ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1841 ไสหัวไป
ตอนที่ 1841 ไสหัวไป
………………..
นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้น!
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วขึ้นเป็นปม จากนั้นก็หันมองทิศทางนั้นด้วยความตกใจระคนสงสัย
ก่อนหน้านี้ยังดีๆ อยู่เลย เหตุใดมันถึงระเบิดขึ้น…อย่างกะทันหันเช่นนี้เล่า?
ไม่ว่าจะเป็นการบำเพ็ญเพียร หรือว่าหลอมอาวุธ นางก็ไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน
แต่เมื่อคิดถึงเรื่องราวเช่นนี้ได้ในตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว!
ทัณฑ์สวรรค์ที่มุ่งหน้ามาทางพวกเขาอย่างน้อยก็มีหลายสิบสาย หากพวกมันปะทะกันขึ้นมา เกรงว่าสือซานคง…
กว่าจะรอมาถึงตอนนี้ก็ยากลำบาก ฉู่หลิวเยว่จะยินยอมให้ความพยายามก่อนหน้านี้สูญเปล่าได้อย่างใด
ม่านพลังที่สร้างจากปราณกระบี่ ภายใต้แรงระเบิดที่โจมตีอย่างรุนแรงเช่นนี้ มันจึงเริ่มสั่นไหวไปมา!
เกรงว่าอีกไม่นานก็คงจะถูกโจมตีจนพังทลาย…
ฉู่หลิวเยว่กระชับกระบี่ชื่อเซียวที่อยู่ในมือแน่น!
ในตอนนั้นเองเงาร่างหลายสายก็พุ่งตัวออกมาจากด้านหลังหุบเขานั้น พวกเขาหนีกันกระเจิดกระเจิง!
ดวงตาของฉู่หลิวเยว่หรี่ลงเล็กน้อย แล้วจ้องมองไปทางนั้นตาเขม็ง
ตอนนี้คนที่ถูกเรียกว่า “เหล่าซาน” ก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย
ท่าทางกำเริบเสิบสานอย่างเช่นตอนแรกหายไปอย่างหมดสิ้นแล้ว สิ่งที่เข้ามาแทนที่คือความหวาดกลัวและลนลาน!
ตอนนี้ยังมีคนสำนักกระบี่ทมิฬอีกสองสามคน ซึ่งนางตัดสินจากเสื้อผ้าของพวกเขา
บนร่างกายของพวกเขาเหมือนจะเปรอะเปื้อนไปด้วยสี มีคนหนึ่งแขนขาดไปแล้ว
นี่มัน…
เกิดจากการเคลื่อนไหวเมื่อครู่นี้หรือ?
ตอนที่ความคิดนั้นปรากฏขึ้นมาในสมองของนาง ทัณฑ์สวรรค์เหล่านั้นก็มาอยู่ตรงหน้าของพวกเขาแล้ว!
เฉินอีสะบัดชายเสื้อของตนเอง ม่านพลังสีเขียวอ่อนเข้าปกคลุมที่ม่านพลังจากปราณกระบี่ของฉู่หลิวเยว่
ม่านพลังประสานกันสองชั้น พลังก็แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ม่านพลังที่เคยสั่นคลอนก็มั่นคงมากขึ้นไม่น้อย
ฉู่หลิวเยว่เหลือบสายตามองทางเฉินอี
ไม่ได้เจอกันมานานขนาดนี้ ฝีมือของเขาก้าวหน้าขึ้นไม่น้อยเลยจริงๆ
เพียงแค่การเคลื่อนไหวครั้งเดียวก็สามารถตัดสินได้แล้วว่า ความแข็งแกร่งของเฉินอีไม่ได้ด้อยไปกว่านางเลย
เรื่องนี้ทำให้อารมณ์ของนางที่เคยตึงเครียดกลับผ่อนคลายลงเล็กน้อย
เปรี้ยงๆ!
ทัณฑ์สวรรค์เหล่านั้นผ่าลงมาต่อเนื่องกัน พร้อมกระแทกไปที่ม่านพลังนั้นอย่างรุนแรง!
การปะทะกันที่รุนแรงของพลังนั้นทำให้เกิดเสียงดังกึกก้อง!
พลังของทัณฑ์สวรรค์สีเงินแพร่กระจายออกมา
ภายใต้ท้องฟ้าที่มืดมิด ดังนั้นจึงรู้สึกสะดุดตาเป็นพิเศษ
ตอนที่ซานซานมาถึง นั่นคือภาพเหตุการณ์ที่เขาได้เห็น
หลังจากเขาเห็นว่าบนท้องฟ้ามีทัณฑ์สวรรค์กระจัดกระจายออกมาอย่างบ้าคลั่ง เขาก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากดวงตาเรียวเล็กเบิกกว้างขึ้น กล้ามเนื้อบนใบหน้าสั่นระริก
เป็นเช่นนั้นจริงๆ ด้วย!
