ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1766 เสียงฉินดังขึ้น
ตอนที่ 1766 เสียงฉินดังขึ้น
………………..
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมาในทันที นางรู้สึกสับสนกับภาพเหตุการณ์ตรงหน้า
นางวางโล่สีดำไว้ตรงหน้าของนางทันที โดยมันสามารถบดบังเงาร่างของนางได้อย่างมิดชิด!
ตึงๆ!
นางได้ยินเสียงกระแทกอย่างรุนแรง เลือดสีแดงเข้มค่อยๆ ไหลออกจากมุมปากของฉู่หลิวเยว่
เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว…
ฉู่หลิวเยว่คิดในใจ
“ซั่งกวนเยว่ เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า หากเจ้าออกมาในตอนนี้ แล้วคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนชีวิตต่อเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงของข้า บางทีข้าจะทำให้ศพของเจ้านั้นได้อยู่อย่างสมประกอบ!”
โหมวหยางตะโกนขึ้นเสียงเย็น!
มุมปากของฉู่หลิวเยว่โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะเย้ย
ยังไม่ทันชนะเลย! แต่พูดจาคุยโวโอ้อวดเสียแล้ว!
นางหลับตาลง ความคิดมากมายนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นภายในสมอง มือก็กระชับกระบี่ในมือแน่นขึ้น
อักขระบนกระบี่นั้นแทบจะสลักลงกลางฝ่ามือของนาง
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป นางต้องต้านทานไม่ไหวแน่นอน
นางเลียริมฝีปากของตัวเอง กลิ่นคาวเลือดที่ติดมานั้นยังคงฉุนจมูกอยู่
แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นเพียงหุ่นเชิด แต่มันก็เป็นหุ่นเชิดของโหมวหยาง
หากนางต้องการจะเอาชนะ เกรงว่าวิธีก่อนหน้านี้จะไม่ได้ผล
นางจำเป็นต้องคิดหาวิธีอื่น…
ฉู่หลิวเยว่ยืนอยู่ด้านหลังโซ่สีดำอันนั้น ซึ่งทำให้โหมวหยางทั้งกรุ่นโกรธและดูแคลน
แต่นางสามารถหลบได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น จะสามารถอยู่อย่างนี้ตลอดไปได้งั้นหรือ?
อีกทั้งยังสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว!
นี่ถือว่าเขาเป็นอมตะแล้ว!
ซั่งกวนเยว่จะเอาอะไรไปสู้กับเขาได้!
ภายในท้องพระโรง สัญลักษณ์ระหว่างคิ้วของโหมวหยางก็สว่างขึ้นเรื่อยๆ
ลมปราณบนร่างกายของเขาก็เพิ่มมากขึ้นจนน่าตกใจ!
เหล่าผู้อาวุโสที่เห็นเหตุการณ์เหล่านี้ก็ลอบส่งสายตากันไปมา จากนั้นก็เข้าใจว่าครั้งนี้ท่านประมุขโกรธจริงๆ แล้ว
และเขาตั้งใจว่าจะปลิดชีวิตคนผู้นั้น!
…
“ไม่รู้จักชั่วดี”
หุ่นเชิดตัวนั้นพ่นคำพูดเหล่านั้นออกมาอย่างเย็นชา
ใบหน้าไร้อารมณ์ ดวงตาว่างเปล่า แต่ฉู่หลิวเยว่ก็ยังสามารถจับน้ำเสียงประชดประชันและดูแคลนของอีกฝ่ายได้
เขาเดินไปด้านหน้า จิตสังหารท่วมท้นร่างกาย!
สำหรับโหมวหยางแล้ว ในตอนนี้ฉู่หลิวเยว่ก็เหมือนกับมดปลวกตัวหนึ่ง
เขาสามารถฆ่านางได้อย่างง่ายดายด้วยนิ้วเดียว
ดังนั้นเขาจึงไม่เห็นฉู่หลิวเยว่อยู่ในสายตาเลย
“ถ้าในตอนแรกพวกเจ้ายินดีที่จะลบความทรงจำทิ้ง แล้วมันจะมีวันนี้ได้อย่างใด?”
โหมวหยางเชื่อมาตลอดว่าพวกมนุษย์เป็นพวกโง่เง่า
โดยเฉพาะหรงซิวและซั่งกวนเยว่
ฉู่หลิวเยว่หลับตาลง
“ข้ารู้ว่าฐานะของเจ้านั้นไม่ธรรมดา พระชายาแห่งพระราชวังเมฆาสวรรค์ ศิษย์สายตรงแห่งสำนักหลิงเซียว…ทั่วทั้งอาณาจักรเสิ่นซวี่ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่กล้ายั่วยุเจ้า แต่น่าเสียดายครั้งนี้เจ้ามาเยือนผิดถิ่นแล้ว เจ้ามาล่วงเกินคนที่ไม่สามารถล่วงเกินได้!”
ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งนี้หรงซิวและซั่งกวนเยว่ก็ได้ทำความผิดเอาไว้ต่อหน้าต่อตา ต่อให้หลังจากนี้สำนักหลิงเซียวและพระราชวังเมฆาสวรรค์จะคิดหาเรื่องกับเขา พวกเขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะมาโต้แย้งได้!
