ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1846 ประหลาดใจ
ตอนที่ 1846 ประหลาดใจ
………………..
ตอนนี้มีแสงสว่างสีขาวปรากฏขึ้น ฉู่หลิวเยว่หรี่ดวงตาของนางลงเล็กน้อย
นางยังไม่ทันได้เห็นทิวทัศน์ตรงหน้าได้อย่างชัดเจน แต่กลิ่นหอมของสมุนไพรเข้มข้นก็ปะทะเข้ากับโสตประสาทแล้ว
ทำให้ร่างกายสดชื่น ผ่อนคลาย
หัวใจของฉู่หลิวเยว่กระตุกวูบ ก่อนจะหันไปมองทางด้านหน้า
แม้ว่าก่อนหน้านี้นางจะคอยจินตนาการถึงพื้นที่มิติขนาดเล็กภายในมาแล้ว แต่เมื่อเห็นความเป็นจริง นางก็กลั้นลมหายใจอย่างอดไม่ได้
ที่แห่งนี้…มีขนาดกว้างใหญ่มาก!
น้ำตกไหลลงมาจากภูเขาสูง ต้นหญ้าเขียวขจี พลังแห่งสวรรค์และโลกเข้มข้นจนควบแน่นกลายเป็นหมอกสีขาวแล้วแพร่กระจายออกไปรอบด้าน
วัตถุดิบวิเศษจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน และกำลังเติบโตอยู่ทุกพื้นที่ เขตแดนไกลสุดลูกหูลูกตา
ที่แห่งนี้เหมือนกับแดนเซียน
ต่อให้นำหุบเขาวาโยโอสถของสำนักหลิงเซียวมาเปรียบเทียบกับที่แห่งนี้แล้ว ก็ยังด้อยกว่าหนึ่งขั้น!
แม้จะยืนอยู่ในที่แห่งนี้ นางก็ยังสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าพลังที่แข็งแกร่งนั้นเหมือนกำลังจะล้นทะลักออกมา!
“ที่แห่งนี้…”
ฉู่หลิวเยว่แทบจะพูดอันใดไม่ออก นางรู้สึกตกใจกับทิวทัศน์ที่อยู่ด้านหน้าเป็นอย่างมาก
ใบหน้าของซานซานเผยรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจออกมา
“คิกๆ นายท่าน เป็นอย่างใดบ้าง? ท่านชอบหรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ
นี่ไม่ใช่แค่ชอบ…
แต่นางรู้สึกตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก!
ต้องบอกก่อนว่าผู้อาวุโสใช้เวลาปลูกและดูแลหุบเขาวาโยโอสถในสำนักหลิงเซียวมาเป็นเวลากว่าหมื่นปี กว่าจะสามารถอยู่ในระดับนั้นได้
แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้านางในตอนนี้…
กลับสามารถบดขยี้หุบเขาวาโยโอสถได้อย่างง่ายดาย!
หรงซิวมองทิวทัศน์ที่อยู่ด้านหน้า ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถอนสายตาออกไป ก่อนจะย้ายสายตาหันมามองทางฉู่หลิวเยว่
เมื่อเห็นความสุขในแววตาของนาง ความดำมืดในส่วนลึกของแววตาเขาก็สว่างวาบขึ้น ริมฝีปากแดงยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
ดูเหมือนว่านางจะมีความสุขมากจริงๆ
ในตอนนี้ฉู่หลิวเยว่ยังคงรู้สึกตื่นตะลึงอยู่ จึงไม่สามารถสังเกตเห็นถึงสีหน้าของเขาได้
นางหันมามองหน้าซานซาน ก่อนจะหรี่ดวงตาดำขลับดุจหยกลง
“ซานซาน เจ้าว่าที่แห่งนั้นคืออันใดหรือ?”
“หา? ที่ไหนหรือ?”
ซานซานมองตามสายตาของนางไปด้วยความประหลาดใจ
ฉู่หลิวเยว่ขยับตัวเข้ามาใกล้แล้วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าดูสิ ทางด้านนั้นมันเหมือนกับต้นหญ้าผสานวิญญาณหรือไม่?”
