ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1708 สัญลักษณ์โบราณ
ตอนที่ 1708 สัญลักษณ์โบราณ
………………..
ไม่มีเลยสักคน!
หนานอีฝานเบิกตากว้างขึ้นมาทันที
นั่นหมายความว่า ทุกคนที่ถูกขังที่นี่…ล้วนไม่มีทางรอดและต้องสิ้นใจในนั้นอย่างเดียว ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว?
เช่นนั้นอวี่สิง อีอี และคนอื่นๆ …
“ผู้อาวุโสอี้อวี่ ท่าน ที่ท่านพูดนั้นเป็นความจริงหรือ?”
ตลอดชีวิตนี้หนานอีฝานผ่านร้อนหนาวมานับไม่ถ้วน มั่นคงแข็งแรงดุจภูเขาไท่ซานที่ไม่สั่นคลอน แต่เมื่อได้ยินคำพูดเมื่อครู่นี้ เขาก็ต้องตื่นตระหนกตกใจไปในทันที
มีความเป็นไปได้มากว่าทายาททางสายเลือดของเขาที่มีเพียงสองคนจะติดอยู่ด้านในนั้น!
ถ้าพวกเขาออกมาไม่ได้ตลอดกาล เช่นนั้น…
หนานอีฝานไม่กล้าคิดต่อ
เขาสาวเท้าเดินไปด้านหน้าแล้วถามอย่างร้อนรนว่า
“ประมุขอี้เจา ท่านจะต้องมีหนทางแน่นอน ใช่หรือไม่?”
อี้เจาจะต้องค้นหาคนที่อยู่ด้านใน ดังนั้นเขาจะต้องคิดหาหนทางพาคนออกมาแน่นอน
ไม่แน่ว่าอาจจะสามารถพาอวี่สิงและอีอีออกมาพร้อมกันได้…
“พวกเจ้าถอยไป”
อี้เจาพูดขึ้นอย่างกะทันหัน
หนานอีฝานได้ยินดังนั้นก็รีบทำตาม สายตาที่มองไปยังอี้เจานั้นเต็มไปด้วยการคาดหวัง
ผู้อาวุโสอี้อวี่ก็ลังเลไปเล็กน้อย แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้พูดอันใดออกมา ก่อนจะถอยหลังลงไปสองสามก้าว
อี้เจาเงยหน้าขึ้นมองไปทางด้านหน้า
พรึ่บ!
อุณหภูมิรอบข้างพุ่งสูงขึ้นทันทีตามการปรากฏตัวของเปลวเพลิง!
ลูกกระเดือกของหนานอีฝานสั่นระริก ลำคอแหบแห้ง แต่เขาก็ไม่กล้ากะพริบตา เพราะกลัวว่าจะพลาดอันใดไป
ในขณะเดียวกัน เขาก็ลอบรู้สึกตกใจขึ้นมา
…อี้เจาลงมือแล้ว นี่เป็นเรื่องไม่ธรรมดาจริงๆ!
เห็นได้ชัดว่าระดับพลังและฝีมือของเขาน่าตกใจกว่าในข่าวลือเสียอีก!
ซึ่งสิ่งนี้ทำให้หนานอีฝานรู้สึกเบาใจขึ้นมา
อี้เจาแข็งแกร่งขนาดนี้ บางทีอาจจะสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้…
พรึ่บ!
ในตอนที่อี้เจาลงมือ กำแพงสีดำตรงหน้าเขาก็เกิดปฏิกิริยาตอบสนองทันที!
หลังจากนั้นก็มีเสียงดังอื้ออึง สัญลักษณ์อันแปลกประหลาดขนาดใหญ่ค่อยๆ รวมตัวอย่างเชื่องช้าบนกำแพงแห่งนั้น และปรากฏขึ้นต่อหน้าของอี้เจา!
“นี่มัน…สัญลักษณ์ของตระกูลใดกัน? เหตุใดถึงไม่เคยเห็นมาก่อน?”
