ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1867 การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
ตอนที่ 1867 การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
………………..
ซานซานหันกลับไปมองอย่างตกใจ และเขากำลังจะปฏิเสธ แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในพื้นที่มิติขนาดเล็กในครั้งนั้น
เพียงแค่ความคิดของนายท่านก็สามารถทำให้พลังหมุนวนขนาดใหญ่ได้ อีกทั้งยังสามารถทำให้ม่านพลังถูกเผาไหม้โดยตรง…
บางทีในตัวของนายท่านอาจจะมีไพ่ไม้ตายอันใดบางอย่างที่สุดยอดมากอยู่?
แล้วอีกอย่าง เขาก็ได้ยินมาว่าฝีมือของฝ่าบาทนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
หากมีพวกเขาทั้งสองคนอยู่ด้วย มันจะต้องปลอดภัยขึ้นไม่น้อยแน่นอน อีกทั้งไม่แน่ว่าอาจจะสามารถได้รับเบาะแสอันใดบางอย่าง…
ซานซานเหลือบสายตาหันไปมองทางมั่วอวิ๋นอย่างสอบถาม
“รองประมุข ท่านคิดว่าอย่างใด…”
มั่วอวิ๋นพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจว่า
“ตามใจเจ้า”
ผู้ติดตามเพียงแค่สองคน จะมีหรือไม่มีก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
หากเถ้าแก่ซานรู้สึกว่าการมีผู้ติดตามแล้วมันปลอดภัยมากกว่า ก็ให้เขานำผู้ติดตามไปด้วยอย่างอดไม่ได้
ไม่อย่างใดก็ตามประเด็นสำคัญอยู่ที่เขาเพียงคนเดียว
หลังจากผ่านช่วงเวลาแห่งการทนทรมานมาหลานวันแล้ว มั่วอวิ๋นก็รู้สึกว่าความคิดของเขานั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
เขาอยากจะรู้โดยเร็วที่สุดว่านี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่!
และต้องใช้วิธีใดกันแน่ที่จะสามารถจัดการเรื่องเหล่านี้ได้อย่างอยู่หมัด!
ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้น…เขาไม่ได้สนใจเลย!
ซานซานรู้สึกยินดีขึ้นมาในทันที แต่ว่าเขาไม่ได้แสดงสีหน้าดีใจมากเกินไปนัก เขาเพียงกะแอมไอออกมา จากนั้นก็หันไปพูดกับหรงซิวและฉู่หลิวเยว่ว่า
“เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ! อีกเดี๋ยวพวกเจ้าต้องติดตามข้าอย่างใกล้ชิดนะ! หากพบสิ่งผิดปกติ เราก็รีบแยกย้ายกันทันที!”
สายตาของคนรอบข้างจำนวนไม่น้อยมองอยู่ที่พวกเขา
ตอนนี้เขากลายเป็นจุดสนใจของทุกคนอย่างไม่ต้องสงสัย
“ดูเหมือนว่าพวกเขาจะอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับยอดเขาหลานชิงไม่น้อยเลยทีเดียว”
ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้นเสียงต่ำ
หรงซิวหัวเราะเบาๆ
“ฟ้าดินเกิดความเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะถือกำเนิดสมบัติล้ำค่าออกมา แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องให้ความสนใจเป็นอย่างมากอยู่แล้ว”
บนโลกนี้ มีใครบ้างไม่อยากแข็งแกร่งขึ้น มีใครบ้างไม่อยากรับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ มีใครบ้างที่ไม่อยากทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า?
ในอากาศมีกลิ่นคาวเลือดเหม็นเน่าคละคลุ้งเข้มข้น มุมปากของฉู่หลิวเยว่ยกยิ้มขึ้น แต่ภายในแววตาไม่มีรอยยิ้มเลย
“ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้จะมีคนตายไปมากพอสมควร ถึงยอมให้พวกเขามาควบคุมสถานการณ์”
หากพวกเขาไม่รู้ว่ายอดเขาหลานชิงแห่งนี้อันตรายแค่ไหน พวกเขาคงจะเข้าไปตั้งนานแล้ว จะมาเรียกซานซานให้ออกมาอีกครั้งเหตุใด?
