ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1718 ขอร้อง
ตอนที่ 1718 ขอร้อง
………………..
ความหมายไม่สามารถชัดเจนไปมากกว่านี้แล้ว
…แค่นี้ไม่เพียงพอ!
หนานอีฝานกำหมัดกรอด
เขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่ควรยั่วยุหรงซิว และเขาไม่สามารถผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นเขาจึงตั้งใจตบหน้าหนานอวี่สิงอย่างแรง
แต่ใครจะรู้เล่าว่าหรงซิวจะไม่รับน้ำใจนี้เลย
เขากัดฟันกรอด ไม่พูดอันใดออกมาอีก จากนั้นก็เดินไปที่ข้างกายของหนานอวี่สิง ก่อนจะดึงตัวเขาขึ้นมาแล้วตบอีกหนึ่งฝ่ามือ!
ครั้งนี้เป็นการตบหน้าโดยตรง
รุนแรง!
เสียงดัง!
หนานอวี่สิงยังไม่ทันได้ตอบสนอง สมองก็มึนงงไป ความเจ็บปวดแผ่ซ่านเข้าทั่วร่างกาย!
ตู้ม!
เขาหล่นกระแทกพื้นอย่างแรงอีกครั้ง พร้อมอาเจียนออกมาเป็นเลือด!
การโจมตีครั้งนี้เกือบทำให้หนานอวี่สิงเป็นลมสลบไป
หนานอีฝานชะงักไปเล็กน้อย
แต่หรงซิวที่อยู่ด้านหลังก็ไม่ได้พูดอันใดขึ้นมา
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ตบหน้าหนานอวี่สิงอีกหลายครั้ง
ครั้งนี้หนานอวี่สิงพูดอันใดไม่ออกจริงๆ หลังจากที่อาเจียนออกมาเป็นเลือด ในที่สุดตาดำของทั้งสองข้างก็เหลือกขึ้นบน และสลบไป
หนานอีฝานหลับตาลง
ภายในใจของเขาจะไม่เจ็บปวดไม่เสียใจได้อย่างใด?
“ประมุขตระกูลหนานไม่จำเป็นจะต้องทำเช่นนี้เลย ข้าไม่ใช่คนจิตใจคับแคบที่จะคิดเล็กคิดน้อยกับการโต้เถียงจากเขาเพียงครึ่งประโยค”
เลือดจุกอกหนานอีฝานแล้ว
ไม่คิดเล็กคิดน้อยหรือ?
หากเจ้าไม่คิดเล็กคิดน้อยแล้วเมื่อครู่นี้เหตุใดไม่พูดอันใดสักคำ!
หนานอวี่สิงถูกทำร้ายจนสลบไปแล้วถึงค่อยพูด!
แต่เขาไม่สามารถพูดคำเหล่านี้ออกไปได้โดยตรง
หนานอีฝานโยนหนานอวี่สิงลงพื้น!
“คำพูดของเขาทำให้โอรสสวรรค์ระคายหู ดังนั้นจึงต้องสั่งสอน จะว่าไปแล้วผู้เฒ่าอย่างข้าก็สั่งสอนจนไม่มีอันใดจะสอนแล้ว ถึง…ข้านั้นรู้สึกละอายใจจริงๆ”
เมื่อเขาพูดถึงตรงนี้ ใบหน้าของหนานอีฝานก็ยังมีโทสะประดับอยู่เล็กน้อย
ราวกับว่าอยากจะไปถีบซ้ำอีกสักครั้งสองครั้งถึงจะพอใจ
หรงซิวเหลือบสายตามองหนานอวี่สิงที่นอนอยู่บนพื้น ริมฝีปากบางยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“เช่นนั้นหมายความว่า หนานอวี่สิงก็เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของประมุขตระกูลหนานสินะ แต่ตอนนี้หยวนตันถูกทำลายไปแล้ว จนกลายเป็นขยะไร้ค่า เขาจะสามารถรับบทเรียนเช่นนี้จากประมุขตระกูลหนานได้อย่างใด?”
ขณะที่พูดเขาก็ยกคางขึ้น
“รีบเชิญผู้อาวุโสทั้งสองท่านมารักษาบาดแผลให้เขาเถอะ”
คำทุกถ้อยคำ ล้วนเป็นเหมือนดาบที่ทิ่มแทงหัวใจของหนานอีฝานอย่างแรง!
