ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1720 สลบลงไปแล้ว
ตอนที่ 1720 สลบลงไปแล้ว
………………..
หนานอีอีเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
หนานอีฝานและคนอื่นๆ ก็รีบหันกลับไปมองอี้เจาด้วยความรวดเร็ว เหมือนกับกำลังสงสัยว่าตนเองหูฝาดไปหรือไม่
ที่อี้เจาพูดเมื่อครู่นี้คืออันใดกัน?
เป็นเรื่องปกติมาก?
คาดไม่ถึงว่าเขาจะเห็นเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องปกติ?
หรือว่าเขาบ้าไปแล้ว!
ทันใดนั้นเองก็รู้สึกเหมือนว่าโลกนี้นั้นวุ่นวายสับสนอย่างมาก!
อี้เจา!
ในอาณาจักรเสิ่นซวี่เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงอย่างมาก!
อีกทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องรังเกียจและไม่แยแสคนเผ่ามนุษย์!
แต่ในตอนนี้คนของเผ่าตนเองได้ทำพันธสัญญากับมนุษย์ คาดไม่ถึงว่าเขาจะไม่ยินดียินร้ายอันใดเลย?
คำพูดก่อนหน้านี้ที่หนานอีอีเตรียมจะพูดออกไปก็ติดอยู่ในลำคอ นางพูดอันใดไม่ออกเลยแม้แต่น้อย
นางหยิกตัวเองอย่างแรง อาศัยความเจ็บปวดเพื่อยืนยันว่านางไม่ได้กำลังฝันอยู่
แต่คำพูดที่ออกมาจากอี้เจานั้นก็เป็นเรื่องจริง!
“ท่าน…นี่ท่าน…หมายความว่า…อย่างใด?”
หนานอีอีถามขึ้นด้วยเสียงตะกุกตะกัก
จนกระทั่งตอนนี้นางก็สามารถสัมผัสได้ว่า เรื่องราวไม่ค่อยเหมือนกับสิ่งที่นางคาดการณ์เอาไว้เลย
นางพยายามจะกอบกู้สถานการณ์ แต่เหมือนว่าทั้งหมดนี้จะไม่อยู่ในทิศทางที่นางสามารถกำหนดได้!
อี้เจาพูดขึ้นเสียงเรียบ
แม้กระทั่งหายใจก็ยังยากลำบาก!
“แต่…แต่คำพูดเช่นนี้ ก็หมายความว่า…หงส์ทองคำตัวนั้นหักหลังเผ่าพันธุ์อย่างนั้นน่ะหรือ? หรือว่าท่านก็…”
“คุณหนูรองหนานกำลังล้อเล่นอันใดอยู่หรือ?”
ผู้อาวุโสอี้อวี่พูดแทรกคำพูดของนาง แล้วกล่าวต่อด้วยรอยยิ้ม
“ถวนจื่อเป็นนายน้อยที่บรรพบุรุษเป็นผู้แต่งตั้ง และเป็นประมุขของเผ่าหงส์ทองคำรุ่นต่อไป ไม่ว่าใครก็สามารถหักหลังเผ่าหงส์ทองคำของข้าได้ แต่มีเพียงนางคนเดียวเท่านั้น…ที่ไม่มีทางทำ!”
ภายใต้คำพูดที่เรียบง่ายแต่เหมือนกับค้อนที่หนักกระแทกเข้าที่หัวใจของหนานอีอีอย่างแรง!
ในสมองของหนานอีอีขาวโพลนขึ้นทันที
นายน้อย…
หงส์ทองคำตัวนั้น คาดไม่ถึงว่าจะเป็นนายน้อยแห่งเผ่าหงส์ทองคำ?
อีกทั้งยังบรรพบุรุษของพวกเขาก็เป็นคนแต่งตั้งขึ้นมาด้วยตนเอง?
ถ้าเช่นนั้น…เมื่อครู่นี้ที่นางพูดออกไปมากมาย…
ในสายตาของพวกเขาก็คงเป็นเหมือนกับเรื่องที่น่าขันใช่หรือไม่?