ผู้อาวุโสท่านหนึ่งที่อยู่ด้านหลังหนานอีฝานพูดพึมพำเสียงต่ำอย่างสงสัย
สัญลักษณ์ที่ปรากฏขึ้นนี้มันดูผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด
สามารถพูดได้ว่า สามารถพูดได้ว่าพวกเขาล้วนรู้จักสัญลักษณ์ของตระกูลต่างๆ ที่อยู่ในอาณาจักรเสิ่นซวี่ทั้งหมด ซึ่งไม่มีตระกูลใดที่ตรงกับสัญลักษณ์นี้เลย
ผู้อาวุโสอีกท่านหนึ่งครุ่นคิดแล้วพูดคาดเดาขึ้นอย่างไม่มั่นใจว่า
“บางที…อาจจะเป็นตระกูลใดตระกูลหนึ่งที่เข้าร่วมสงครามในเมื่อหมื่นกว่าปีก่อน?”
นี่เป็นการคาดเดาที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด
หลังจากสงครามในครั้งนั้น มีผู้แข็งแกร่งจำนวนนับไม่ถ้วนต้องตายตกตามไป แม้กระทั่งสำนักหรือตระกูลของพวกเขาก็จางหายไปอย่างไร้ร่องรอยพร้อมกับสายน้ำแห่งกาลเวลา
ในตอนนั้นมีกองกำลังจำนวนไม่มากที่สามารถคงอยู่ต่อไปได้ ดังนั้นสัญลักษณ์เหล่านี้จึงดูคลุมเครือมากเป็นพิเศษ
ขณะนี้เขาฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ตัวอี้เจาแล้ว
ตราบใดที่อวี่สิง อีอี และคนอื่นๆ สามารถออกมาได้อย่างปลอดภัย เรื่องอื่นล้วนไม่ใช่ปัญหาทั้งสิ้น!
แกร๊ก!
เสียงอันแผ่วเบานั้นดังออกมาจากกำแพง
หนานอีฝานและคนอื่นๆ ต่างคิดขึ้นพร้อมกันว่า ‘จะเปิดออกมาแล้วหรือ?’
พวกเขายังไม่ทันได้แสดงสีหน้าคาดหวังรอคอยเต็มที่ ใบหน้าก็แข็งค้างแล้ว
สัญลักษณ์ขนาดใหญ่บนผนังสีดำเริ่มโคจรขึ้นอย่างเชื่องช้า!
เสียงเมื่อครู่นี้ก็ดังมาจากกระบวนการเหล่านี้!
แทบจะในเวลาเดียวกัน เปลวเพลิงที่อยู่กลางฝ่ามือของอี้เจามอดดับลงไปอย่างกะทันหัน!
ลมพายุพัดแรงขึ้น!
อี้เจารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก และระเบิดลมปราณขึ้นอย่างรวดเร็ว!
ภายในชั่วพริบตา ลมพายุบ้าคลั่ง! ฝุ่นคลุ้งกระจาย!
พลังอันน่าแข็งแกร่งและสะพรึงกลัวระเบิดขึ้นมาทันที!
ท้ายที่สุดแล้วอี้เจาก็คืออี้เจา เขาสามารถหยุดยืนภายในพายุอันน่ากลัวนี้ได้อย่างมั่นคง
เพียงแต่ใต้ฝ่าเท้าของเขานั้นกลับมีรอยแตกร้าวเพิ่มขึ้นหลายรอย! เท้าทั้งสองข้างของเขาก็จมลึกลงดินไปครึ่งชุน!
ผู้อาวุโสอี้อวี่ที่ยืนอยู่ด้านหลัง เขาได้รับแรงโจมตีน้อยกว่า แต่กว่าจะยืนอย่างมั่นคงได้นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
สถานการณ์ของหนานอีฝานและคนอื่นๆ ก็ไม่ได้ดีมากนัก
เดิมทีฝีมือของพวกเขาก็ยังห่างจากผู้อาวุโสอี้อวี่หนึ่งขั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นอย่างกะทันหัน พวกเขาไม่มีใครได้เตรียมตัวรับมือเลย
ทำให้เงาร่างของพวกเขาลอยกระเด็นออกไป!
