ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1847 หลุดลอก
ตอนที่ 1847 หลุดลอก
………………..
เรื่องน่าประหลาดใจกว่านี้…
ฉู่หลิวเยว่แทบจะจินตนาการไม่ออกเลย ทิวทัศน์ที่อยู่ตรงหน้าก็น่าประหลาดใจมากพออยู่แล้ว แล้วสิ่งที่น่าประหลาดใจกว่านี้จะเป็นอย่างใด
“ซานซาน ในเมื่อเจ้าเป็นเจ้าของพื้นที่แห่งนี้ เจ้าก็น่าจะรู้จักพื้นที่แห่งนี้ดีที่สุด”
ฉู่หลิวเยว่หันมองทางซานซาน
“เจ้าเคยสังเกตเห็นถึงความผิดปกติของที่แห่งนี้หรือไม่?”
ซานซานส่ายหน้า
“ข้าคิดว่าไม่มี…”
ทุกครั้งที่เขาเข้ามาที่นี่ ปกติแล้วก็แค่จะมาเก็บสมุนไพร
ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยตรวจสอบ แต่ว่าตรวจสอบแล้วไม่เห็นความผิดปกติต่างหาก
“นายท่าน ฝ่าบาท ในเมื่อพวกท่านมาที่นี่แล้ว ถ้าเช่นนั้นข้าจะพาพวกท่านไปดูทุกจุดเลยเป็นอย่างใด ไม่แน่ว่าอาจจะพบเบาะแสอันใดก็ได้?”
มาก็มาแล้ว ย่อมต้องดูให้ละเอียด
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า
นางกำลังรู้สึกสงสัยกับพื้นที่แห่งนี้อยู่พอดี
“ไปกันเถอะ ดูซิว่าพื้นที่มิติของเจ้านั้นจะมีของวิเศษอยู่เท่าใด?”
…
ภายในพื้นที่แห่งนี้มีพลังแห่งสวรรค์และโลกอุดมสมบูรณ์
ฉู่หลิวเยว่เดินไปด้วย และอดถามขึ้นไม่ได้ว่า
“หากสามารถบำเพ็ญเพียรที่นี่ได้จะต้องเป็นเรื่องดีอย่างมากแน่นอน”
“นายท่านพูดได้ถูกต้อง แม้ว่าข้าจะไม่ค่อยได้อยู่ที่นี่เป็นระยะเวลานาน แต่ในแต่ละเดือนนั้นข้าก็วิ่งเข้าออกที่นี่อยู่บ่อยครั้ง ความเร็วในการบำเพ็ญเพียรของข้านั้นก็เพิ่มสูงขึ้นกว่าก่อนไม่น้อยเลย!”
นี่ไม่ใช่การคุยโว แต่มันคือความจริง
ตอนที่เขาเพิ่งมาถึงท่าเรือดอกท้อ และได้เจอกับอีกฝ่ายเป็นครั้งแรก ฉู่หลิวเยว่ก็สามารถมองเห็นถึงระดับการบำเพ็ญเพียรของเขาแล้ว ซึ่งมันสูงขึ้นกว่าเดิมจริงๆ
ในตอนแรกนางไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้มากนัก แต่หลังจากครุ่นคิดไปแล้ว เขาก็ยุ่งอยู่กับการทำธุรกิจทั้งวัน จะเอาเวลาไหนไปบำเพ็ญเพียร
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องเขาไม่ได้ใส่ใจถึงการบำเพ็ญเพียรเลย เมื่องานยุ่งขึ้นมา ความสนใจก็หันเหไปทางอื่น
แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ ระดับการบำเพ็ญเพียรของเขากลับเพิ่มสูงขึ้นไม่น้อย
มาคิดดูแล้วนี่น่าจะเป็นผลงานของพื้นที่แห่งนี้
…
พวกเขาทั้งหลายมุ่งหน้าเดินเข้าไปด้านใน
จากนั้นฉู่หลิวเยว่ถึงค้นพบว่าที่แห่งนี้กว้างกว่าที่นางคิดเอาไว้เสียอีก
เทือกเขาทอดยาว ป่าไม้ชุ่มชื้น ลำธารไหลเชี่ยว
สมุนไพรล้ำค่าที่หาได้ยากในโลกภายนอก แต่สามารถพบเห็นได้ทุกที่ในที่แห่งนี้
หากบุคคลภายนอกรู้เรื่องเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ คงจะต้องเกิดความวุ่นวายโกลาหลแน่นอน…
ความเร็วของทั้งสามคนไม่นับว่าช้า แต่กลับใช้เวลามากกว่าจะสำรวจครบหนึ่งรอบ
“เหมือนว่าที่แห่งนี้จะใหญ่กว่าสำนักหลิงเซียวครึ่งหนึ่ง”
ฉู่หลิวเยว่ถอนหายใจออกมา
