ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1790 รายชื่อเชิญแขก
ตอนที่ 1790 รายชื่อเชิญแขก
………………..
เมื่อก่อนการเผชิญหน้ากับสายตาคนจำนวนมากมายขนาดนั้น ทั้งสายตาที่ดูสอดส่องและตั้งคำถาม ฉู่หนิงล้วนจัดการได้อย่างใจเย็น บัดนี้เมื่อเผชิญหน้ากับคนตรงหน้าอย่างซั่งกวนโหยว เขากลับตื่นตระหนกขึ้นมาในทันที
ความตื่นตกใจนี้สาเหตุหลักเป็นเพราะสถานะของฝ่ายตรงข้ามที่พิเศษเกินไป
…เขาคือเสด็จพ่อของเยว่เออร์!
หลังจากได้รู้สถานะที่แท้จริงของเยว่เออร์ เขาก็เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน
ในขณะที่ได้พบกันเขารู้สึกว่ายิ่งน่าอึดอัดกว่าที่คาดคิดไว้เสียอีก
ฉู่หนิงไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสถานะของซั่งกวนโหยวที่อยู่ตรงหน้านั่น
อย่างไรก็ตามเมื่อซั่งกวนโหยวได้ยินเข้ากลับถอยหลังไปครึ่งก้าวทันที และคาราวะฉู่หนิงอย่างลึกซึ้ง
ฉู่หนิงตกตะลึงชั่วครู่และเอ่ยขึ้นในทันที
“มิได้!”
สถานะของซั่งกวนโหยวสูงกว่าเขา อีกทั้งเขายังเป็นพ่อที่แท้จริงๆ ของเยว่เออร์
คาราวะเช่นนี้ เขามิอาจรับไว้ได้จริงๆ
อย่างไรก็ตามซั่งกวนโหยวกลับยืนหยัดที่จะคาราวะเขาอย่างเต็มใจ
หลังจากคาราวะเรียบร้อย เขาจึงลุกขึ้น และเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงใจว่า
“ฉู่หนิง ก่อนหน้านี้ขอบใจเจ้ามากที่ดูแลเย่วเออร์มาตลอด”
เขารู้ว่าเยว่เออร์เกิดเรื่องขึ้นมากมายในช่วงเวลาสั้นๆ ที่นางอยู่ในแคว้นฉิน
หากไม่ได้ฉู่หนิงช่วยปกป้องนางเอาไว้ เกรงว่าเยว่เออร์จะได้รับความความลำบากไม่รู้มากมายเพียงใด
ตอนที่เขานอนไม่ได้สติอยู่ในพระราชวังเทียนลิ่ง เป็นเพราะฉู่หนิงที่ให้บ้านแก่เยว่เออร์
ฉู่หนิงสำหรับเขานั้นมีเพียงความรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างหาที่สุดมิได้
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ฉู่หนิงรู้สึกซาบซึ้งใจขึ้นมาอย่างท่วมท้น
“ฉู่หนิง เยว่เออร์มีพ่อแบบท่านเช่นนี้ ช่างเป็นความโชคดีของนางอย่างแท้จริง”
ซั่งกวนโหยวตอบกลับอย่างจริงจัง
ฉู่หนิงชะงักไปครู่หนึ่ง และหันหน้าไปทางซั่งกวนโหยวอย่างกระทันหัน
คำพูดเช่นนี้ของเขาหมายความว่า…
เมื่อเห็นสีหน้าของฉู่หนิง ในส่วนลึกของหัวใจฉู่หลิวเยว่ราวกับมีอะไรเอ้อล้นขึ้นมา เกือบจะทำให้นางจมดิ่งลงไป
