ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1731 บ่อมังกรถ้ำเสือ
ตอนที่ 1731 บ่อมังกรถ้ำเสือ
………………..
ทุกคนที่รออยู่ด้านข้างตื่นเต้นยินดีขึ้นมาด้วยเช่นกัน
ซั่งกวนจิ้งรีบถามขึ้นมาว่า
“ถวนจื่อ เจ้าแน่ใจหรือไม่?”
ถวนจื่อพยักหน้าอย่างจริงจัง
“ถูกต้อง! ทางนั้น!”
นางทำพันธสัญญากับอาเยว่ อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนม ไม่มีทางผิดพลาดแน่นอน!
“เพียงแต่ว่า…ตำแหน่งที่อาเยว่อยู่ในตอนนี้นั้นเหมือนว่าจะห่างไกลจากที่นี่มาก…”
ถวนจื่อขมวดคิ้วขึ้นเป็นปม มีท่าทีเสียใจและเป็นกังวลเล็กน้อย
หนานซู่ไหวถาม
“เช่นนั้นก็หมายความว่าตอนนี้นางกับหรงซิวไม่ได้อยู่ในสุสานสังหารเทพอีกแล้วใช่หรือไม่?”
ถวนจื่อกัดนิ้วของตัวเอง จากนั้นก็ยืนยันคำตอบว่า
“อื้อ!”
ซั่งกวนจิ้งทำจิตใจให้สงบ
“นี่ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แม้ว่าอาณาจักรเสิ่นซวี่จะกว้างขวาง แต่เมื่อมิติพังทลาย ความปั่นป่วนพวยพุ่ง ก็สามารถส่งพวกเขาไปได้ทุกที่ ยังดีที่ตอนนี้มีถวนจื่ออยู่ ขอเพียงแค่เดินทางตามการชี้นำของถวนจื่อ น่าจะใช้เวลาไม่นานก็สามารถตามหานังหนูเยว่เออร์ได้แล้ว”
หนานซู่ไหวและฉู่หนิงพยักหน้า ในที่สุดก้อนหินที่ถ่วงอยู่ในใจก็ถูกปลดลงมาแล้ว
หนานซู่ไหวพูด
“เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา พวกเรารีบเดินทางไปกันเถอะ”
ถวนจื่อเห็นด้วยเป็นอย่างมาก
ตอนนี้นางอยากจะเจออาเยว่จะตายอยู่แล้ว!
แต่ประเด็นสำคัญก็คือ…พวกเขาควรจะไปด้วยหรือไม่?
เดิมทีการที่เขามาในครั้งนี้ก็เพื่อมาช่วยเหลือถวนจื่อ
และตอนนี้ถวนจื่อก็ไม่ได้รับอันตรายร้ายแรง ซึ่งก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องกลับไปแล้ว
แต่อี้เจาและผู้อาวุโสอี้อวี่ยังไม่อยากจากไป
โดยเฉพาะอี้เจา
ครั้งนี้เขาได้รับโอกาสอุ้มถวนจื่ออย่างยากลำบาก
แต่ยังไม่ทันไรก็ต้องจากกันเสียแล้ว
การจากลาในครั้งนี้ ไม่รู้ว่าครั้งหน้าจะได้พบกันเมื่อใด
ผู้อาวุโสอี้อวี่เหลือบสายตามองอี้เจา
เขาติดตามอี้เจามาหลายร้อยปีแล้ว เรื่องที่ถนัดที่สุดคือคาดเดาความคิดของอี้เจา
โดยเฉพาะตอนนี้อี้เจากำลังคิดอันใดอยู่ เขาก็รับรู้เป็นอย่างดี
…เพราะว่าเขาเองก็มีความคิดแบบเดียวกัน
ตอนนี้พวกเขากำลังรู้สึกลังเลเป็นอย่างมาก หนานซู่ไหวจึงถามขึ้นมาว่า
“ประมุขอี้เจา ผู้อาวุโสอี้อวี่ ไม่ทราบว่าท่านทั้งสองมีแผนการอย่างใดต่อไป?”
