอ
“เจ้าค่ะ! ผู้เยาว์จะพยายามทำให้เต็มที่!”
พรึ่บ!
ทันทีที่สิ้นเสียง อีกฝ่ายก็สะบัดแขนเสื้อ หนังสือโปร่งแสงเล่มนั้นก็ลอยมาหยุดอยู่ตรงหน้าของนาง กระดาษหน้าหนึ่งก็ลอยอย่างเงียบเชียบอยู่ที่ด้านข้าง
ฉู่หลิวเยว่กวาดสายตามอง
แม้ว่าสองสิ่งนี้ สิ่งหนึ่งจะเป็นเล่มหนา ส่วนอีกสิ่งหนึ่งเป็นกระดาษบางแผ่นเดียว แต่ลมปราณและแรงกดดันของทั้งสองสิ่งก็มีพอๆ กันเลย
อีกทั้งหลังจากทั้งสองขยับเข้าใกล้กันแล้ว นางก็สามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่คุ้นเคย
…ของจากต้นกำเนิดเดียวกัน จะรู้สึกคุ้นเคยก็ไม่แปลก
ทันใดนั้นเหมือนฉู่หลิวเยว่คิดอันใดขึ้นมาได้ จึงเงยหน้าถามว่า
“ไม่ทราบว่าข้าต้องเรียกผู้อาวุโสว่าอย่างใดหรือ?”
นางมาอยู่ที่นี่นานขนาดนี้แล้ว ของก็ได้รับมาจากผู้อื่นแล้ว แต่นางกลับยังไม่รู้ถึงชื่อเสียงเรียงนามของอีกฝ่ายเลย
ฝ่ายตรงข้ามเงียบไปอยู่ครู่หนึ่ง เหมือนว่ากำลังครุ่นคิด
หลังจากผ่านไปสักพักเขาก็พูดขึ้นว่า
“เวลาผ่านมานานมากแล้ว เรื่องบางเรื่องข้าก็ยังจำได้ไม่ชัดเจน เจ้า…เรียกข้าว่าอาจิ่งก็แล้วกัน!”
อาจิ่ง…
ชื่อนี้คลุมเครืออย่างมาก ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย…
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดอยู่ภายในใจ แต่ฝ่ายตรงข้ามกับพูดขึ้นอย่างตรงไปตรงมาว่า
“ข้าเป็นผู้ชาย”
ฉู่หลิวเยว่ “…”
เกือบลืมไปเลยว่าคนผู้นี้สามารถอ่านใจของนางได้!
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกเก้อกระดากเล็กน้อย
“เจ้าค่ะ ผู้อาวุโสอาจิ่ง”
ยังดีที่เหมือนว่าอีกฝ่ายไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงสะบัดแขนเสื้อแล้วนั่งลงกับพื้น
ทันใดนั้นก็มีฉินหลังหนึ่งปรากฏขึ้นบนตักของเขา
จากนั้นฉู่หลิวเยว่ก็เห็นว่าเขาวางมือบนฉินลงอย่างแผ่วเบา
หนังตาของฉู่หลิวเยว่กระตุกขึ้น ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีพวยพุ่งขึ้นภายในใจ
“ผู้อาวุโสอาจิ่ง นี่ท่านกำลัง…จะเล่นฉินหรือ?”
อาจิ่งมองนางด้วยสายตาแปลกใจ
“แน่นอนอยู่แล้ว ในเมื่อเจ้าต้องการผสานหนังสือเพลงฉินสองส่วน ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องใช้เสียงฉินมาเป็นตัวช่วย หากแม้กระทั่งเนื้อเพลงยังไม่รู้จัก เจ้าจะสามารถผสานมันอย่างสมบูรณ์ได้อย่างใด?”
ฉู่หลิวเยว่เข้าใจได้ในทันที
“ท่านหมายความว่า ข้าจำเป็นจะต้องฟังเนื้อเพลงให้เข้าใจเสียก่อน ถึงจะสามารถ…”
อาจิ่งพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“นับว่าเจ้ายังไม่เขลาเกินไป หากเป็นเช่นนี้เจ้าก็สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว”
แม้ว่าประโยคนี้จะเหมือนคำชม แต่ฉู่หลิวเยว่กลับไม่รู้สึกยินดีหรือมีความสุขเลย นางรู้สึกไม่สบายใจยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
นางยังจดจำได้อย่างชัดเจน ก่อนหน้านี้ที่ได้ยินบทเพลงนั้น นางตกใจอย่างมากจนอาเจียนเป็นเลือด!