ตรงหน้าของหนานอีอีดำมืด จากนั้นก็ล้มตัวลงพื้น
“คุณหนูรอง!”
ผู้อาวุโสท่านหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านข้าง เมื่อเห็นดังนั้นก็รีบเดินขึ้นมาพยุงร่างของหนานอีอีเอาไว้ทันที
“คุณหนูรอง ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”
ขาสองข้างของหนานอีอีอ่อนยวบ แทบจะยืนได้ไม่มั่นคง ร่างกายเย็นวูบ สมองมึนงง
ในตอนนั้นเองนางก็หวังว่าตนเองจะสลบล้มลงไปจริงๆ!
เหตุการณ์ทั้งหมดฉายซ้ำในสมองของนางอย่างต่อเนื่อง เรื่องนี้ทำให้นางรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก แทบจะหารอยร้าวแล้วแทรกแผ่นดินหนี นางไม่อยากอยู่ตรงหน้าของคนเหล่านี้อีกต่อไปแล้ว!
คิดไม่ถึงเลยว่า…
อี้เจาและคนอื่นๆ อยู่ฝั่งเดียวกับซั่งกวนเยว่มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว!
ก่อนหน้านี้นาง…เป็นเพียงแค่ตัวตลกที่ดิ้นไปดิ้นมาเท่านั้น!
ช่างน่าขันสิ้นดี!
ร่างของหนานอีอีสั่นสะท้าน ใบหน้าซีดขาวดูแล้วน่าสังเวชเป็นอย่างมาก
ศักดิ์ศรีอันสูงส่งและท่าทีดูแคลนของคุณหนูรองในตอนก่อนหน้านี้ยังจะมีอยู่ต่อไปได้อย่างใด?
หนานอีฝานก็รู้สึกตกใจอย่างมากกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ เขาจึงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว
เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอันใดออกไป และไม่รู้ว่าควรจะทำอันใด
ขณะที่หนานอีอีกำลังพูดเรื่องเหล่านั้น เขาก็ยังปล่อยให้นางพูดตามใจ
แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงสีหน้าเท่ากับหนานอีอี แต่ภายในใจของเขาก็มีความคิดที่ไม่แตกต่างจากหนานอีอีเลย
ในตอนนั้นเขาจึงไม่ได้เข้าไปพยุงหนานอีอี
เพราะว่าตัวเขาก็ตกใจมากเช่นกัน
นายน้อย…
นายน้อยแห่งเผ่าหงส์ทองคำ!
เขาหันกลับไปมองอย่างอดไม่ได้
ถ้าเขาไม่ได้ยินกับหูตนเอง จะมีใครเชื่อว่าเด็กอายุน้อยขนาดไหนจะเป็นนายน้อยแห่งเผ่าหงส์ทองคำ!
ภายในสมองของหนานอีฝานมีความคิดนับไม่ถ้วนไหลวนอยู่
ก่อนหน้านี้ภายในอาณาจักรเสิ่นซวี่ไม่มีข่าวคราวเรื่องนายน้อยของเผ่าหงส์ทองคำแพร่กระจายออกมาเลย
เช่นนั้นเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเร็วๆ นี้
เหมือนว่าก่อนหน้านี้ที่เผ่าหงส์ทองคำจัดงานกราบไหว้บรรพบุรุษไป ถ้าหากเดาไม่ผิดแล้วละก็ น่าจะเป็นช่วงเวลานั้น…
แต่หงส์ทองคำตัวนั้นเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ในพันธสัญญากับซั่งกวนเยว่!
ตามหลักการแล้ว สถานะระดับนี้ถือว่าเป็นรอยด่างพร้อยของเผ่าหงส์ทองคำ ไม่กลายเป็นนักโทษก็ดีมากแล้ว แล้วเหตุใดนางถึงได้เป็นถึงนายน้อยของเผ่าได้?
