ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1853 ไฟ
ตอนที่ 1853 ไฟป่า
………………..
เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์เหล่านี้ รูม่านตาของฉู่หลิวเยว่ก็หดเล็กลง แต่นางก็สามารถเข้าใจอันใดบางอย่างขึ้นมาได้ในทันที
มิน่าล่ะสภาพของคนเหล่านั้นจึงดูผิดปกติไป ที่แท้ก็เป็นเพราะว่าพลังเปลวเพลิงได้เข้าสู่ภายในร่างกายของเขาตั้งนานแล้ว
ความร้อนเกิดขึ้นจากภายใน ไม่เพียงแต่สูญเสียพลังปราณดั้งเดิมอย่างบ้าคลั่ง นอกจากนี้ยังทำให้เส้นเลือดเส้นชีพจรกระดูกและเอ็นถูกเปลวเพลิงเหล่านั้นกลืนกินไปทีละส่วน
ความเจ็บปวดเช่นนี้ เกรงว่าคนธรรมดาคงจะไม่สามารถรับไหว
ในตอนนี้พลังแห่งเปลวเพลิงแข็งแกร่งขึ้นอีกขั้น หลังจากเกินขีดจำกัดของคนผู้นั้นร่างกายของเขาจึงระเบิดออกมาในทันที
เมื่อมีคนตายแล้ว เห็นได้ชัดว่าคนอื่นๆ ที่เหลือ…ก็อยู่ไม่ไกลความตาย
ความคิดนี้สว่างวาบเข้ามาในสมองของนาง ทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น!
คนตายเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนแล้ว
แต่ในครั้งนี้ไม่เว้นเวลาให้เขาตอบสนองเลย
พรึ่บ!
มั่วหลินหยิบกระบี่หงส์ที่คาดเอวอยู่ออกมา
เดิมทีคนที่อยู่ด้านหลังเขาก็ล้วนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเห็นเขาเคลื่อนไหว พวกเขาก็รีบชักกระบี่ออกมาอย่างรวดเร็ว
เพียงการเคลื่อนไหวของเขานั้นเลื่อนลอยไร้พลัง แต่ภายในแววตาของเขากลับสับสนมึนงงมากยิ่งกว่า
เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาคาดการณ์เอาไว้ จึงทำให้เขารู้สึกมึงงงเป็นอย่างมาก
ภายในใจของฉู่หลิวเยว่ระวังตัวอยู่เสมอ ในตอนที่นางกำลังจะเคลื่อนไหว หรงซิวก็ได้กุมมือของนางขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“อย่าเพิ่งรีบร้อน”
เป้าหมายของคนเหล่านี้ไม่ใช่ซานซาน และไม่ใช่พวกเขา
แต่เป็น…เปลวเพลิงที่อันตรายเหล่านั้น!
การเคลื่อนไหวของพวกเขานั้นแผ่วเบาเป็นอย่างมาก ในตอนนี้ความสนใจของมั่วหลินและคนอื่นๆ ยังคงจดจ่ออยู่กับเรื่องของฝั่งนั้น จึงไม่ได้หันมามองพวกเขาทั้งสองเลย
ฉู่หลิวเยว่ควบคุมลมปราณบนร่างกายของตนเองอย่างไร้เสียง
นางก้มลงมองพื้นอีกครั้ง ทันใดนั้นก็มีคำถามหนึ่งปรากฏขึ้น
เปลวเพลิงเหล่านี้…มันมาจากที่ใดกันหรือ?
ดูอย่างผิวเผินแล้วจะเห็นว่าเปลวเพลิงเหล่านั้นออกมาจากใต้ก้อนหิน แต่…หากมองลึกลงไปอีกล่ะ?
ที่แห่งนี้อยู่บริเวณไหล่เขา หากเปลวเพลิงเหล่านี้ถูกกดเอาไว้ด้านล่างจริงๆ เช่นนั้น…เหตุใดมันถึงปรากฏขึ้นมาที่นี่อย่างกะทันหันได้ล่ะ?
ไม่รู้ว่าเหตุใดทันใดนั้นฉู่หลิวเยว่ก็นึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในพื้นที่ขนาดเล็กขึ้นมา
สนิมบนโล่สีดำถูกทำให้หลุดลอกไป จากนั้นเปลวเพลิงสีน้ำเงินก็ปรากฏขึ้นมาจากท้องฟ้าแล้วเริ่มเผาไหม้ในทันที
ตู้ม!
เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างกะทันหัน!
ภายในใจของฉู่หลิวเยว่ชะงักค้าง พร้อมหันไปมองตาเขม็ง ก่อนจะก็เห็นว่าเปลวเพลิงสีน้ำเงินเมื่อครู่นี้ได้ปะทุขึ้นมาอย่างกะทันหัน!
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้นเอง กำแพงไฟขนาดใหญ่ก็ถูกก่อขึ้นมา!
“แยกย้าย!”
ซานซานตะโกนขึ้นมาด้วยความรีบร้อน!
ในขณะเดียวกันเขาก็หมุนตัว แล้ววิ่งมาหาฉู่หลิวเยว่และหรงซิว!
มืออ้วนทั้งสองข้างของเขาโบกขึ้นกลางอากาศอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ก่อตัวเป็นม่านพลัง! ป้องกันพวกเขาทั้งสามเอาไว้ภายใน!
พลังที่บ้าคลั่งและรุนแรงกำลังจะคืบคลานเข้ามา!
ในวินาทีต่อมาแรงโจมตีที่รุนแรงก็กระแทกเข้าที่ม่านพลังของซานซาน!
ซานซานมีใบหน้าซีดขาว ในตอนนั้นเขาก็กระอักเลือดออกมา!
คิ้วของฉู่หลิวเยว่ก็ขมวดลึกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะสาวเท้าไปด้านหน้า!
แต่การเคลื่อนไหวของหรงซิวกลับเร็วยิ่งกว่า
เขาสะบัดแขนเสื้อขึ้น พลังอันอ่อนโยนสายหนึ่งได้พยุงร่างกายของซานซานเอาไว้
เมื่อซานซานได้รับพลังช่วยเหลือ เขาก็ถอนหายใจออกมา ก่อนจะหมุนตัวไปกระอักเลือดสองคำ
ฉู่หลิวเยว่สาวเท้ามาด้านหน้าอย่างรวดเร็วแล้วส่งโอสถให้เขาทานหนึ่งเม็ด
“เถ้าแก่ ไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”
นางคว้าข้อมือของซานซานเอาไว้
พลังที่อ่อนโยนทว่าแข็งแกร่งสายหนึ่งกลับไหลเข้าสู่ร่างกายของซานซาน พลังที่สับสนวุ่นวายภายในร่างกายของซานซานก็กลับคืนสู่ความปกติอย่างรวดเร็ว
ซานซานมองอย่างยินดีระคนตกใจ ในตอนที่เขากำลังกล่าวคำขอบคุณ จากนั้นเขาก็คิดได้ว่าฐานะของทั้งสองคนนี้คือผู้ติดตามของเขา เขาจึงรีบกลืนคำพูดที่เหลือลงคออย่างรวดเร็ว
“ข้า ข้าไม่เป็นไร!”
เขากระแอมไอออกมาแล้วหันหลังให้แก่มั่วหลินและคนอื่นๆ ก่อนจะเปิดปากพูดอย่างไร้เสียงให้แก่ฉู่หลิวเยว่อ่านปาก
ฉู่หลิวเยว่จ้องใบหน้าเขาอย่างจริงจัง
แม้ว่าตอนนี้ซานซานจะมีท่าทางจนตรอก ใบหน้าซีดขาว แต่สายตายังคงกระจ่างชัด ลมหายใจราบเรียบ
เขาคงไม่ได้รับบาดเจ็บภายใน
ในตอนนั้นนางถึงปล่อยมือ และเดินถอยหลังไปสองก้าว
แต่สิ่งที่นางไม่รู้คือ ที่ซานซานไม่ได้รับบาดเจ็บก็เพราะว่าตอนที่เปลวเพลิงสีน้ำเงินพวยพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง เหมือนกับว่า…มันได้ยั้งมือให้เขาเป็นพิเศษ
แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะคอยต่อสู้กับเปลวเพลิงเหล่านี้มาแล้ว แต่ท้ายที่สุดแล้วมันก็ไม่ได้มีเจตนาหมายเอาชีวิตของเขา
ความรู้สึกเหล่านี้ละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก
ในตอนแรกเขาก็ยังสัมผัสไม่ได้ แต่หลังจากเห็นว่าเปลวเพลิงเหล่านั้นสามารถสังหารผู้คนได้อย่างง่ายดาย เขาถึงสามารถตระหนักในเรื่องนี้ขึ้นมาได้
ซานซานครุ่นคิดอย่างละเอียด ภายในใจเขาสามารถคาดเดาขึ้นมาได้ว่าเปลวเพลิงเหล่านั้นน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับพื้นที่ขนาดเล็กแห่งนั้นอยู่ ซึ่งเปลวไฟเหล่านั้นมีพลังงานแหล่งเดียวกัน
เขารู้สึกยินดีขึ้นมา แต่เขาก็รู้ว่าในจุดนี้มั่วหลินและคนอื่นก็น่าจะมองไม่ออก
ไม่อย่างนั้นเขาไม่สามารถอธิบายออกไปได้แน่นอน
ซานซานสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นหันไปมองทางมั่วหลินด้วยความตื่นตระหนก
“ใต้เท้ามั่วหลิน! ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่!”