คนของสำนักกระบี่ทมิฬอยู่ที่นี่!
เขารีบลาดตะเวนไปโดยรอบ สืบเสาะหาเงาร่างของฉู่หลิวเยว่และเฉินอี
แม้ว่าตอนนี้ทัณฑ์สวรรค์กำลังจะกระจายไปทั่วทิศทาง ลำแสงเหล่านั้นก็แสบตาเป็นอย่างมาก จนทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้อย่างชัดเจน
แต่ยังดีที่เขาสามารถจดจำม่านพลังสีเขียวจางๆ แห่งนั้นได้
เมื่อมองเห็นม่านพลังที่คุ้นตาซานซานก็รีบใช้มือขยี้ตาของตัวเองในทันที
ค่อยยังชั่ว…
เหมือนว่านายท่านกับพี่ใหญ่จะไม่ได้เป็นอันใด…
จากนั้นเมื่อมองไปทางทัณฑ์สวรรค์ที่กำลังบ้าคลั่งอยู่เบื้องหลัง ร่างกายของซานซานก็สั่นสะท้าน แต่เขาก็ยังคงกัดฟันกรอด มุ่งหน้าไปหาฉู่หลิวเยว่และเฉินอีอย่างไม่ลังเล
พลังที่บ้าคลั่งห่อหุ้มร่างกายของเขา เหมือนกับต้องการฉีกร่างกายของเขา
ในบางครั้งก็ยังมีทัณฑ์สวรรค์ที่ผ่าลงมาเล็กน้อย!
แม้ว่าร่างกายของซานซานจะอ้วนกลม แต่เขาก็คล่องแคล่วว่องไวเป็นอย่างมาก สามารถเดินทางไปโดยไม่เผชิญอันตรายอันใดเลย
“นายท่าน! พี่ใหญ่!”
ซานซานหลบการโจมตีได้อย่างหวุดหวิด จากนั้นก็วิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเขาทั้งสอง แล้วถามอย่างร้อนใจว่า
“พวกท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”
เฉินอีขยับนิ้วเล็กน้อย
ม่านพลังมีช่องว่างถูกเปิดขึ้น จากนั้นพลังอันแข็งแกร่งก็รวบตัวของซานซานเอาไว้แล้วดึงเขาเข้าไป
องคาพยพทั้งห้าบนใบหน้าของซานซานบิดเบี้ยว
“พี่ใหญ่! เจ้าเปิดให้กว้างกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือ! ข้าถูกบีบจนเจ็บหมดแล้ว!”
มันเจ็บมาก!
เฉินอีไม่ได้สนใจเขา ต่อมาม่านพลังนั้นก็กลับเข้าสู่รูปลักษณ์เดิมและสกัดกั้นพลังที่รุนแรงเอาไว้อย่างต่อเนื่อง
“พวกเราไม่เป็นไร แต่ซานซานเหตุใดเจ้าถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?”
ฉู่หลิวเยว่ถามขึ้นอย่างแปลกใจ
วันนี้เขาไปส่งของที่สำนักกระบี่ทมิฬไม่ใช่หรือ?
ซานซานสูดลมหายใจเข้าแล้วพูดขึ้นว่า
“ข้า…ข้าได้ยินมาว่าท่านพี่ใหญ่และสือซานมาที่นี่กัน ข้ากลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น…เฮ้อ! ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของข้าเอง! ก่อนหน้านี้ข้ายังไม่ได้พูดกับท่านอย่างชัดเจน!”
“เจ้ารู้ว่าคนของสำนักกระบี่ทมิฬจะมาที่นี่?”