แต่ในตอนนี้ คนผู้นั้นก็อยู่ตรงหน้านาง และฉินหลังนั้นก็อยู่ตรงหน้านาง!
แต่เรื่องมาถึงตรงนี้แล้ว นางจึงต้องกัดฟันทำต่อไป
“ขอบคุณผู้อาวุโส…”
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดแล้วถามขึ้นอีกว่า
“จริงสิ ผู้อาวุโสอาจิ่ง ไม่ทราบว่าการที่จะผสานเนื้อเพลงฉินทั้งสองส่วนนี้เข้าด้วยกันจำเป็นต้องใช้เวลานานเท่าใด?”
หรงซิวและคนอื่นๆ ก็ติดตามนางเข้ามาด้านในด้วย หากใช้เวลามากเกินไป เกรงว่าจะทำให้พวกเขาเป็นห่วงได้
อาจิ่งชะงักการกระทำไปเล็กน้อย แล้วเงยหน้าขึ้น พร้อมกวาดสายตาสำรวจร่างกายของนาง
แม้ว่านางจะไม่สามารถมองเห็นใบหน้าและอารมณ์ของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน ฉู่หลิวเยว่กลับรู้สึกว่า สายตาของเขานั้นแหลมคมราวกับคมมีด!
เพียงแค่มองครู่เดียว นางก็รู้สึกว่าทั่วทั้งร่างกายของนางถูกอีกฝ่ายมองอย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว!
“เจ้าเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูง ปรมาจารย์โอสถ ช่างหลอมอาวุธขั้นสูง อีกทั้งเพิ่งทะลวงด่านเป็นปรมาจารย์ค่ายกลระดับมหาราชา…ฝีมือและพรสวรรค์อยู่ในระดับที่ไม่เลว มิน่าล่ะมันถึงยอมรับเจ้าเป็นเจ้านาย”
เขาพูดขึ้นอย่างเชื่องช้า แต่กลับทำให้ภายในใจของฉู่หลิวเยว่มีคลื่นลมบังเกิดขึ้น!
คนผู้นี้เพียงแค่เหลือบสายตามองจากระยะไกล ก็สามารถมองเห็นถึงระดับพลังของนางทั้งหมดอย่างละเอียดได้!
ในตอนนั้นเองนางก็รู้สึกว่าเมื่อนางอยู่ตรงหน้าชายผู้นี้ นางไม่สามารถปกปิดความลับอันใดได้เลย!
“แม้ว่าเส้นชีพจรเทียนจิงจะไม่ใช่สิ่งหายาก แต่มีสายเลือดของเผ่าหงส์ทองคำสนับสนุน…นับว่าเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง”
ในที่สุดภายในน้ำเสียงของอาจิ่งก็มีความพึงพอใจปรากฏขึ้น
ฉู่หลิวเยว่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกพูดไม่ออก
เส้นชีพจรเทียนจิงถือว่าเป็นเส้นชีพจรดั้งเดิมที่อยู่ในระดับสูงแล้ว แต่สำหรับเขา เขาเห็นว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาและไม่ใช่สิ่งหายาก
อีกทั้งยังพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ…
ฉู่หลิวเยว่จึงเริ่มสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของอีกฝ่ายมากยิ่งขึ้น
แต่ทันทีที่มีความคิดนี้ปรากฏขึ้น นางก็รีบระงับมันลงอย่างรวดเร็ว
ไม่ว่าอย่างใดก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการผสานหนังสือเพลงฉินทั้งสองส่วนให้สมบูรณ์
“หากทุกอย่างราบรื่นแล้วละก็ ใช้เวลาหนึ่งร้อยแปดสิบปีก็จะเสร็จสิ้น แต่หากระหว่างนั้นเกิดข้อผิดพลาดหรือข้อบกพร่อง เกรงว่าจะต้องใช้เวลามากกว่านั้นเท่าตัว”
ขณะที่พูดคำพูดเหล่านี้น้ำเสียงของอาจิ่งผ่อนคลายเป็นอย่างมาก
“ดังนั้นระหว่างนี้ เจ้าห้ามวางใจเด็ดขาด!”
ฉู่หลิวเยว่ที่พยายามรักษาสีหน้าให้สงบอยู่ตลอดเวลา แต่หลังจากได้ยินสองประโยคนั้นเกราะที่ครอบอยู่ก็แตกสลาย
“อันใดนะเจ้าคะ?”
หากราบรื่นแล้วละก็ใช้เวลาหนึ่งร้อยแปดสิบปี?
ถ้าไม่ราบรื่นก็จะใช้เวลามากขึ้นเป็นหนึ่งเท่าตัว!