ใบหน้าของเขาซีดขาว สุดท้ายก็โบกมือขึ้นมา
ผู้อาวุโสทั้งสองท่านที่ยืนอยู่ด้านข้างก็รีบเดินขึ้นมาในทันที
สภาพร่างกายของหนานอวี่สิงจึงดีขึ้นมาอย่างยากลำบาก ฝ่ามือที่ตบลงไปหลายครั้งนั้น ทำให้ความพยายามที่ทำไปก่อนหน้านี้สูญเปล่า
ในตอนนี้อาการของเขาก็แย่กว่าตอนแรกเสียอีก
หนานอีฝานหมุนตัวกลับมาแล้วมองหน้าหรงซิว
“โอรสสวรรค์ ก่อนหน้านี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดอันใหญ่หลวง ตอนนี้ข้าได้สั่งสอนพวกเขาอย่างรุนแรงแล้ว เจ้าว่าเรื่องนี้…สามารถปล่อยผ่านไปได้หรือไม่?”
ตอนนี้ทุกคนสามารถมองออกว่า หนานอีฝานกำลังอ้อนวอนขอร้องให้ไว้ชีวิต
ผู้อาวุโสอี้อวี่หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ จากนั้นก็พูดขึ้นเสียงต่ำว่า
“สนุกจริงๆ เลย…”
แม้ว่าพระราชวังเมฆาสวรรค์จะเป็นตระกูลอันดับหนึ่ง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับตระกูลหนานแล้ว ก็ยังด้อยกว่าหนึ่งขั้น
ตามหลักการแล้ว เมื่อหรงซิวเผชิญหน้ากับหนานอีฝาน หรงซิวน่าจะเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ
แต่ความจริงมันกลับเป็นเรื่องตรงกันข้าม
ไม่รู้จริงๆ ว่าหนานอีฝานผู้นี้กำลังหวาดกลัวอันใดอยู่กันแน่?
หรือว่าก่อนหน้านี้พวกเขาเคยดูถูกหรงซิวมาก่อน?
อี้เจาเอามือข้างหนึ่งไพล่หลัง เมื่อได้ยินคำพูดนั้นก็หรี่ตาลงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอันใดออกมา
ความจริงแล้ว ภายในใจของเขาก็กำลังครุ่นคิดถึงปัญหานี้เช่นกัน
บางที…พวกเขาอาจจะไม่รู้อันใดเกี่ยวกับหรงซิวเลยก็ได้!
…
หรงซิวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ราวกับได้ยินเรื่องที่น่าขัน
แต่ทันใดนั้นเองเขาก็พูดออกมาอย่างเชื่องช้าว่า
“ประมุขตระกูลหนานคิดอันใดผิดไปหรือไม่? ตั้งแต่ต้นจนจบข้าซักไซ้ไล่เรียงความผิดของหนานอีอี ไม่ ใช่ คน อื่น”
คำพูดประโยคสุดท้าย เขาพูดออกมาทีละคำอย่างชัดถ้อยชัดคำ!
หนานอีฝานหน้าเปลี่ยนสีไปในทันที!
หรงซิวกำลังเล่นลูกไม้กับเขาอยู่!
ตอนที่เขายังไม่ระเบิดโทสะออกมา ก็ได้ยินหรงซิวพูดต่อขึ้นมาว่า
หนานอีอีรู้สึกเหมือนมีคมมีดที่เย็นยะเยือกและแหลมคมมจี้ที่คอหอยของนางอยู่!
เพียงแค่รอเวลาที่เหมาะสมถึงจะแทงลงมาอย่างแรง!
ร่างทั้งร่างของนางสั่นสะท้าน ขาทั้งสองข้างอ่อนยวบลงโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็หันไปมองหน้าหนานอีฝาน
“ท่าน…ท่านพ่อ!”
หรงซิวต้องการจะสังหารนาง!
เขาตั้งใจจะสังหารนางให้ตาย!
ภายในใจของหนานอีฝานจะรู้สึกยินดีได้อย่างใด?
เมื่อครู่นี้เขาก็ทุ่มสุดตัวขนาดนั้นแล้ว จนเกือบจะทำให้หนานอวี่สิงสิ้นชื่อไป คิดไม่ถึงเลยว่าหรงซิวจะยังไม่ยอมเลิกรา!
เขาลังเลอยู่สักพักหนึ่ง หนานอีฝานก็พูดขึ้นมาอย่างยากลำบากว่า
“โอรสสวรรค์ต้องการจะทำอันใดกันแน่?”