ในตอนนั้นซานซานตัวสั่นสะท้านไปในทันที เขาเพิ่งจะตระหนักถึงความคิดของนางได้ จึงรีบยกมือทั้งสองขึ้นอย่างขอความเมตตา
“นายท่าน! ข้าไม่ได้ตั้งใจหลอกลวงท่านจริงๆ นะขอรับ! ข้าก็แค่…ก็แค่…ถูกคนของสำนักกระบี่ทมิฬเอารัดเอาเปรียบมาโดยตลอด ดังนั้นจึงอยากจะขัดขืนเล็กน้อยเท่านั้น!”
“เจ้าก็เลยบอกพวกเขาว่าของมีไม่มาก และไม่สามารถนำออกมาได้อีกแล้วอย่างนั้นหรือ?”
นางก็เกือบจะโดนหลอกไปด้วยแล้ว
นางรู้จักซานซานเป็นอย่างดี
นางไม่ได้คิดว่าซานซานจะไม่มีของแล้วจริงๆ เพียงแต่คิดไม่ถึงว่า…
คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดเกินจริงขนาดนี้!
ซานซานเห็นว่านางไม่ได้โกรธจริงจังจึงถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนจะร้องคร่ำครวญออกมาอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม
“นายท่าน นี่ข้าก็คิดแทนท่านนะขอรับ! ท่านคิดดูสิ เดิมทีของทั้งหมดนี้ล้วนเป็นของท่าน ตอนนี้พวกเขากลับหยิบออกไปมากมายขนาดนั้น ข้ายังปวดใจแทนท่านเลย! เดิมทีข้าคิดว่าหากยื้อแย่งกันไปเช่นนี้ อาจจะทำให้พวกเขาลดจำนวนสินค้าลง แต่คิดไม่ถึงเลยว่า…”
คิดไม่ถึงเลยว่าคนชั่วเหล่านี้ ไม่ได้ลดจำนวนลงเลย แต่กลับยังเพิ่มมากขึ้น!
แบบนี้มันเกินไปแล้ว!
ฉู่หลิวเยว่เหลือบสายตามองเขา แล้วต้องหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
ก่อนหน้านี้นางไม่เคยรู้สถานการณ์ของที่แห่งนี้เลย จึงรู้สึกปวดใจจริงๆ
เพียงแต่ด้วยนิสัยของซานซานแล้ว นี่จึงเป็นเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกปวดใจจนเลือดไหลออกมาได้
“สามเท่า”
ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้นอย่างกระชับและได้ใจความ
ซานซานรีบแสดงความจงรักภักดีในทันที
“นายท่าน ท่านพูดเช่นนี้เกรงใจกันเกินไปแล้ว! ในเมื่อนี่เป็นของของข้า มันก็เท่ากับเป็นของของท่านด้วยเช่นกัน! ท่านอยากได้เท่าไรก็เอาไปทั้งหมดเลย!”
ริมฝีปากของฉู่หลิวเยว่ยกยิ้มขึ้น
ไม่ได้เจอกันหลายปี ฝีปากของซานซานพัฒนาขึ้นไม่น้อยเลย
แต่ว่าตอนนี้นางยังอารมณ์ดีมาก ดังนั้นจึงไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเขา
นางสงบสติอารมณ์ จากนั้นก็กวาดสายตามองไปทางพื้นที่เล็กๆ นั้นอย่างละเอียดอีกครั้ง
และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ …
เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขภายในสมุดของซานซานก่อนหน้านี้ เรื่องเล่านั้นนับว่าเป็นอันใดได้?
