ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1740 ต้องการคน
ตอนที่ 1740 ต้องการคน
………………..
เขานึกขึ้นได้ว่า ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวส่งกลับมาบอกว่า ตอนที่ซั่งกวนเยว่เดินทางออกจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวง นางยังพาเด็กน้อยอายุสามสี่ขวบคนหนึ่งออกมาด้วย
ในตอนนั้นเขาคิดหาคำตอบอยู่นาน แต่ก็ไม่ได้คำตอบเสียที
แต่ว่าในตอนนี้…
มีสมมติฐานหนึ่งที่ค่อนข้างไร้สาระและอาจหาญปรากฏขึ้นกลางสมองของเขา!
ในแววตาของเขามีประกายตกตะลึงอยู่ลึกๆ!
หรือว่า…
“ดูเหมือนว่าถวนจื่อจะมาแล้ว”
มุมปากของฉู่หลิวเยว่ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
คนที่ติดตามมาพร้อมกับถวนจื่อ ก็น่าจะเป็นองค์ปฐมกษัตริย์ อาจารย์ และท่านพ่อของนาง
พวกเขาลงมือกระทำได้อย่างว่องไว
เดิมทีหัวใจของฉู่หลิวเยว่ตกไปถึงตาตุ่มแล้ว
เดิมทีนางยังเป็นห่วงอีกฝ่ายอยู่ เมื่อได้ยินว่าพวกเขามาถึงที่นี่แล้ว นางจึงรู้สึกโล่งอกขึ้นมา
ทันทีที่ความคิดนี้หมุนผ่าน นางก็คาดเดาได้ว่าอี้เจาและผู้อาวุโสอี้อวี่ไม่น่าจะติดตามมาด้วย
ไม่เช่นนั้นเกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้คงวุ่นวายไปตั้งนานแล้ว
สถานะของทั้งสองคนนั้นพิเศษเป็นอย่างมาก ดังนั้นนี่จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดแล้ว
เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่หลิวเยว่ หัวใจของโหมวหยางก็จมดิ่งลง
เป็นเช่นนั้นจริงๆ ด้วย!
แม่นางน้อยที่อายุสามสี่ขวบคนนั้น จะต้องเป็นหงส์ทองคำในพันธสัญญาของซั่งกวนเยว่แน่นอน!
พวกนางไปที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงมาแล้ว ไม่เพียงจะไม่ได้รับบทลงโทษใดๆ แต่ยังกลับสามารถช่วยให้หงส์ทองคำตัวนั้นแปลงกายเป็นมนุษย์ได้อีก!
แต่เด็กน้อยผู้นั้นทำได้อย่างใดกันแน่?
ความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือ…นางมีพลังแห่งสายเลือดที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก!
แต่รายละเอียดที่บอกว่าแข็งแกร่งและโดดเด่นอย่างใด แม้กระทั่งโหมวหยางก็ไม่กล้ายืนยัน
ท้ายที่สุดแล้วเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงก็ยังไม่เคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น
ดังนั้นเรื่องนี้จึงทำให้เขารู้สึกประหลาดใจและคับข้องใจเป็นอย่างมาก
ในขณะเดียวกันนั้นเองก็ทำให้เขารู้สึกสับสนมากขึ้น
ซั่งกวนเยว่ยังอยู่ที่นี่ แต่ภายในช่วงเวลาสั้นๆ หงส์ทองคำตัวนั้นและเผ่าพันธุ์มนุษย์คนอื่นๆ กลับเดินทางมาหา…
เป็นไปได้อย่างมากว่า พวกนางยังมีพันธสัญญาต่อกันอยู่!
แต่มันจะเป็นไปได้อย่างใด?
อี้เจาไม่มีทางเห็นด้วยกับเรื่องเหล่านี้เด็ดขาด!
โดยปกติแล้วเขาจะอคติต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์ แค่จะพูดด้วยสักประโยคหนึ่งยังรังเกียจ แล้วจะยอมให้เผ่าพันธุ์ของตนทำพันธสัญญากับซั่งกวนเยว่ต่อไปได้อย่างใด?