ต้องบอกก่อนว่า สำนักหลิงเซียวสำนักที่มีตำแหน่งสูงของอาณาจักรเสิ่นซวี่ ไม่ว่าจะเรื่องพื้นที่หรือด้านอื่นๆ พวกเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าสำนักหรือตระกูลอันดับหนึ่งเลย
ทว่าไม่สามารถเทียบเท่ากับพื้นที่ขนาดเล็กของซานซานได้…
หลังจากคำนวณแล้ว พื้นที่ตรงหน้ามันขนาดใหญ่กว่าหุบเขาวาโยโอสถหลายเท่า
เรื่องนี้ทำให้ผู้คนต้องอ้าปากค้าง
“หากสามารถใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่บำเพ็ญเพียรระยะยาวได้…”
ฉู่หลิวเยว่พูดพึมพำเสียงต่ำ
ซานซานรีบโบกมืออย่างรวดเร็ว
“นายท่าน เกรงว่าเรื่องนี้จะไม่ได้”
เมื่อเห็นว่าฉู่หลิวเยว่และหรงซิวมองมาทางนี้ ซานซานถอนหายใจแล้วอธิบายอย่างจนปัญญาว่า
“ท่านจำได้หรือไม่ที่ข้าเคยบอกว่า ข้าสามารถพาคนเข้ามาที่นี่ได้เพียงแค่สองสามคน”
ฉู่หลิวเยว่เคาะคางของตนเองเบาๆ
“จำได้ เจ้ายังพูดอีกว่า จำนวนคนที่สามารถเข้าได้ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของเจ้าด้วยไม่ใช่หรือ?”
“ไม่เพียงเท่านั้น ระยะเวลาของคนภายนอกที่จะอยู่ในนี้ก็ขึ้นอยู่กับความลับนี้ด้วยเช่นกัน สรุปแล้วก็คือ หากข้าแข็งแกร่งมากเท่าใด ข้าก็สามารถนำคนเข้ามาได้มากเท่านั้น อีกทั้งยังให้พวกเขาอยู่ที่นี่ได้นานมากยิ่งขึ้นถ้าหากมีจำนวนคนมากเกินไป หรือพวกเขาอยู่ภายในนี้นานเกินไป ข้าอาจจะ…ไม่สามารถทนรับไหว”
หลังจากได้ยินคำพูดของซานซาน ฉู่หลิวเยว่ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
หลังจากนั้นไม่นานมุมปากของหรงซิวก็ยกยิ้มขึ้น
“พื้นที่แห่งนี้มีกฎไม่น้อยเลย”
ฉู่หลิวเยว่หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
หากเป็นเช่นนี้ความคิดของนางเมื่อครู่นี้ก็ไม่มีทางเป็นจริงได้
“เช่นนี้ก็หมายความว่า เจ้าไม่สามารถควบคุมมิติแห่งนี้ได้อย่างสมบูรณ์”
โดยขั้นตอนส่วนใหญ่แล้ว ซานซานจะถูกกำหนดอยู่ในพื้นที่แห่งนี้
ซานซานพยักหน้าอย่างตรงไปตรงมา
…การบำเพ็ญเพียรนั้นยากมาก
ฉู่หลิวเยว่เหลือบสายตามองเขาอย่างหมดคำพูด
นางก็รู้อยู่แล้วว่าในช่วงเวลาแบบนี้ไม่สามารถคาดหวังอันใดกับเขาได้
นางละทิ้งความคิดในใจลง แต่นางก็ยังรู้สึกเสียดายอยู่ไม่น้อย
สถานที่ที่ซานซานคัดเลือกให้นางก่อนหน้านี้ไม่มีที่ไหนดีไปกว่าที่แห่งนี้เลย
น่าเสียดาย…
“หรงซิว เมื่อครู่นี้เจ้าได้พบอันใดบ้างหรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่ถามขึ้น
หรงซิวหรี่ตาลงเล็กน้อยจากนั้นก็ส่ายหน้า
“พื้นที่แห่งนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเจ้า อีกทั้งมันยังยอมรับเจ้าเป็นเจ้านายแล้ว ดังนั้นคนอื่นจึงยากที่จะเข้ามาสอดแนม”
ฉู่หลิวเยว่ถอนหายใจออกมา
ความจริงแล้วเรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่นางคาดเดาเอาไว้อยู่แล้ว
เพราะว่าตัวนางเองก็ยังไม่พบอันใดผิดปกติเลย
ความแข็งแกร่งของหรงซิวสูงกว่านาง หากเขายังพูดเช่นนี้ เกรงว่าเรื่องนี้คงยากแล้ว…
ความหวังอันยิ่งใหญ่ที่สุดก็เหมือนว่ายังจะต้องฝากไว้ที่ซานซาน?