“ก่อนหน้านี้คนที่ติดตามเจ้ามาได้รู้สถานการณ์ของทางนี้หรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่ถามขึ้น
ขณะที่พูดเขาก็ยกมือทำท่าทาง
เพียงแค่ส่วนเล็กน้อยเท่านั้น
ไม่ว่าอย่างใดก็ตามเขาก็สามารถควบคุมที่แห่งนี้ได้ตามใจชอบ หากอยากจะทำอย่างใดก็จะทำเช่นนั้น
ฉู่หลิวเยว่เหลือบสายตามองเขาอย่างชื่นชม
เมื่อพูดถึงเรื่องเงินทองจะสามารถวางใจเขาได้เสมอ
“เหตุใดที่แห่งนี้ถึงมีมิติปรากฏขึ้นได้ล่ะ…”
หลังจากนางสามารถแน่ใจได้แล้วว่าไม่มีใครทราบถึงสถานการณ์ที่แท้จริงแห่งนี้ ฉู่หลิวเยว่จึงรู้สึกวางใจขึ้นมาก
ทันทีที่พูดถึงเรื่องนี้ นางก็ตกอยู่ในห้วงความคิดสุดหยั่งลึก
“สถานที่อย่างถ้ำสวรรค์เช่นนี้ จะต้องมีเหตุผลในการคงอยู่ไม่ใช่หรือ…”
หากพูดอย่างไม่เกินจริง ฉู่หลิวเยว่คิดว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าสำนักหลิงเซียวและพระราชวังเมฆาสวรรค์เลย
ประเด็นที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ ที่แห่งนี้ยังไม่เคยมีใครเหยียบย่างเข้ามาก่อน
ไม่ว่าจะเป็นพลังแห่งสวรรค์และโลก หรือว่าวัตถุดิบวิเศษเหล่านี้…
มันล้วนอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก
ซานซานเกาศีรษะ
“เรื่องนี้…ข้าไม่ทราบจริงๆ …”
ท้ายที่สุดแล้วการที่เขาบุกเข้ามาที่นี่ได้นั้นก็เป็นเรื่องบังเอิญ
ภายในช่วงหนึ่งถึงสองปีนี้ เขาก็เคยตั้งคำถามนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่ว่าอย่างใดเขาก็ไม่มีคำตอบที่สามารถเชื่อถือได้
หลังจากระยะเวลาผ่านไปนาน เขาก็เลิกคิดแล้ว
ไม่ว่าอย่างใดแค่เขามานั่งภายในพื้นที่แห่งนี้ก็ทำให้เขารู้สึกพอใจเป็นอย่างมากแล้ว
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมอง
ด้านบนมีสีเขียวและขาวจางๆ นอกจากไม่มีดวงอาทิตย์และพระจันทร์แล้ว แม้กระทั่งเมฆก็ยังไม่มี ซึ่งมันแตกต่างจากท้องฟ้าภายนอกเป็นอย่างมาก
แต่ที่นี่มีสายลมพัดเอื่อยๆ ทำให้กลิ่นสมุนไพรเข้มข้นลอยโชยออกมา
“พื้นที่ขนาดเล็กนี้ ตามหลักการแล้วจะต้องเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น แต่…มนุษย์คนใดที่จะมีพลังสวรรค์และโลกมากมายถึงเพียงนี้”
ฉู่หลิวเยว่บ่นพึมพำด้วยเสียงต่ำ
นางหันไปมองทางหรงซิว
“หรงซิว เจ้าคิดว่านอกจากที่แห่งนี้ ยังมี…”
“มี”
หรงซิวพยักหน้าอย่างมั่นใจ
“เหตุใดเจ้าถึงมั่นใจขนาดนั้น?”
หรงซิวหัวเราะเสียงต่ำ แล้วจิ้มที่หน้าผากของนางเบาๆ
“ที่นี่มีวัตถุดิบวิเศษมากมายขนาดนี้ จะต้องใช้พลังสวรรค์และโลกมากมายเท่าใด เรื่องนี้ข้าไม่ต้องพูดเจ้าก็สามารถคาดเดาได้แล้ว แต่การที่พื้นที่ปิดผนึกอย่างแน่นหนานั้น ภายในพื้นที่เหล่านั้นจะมีลักษณะเช่นไร?”
เขาเลิกคิ้วขึ้น ใบหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
“บางที…อาจจะมีเรื่องน่าประหลาดใจยิ่งกว่านี้รอเจ้าอยู่ก็ได้”