หนานอีฝานรู้สึกตกใจและไม่เข้าใจอย่างมาก
แต่เขาก็ไม่มีคุณสมบัติและความกล้ามากพอที่จะถามคำถามนี้
…เมื่อครู่นี้ผู้อาวุโสอี้อวี่พูดอย่างชัดเจนแล้วว่า ตำแหน่งนายน้อยนี้บรรพบุรุษของพวกเขาเป็นคนแต่งตั้งขึ้นมาด้วยตนเอง!
อี้เจาก็ยังไม่สามารถล่วงเกินได้ แล้วเขาจะกล้าซักไซ้ไล่เรียงกับบรรพบุรุษแห่งเผ่าหงส์ทองคำได้อย่างใด?
มิน่าล่ะ…
มิน่าล่ะประมุขอี้เจาที่มีฐานะสูงส่งถึงเดินทางมาที่นี่ด้วยตนเอง
เกิดเรื่องขึ้นกับนายน้อย แล้วพวกเขาจะไม่เป็นห่วงได้อย่างใด?
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่า คนที่พวกเขาตามหานั้นจะต้องเป็นคนที่มีความสำคัญแน่นอน
แต่คิดไม่ถึงเลยว่า ฐานะที่แท้จริงของเด็กน้อยคนนั้นจะน่าตกใจถึงเพียงนี้!
ทุกอย่างกลายเป็นทางตันแล้ว!
อี้เจาหันไปมองหนานอีอีด้วยสายตาเย็นชา
“ลืมพูดไปเลย ถวนจื่อคือคนที่มีพรสวรรค์มาก ในรอบพันปีจะเจอสักหนึ่งครั้ง นางมีสายเลือดที่สูงส่งที่สุดของเผ่าหงส์ทองคำ…สายเลือดบริสุทธิ์!”
ที่นางบอกว่าสายเลือดเผ่าหงส์ทองคำจะมัวหมอง…
ยังมีอันใดน่าขำไปกว่านี้อีกหรือไม่?
หนานอีอีตาเหลือกไปด้านบน ในที่สุดก็เป็นลมสลบลงไป
ผู้อาวุโสที่อยู่ด้านข้างหันมองหนานอีฝานด้วยความลำบากใจ
“ท่านประมุข นี่มัน…”
หนานอีฝานกำหมัดกรอด กัดฟันจนฟันแทบแตก!
ในตอนนี้เขาไม่มีแก่ใจจะไปสนใจสภาพร่างกายของหนานอีอีอีกต่อไปแล้ว
นับว่าวันนี้เขาได้ล่วงเกินหรงซิวและเผ่าหงส์ทองคำทั้งหมดแล้ว
ตระกูลหนานทั้งตระกูลจะต้องเผชิญกับอันตรายใดๆ อีกก็ยังไม่มีใครทราบ!
“สลบไปแล้วหรือ?”
หรงซิวถามขึ้นเสียงเรียบ
“ไม่เป็นไร”
เขาสะบัดชายเสื้อ จากนั้นเงาดำร่างหนึ่งก็ปรากฏแก่สายตาของทุกผู้คนอย่างกะทันหัน!
มันคือหุ่นเชิดสีดำที่ทำจากเหล็กทั้งตัว รูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดเกราะทั้งร่าง แข็งแกร่งอย่างมาก!
เดิมทีตำแหน่งดวงตาที่กลวงโบ๋กลับมีเปลวเพลิงสีทองลุกโชนขึ้น!
ในตอนนั้นทุกคนล้วนตกใจเป็นอย่างมาก!
พลังการต่อสู้ของหุ่นเชิดแข็งแกร่งยิ่งนัก!
แม้ว่าจะไม่มีพลังปราณดั้งเดิมแผ่กระจายออกมา แต่แรงกดดันที่น่าหวาดหวั่นนั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกเกรงกลัวเป็นอย่างมาก!
น้ำเสียงของหรงซิวราบเรียบไม่แยแสสนใจ
“เทียนเยา เปิดปากนางออกมา!”