สายตาของฉู่หลิวเยว่มองไปที่ซานซานอีกครั้ง
ซานซานตัวสั่นสะท้าน
ทุกครั้งที่นายท่านใช้สายตาแบบนี้มองมา เขาก็รู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไร…
พรึ่บ!
ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากร่างกาย!
ฉู่หลิวเยว่กำลังจะสาวเท้าก้าวเดิน แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวนั้น นางก็ชะงักฝีเท้าในทันที
“นายท่าน เป็นอันใดไปหรือ?”
พวกเรากำลังจะเตรียมตัวออกไปกันไม่ใช่หรือ?
ฉู่หลิวเยว่ไม่พูดไม่จา
ลำแสงสีดำสว่างวาบ!
โล่สีดำอันนั้นปรากฏที่กลางฝ่ามือของนางอย่างกะทันหัน!
เมื่อเห็นการกระทำของนาง ความดำมืดภายในแววตาของหรงซิวก็สว่างวาบขึ้น
“นายท่าน?”
ซานซานกำลังจะถามขึ้นอีกครั้ง แต่เมื่อเขาเห็นโล่สีดำที่กลางฝ่ามือของนาง ทันใดนั้นลำแสงก็ส่องสว่างขึ้นมาในทันที!
ลำแสงสว่างจางๆ ปรากฏ
แรงกดดันที่เกือบจะทำให้ผู้คนหายใจไม่ออกแผ่กระจายออกมาจากโล่สีดำอันนั้น!
ซานซานที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็หน้าเปลี่ยนสีแล้วรีบถอยหลังลงไปสองก้าว!
เมื่อครู่นี้ตอนที่เขามองไปที่ลำแสงสายนั้น คาดไม่ถึงว่าความรู้สึกที่อยากยอมจำนนจะพวยพุ่งขึ้นมา!
พลังเหล่านั้น…มันน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก!
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองไปทางโล่สีดำในมือของนางตาเขม็ง
ลำแสงเหล่านั้นแผ่กระจายออกมาอย่างไร้เสียง เหมือนกับสายน้ำที่ไหลรินไปทั่วโล่สีดำ
ดูเหมือนเป็นพวกมันกำลังก่อร่างสร้างลวดลายที่น่าแปลกประหลาด และก็เหมือนเป็นการล้างคราบสนิมที่อยู่บนนั้นออกไป
แกร๊ก
เสียงแตกร้าวสายหนึ่งดังขึ้นอย่างแผ่วเบา
จากนั้นสนิมที่มีขนาดเท่ากับเล็บก็หล่นลงมาหนึ่งแผ่น
ลำแสงระยิบระยับปกคลุมอย่างรวดเร็ว
หัวใจของฉู่หลิวเยว่เต้นกระหน่ำขึ้นมาอย่างกะทันหัน
นี่มัน…
นางได้รับโล่สีดำอันนี้มาหลายปีแล้ว แต่นางไม่เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้มาก่อนเลย!
มันเคยเป็นโล่ที่แข็งแกร่งอย่างมาก สามารถต้านทานการโจมตีที่แข็งแกร่งนับครั้งไม่ถ้วน คาดไม่ถึงว่าสนิมเหล่านั้นจะหลุดลอกออกมาเอง!
ในขณะเดียวกันนั้นเองพลังสวรรค์และโลกที่อยู่รอบข้างก็พุ่งมา!
พลังที่หมุนวนสายหนึ่งหล่นลงมาจากฟากฟ้าแล้วตกลงมาที่ร่างกายของฉู่หลิวเยว่!
หากพูดให้ถูกต้องก็คือ มันตกลงมายังโล่สีดำที่อยู่ที่กลางฝ่ามือของฉู่หลิวเยว่!
แกร๊ก!
สนิมอีกแผ่นหนึ่งหลุดล่อนออกมาอีกแล้ว!
………………..