คำถามนี้กำลังถามว่าเขาจะอยู่หรือไปด้วย
ผู้อาวุโสอี้อวี่รู้สึกเสียใจขึ้นมาหลายส่วน
หากเป็นปกติแล้วประมุขจะไม่เดินทางต่อไปด้วยอย่างแน่นอน
แม้ว่าจะเห็นแก่หน้าถวนจื่อ จนเขาสามารถขจัดความไม่พอใจที่มีต่อคนกลุ่มนี้ออกไปได้
แต่ในฐานะที่เขาเป็นประมุขแห่งเผ่าหงส์ทองคำ ทุกคำพูดและการกระทำของเขาจะได้รับการจับจ้องจากคนทั่วทั้งอาณาจักรเสิ่นซวี่จำนวนนับไม่ถ้วน
หากพวกเขาติดตามคนเหล่านี้ไปในวันนี้ หลังจากนี้ไม่รู้ว่าโลกภายนอกจะพูดถึงพวกเขาอย่างใด
“พวกเราจะพาถวนจื่อไปส่งยังจุดหมายปลายทางของนางอย่างปลอดภัย เพื่อให้นางได้พบกับซั่งกวนเยว่”
อี้เจาพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
น้ำเสียงทุ้มต่ำ ใบหน้าจริงจัง
แต่คำพูดของเขากลับทำให้ผู้อาวุโสอี้อวี่เบิกตากว้างอย่างตกใจ!
เขาหันไปมองอี้เจาอย่างไม่อยากจะเชื่อ แทบจะสงสัยว่าตนเองหูฝาดไปหรือไม่!
ประมุขพูดว่าอย่างใดนะ?
จะเดินทางคุ้มกันถวนจื่อ?
นั่นหมายความว่าเขาตั้งใจจะร่วมเดินทางไปพร้อมกับซั่งกวนจิ้งและคนอื่นๆ ใช่หรือไม่?
หนานซู่ไหวและคนอื่นๆ รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
ตามที่พวกเขาเข้าใจอี้เจา พวกเขาไม่เหมือนคนที่ยินดีจะร่วมเดินทางด้วยกันเลยสักนิด
และด้วยฐานะที่พิเศษของเขา หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป จะต้องทำให้อาณาจักรเสิ่นซวี่ปั่นป่วนอย่างแน่นอน
ทั้งหมดนี้จะต้องเป็นเพราะถวนจื่อแน่นอนไม่ต้องถาม…
หนานซู่ไหวและคนอื่นๆ สบสายตากัน จากนั้นก็หันไปมองทางถวนจื่อโดยพร้อมเพรียง
ท้ายที่สุดแล้วนางก็เป็นนายน้อยเผ่าหงส์ทองคำ ดังนั้นจึงถูกปฏิบัติให้แตกต่างออกไป
อีกทั้งพวกเขาก็สามารถมองออกว่าความรักของอี้เจาที่มีต่อถวนจื่อนั้นไม่ใช่ความรักธรรมดา
เขายินยอมที่จะประนีประนอมเพื่อนาง
หนานซู่ไหวพยักหน้า
“ประมุขอี้เจา เชิญ…”
อี้เจาหันไปมองทางถวนจื่อ
ถวนจื่อชี้นิ้วไปทางด้านหน้าอย่างกระตือรือร้น
“ทางด้านนี้เลยเจ้าค่ะ!”
ฉู่หลิวเยว่กวาดสายตามองไปโดยรอบอย่างรวดเร็ว
ในตอนนี้นางและหรงซิวกำลังยืนอยู่บนจัตุรัสขนาดใหญ่ อีกทั้งยังยืนอยู่ตรงกลางด้วย!
ทั้งสองฟากฝั่งมีผู้คนนั่งเรียงกันเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบ
เมื่อกวาดสายตามอง ก็เห็นว่าใบหน้าเหล่านั้นล้วนเป็นคนไม่คุ้นเคย
แต่ประเด็นสำคัญเลยก็คือ ลมปราณบนร่างของคนเหล่านั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก!
เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนี้ ฉู่หลิวเยว่ก็สามารถสัมผัสถึงแรงกดดันที่ยากจะต้านทานแล้ว
สายตาจำนวนนับไม่ถ้วนที่มองมาอย่างสำรวจ สงสัย และเป็นปรปักษ์ ทำให้นางรู้สึกเหมือนมีหนามมาทิ่มแทงที่ด้านหลัง!
คนเหล่านี้…
ไม่ใช่มนุษย์!
ฉู่หลิวเยว่สูดหายใจเข้าลึกๆ
นางสามารถมั่นใจได้ว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่มนุษย์อย่างแน่นอน!
นางรู้สึกคุ้นเคยกับลมปราณที่อยู่บนร่างกายของพวกเขา
ฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ กำหมัดแน่น
คำตอบหนึ่งปรากฏขึ้นมาแล้ว!
…ไท่ซวีเฟิ่งหลง!
“คาดไม่ถึงว่าจะเป็นพวกเจ้า!”
เสียงที่คุ้นเคยเสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างกะทันหัน
เย็นชา น่าหวาดกลัว อีกทั้งยังแฝงด้วยความกรุ่นโกรธและไม่ยินยอมที่ปกปิดไม่มิด!