แต่ในสถานการณ์ที่มีเพียงแค่ความตายเท่านั้นที่รออยู่ อีกทั้งในตอนนี้ก็มีแค่ซานซานเท่านั้น
มั่วอวิ๋นจึงนึกถึงซานซานขึ้นมา อีกทั้งยังพาเขามาที่นี่ด้วย
เมื่อคิดได้เช่นนี้แล้ว ชีวิตของซานซานก็ผ่านความยากลำบากมาไม่น้อยเลยทีเดียว
คนของสำนักกระบี่ทมิฬใช้ประโยชน์จากเขาตั้งแต่ต้นจนจบ
พวกเขาเคยเห็นซานซานอยู่ในสายตาจริงๆ บ้างหรือไม่?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ แววตาของเขาก็เย็นชาไปหลายส่วน
…
หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสามคนก็เดินทางมาถึงไหล่เขา พวกเขายืนอยู่ห่างจากเปลวเพลิงที่ลุกโชนเพียงแค่สิบก้าวเท่านั้น
ซานซานหยุดชะงักฝีเท้าเป็นคนแรก
“เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่า เปลวเพลิงเหล่านี้เหมือนจะแข็งแกร่งกว่าเดิมไม่น้อยเลยทีเดียว”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้าเบาๆ
“มันเป็นเรื่องจริง เจ้าไม่ได้รู้สึกไปเอง”
นางเองก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน
อีกทั้งพลังที่เพิ่มขึ้นเหล่านั้นไม่ใช่เพียงแค่การลุกลามแผ่ขยายของเปลวเพลิงเท่านั้น
ซานซานกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก จากนั้นก็หันไปมองที่เปลวเพลิงที่อยู่ด้านหน้าอีกครั้ง ทั้งนี้ ยังมีม่านพลังโปร่งแสงที่ก่อตัวขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ
ความจริงแล้วเขารู้สึกคุ้นเคยกับลมปราณเหล่านั้นเป็นอย่างมาก
…เพราะนั้นมันแทบจะเหมือนกับเปลวเพลิงที่อยู่ในพื้นที่ขนาดเล็กของเขาไม่มีผิด!
เมื่อลองคิดไปแล้วก็ใช่ เดิมทีเปลวเพลิงเหล่านี้ก็เหมือนกัน ดังนั้นม่านพลังที่ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาก็ควรจะเหมือนกันโดยธรรมชาติ
ซานซานรู้สึกประหม่าขึ้นมาในทันที
เขาเดินไปด้านหน้าสองสามก้าว
ยิ่งเข้าใกล้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าร่างกายของเขานั้นเหมือนจะถูกเผาไหม้ไปทั้งตัว
เมื่อเขายื่นฝ่ามือออกมา เปลวเพลิงก็พวยพุ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของเขา!
ทันทีที่เปลวเพลิงเหล่านี้ปรากฏขึ้น ความรู้สึกที่เหมือนถูกเผาไหม้ก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว
ซานซานกัดฟันกรอด ก่อนจะค่อยๆ ยื่นมือออกไปด้านหน้า
ในตอนนั้นเขากังวลเป็นอย่างมากว่าเขาจะไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ ทั้งกังวลว่าตัวเองจะเข้าไปด้านในได้
หากเขาไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ แล้วถูกเปลวเพลิงเหล่านี้เผาจนได้รับบาดเจ็บล่ะจะทำอย่างใด?
แต่หากสามารถเข้าไปได้…เช่นนั้นมันก็จะยิ่งยุ่งยากมากขึ้นกว่าเดิม!
ต่อหน้าผู้คนมากมาย ภายใต้การจับจ้องมองของสายตาจำนวนมาก หากเขาสามารถเข้าไปในม่านพลังได้อย่างราบรื่น แล้วคนเหล่านั้นจะมีความคิดเห็นเช่นไร?
เปลวเพลิงกระจายไปรอบด้าน!
พลังของทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างรุนแรง!
พลังที่ทรงพลังนั้นสาดซัดเข้ามาอย่างรวดเร็ว ซึ่งซานซานได้รับโจมตีนี้โดยตรง!
ทันใดนั้นร่างกายของเขาลอยกระเด็นออกไปอย่างไม่สามารถควบคุมได้!
เสียงอุทานทุ้มต่ำดังออกมาจากฝูงชน
“ซี๊ด…ดูเหมือนว่าเถ้าแก่ซานก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ!”
“ไม่หรอกมั้ง? เห็นได้ชัดว่าเปลวเพลิงทั้งสองกลุ่มมีลักษณะเหมือนกันไม่มีผิด เถ้าแก่ซานจะไม่สามารถต่อกรเลยได้อย่างใด?”
