ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1863 เข้าใจผิด
ตอนที่ 1863 เข้าใจผิด
………………..
มือสัมผัสอุ่นร้อน เรียบเนียน
ข้อมือของนางบางมาก เพียงแค่ขยับเพียงเล็กน้อย ข้อมือของนางจะสามารถหักได้อย่างง่ายดาย
อีกทั้งยังเหมือนกับหยกมันแพะขาวชั้นดี อ่อนโยนเนียนละเอียด ล้ำค่าราคาแพง แต่หากไม่ระวังจะสามารถแตกหักได้อย่างง่ายดาย
น้องแปดหันกลับมามองด้วยความประหลาดใจ
เพราะว่าตกใจ จึงลืมสะบัดมือออก
เมื่อเยี่ยนชิงสัมผัสได้ว่านางกำลังตื่นตระหนกจึงรีบปล่อยมือในทันที
ท่าทางของเขาร้อนรนอยู่เล็กน้อย เขาสัมผัสกับกำไลหยกบนข้อมือของนางอย่างบังเอิญจนทำให้เกิดเสียงกระจ่างชัดขึ้นมา
“ใต้เท้าเยี่ยนชิง?”
น้องแปดดึงสติกลับคืนมา ภายในใจกลับมีความรู้สึกสนใจขึ้น
ใต้เท้าเยี่ยนชิงผู้นี้ปฏิบัติกับนางด้วยความเย็นชามาโดยตลอด อีกทั้งยังหลีกเลี่ยงนางมาก
แต่ในครั้งนี้กลับเป็นฝ่ายพูดคุยกับนางก่อน อีกทั้งยังจับมือนางด้วย…
นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกเลย
ดวงตาที่งดงามของน้องแปดเปล่งประกาย และมองสำรวจร่างกายของเยี่ยนชิงอย่างกำเริบเสิบสาน
“ใต้เท้าเยี่ยนชิงมีอันใดจะพูดกับข้าหรือ?”
เยี่ยนชิงหยุดชะงักไปชั่วคราว และพยักหน้าเบาๆ
“ไม่ทราบว่าแม่นางแปดจะสะดวกพูดคุยด้วยหรือไม่”
น้องแปดแทบจะไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน ในตอนนี้นางอยากจะล้มตัวนอนลงที่เตียงมากที่สุด
แม้กระทั่งพี่ใหญ่นางก็ไม่ได้สนใจจะสนทนากันเท่าไร
ด้วยนิสัยแบบนางแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดไหน ก็ต้องรอให้นางพักผ่อนเรียบร้อยก่อนแล้วค่อยว่ากัน
“ตอนนี้เชิญใต้เท้าเยี่ยนชิงพูดออกมาได้เลย”
เยี่ยนชิงเดินติดตามมา แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ติดตามมาจนใกล้ชิด เขายังคงรักษาระยะห่างเอาไว้สามก้าว
เมื่อเผชิญหน้ากับรอยยิ้มและสายตาสงสัยของนาง เขาก็หลุบใบหน้าลงต่ำ
หลังจากผ่านมาสักพัก จากนั้นเขาก็ตัดสินใจแล้วพูดขึ้นว่า
“แม่นางแปด เมื่อวานนี้ ฝ่าบาทออกไปพร้อมกับพระชายา”
น้องแปดพยักหน้า
นางรู้!
เรื่องนี้ทุกคนก็รู้ไม่ใช่หรือ?
“ฝ่าบาทนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังรักและทะนุถนอมพระชายา ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อันใดขึ้น ฝ่าบาทไม่มีทางปล่อยให้พระชายาตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน ดังนั้น…ต่อให้พวกเขายังไม่สามารถออกมาได้ แต่พวกเจ้าก็สามารถวางใจได้เลย”
คิ้วที่เรียวงามของน้องแปดขมวดขึ้นเป็นปม
เหมือนว่าพวกเขาจะยังไม่ได้พูดให้ร้ายกับคนผู้นั้นเลยไม่ใช่หรือ?
เหตุใดเยี่ยนชิงถึงมาพูดเรื่องนี้กับนางอย่างกะทันหันล่ะ?
“ใต้เท้าเยี่ยนชิง เวลาของข้ามีค่ามาก เจ้าอยากจะพูดอันใดก็พูดมาตามตรงเถอะ อย่าอ้อมค้อมเลย”
น้องแปดพูดขึ้น จากนั้นก็หาวอีกครั้ง
นางรู้สึกง่วงจริงๆ …
เยี่ยนชิงเงยหน้าขึ้นมอง
แม่นางอยู่ตรงหน้าของเขานั้นมีเสน่ห์พร่างพราวเป็นอย่างมาก เหมือนกับดอกไม้ที่บานสะพรั่งอย่างสดใส ทั้งอันตรายและเปราะบาง
เขาชะงักไปเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นมาอย่างตั้งใจว่า
“ด้วยความแข็งแกร่งของฝ่าบาทจะต้องสามารถปกป้องพระชายาได้อย่างแน่นอน ดังนั้นพวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง แล้วอีกอย่าง…แม่นางแปดไม่จำเป็นจะต้องทำถึงขนาดนั้น…”
ท้ายที่สุดแล้วนางก็ยังสาว เมื่อถูกคนพูดต่อหน้าเช่นนี้ อาจจะรู้สึกลำบากใจเป็นอย่างมาก…
แต่เขาก็จำเป็นจะต้อง…
“เมื่อครู่นี้ เจ้าพูดว่าอย่างใดนะ?”