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วหันกลับไปมอง
ใบหน้าที่ดำมืดสะท้อนเข้าสายตานางท่ามกลางกลุ่มคน!
กอปรกับในช่วงเวลานี้เขาซูบผอมลงเป็นอย่างมาก และยิ่งไม่มีท่าทีเย่อหยิ่งจองหองดั่งเช่นเมื่อคราก่อนแล้ว ดังนั้นฉู่หลิวเยว่จึงจดจำเขาไม่ได้ในทันที
แต่ทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น และสบเข้ากับสายตานั้น ฉู่หลิวเยว่ก็สามารถยืนยันตัวตนของอีกฝ่ายได้ในทันที!
ในตอนนั้นเองความคิดมากมายปรากฏขึ้นภายในสมองของฉู่หลิวเยว่
…โหมวเหยาอยู่ที่นี่ รอบข้างก็น่าจะเป็นไท่ซวีเฟิ่งหลง เช่นนั้นที่แห่งนี้คือ…
“เกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์”
หรงซิวพูดขึ้นมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ เสียงนั้นดังขึ้นที่ข้างหู
เขาหัวเราะขึ้นมาหนึ่งเสียง เหมือนว่าจะรู้สึกว่าเรื่องเหล่านี้น่าสนุกเป็นอย่างมาก
“คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเราจะเดินทางมาถึงที่นี่”
เมื่อฉู่หลิวเยว่ได้ยินเขาหัวเราะขึ้นมา หางตาจึงกระตุกขึ้นอย่างแรง
เกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์…
นี่เป็นรังของไท่ซวีเฟิ่งหลง!
นี่พวกเขากำลังบุกมาในบ่อมังกรถ้ำเสือเลยไม่ใช่หรือ?
ไท่ซวีเฟิ่งหลงเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับบรรพกาล มีความเย่อหยิ่งและจองหองเช่นกัน
แม้ว่าทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อมนุษย์จะดีกว่าเผ่าหงส์ทองคำเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่เคยอนุญาตให้พวกมนุษย์เข้ามาในถิ่นของตนเองเลยสักครั้ง!
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ภายในอาณาจักรเสิ่นซวี่ยังไม่เคยมีข่าวว่ามนุษย์คนใดจะสามารถบุกมาที่เกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์ได้
ฉู่หลิวเยว่กวาดสายตามองโดยรอบอย่างระมัดระวังอีกครั้ง
บรรยากาศหนักแน่นและน่าเกรงขาม…
ที่แห่งนี้รวบรวมคนทั้งเผ่าเอาไว้…
ทั้งหมดทั้งมวลนี้แสดงให้เห็นว่า…พวกเขาทั้งสองคนไม่เพียงแต่จะบุกเข้ามาในเกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์ แต่เหมือนว่าจะมาผิดเวลาเสียด้วย!
“ผู้อาวุโสโหมวเหยา ไม่ได้เจอกันนานเลยนะขอรับสบายดีหรือไม่”
ริมฝีปากบางของหรงซิวยกยิ้มขึ้น พร้อมกล่าวทักทายเขาอย่างใจเย็น
ราวกับว่าการต่อสู้ก่อนหน้านี้มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!
ตอนที่โหมวเหยาเห็นทั้งคนสอง เดิมทีเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟอยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของหรงซิว เขาก็ยิ่งโมโหมากกว่าเดิม!
ยอดเยี่ยม!
ทั้งสองคนนี้ใจกล้าไม่เบา!
ก่อนหน้านี้จะเป็นอย่างใดก็ช่างเถอะ แต่ตอนนี้อีกฝ่ายกล้าบุกเข้ามาในเกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์โดยตรง!
สายตาของทุกผู้คนจดจ้องไปที่ฉู่หลิวเยว่และหรงซิว และความอยากรู้ต้องพุ่งมากขึ้นกว่าเดิม
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนถามขึ้นมา
“ผู้อาวุโสโหมวเหยา ท่านรู้จักสองคนนี้ด้วยหรือ?”
โหมวเหยาโกรธจนหัวเราะออกมา แล้วพูดเสียงเย็นว่า
“รู้จัก! แน่นอนว่าข้ารู้จัก! เขาคือหรงซิว…โอรสสวรรค์แห่งพระราชวังเมฆาสวรรค์! ส่วนคนที่อยู่ด้านข้างคือ…ซั่งกวนเยว่!”
*บ่อมังกรถ้ำเสือ สำนวนจีน หมายถึงสถานที่ที่เต็มไปด้วยอันตราย
………………..