วิธีการของเขา หรงซิวจะต้องมองออกอย่างทะลุปรุโปร่งอยู่แล้ว
เห็นได้ชัดว่าหรงซิวไม่สนใจเรื่องเหล่านี้เลย
มีเพียงแค่ต้องทำให้เขาพอใจเท่านั้น เขาถึงจะยอมหยุดมือ
ดังนั้นหนานอีฝานจึงเลือกที่จะถามตรงๆ
หรงซิวหัวเราะออกมาหนึ่งเสียง
“ประมุขตระกูลหนานมีความสุขมากพอแล้ว เช่นนั้นข้าก็จะไม่อ้อมค้อมอีก”
เขาเชิดคางขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเย็นชากวาดสายตามองทางหนานอีอี
“ข้าต้องการลิ้นของนาง”
เสียงของเขาทุ้มต่ำ น้ำเสียงราบเรียบ แต่กลับไม่ยินยอมให้ผู้ใดฝ่าฝืน!
นี่ไม่ใช่การประนีประนอม ไม่ใช่การปรึกษาหารือ แต่เป็น…คำสั่ง!
เขารู้มาโดยตลอดว่าหรงซิวเป็นคนที่ลงมือเหี้ยมโหด วันนี้คนของพวกเขาได้ล่วงเกินอีกฝ่ายไปอย่างใหญ่หลวง ซึ่งเขาจะต้องเอาคืนอย่างแน่นอน!
แต่…
เงื่อนไขนี้ มันมากเกินไป!
เขามีลูกสาวเพียงคนเดียว นางคือแก้วตาดวงใจของเขามาโดยตลอด แม้กระทั่งคำพูดแรงๆ ก็ยังไม่เคยพูด เขารักและเอ็นดูนางเป็นอย่างมาก
แต่ตอนนี้หรงซิวกลับมาพูดว่าต้องการจะตัดลิ้นของนาง ไม่ว่าอย่างใดหนานอีฝานก็ไม่มีทางรับได้แน่นอน!
หนานอีอีกำชายเสื้อของเขาเอาไว้แน่น ดวงตาแดงก่ำ หยาดน้ำตาเม็ดใหญ่ไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง
“ท่านพ่อ! อีอีไม่ทำนะเจ้าคะ!”
เมื่อครู่นี้นางเห็นสภาพที่น่าสังเวชของพี่ใหญ่อย่างชัดเจนแล้ว
ตอนนี้นางสามารถเข้าใจได้อย่างแท้จริงว่า ท่านพ่อหวาดกลัวหรงซิวผู้นี้เป็นอย่างมาก
ถ้าท่านพ่อตอบรับเงื่อนไขนี้จริงๆ …
น้ำตาอุ่นร้อนหยดลงที่หลังมือของหนานอีฝาน
เขาหลับตาลง จากนั้นก็กุมมือของหนานอีอีไว้จนแน่น
“เงื่อนไขนี้ ข้าไม่เห็นด้วย”
เขาสามารถยอมรับกับบทลงโทษอย่างอื่นได้ แต่เขาไม่ยินยอมที่จะเสียสละเลือดเนื้อของตนเอง!
เมื่อครู่นี้เห็นว่าเขาลงมือกับหนานอวี่สิงได้อย่างโหดเหี้ยม แต่ความเป็นจริงแล้วเขาควบคุมพลังและวิธีในการโจมตีอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายเป็นอันตรายถึงชีวิต
แต่หากเขาส่งหนานอีอีให้หรงซิวจัดการ ผลลัพธ์เช่นนั้น…เขาไม่กล้าจะจินตนาการเลย!
ใบหน้าของหรงซิวไม่มีความตกใจเลยแม้แต่น้อย เหมือนกับว่าเขาสามารถคาดเดาได้อยู่แล้ว
มุมปากของเขายกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย แล้วพูดเสียงเรียบว่า
“ประมุขตระกูลหนาน ข้าไว้หน้าเจ้าแล้วนะ”
น่าเสียดายที่เจ้าไม่ต้องการ
ร่างกายของหนานอีฝานตึงเกร็งขึ้นมาในทันที!
เมื่อสัมผัสได้ถึงความตื่นตระหนกของเขา หนานอีอีก็รู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา
ทันใดนั้นเอง นางก็คิดขึ้นมาได้แล้วตะโกนไปทางอี้เจาและผู้อาวุโสอี้อวี่ด้วยเสียงหวีดแหลมว่า
“ประมุขอี้เจา! ซั่งกวนเยว่ผู้นั้นลอบทำพันธสัญญากับหงส์ทองคำตัวหนึ่ง เดิมทีก็เป็นการล่วงเกินที่รุนแรงอย่างมากแล้ว! หรงซิวยังพยายามทำทุกวิถีทางที่จะปกป้องนางซึ่งก็นับว่ามีความผิด! หรือว่าท่านจะนิ่งดูดายไม่เข้ามาสนใจเช่นนี้หรือ?”
………………..