น้องแปดกัดฟันกรอด คำพูดเล็ดลอดออกมาจากซอกฟันอย่างยากลำบาก
เยี่ยนชิงประสานหมัดทั้งสองข้างทำความเคารพ
“หากเป็นการล่วงเกิน ได้โปรด…”
น้องแปดสั่นสะท้านด้วยความโกรธ
“เจ้า! เจ้า!”
สมองของเยี่ยนชิงผู้นี้มีปัญหาจริงๆ ด้วย
คำพูดของเขาหมายความว่าอย่างใดกันแน่!
นางไปสืบข้อมูล แน่นอนว่าต้องมีวิธี แต่วิธีเหล่านั้นไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด!
เมื่อเห็นน้องแปดมีโทสะ เยี่ยนชิงก็ชะงักไปเล็กน้อย ในที่สุดเขาก็ตระหนักขึ้นมาได้ว่า…เขาอาจจะเข้าใจผิดไป!
ความจริงแล้วเรื่องนี้ก็โทษเขาไม่ได้
คำพูดเมื่อครู่นี้ของน้องแปดก็พูดได้คลุมเครือมากเกินไป
เฉินอีและคนอื่นๆ ได้ยินจนรู้สึกชินแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้จริงจังอันใดกับเรื่องนี้
แต่เยี่ยนชิงไม่รู้เรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย ดังนั้นจึงเข้าใจผิดอย่างยากจะหลีกเลี่ยง
ในตอนที่เยี่ยนชิงได้สติกลับคืนมาว่าสิ่งที่ตนเองพูดเมื่อครู่นั้นเป้นสิ่งที่ไร้มารยาทอย่างมาก
ในที่สุดเขาก็เกิดความเก้อกระดากอย่างหาได้ยาก ใบหน้าที่หล่อเหลาเย็นชาของเขาเต็มไปด้วยความอับอายและไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างใดดี
ใบหูของเขาขึ้นสีแดงก่ำ
นี่มัน…
“แม่นางแปด ข้าได้ล่วงเกินแล้ว ข้าเพียงแค่เป็นห่วง…”
น้องแปดหัวเราะเสียงเย็น
“จะเป็นห่วงอันใดกันเล่า? หรือเจ้าเป็นห่วงว่าแม่นางอย่างข้านั้นจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ?”
เยี่ยนชิงสำลักไปเพราะคำถามนี้
ความเข้าใจผิดประเภทนี้ ไม่ว่าจะเกิดกับแม่นางคนใด มันก็ไม่สมควรทั้งนั้น
ต่อให้อีกฝ่ายจะโกรธก็เป็นเรื่องสมควรแล้ว
น้องแปดจ้องหน้าเขาตาเขม็ง เปลวเพลิงสุมทรวงอยู่ในใจ
เดิมทีในตอนนี้นางง่วงจนอยากจะนอนอยู่แล้ว
แต่นางอยากจะผ่าดูจริงๆ ว่าภายในสมองของเขานั้นมีอันใดอยู่กันแน่!
“เยี่ยนชิง! ตอนที่ข้าออกไปข้างนอกนั้น ยังไม่รู้เลยว่าจะเจ้าไปอยู่ที่ไหน! เจ้า…”
“…ใช่แล้ว”
เยี่ยนชิงพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
น้องแปดชะงักไปครู่หนึ่งแล้วขมวดคิ้วขึ้นเป็นปม
ใช่?
ใช่อันใดกัน?
“สำนักกระบี่ทมิฬนั้นอันตรายเป็นอย่างมาก เยี่ยนชิงเป็นห่วงจริงๆ ว่าแม่นางแปดจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ”
เยี่ยนชิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ดวงตากระจ่างใส จากนั้นก็ค่อยๆ พูดอธิบายทีละคำ
น้องแปดชะงักค้างแล้วมองหน้าเขา ทันใดนั้นลำคอก็ตีบตัน
คำพูดที่เหลือค้างอยู่ในลำคอ พูดไม่ออกกลืนลงคอไม่ได้
สิบสามผู้พิทักษ์เยว่ล้วนมีความสามารถแตกต่างกันออกไป
ซึ่งนางเองก็ไม่ได้มีข้อยกเว้น
ทุกคนอยู่ด้วยกันมาหลายปี และเข้าใจถึงภูมิหลังของกันและกันเป็นอย่างดี
สำหรับเยี่ยนชิงแล้ว เขาคิดว่าผู้ชายที่ได้มาเจอกับน้องแปดแล้วไม่โดนทรมานจนตายก็นับว่าไม่เลวแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยเป็นห่วงนางเท่าไร
นี่จึงเป็นครั้งแรกที่นางได้ยินคำพูดเช่นนี้
“ตอนนี้แม่นางแปดไม่ได้เป็นอันใดแล้ว เยี่ยนชิงก็สามารถวางใจลงได้”
หากเกิดเรื่องอะไรเข้าจริงๆ ทางด้านฝ่าบาทคงไม่สามารถอธิบายอันใดได้อย่างแน่นอน
ยังดีที่เขาตื่นตูมไปเท่านั้น
เยี่ยนชิงกล่าวขอโทษอย่างเคร่งขรึมอีกครั้ง
“ก่อนหน้านี้เป็นความเข้าใจผิด แม่นางแปดได้โปรดให้อภัยข้าด้วย”
น้องแปดถอยหลังลงไปหนึ่งก้าว จากนั้นก็พูดขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนกว่า
“คนอย่างข้ามีอันใดให้น่าเป็นห่วงกัน!”
เมื่อพูดจบ นางก็หมุนตัวเดินจากไปอย่างรีบร้อน
………………..