โหมวหยางสะกดกลั้นอารมณ์มากมายที่อยู่ในใจ ใบหน้าของเขายังคงสงบนิ่งเช่นเดิม
“เจ้าแน่ใจหรือว่ามีหงส์ทองคำเพียงตัวเดียวเท่านั้น?”
หากมีใครลอบติดตามมาอีกละก็…
คนผู้นั้นพยักหน้าแล้วพูดขึ้นอย่างระมัดระวังว่า
“ผู้น้อยตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว บริเวณโดยรอบเกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์ไม่มีร่องรอยหรือลมปราณของหงส์ทองคำตัวอื่นเลย จึงมั่นใจได้ว่ามีเพียงตัวเดียว”
อีกทั้งยังกลายร่างเป็นเพียงแม่นางน้อยผู้หนึ่งเท่านั้น!
หงส์ทองคำปรากฏตัวขึ้นก็ทำให้พวกเขาตกใจมากพออยู่แล้ว
แต่เมื่อเห็นว่านางดูคล้ายเด็กอายุสามสี่ขวบเท่านั้น ก็ยิ่งทำให้พวกเขาตกใจจนแทบจะอ้าปากค้าง
ฉู่หลิวเยว่พูดออกมาพร้อมรอยยิ้มว่า
“ประมุขโหมวหยาง ที่ถวนจื่อมาที่นี่ด้วยตนเองก็เพื่อรับพวกเรากลับไป ท่านยังจะไม่ยอมปล่อยคนไปอีกหรือ?”
โหมวหยางมองนางด้วยสายตาลึกล้ำ
ตั้งแต่ที่โหมวเหยาพลาดท่าให้แก่แม่นางคนนี้ เขาก็รู้แล้วว่า นางจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ในตอนที่ได้ยินมาว่านางสามารถออกจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงอย่างปลอดภัยได้อย่างไร้รอยขีดข่วน เขาก็สามารถยืนยันความคิดของตนเอง
เพียงแต่ว่า…
ตอนนี้เขาเพิ่งค้นพบว่า เขาประเมินนางต่ำเกินไป
ซั่งกวนเยว่ผู้นี้ ดูเหมือนว่าจะยังอายุน้อยมาก ใบหน้าดวงตาเกลี้ยงเกลา ท่าทางอารมณ์ดีประดับด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอ
แต่ความจริงแล้วภายในใจลึกๆ ของนางยังซ่อนความลับเอาไว้มากมาย
ไม่สามารถดูเบานางได้เลย…
โหมวหยางคิดได้ดังนั้นก็พูดขึ้นเสียงเรียบว่า
“พวกเขามาก็เป็นเรื่องของพวกเขา ส่วนข้าจะปล่อยพวกเจ้าไปหรือไม่นั้น…เมื่อครู่นี้ข้าได้พูดอย่างชัดเจนแล้ว พวกเจ้าพิจารณามันเองเถิด”
แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะราบเรียบ แต่ท่าทางก็ยืนหยัดหนักแน่นอย่างมาก
ทำให้เห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีทางเปลี่ยนความคิดเดิมแน่นอน!
ฉู่หลิวเยว่หรี่ตาลงเล็กน้อย
โหมวหยางหันมองทางคนที่รายงานข่าวอีกครั้ง
“เจ้ากลับไปบอกพวกเขา ตอนนี้เผ่าของพวกเรากำลังจัดงานหมื่นคีรีอยู่ ทุกอย่างวุ่นวายมาก ไม่สะดวกที่จะต้อนรับ”
หากเป็นคนอื่นที่มาจากเผ่าหงส์ทองคำและได้เดินทางเข้ามาอย่างบุ่มบ่ามเช่นนี้ เขาไม่มีทางเกรงใจเช่นนี้แน่นอน
แต่ตอนนี้หงส์ทองคำตัวนั้นเป็นสัตว์อสูรในพันธสัญญาของซั่งกวนเยว่ อีกทั้งยังอ่อนเยาว์มาก หากใช้ไม้แข็งโดยตรง และเรื่องนี้ได้แพร่กระจายออกไป เกรงว่าคนนอกจะมองว่าเขาเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก
“ขอรับ!”
