ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1751 จุดอ่อน
ตอนที่ 1751 จุดอ่อน
………………..
หรงซิวใช้เวลาหนึ่งชั่วยาม ถึงจะสามารถรวบรวมคราบเลือดทั้งหมดได้
แน่นอนว่าเขาต้องการเพียงเลือดของคนที่ถูกขังในปีนั้น
ส่วนที่เหลือเขาไม่ต้องการ
เม็ดเลือดขนาดเท่ากำปั้นลอยอยู่ด้านหน้าของพวกเขาทั้งสองคน
แรงกดดันอันแข็งแกร่งที่ยากจะอธิบายแผ่กระจายออกมาจากบนนั้น ซึ่งมันน่าตกใจเป็นอย่างมาก!
ลำแสงส่องประกายจาง ๆ ลำแสงนั้นดูงดงามและอันตรายอยู่หลายส่วน
ฉู่หลิวเยว่ถามขึ้นเสียงต่ำว่า
“ต่อไปควรจะทำอย่างใด?”
หรือว่ามรดกเช่นนั้นจะอยู่ภายในเลือดเหล่านี้?
แต่ว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไร…
ในตอนนั้นเองระลอกคลื่นสายหนึ่ง แผ่กระจายออกมาจากตันเถียนของฉู่หลิวเยว่
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปเล็กน้อย
การเคลื่อนไหวนี้มาจากจื่อเฉิน
ตรงหน้ามีแสงสีดำวูบไหว เงาร่างสูงใหญ่สีดำปรากฏขึ้นภายในถ้ำ!
“จื่อเฉิน?”
น้อยครั้งมากที่จื่อเฉินจะออกมาด้วยตนเองเช่นนี้ นั่นจึงทำให้ฉู่หลิวเยว่รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
แต่อย่างไรก็ตามจื่อเฉินกลับจ้องเลือดกลุ่มนั้นตาเขม็งพร้อมกับสีหน้าที่จริงจัง
“…เจ้ามองสิ่งใดออกอย่างนั้นหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ถามขึ้น
จากนั้นจื่อเฉินก็อธิบายว่า
“แน่นอนว่านี่ไม่ได้เป็นเลือดของบรรพบุรุษ หมายความว่าภายในเลือดเหล่านี้น่าจะมีพลังของบรรพบุรุษท่านนั้นอยู่”
จื่อเฉินเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า
“หากข้าเดาไม่ผิดแล้วละก็…นี่น่าจะเป็นพลังของมรดกแห่งบรรพบุรุษที่คนผู้นี้ได้รับในตอนนั้น”
ทันทีที่สิ้นเสียง ภายในถ้ำก็ปกคลุมด้วยความเงียบ
ตอนที่ฉู่หลิวเยว่ได้ยินจื่อเฉินพูดประโยคแรก นางก็รู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างผิดปกติไปแล้ว
เมื่อได้ยินคำอธิบายของเขา นางก็ยิ่งตกใจมากขึ้นกว่าเดิม!
หรงซิวเงียบไปครู่หนึ่ง ใบหน้ามีรอยยิ้มขี้เล่นปรากฏขึ้นมา
“ด้านนอกเล่ากันว่า เขาได้รับมรดกที่ล้ำค่าและแข็งแกร่งมากชิ้นหนึ่งมา ข้าก็แค่คิดว่าน่าจะเป็นผู้อาวุโสสักท่าน แต่คิดไม่ถึงว่า…จะเป็นบรรพบุรุษ…”
จื่อเฉินพยักหน้า
ภายในร่างกายของมันมีพลังไท่ซวีเฟิ่งหลง จะต้องไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอน
ลมปราณนี้ มีแรงกดดันแบบเดียวกับเสียงมังกรคำรามที่พวกเขาได้ยินก่อนหน้านี้!
“หากเป็นเช่นนี้แล้วละก็ นั่นก็น่าสนุกแล้ว”
มุมปากของหรงซิวยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ในดวงตาหงส์เหมือนว่าจะมีระลอกคลื่นสาดซัดขึ้นมา
“ได้รับมรดกจากบรรพบุรุษไท่ซวีเฟิ่งหลง ก็เท่ากับว่าเขาเป็นทายาทที่ได้รับการแต่งตั้งจากบรรพบุรุษ พลังแห่งสายเลือดจะต้องยอดเยี่ยมมากที่สุด แล้วเขาจะธาตุไฟเข้าแทรกได้อย่างใด?”
ฉู่หลิวเยว่เหลือบสายตาหันไปมองถวนจื่อโดยไม่รู้ตัว
ถูกต้อง!
อสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับบรรพกาลทั้งสองให้ความสำคัญกับพลังแห่งสายเลือดมาก อีกทั้งเขายังได้รับการคุ้มครองจากบรรพบุรุษเป็นอย่างดี
ยังดีที่ถวนจื่อ แม้ว่าจะมีฐานะทั่วไป แต่หลังจากได้รับการยอมรับจากบรรพบุรุษแล้ว ท่าทางของเผ่าหงส์ทองคำทั้งเผ่าก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
แต่เป็นเพราะว่าบรรพบุรุษเลือกนางด้วยตัวเอง
คนที่มีพลังแห่งสายเลือดแข็งแกร่งขนาดนี้ อีกทั้งยังเป็นคนที่ได้มรดกจากบรรพบุรุษ ทำไมถึงทำเรื่องบ้าคลั่งอย่างการทำร้ายคนในเผ่าพันธุ์ตนเองได้ล่ะ?