นางจับมือของฉู่หนิงเอาไว้และเอ่ยขึ้น
“ท่านพ่อ ก่อนหน้านี้ข้าเคยพูดกับเสด็จพ่อแล้วว่า ไม่ว่าข้าจะเป็นใคร ข้ายังคงเป็นลูกสาวของท่านเสมอ”
นางได้ครอบครองร่างที่แท้จริงของฉู่หลิวเยว่
เช่นนั้นนางก็ยังเป็นลูกสาวของฉู่หนิง
ไม่ว่านางจะเป็นฉู่หลิวเยว่หรือซั่งกวนโหยว่ก็ตาม
ไม่ว่าโจ๊กที่เคยต้มให้นาง ทั้งความห่วงใยที่มีให้นางมาตลอด อีกทั้งความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยว ที่ไว้ค่อยปกป้องนางครั้งแล้วครั้งเล่าก็ตาม
เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
นางเป็นลูกสาวของเสด็จพ่อและเป็นเยว่เออร์ของท่านพ่อด้วยเช่นกัน
ฉู่หนิงรู้สึกราวกับมีบางสิ่งจุกอยู่อกของเขา
เขาจ้องมองฉู่หลิวเยว่และมองไปทางซ่างกวนโหยวอีกครั้ง
สีหน้าท่าทางที่แสดงออกมาของพวกเขาช่างดูจริงใจเช่นนี้ เกือบจะทำให้เขานึกว่ากำลังอยู่ในความฝันเสียอีก
ครั้งหนึ่งเขาเคยคิดว่าตนเองจะสูญเสียเยว่เออร์ไป
ในท้ายที่สุดกลับคิดไม่ถึงเลยว่า…
“ท่านพ่อ ท่านไม่ต้องการเยว่เออร์แล้วใช่มั้ย เจ้าคะ”
ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาและถามขึ้นว่า
“ขอเพียงแค่เยว่เออร์นึกถึง พ่อจะอยู่ข้างๆ เจ้าเสมอ!”
เมื่อพูดคำนี้ออกมา ก้อนที่อยู่ในอกของฉู่หนิงกลับสลายไปในทันที
ทันใดนั้นเหมือนว่าบนตัวของเขารู้สึกราบรื่นและสบายใจขึ้น
ควรเป็นเช่นนี้!
ไม่ว่าอย่างไร หลังจากนี้เขาจะยังรักเยว่เออร์เช่นนี้ตลอดไป!
เมื่อเห็นฉู่หนิงปล่อยว่างลงได้จริงๆ ฉู่หลิวเยว่ก็เบาใจลงไม่น้อย
ได้รับความรับจากท่านพ่อทั้งสอง ช่างเป็นความโชคดีและความสุขใจที่สุดของนางแล้ว
…
หรงซิวที่มองดูอยู่ทางด้านข้าง เผยให้เห็นรอยยิ้มที่ดูสดใสสง่างามนั่น
เห็นนางรู้สึกดีใจเช่นนี้ แน่นอนว่าเขาย่อมรู้สึกดีใจกับนางไปด้วย
แม้ว่าจะมีเรื่องพลิกผันไปมาอยู่ตลอด ทว่าบัดนี้นับว่าทุกเรื่องได้ถูกแก้ไขและเติมเต็มจนสมบูรณ์เหมือนเดิม
เขามองออกว่านางพอใจอย่างมากจริงๆ
หลังจากรอพวกเขากล่าวทักทายกันสองสามประโยคแล้ว หรงซิวจึงเอ่ยขึ้นว่า
“บัดนี้เมื่อทุกอย่างได้คลี่คลายลงแล้ว อีกทั้งญาติผู้ใหญ่ทุกท่านล้วนอยู่ด้วยกันที่นี่ เช่นนั้นก็เริ่มเตรียมพร้อมงานอภิเษกสมรสได้!”