แต่ว่าพวกเขาเป็นผู้แข็งแกร่งที่เคยมีประสบการณ์มามากมาย หลังจากประสบปัญหาในช่วงแรก พวกเขาก็สามารถดึงสติกลับมา และพยายามรักษาเสถียรภาพของร่างกายให้มั่นคง
เพราะดูเหมือนว่าสถานการณ์ของอี้เจาก็ไม่สู้ดีเท่าไร
แม้ว่าเขาจะสามารถยืนอยู่ที่เดิม ไม่ได้ถอยร่นลงมา แต่สัญลักษณ์บนกำแพงสีดำก็ยังโคจรอย่างเชื่องช้า ก่อนจะระเบิดพลังที่น่าหวาดกลัวออกมาด้วย!
แกร๊ก!
รอยแตกร้าวใต้ฝ่าเท้าของอี้เจาขยายวงกว้างขึ้น!
หัวใจของหนานอีฝานแข็งค้าง
อี้เจาเป็นประมุขของเผ่าหงส์ทองคำ!
หากแม้แต่เขายังต่อกรไม่ได้ เช่นนั้น…ก็ไม่สามารถช่วยเหลือคนที่ถูกขังอยู่ภายในแล้วหรือ?
…
หนานอีอีเดินไปตามทางที่มืดและคดเคี้ยว
ด้านหน้าของนางที่ห่างออกไปห้าก้าวมีเงาร่างโปร่งแสงหนึ่งกำลังเดินอยู่ด้วยความเร็วที่ไม่ช้าไม่เร็ว
รอบข้างเงียบงัน นางได้ยินเพียงเสียงฝีเท้าของตนเอง
ชายอยู่ด้านหน้าไม่พูดไม่จา นางเองก็ไม่กล้าถามอันใดมาก เพียงแต่เดินตามหลังไปอย่างระมัดระวัง
ยังดีที่เหมือนว่าชายผู้นี้จะรู้ทางออกจริงๆ
ระหว่างทางที่เดินมา ทุกอย่างนั้นราบรื่นเป็นอย่างมาก
ไม่เพียงไม่เจอภยันตรายใดๆ แต่แสงที่อยู่ด้านหน้าที่คล้ายมีคล้ายไม่มีกลับชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ทำให้หนานอีอีรู้สึกมีความหวังขึ้นมา
—บางทีการติดตามชายคนนี้อาจจะทำให้พบกับทางออกจริงๆ
แม้ว่านางจะรู้สึกเป็นห่วงพี่ใหญ่และคนอื่นๆ มาก แต่ในตอนนี้นางรู้สึกสนใจตนเองเท่านั้น
คิดไปคิดมาแล้วนางก็คิดว่า รอออกจากที่นี่ให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที
นางไม่เห็นร่องรอยของท่านอาลั่วเหยี่ยนในที่แห่งนี้เลย การเชื่อมต่อกับท่านพ่อก็ถูกตัดขาด หากอยากจะหาคนมาช่วยคงไม่มีทาง
ขณะที่หนานอีอีครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ นางก็พบว่าชายที่อยู่ด้านหน้าหยุดตัวลงอย่างกะทันหัน
นางคิดว่าเขากำลังจะตรวจสอบเส้นทาง ดังนั้นจึงยืนรออย่างเชื่อฟัง
แต่หลังจากผ่านไปสักพักคนที่อยู่ด้านหน้าก็ยังไม่ขยับ
เดิมทีหนานอีอีกำลังจะอ้าปากถาม
จากนั้นเสียงฝีเท้าก็กระทบเข้ากับโสตประสาทของนางอย่างกะทันหัน
มีคนมา!
หัวใจของหนานอีอีเต้นกระหน่ำ แล้วรีบหันไปมอง
ด้านหนึ่งท่ามกลางความมืด มีเงาร่างหนึ่งค่อยๆ เดินออกมา
แม้ว่ารอบข้างจะมืดมิด แต่ตอนที่คนผู้นั้นเดินออกมา นางก็เหมือนจะสามารถมองเห็นเงาร่างได้อย่างพร่าเลือน
คนผู้นั้นเดินขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ นางสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าบรรยากาศรอบข้างเย็นลงไปในทันที!
ราวกับถูกแช่แข็ง!
ลมปราณที่กดดันหนักหน่วงแผ่กระจายออกมาอย่างรวดเร็ว!
ตอนที่นางมองหน้าอีกฝ่ายอย่างชัดเจน หนานอีอีก็ยกมือขึ้นมาปิดปากอย่างอดไม่ได้ พร้อมเบิกตากว้างขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ
เหตุใดถึง…
………………..