ซานซานมองตามสายตาของนางไป
คนที่วิ่งหนีกระเจิดกระเจิงไปเมื่อครู่นี้ ในตอนนี้ก็ไม่เห็นเงาร่างของเขาแล้ว
ตอนที่ซานซานมาถึง ภายในใจก็คิดถึงแต่ฉู่หลิวเยว่ กอปรกับท้องฟ้าที่ดำมืด มีพลังระเบิดขึ้นอย่างบ้าคลั่งอยู่ทั่วทุกหนทั่วแห่ง เขาจึงไม่ได้สนใจกับสถานการณ์ของทางนั้น และไม่เห็นคนเหล่านั้น
แต่ว่าต่อให้เมื่อครู่นี้มองไม่เห็น เขาก็รู้ว่าคนเหล่านั้นจะต้องเป็นคนของสำนักกระบี่ทมิฬแน่นอน
เขาเกาหัว
“คือว่า…เล่าไปแล้วเรื่องมันยาว! รอให้กลับไปแล้วข้าค่อยอธิบายให้ท่านฟังอย่างละเอียดดีหรือไม่? โชคดีที่พวกเขาก็ไปแล้ว…”
หากเขายังอยู่ที่นี่ ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน เกรงว่าจะต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่
“สือซานเป็นอย่างใดบ้าง?”
ซานซานเหลือบสายตาหันกลับไปมอง
ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้นว่า
“ตอนนี้เขากำลังรับทัณฑ์สวรรค์สายที่แปด เมื่อครู่นี้ก็เกือบถูกพวกเขาก่อกวนแล้ว ยังดีที่ไม่ได้รับอันตรายใดๆ”
ซานซานลูบหน้าอกของตนเอง
หากสือซานเป็นอันใดขึ้นมาเขาคงจะต้องรู้สึกผิดอย่างมากแน่นอน
ทันใดนั้นเองลำแสงสีขาวสว่างเจิดจ้าก็เปล่งแสงมาจากด้านข้าง
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นไปมอง ทัณฑ์สวรรค์เหล่านั้นเหมือนว่าจะมีจำนวนมากขึ้นกว่าเดิมไม่น้อยเลย ทั้งยังมุ่งหน้ามาทางนี้ด้วย!
ไม่รู้ว่านี่เป็นวิธีการจัดการของคนสำนักกระบี่ทมิฬหรือไม่ แต่ทัณฑ์สวรรค์เหล่านั้นก็ถูกพวกเขาสกัดกั้นเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย ส่วนที่เหลือที่มองเห็นถึงความผิดปกติก็รีบมุ่งหน้ามาทางนี้อีกแล้ว
แกร๊ก!
ในที่สุดบนม่านพลังนั้นก็มีรอยร้าวปรากฏขึ้นหนึ่งรอย!
นี่มันไม่จบไม่สิ้นจริงๆ!
“เฉินอี หลีกทางหน่อย”
ฉู่หลิวเยว่สาวเท้าขึ้นไปด้านหน้า
เดิมทีเฉินอีต้องการจะสู้ต่อ แม้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ยุ่งยากเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้อันตรายถึงชีวิต
เมื่อได้ยินเสียงของฉู่หลิวเยว่ สีหน้าของเขาก็กระตุกเล็กน้อย จากนั้นก็ถอยหลังลงไปด้วยความเคารพ
ซานซานมองไปทางฉู่หลิวเยว่ เขาขยับเข้าใกล้เฉินอี แล้วพูดเสียงเบาว่า
“พี่ใหญ่ เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่า…มันหนาวเล็กน้อยล่ะ…”
เฉินอีเหลือบสายตามองทางเขา
เมื่อเห็นว่าริมฝีปากของเขาซีดขาวเพราะว่ารีบเดินทางมา เฉินอีจึงรู้สึกเห็นอกเห็นใจเขาอย่างหาได้ยาก
“เจ้าถอยหลังลงไปอีก”
“หา?”
ซานซานชะงักไปเล็กน้อย แต่เขาก็ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ตอนนั้นเขาจึงสาวเท้าก้าวถอยหลังลงไปสองก้าว
แกร๊ก!
บนม่านพลังนั้นเต็มไปด้วยรอยแตกร้าว! และมันกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง!
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองไปด้านหน้า ลมปราณบนร่างกายพวยพุ่ง!
ทัณฑ์สวรรค์หลายสายที่อยู่บนท้องฟ้าเหมือนกับสามารถสัมผัสได้ถึงอันตราย ดังนั้นมันจึงมีทีท่าว่าจะหลบหนีไป
ทว่ามันสายเกินไปแล้ว!
ฉู่หลิวเยว่กระชับกระบี่ชื่อเซียวในมือให้แน่นขึ้น พร้อมยกขึ้นสูง ก่อนจะ…ฟันลงมาอย่างรุนแรง!
“ไสหัวออกไป!”
เปรี้ยง!
แรงคุกคามอันน่าหวาดกลัวและปราณกระบี่ทะลักทลายออกมา!
ในตอนนั้นเองชั้นเมฆก็กระจายตัวออกไป ลำแสงนับพันที่อยู่บนท้องฟ้าก็ระเบิดขึ้นในทันที!
………………..