“เปลวเพลิงเหล่านั้นดูเหมือนกัน แต่สถานการณ์ที่อยู่ภายในนั้นเป็นอย่างใดพวกเราจะรู้ได้อย่างใด? ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้เถ้าแก่ซานก็เคยเดินทางมาที่นี่พร้อมกับคนของสำนักกระบี่ทมิฬ แต่ในตอนนั้นก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ หลังจากนั้นเขาก็ถูกพาตัวไปยังสำนักกระบี่ทมิฬ…ถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้มีม่านพลังเกิดขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ เกรงว่าคนของสำนักกระบี่ทมิฬคงไม่พาเขามาที่นี่แน่นอน”
“ข้าก็ว่าหลายวันที่ผ่านมานี้ไม่เห็นหน้าเขาเลย ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง…แม้กระทั่งเขาจะไม่สามารถจัดการได้ แล้วคนอย่างพวกเรา เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสหรอกละมั้ง?”
“…นั่นก็ไม่แน่ สถานการณ์ของยอดเขาหลานชิงในตอนนี้ มีความเป็นไปได้อย่างมากว่าจะต้องมีสมบัติปรากฏขึ้นมา ไม่อย่างนั้นแล้วคนของสำนักกระบี่ทมิฬจะทุ่มเทแรงกายแรงใจขนาดนี้ไปเหตุใด? เรื่องอย่างโชคชะตาฟ้าลิขิตนั้น เดิมทีก็เป็นเรื่องที่พูดยากอยู่แล้ว ไม่แน่ว่า…ระหว่างเจ้ากับข้า อาจจะมีใครสักคนที่โชคดีก็ได้!”
“หึ ได้รับโชคชะตาขนาดนั้นมา เจ้ากล้ารับหรืออย่างใด? เรื่องผ่านมานานขนาดนี้แล้ว หรือว่าเจ้าก็ยังดูไม่ออกอีกว่าสำนักกระบี่ทมิฬต้องการสมบัติที่อยู่ภายในยอดของหลานชิงแห่งนี้มากเพียงใด? หากเจ้าอยากได้…เจ้าก็ต้องยอมรับชะตากรรมนั้น!”
สิ้นเสียงคำพูดนั้นใบหน้าของคนทั้งหลายก็เปลี่ยนสีไป ความเงียบเข้าปกคลุมทันที
เหตุใดพวกเขาจะไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้?
สำนักกระบี่ทมิฬแทบจะใช้ฝ่ามือเดียวคลุมท้องฟ้า หากต้องการแย่งอันใดสักอย่างไปจากพวกเขา เกรงว่ามันจะเป็นเรื่องยากราวกับขึ้นสวรรค์!
…
ซานซานหยัดยืนได้อย่างยากลำบาก ใบหน้าซีดขาวลงหลายส่วน
แต่ภายในใจของเขาก็รู้สึกผ่อนคลายลงมาก
เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว!
เมื่อถูกม่านพลังนั้นปฏิเสธต่อหน้าทุกคน ต่อให้เป็นมั่วอวิ๋น ก็ไม่กล้าบีบบังคับให้เขาเข้าไปในม่านพลังแห่งนี้อีกครั้งแน่นอน
แล้วเรื่องนี้มันจะจบลงเช่นนี้หรือ!
เขากลอกดวงตาขึ้น พร้อมใช้ความคิด
อื้อ เขายังต้องลองดูอีกสักหน่อย ต้องแสดงให้เต็มที่!
ขอเพียงแค่ทำให้พวกเขาเชื่อว่าเขาลงมืออย่างสุดกำลังแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ ดังนั้นเขาจึงสามารถถอนตัวออกมาได้อย่างราบรื่น!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ซานซานก็รวบรวมสมาธิ โคจรพลังปราณที่อยู่ในร่างกาย เพิ่มพลังให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จากนั้นก็ลงมือโจมตี!
ครั้งนี้เปลวเพลิงบนฝ่ามือของเขานั้นโหมกระหน่ำมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม!
เปรี้ยง!
เปลวเพลิงทั้งสองสายปะทะกันอย่างรุนแรง!
ภายในใจของซานซานรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง…สำเร็จแล้ว!
ทันใดนั้นเมื่อเขากำลังจะสะกิดปลายเท้าและฉวยโอกาสถอยออกไป เขากลับต้องตกใจที่พบว่า เปลวเพลิงที่พุ่งออกมาจากก้อนหินนั้น พุ่งมาทางเขาอย่างกะทันหัน ก่อนจะรัดข้อมือของเขาเอาไว้อย่างแน่นหนา!
แล้ว…ลากตัวเขาไปอย่างแรง!
………………..