สถานการณ์ในตอนนี้ของมั่วหลินและคนอื่นๆ ดูย่ำแย่เสียยิ่งกว่าซานซานอีก
พวกเขาทั้งหลายล้วนได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งยังดูเหมือนจะสาหัสเป็นอย่างมาก
มั่วหลินที่มีฝีมือแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาพวกเขาก็ดูดีกว่าคนอื่นเล็กน้อย แต่มุมปากของเขาก็ยังมีคราบเลือด
เปลวเพลิงที่ลุกท่วมขึ้นเมื่อครู่นี้ แทบจะ…
เมื่อได้ยินเสียงของซานซาน เขาก็เงยหน้าขึ้นมองในทันที! ความโกรธแค้นในแววตาไม่สามารถปกปิดได้มิด
…เมื่อครู่นี้ตอนที่ซานซานวิ่งหนีออกมานั้น อีกฝ่ายไม่ได้คำนึงถึงพวกเขาเลย!
ซานซานถูกสายตาเช่นนั้นจ้องมองกตัวก็สั่นสะท้านไป ภายในใจกลับมีแต่คำด่า
มองบ้าอันใดกัน?
ข้าต้องปกป้องนายท่านของตัวเองก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว!
หรือจะให้ข้าเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือพวกเจ้าอย่างนั้นหรือ?
อย่าสำคัญตัวเองไปหน่อยเลย!
“ใต้เท้ามั่วหลิน…เมื่อครู่นี้มันฉุกละหุกมาก ข้าต้องขออภัยจริงๆ …”
ซานซานพูดไปด้วยพร้อมเช็ดเลือดที่มุมปากของตนเองไปด้วย เมื่อเห็นว่าเขามีท่าทางน่าอนาถเช่นกัน
มั่วหลินจึงถอนหายใจออกมา ในตอนนั้นเขาแทบจะหายใจไม่ทั่วท้อง
แม้ว่าเขาจะโมโห แต่ซานซานไม่ใช่คนของเขา ตอนที่เจอกับอันตรายอีกฝ่ายก็ไม่มีหน้าที่ที่จะมาปกป้องเขา
เดิมทีเรื่องนี้ก็ไม่มีอันใดให้น่าพูด
เขาไม่สามารถตำหนิอีกฝ่ายได้ด้วยซ้ำ
“หึ!”
มั่วหลินแค่นหัวเราะเสียงเย็น และไม่ได้สนใจซานซานอีก เขาทำได้แค่เพียงหันไปมองบริเวณไหล่เขานั้นอีกครั้ง
เมื่อครู่นี้เขาถูกคลื่นความร้อนที่น่ากลัวทำให้ต้องถอยร่นลงมาเสียหลายก้าว
ส่วนคนที่ถูกขังเอาไว้ก่อนหน้านี้ ในตอนนี้พวกเขาถูกเปลวเพลิงกลืนกินจนมองไม่เห็นเงาแล้ว
ในตอนนี้เปลวเพลิงสีน้ำเงินเหล่านั้นลุกท่วมออกมาจากด้านนอกของโขดหินแล้ว และมันกำลังลุกไหม้อย่างไร้เสียง โดยมีส่วนสูงประมาณเอวของคน
บนพื้นมีรอยร้าวที่สามารถเห็นได้ชัดเจน
ทันใดนั้นเองหัวใจของฉู่หลิวเยว่ก็จมดิ่งลง
เพราะในตำแหน่งไม่ไกลกันนั้นมีก้อนหินก้อนหนึ่งเปลี่ยนเป็นก้อนหินโปร่งแสง
และด้านล่างก็มีเปลวเพลิงปะทุขึ้น!
เปลวเพลิงเหล่านี้…กำลังลุกลาม!