คนผู้นั้นรับคำสั่ง และรีบจากไปในทันที
อย่างใดก็ตามสีหน้าของทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็แตกต่างกันออกไปในทันที
โหมวหยางไม่สามารถหาเหตุผลที่ชัดเจนได้ แล้วยิ่งเป็นพวกเขาล่ะ?
ความจริงแล้วพวกเขาอยากจะเข้าไปสืบความให้ละเอียด ว่านี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่
โหมวหยางยกมือขึ้น
“ใครก็ได้พาตัวทั้งสองคนนี้ไปที่ยอดเขาสัตตบงกช ภายในช่วงเวลาสั้นๆ เกรงว่าจะต้องทำให้พวกเจ้าสองคนลำบากใจแล้ว แต่พวกเจ้าคิดตกเมื่อใด พวกเราค่อยมาพูดคุยกันอีกที”
ทันทีที่สิ้นเสียงนั้น ผู้ชายสองคนรูปร่างสูงใหญ่ที่อยู่ด้านข้างก็เดินเข้ามาทันที
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
นี่ต้องการจะกักบริเวณพวกเขาหรือ!
ตอนที่นางกำลังจะพูดอันใดบางอย่าง หรงซิวก็ยื่นมือมาแตะฝ่ามือของนางอย่างอ่อนโยน
หัวใจของฉู่หลิวเยว่สั่นไหวในทันที จากนั้นก็หันหน้าไปมองหน้าอีกฝ่าย
ดวงตาหงส์ของหรงซิวลึกล้ำและกระจ่างใส มองไม่เห็นสัญญาณใดๆ เลย
นางกลืนคำพูดที่เหลือกลับลงคอ
หรงซิวมองทางโหมวหยาง แล้วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า
“ช่วงเวลานี้ก็รบกวนท่านด้วยนะขอรับ”
หน้าอกของโหมวหยางรู้สึกหนักอึ้งขึ้นมา
เมื่อเห็นท่าทางของหรงซิวแล้ว เหมือนว่าเขาจะไม่ได้สนใจกับแรงคุกคามที่มาถึงตนเองเลยแม้แต่น้อย เขาทำตัวเหมือนเป็นแขกที่กำลังได้รับการต้อนรับอย่างใดอย่างนั้น!
ภายใจของโหมวหยางรู้สึกรังเกียจขึ้นมาหลายส่วน
ไม่ว่าจะเป็นหรงซิว หรือซั่งกวนเยว่ เหมือนว่าเขาจะไม่สามารถควบคุมอีกฝ่ายได้เลย
เรื่องนี้ทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก
เขาแค่นหัวเราะขึ้น
“ข้าหวังว่าพวกเจ้าทั้งสองจะคิดตกได้เร็ววันนี้ ท้ายที่สุดแล้วที่ด้านนอกก็มีคนกำลังรอพวกเจ้าอยู่”
…
ด้านนอกเกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์
ถวนจื่อและคนอื่นๆ เดินทางมาโดยตลอด จนในที่สุดก็มาถึงที่แห่งนี้
ในตอนนี้พวกเขากำลังยืนอยู่บนชายฝั่งทอดยาวที่ดูเหมือนไม่มีจุดสิ้นสุด
ด้านหน้าของพวกเขาคือ ท้องทะเลสีครามไกลสุดลูกหูลูกตา!
บริเวณตำแหน่งฟ้าดินบรรจบกันมีม่านพลังขนาดใหญ่กางอยู่
แรงกดดันที่เข้มข้น!
ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าที่แห่งนั้นคือเกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์!
ถวนจื่อมองไปทางนั้นบ้างเป็นบางครั้ง ซั่งกวนจิ้งและคนอื่นๆ มีสีหน้าตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย
หากต้องการพาใครสักคนออกจากเกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์ เกรงว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องยากอย่างมาก!
ในขณะเดียวกันนั้นเอง มีเงาร่างสายหนึ่งพุ่งตัวออกมาจากม่านพลังแห่งนั้น!
พวกเขาทั้งหลายรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก! และตื่นตระหนกขึ้นมาในทันที!