ดังนั้น ทั้งสองคนนี้จะต้องถูกเขาฆ่าอย่างแน่นอน!
ขณะที่หุ่นเชิดกำลังสาวเท้าไปด้านหน้าทีละก้าว บนพื้นก็มีรอยแตกร้าวปรากฏขึ้น!
หมอกสีม่วงดำลอยอยู่กลางอากาศ
ถวนจื่อมองมาทางนี้ด้วยความตื่นตระหนก หัวใจของนางเหมือนถูกอะไรบางอย่างบีบรัดจนแน่น
นางต้องการจะเดินออกมา แต่เมื่อนึกถึงคำสั่งของฉู่หลิวเยว่ก่อนหน้านี้ นางก็ทำได้เพียงยืนอยู่ที่เดิมและเฝ้าม่านพลังนี้ไม่ไปไหน
ในที่สุดหุ่นเชิดตัวนั้นก็ยืนอยู่ห่างจากฉู่หลิวเยว่ไปสามก้าว
เขายื่นมือออกมาแล้วผลักความว่างเปล่า!
โล่สีดำปลิวลอยกระเด็นออกไปในทันที!
ร่างของฉู่หลิวเยว่ถูกเปิดเผยต่อสายตาอีกฝ่ายในทันที
ในตอนนั้นนางไม่ได้หนี แต่กลับนั่งขัดสมาธิ ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิท
มุมปากมีคราบเลือดไหลออกมา ทำให้ริมฝีปากของนางเป็นสีแดงสด แต่ใบหน้ากลับซีดขาว
สถานการณ์ของนางดูย่ำแย่เป็นอย่างมาก
หุ่นเชิดตัวนี้มีสีหน้าไร้อารมณ์ พร้อมพลิกข้อมือกลับ
แส้ยาวสีม่วงทองสายหนึ่งปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือของเขาอย่างกะทันหัน
ลักษณะของแส้เส้นนั้นแปลกประหลาดอย่างมาก มันประกอบด้วยเกล็ดหลายชั้น เมื่อมองไปแล้วก็มีลักษณะคล้ายกับหางมังกรของไท่ซวีเฟิ่งหลง
“ตายซะ!”
โหมวหยางตะโกนขึ้นเสียงดัง แส้ยาวนั้นถูกสะบัดขึ้นอย่างรุนแรง! แล้วพุ่งเข้าใส่ฉู่หลิวเยว่ในทันที!
ไม่ว่าแค่ยาวนั้นจะผ่านไปที่ใด ทุกพื้นที่ก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ราวกับจะพังทลายลงมาให้ได้!
เส้นผมที่ปรกหน้าผากของฉู่หลิวเยว่พลิ้วไหวไปตามแรงลม
หากโดนแส้เส้นนี้โจมตี ถ้าไม่ตายก็ต้องพิการเป็นแน่!
“อาเยว่!”
ถวนจื่อเบิกตากว้างและกำลังจะพุ่งตัวออกไป!
หรงซิวก็ขยับฝ่ามือเล็กน้อย เปลวเพลิงสีดำในดวงตาก็ลุกโชนขึ้นมาในทันที!
แต่ในขณะเดียวกันนั้นเองเสียงฉินก็ดังขึ้น!
เสียงฉินอ้างว้าง ดังขึ้นอย่างเดียวดาย!
แต่เสียงนั้นทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนตกอยู่ในทะเลเลือดอย่างกะทันหัน ราวกับว่ามีจิตสังหารปกคลุมอยู่มืดฟ้ามัวดิน ทั่วทั้งฟ้าดินมีเพียงจิตสังหารที่โบราณเหล่านี้!
ตอนที่ถวนจื่อเพิ่งจะถอนฝีเท้ากลับมา ดวงตากลมโตราวกับลูกองุ่นดำก็เบิกกว้างขึ้น ก่อนจะหันไปมองทางฉู่หลิวเยว่ด้วยความตกใจอย่างยิ่ง
เงาร่างผอมเพรียวระหงของหญิงสาว ในตอนนี้กำลังอยู่ในท่านั่งขัดสมาธิ แผ่นหลังตั้งตรง
ผมสีดำห้อยระย้าลงมา ทำให้นางดูบอบบางอย่างมาก
ใบหน้าของนางซีดเผือด ราวกับว่าจะล้มอยู่ตลอดเวลา
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อนางลืมตาขึ้น ดวงตากลับสว่างกระจ่างใสเป็นอย่างมาก! จิตวิญญาณในการต่อสู้ก็ลุกโชน!
ลมปราณอันมหาศาลที่ไม่สามารถดูหมิ่นได้แพร่กระจายออกมาจากร่างของนางอย่างรวดเร็ว!
ในตอนนี้นางคว่ำฝ่ามือทั้งสองข้างลง
ปลายนิ้วเรียวยาวราวกับหยกขยับไปมา เสียงฉินก็ดังขึ้น!
ประกายแสงสีทองคำชาดก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือของนาง!
ฟิ้ว!
แส้ยาวสีม่วงทองเส้นนั้นก็ถูกตัดขาดครึ่งไปในทันที!
………………..