ผู้อาวุโสทุกท่านต่างเดาถึงแผนการนี้ของเขาออกตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นเมื่อได้ยินคำพูดนี้จากเขา จึงไม่ได้มีท่าทีประหลาดใจมากนัก และทุกคนต่างเห็นด้วยกับเรื่องนี้
อันที่จริงแล้วหรงซิวได้สั่งให้คนเริ่มเตรียมการเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นแม้ว่าจะเป็นการประกาศที่ค่อนข้างกระทันหันไปหน่อยก็ตาม แต่คนในพระราชวังเมฆาสวรรค์ก็ยังคงเตรียมการทั้งหมดได้อย่างดีภายในเวลาอันสั้นนี้
หรงซิวกำชับรายละเอียดงานสองสามคำ แทบจะไม่ให้ขาดตกบกพร่องในรายละเอียดต่างๆ
หลังจากนั้นผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกจึงเอ่ยถามขึ้น
“องค์ชาย ผู้ที่จะเชิญมางานอภิเษกสมรส…”
หรงซิวส่งรายชื่อส่วนหนึ่งให้กับเขา
หากว่ากันตามตรงแล้วรายชื่อแขกนี้ควรจะเป็นการตัดสินใจหรือมาปรึกษาหารือร่วมกันระหว่างเหล่าผู้อาวุโส แต่นึกไม่ถึงว่าองค์ชายจะเป็นคนเขียนรายชื่อเองจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว
คงไม่ต้องการรอนานอีกแล้วจริงๆ…
ขณะที่ผู้อาวุโสหมิงคิดไปพลางและเปิดรายชื่อไปพลาง
ระหว่างที่อ่านรายชื่ออยู่นั้น ทันใดนั้นนัยต์ตาของเขาก็เบิกโพลงขึ้น และมองไปยังหรงซิวด้วยสีหน้าตื่นตกใจ
“องค์ชาย นี่…”
ทุกคนรอบๆ ข้างต่างหันมามองและเผยให้เห็นสายตาสงสัยใคร่รู้
สามารถทำให้ผู้เฒ่าหมิงที่สามสิบหกที่สุขุมใจเย็นมีปฏิกิริยารุนแรงเช่นนี้ได้ แสดงว่ารายชื่อนั่นจะต้องมีเรื่องอะไรพิเศษเป็นแน่?
เขารู้สึกได้ถึงสายตาเหล่านั้น ผู้อาวุโสหมิงที่สิบสามกลืนน้ำลายและพยายามเอ่ยถามขึ้นอย่างนุ่มนวล
“องค์ชาย จำนวนคนผู้นี้…ไม่มากเกินไปใช่หรือไม่”
องค์ชายรายชื่อนี้เป็นเรื่องล้อเล่นใช่หรือไม่
พวกสำนักตระกูลจงที่มีความสัมพันธ์อันนี้กับพระราชวังเมฆาสวรรค์ก็เพียงพอแล้วและยังจะมีพวกที่ความสัมพันธ์ไม่ค่อยดีเท่าไร ยิ่งไปกว่านั้นยังจะมีพวกที่เคยมีปัญหากับเขานั่นเหล่าอีก!
แผนการนี้ขององค์ชายเพื่อต้องการเชิญทุกคนทั้งหมด รวมทั้งบรรดาบุคคลสำคัญในอาณาจักรเสิ่นซวีมาร่วมงาน
“มากไปรึ ข้าไม่เห็นจะรู้สึกเช่นนั้น เดิมที่การจัดงานอภิเษกสมรสก็ควรจะคึกคักหน่อยมิใช่หรือ
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกอ้ำอึ้งไปชั่วขณะ
องค์ชายพูดเช่นนี้…
ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรไม่ถูกต้อง
เป็นไปได้ว่าบางคนในรายชื่อนี้อาจะไม่สะดวกใจมา ถ้าหากมากันจริงๆ แล้วล่ะก็ ไม่แน่อาจะยิ่งยุ่งยากกว่าเดิม…
ราวกับว่าอ่านใจเขาออก หรงซิวยกริมฝีปากบางขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า
“ในชีวิตนี้ของข้าจะแต่งานแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แน่นอนว่าข้าต้องจัดการทุกอย่างให้ออกมาดีที่สุด เพื่อประกาศให้ใต้หล้าได้รับรู้”
เขาต้องการให้ทุกคนในอาณาจักรเสิ่นซวี่รับรู้ทั้งหมดว่า
เยว่เออร์ เป็นของเขา!
………………..