เช่นนั้นนางจะต้องรออยู่ที่นี่จนตราบชั่วฟ้าดินสลายเลยหรือ!
อาจิ่งมองนางด้วยความประหลาดใจ
“เหตุใดหรือ หรือว่าเจ้าคิดว่าเวลาเหล่านี้…มันมีปัญหา?”
ฉู่หลิวเยว่สำลักขึ้น
ไม่เพียงแต่จะมีปัญหาเท่านั้น แต่มันมีปัญหามากด้วยเข้าใจหรือไม่!
ตอนนี้นางเพิ่งอายุเท่าไรเอง แล้วจะให้ลงทุนเวลาทั้งหมดไปกับที่นี่อย่างนั้นหรือ?
เช่นนั้นหรงซิวกับถวนจื่อล่ะจะเป็นอย่างใด อีกทั้งท่านพ่อและอาจารย์ล่ะ?
อย่าพูดถึงร้อยปีเลย ต่อให้แค่สิบปีก็เกรงว่าด้านนอกอาจจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมากแล้ว!
“…ผู้อาวุโสอาจิ่ง สามารถ…ร่นระยะเวลาให้สั้นลงหน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ?”
ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้นอย่างยากลำบาก
อาจิ่งหัวเราะเสียงเบา
“เวลานี้เป็นเวลาที่สั้นที่สุดแล้ว หากไม่มีข้าคอยช่วยเหลือ ต่อให้เจ้าอยู่ที่นี่ห้าร้อยปีก็ไม่มีทางสำเร็จ เพราะท้ายที่สุดแล้วมันก็ไม่ใช่หนังสือเพลงฉินธรรมดา”
ฉู่หลิวเยว่รู้อยู่แล้วว่านี่ไม่ใช่หนังสือเพลงฉินธรรมดา
แต่ระยะเวลาหลายร้อยปี…
“ถ้าเจ้าอยากได้ระยะเวลาที่สั้นกว่านี้ ก็ใช่ว่าจะไม่มีหนทาง”
เหมือนกับเขาสามารถรับรู้ได้ถึงความลำบากใจของฉู่หลิวเยว่ อาจิ่งชะงักไปครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ถอนหายใจออกมา
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมอง
อาจิ่งพูดขึ้นว่า
“ข้าสามารถช่วยเร่งระยะเวลาภายในมิติแห่งนี้ แต่ในทางกลับกันแรงกดดันและความทรมานที่เจ้าจะต้องได้รับก็จะทวีคูณเพิ่มมากขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้ายังจะยืนกรานทำต่อไปหรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่กลั้นลมหายใจ และพยักหน้าอย่างตั้งใจ
“รบกวนผู้อาวุโสแล้ว”
แม้ว่าต้องประสบกับความเจ็บปวดมากมาย และขั้นตอนเหล่านี้จะต้องทวีความลำบากมากยิ่งขึ้น แต่นางก็เลือกที่จะทำเช่นนี้
ท้ายที่สุดแล้วนางก็ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
มีคนที่รักนางมากมายกำลังรอนางอยู่
เหมือนว่าอาจิ่งสามารถคาดเดาตัวเลือกของนางได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เขาจึงถอนหายใจแล้วส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม
“หวังว่าเจ้าจะไม่เสียใจภายหลังนะ…”
แววตาของฉู่หลิวเยว่เต็มไปด้วยความเย็นชาและแน่วแน่
“ตลอดชีวิตสิ่งที่ข้าได้กระทำลงไป ข้าไม่เคยรู้สึกเสียใจ”
และครั้งนี้ก็เหมือนกัน!
“ดี!”
อาจิ่งหัวเราะเสียงดังขึ้นมาทันที
“ในเมื่อเจ้ามีความกล้าเช่นนี้ ข้าก็จะขอดูหน่อย ว่าเจ้ามีความสามารถนั้นจริงหรือไม่!”
ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น เพียงแค่ความกล้าของนังหนูคนนี้ก็ทำให้เขารู้สึกชื่นชอบแล้ว
ต่อจากนี้ไปก็มาลองดูว่านางจะทำได้หรือไม่!
ตึง!
เพียงปลายนิ้วสัมผัส เสียงฉินสายหนึ่งก็ทำให้ท้องฟ้าสั่นสะเทือน!
ทั่วทั้งร่างกายของฉู่หลิวเยว่เย็นวาบ บรรยากาศที่อยู่โดยรอบเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในทันที!
เสียงฉินเย็นยะเยือก ระหว่างฟ้าดินมีเพียงการฆ่าฟัน!