“ดูเหมือนว่าเรื่องในปีนั้นจะมีเงื่อนงำสิ่งใด…เขาได้รับมรดกจากบรรพบุรุษแล้ว เรื่องสำคัญแบบนี้ คาดไม่ถึงว่าจะยังมิมีใครรู้?”
หรงซิวพูดพร้อมหัวเราะเสียงเบา
“ไม่ใช่ว่ามีคนรู้แล้ว แต่คนผู้นั้น…กลับฝังเรื่องนี้ให้กลายเป็นความลับตลอดกาลหรอกมั้ง”
แสงหนึ่งสว่างวาบเข้ามาในสมองของฉู่หลิวเยว่
“โหมวหยาง!”
จะต้องเป็นเขาแน่นอน!
หากเป็นเช่นนี้แล้วละก็ ก็อธิบายได้ไม่ยาก ว่าเหตุใดภายในถ้ำแห่งนี้ถึงมีคราบเลือดของเขาอยู่ด้วย!
แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ หลังจากคนผู้นั้นถูกสังหาร คนที่ได้ขึ้นเป็นประมุขเผ่าคือโหมวหยาง!
คนที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากเรื่องนี้ จะไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรเลยได้อย่างไร?
เขาสามารถปกปิดคนทั้งเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงได้อย่างแนบเนียน!
“แต่เมื่อผ่านมาหลายปีขนาดนี้แล้ว คนของเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงกลับไม่พบเบาะแสอันใดเลยอย่างนั้นหรือ?”
ยอดเขาสัตตบงกชแห่งนี้ ถ้ำแห่งนี้ คราบเลือดเหล่านี้!
ในเมื่อจื่อเฉินก็ยังสามารถสังเกตเรื่องเหล่านี้ได้ ถ้าเช่นนั้นคนของเผ่าเขาก็น่าจะสัมผัสได้ด้วยเช่นกัน
เหมือนกับหรงซิวสามารถคาดเดาความคิดของนางได้ ดังนั้นจึงพูดอธิบายขึ้นมาว่า
“แน่นอนว่าที่แห่งนี้จะต้องมีคนมาทำสิ่งใดสักอย่างแล้ว จำได้หรือไม่ว่าตอนก่อนที่จะเข้ามา ข้าได้จุดไฟเผาทางเข้าไปแล้วรอบหนึ่ง?”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า
“นั่นจะต้องมีของสิ่งใดบางอย่างที่โหมวหยางทิ้งเอาไว้อย่างแน่นอน และน่าจะเป็นเพราะเหตุนี้ หลายปีที่ผ่านมานั้นจึงไม่มีใครสังเกตเห็นถึงความลับของที่แห่งนี้เลย”
เขาไม่อยากให้มีคนพบเรื่องเหล่านี้ แล้วใครจะสามารถค้นพบมันได้?
ใครกันจะกล้าแตะต้องพลังที่เขาทิ้งเอาไว้?
แต่หรงซิวนั้นแตกต่างออกไป
เมื่อเขาเข้ามา เขาก็ลงมือทันทีอย่างไม่ไว้ไมตรี
กอปรกับมีจื่อเฉินอยู่ด้วย ความลับนี้จึงถูกเปิดเผยออกมา
โหมวหยางคงจะคิดแค่เพียงว่า การที่จะขังพวกเขาไว้ที่นี่ เพื่อเป็นการข่มขู่ให้พวกเขาหวาดกลัว แต่พวกเขากลับสามารถขุดความลับที่ซ่อนเอาไว้เป็นพันปีออกมาได้!
หากเรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกไป เกรงว่าโหมวหยางจะไม่สามารถดำรงตำแหน่งประมุขได้อีกต่อไปแล้ว!
เมื่อเปรียบเทียบกับบรรพบุรุษแล้ว ประมุขเผ่านับว่าเป็นตัวอะไรได้?
เกรงว่าทั่วทั้งเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงจะต้องหันมาโจมตีเขาแทน!
ในตอนนั้นเองจื่อเฉินก็เดินสาวเท้าขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“พวกเจ้าถอยลงไป”
ฉู่หลิวเยว่และหรงซิวหันมองหน้ากัน จากนั้นก็เดินถอยหลังลงไปหนึ่งก้าว
พรึ่บ!
ปีกทั้งสองข้างของจื่อเฉินสยายออกในทันที!
จากนั้นฉู่หลิวเยว่ก็มองเห็นในทันทีว่า บนปีกทั้งสองข้างของมันมีลำแสงจางๆ ปรากฏอยู่!
นั่นมันพลังและกระดูกของไท่ซวีเฟิ่งหลง!
หลังจากนั้นเลือดก้อนนั้นก็ค่อยๆ ลอยไปทางจื่อเฉิน
ก่อนจะแบ่งออกเป็นสองส่วนและสลายไปในปีกทั้งสองข้างของมัน!
ตู้ม!
พื้นดินใต้ฝ่าเท้า สั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรง!