ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1869 ความน่าเชื่อถือ
ตอนที่ 1869 ความน่าเชื่อถือ
………………..
มิน่าล่ะภายในระยะเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่วันเปลวเพลิงถึงสามารถลุกลามได้มากขนาดนี้…
ฉู่หลิวเยว่หันมองไปทางซานซาน
“ซานซาน พื้นที่มิติขนาดเล็กของเจ้า…”
ซานซานรู้ว่านางต้องการจะถามอันใด ดังนั้นเขาจึงส่ายหน้า
“พื้นที่มิติขนาดเล็กของข้านั้นน่าจะไม่เป็นเช่นนี้ ที่แห่งนี้นั้นแตกต่างกันออกไป”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า แต่ความสงสัยที่อยู่ภายในนั้นกลับมีมากกว่าเดิม
เปลวเพลิงของยอดเขาหลานชิงแตกต่างจากเปลวเพลิงทั่วไปแน่นอน
และในตอนนั้นเอง ระลอกคลื่นที่คุ้นเคยสายหนึ่งก็แผ่กระจายออกมาจากร่างกายของนาง!
หัวใจของฉู่หลิวเยว่ถูกบีบรัด ยังคงเป็นโล่สีดำอันนั้น!
นางไม่ได้เรียกออกมาในทันที แต่กลับกวาดสายตามองรอบด้านก่อน
“ม่านพลังนี้ถูกปิดกั้นเอาไว้แล้ว พวกเรามองไม่เห็นด้านนอก คนด้านนอกก็น่าจะมองไม่เห็นพวกเรา”
เหมือนกับว่าหรงซิวสามารถคาดเดาความคิดของนางได้ เขาจึงพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ฉู่หลิวเยว่ถึงได้โล่งใจ
หลังจากลังเลอยู่สักพักหนึ่ง นางก็เรียกโล่สีดำอันนั้นออกมา
ซานซานถอยหลังลงไปหนึ่งก้าว ในแววตาของเขายังซ่อนความตื่นตระหนกเอาไว้เต็มเปี่ยม
เขายังคงมีปมจากครั้งที่แล้วอยู่เลย!
ตอนนี้เมื่อมาเห็นโล่สีดำอันนี้อีกครั้ง เขาจึงอยากจะหลบหลีกออกไปในทันที
ลำคอของเขาแห้งผาก หัวใจวุ่นวายสับสน ก่อนจะชี้นิ้วไปที่โล่สีดำ แล้วถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า
“นายท่าน ท่านคงไม่…ไม่ทำให้เกิดเรื่องแบบเดิมเกิดขึ้นมาอีกครั้งหรอกใช่หรือไม่?”
ระลอกคลื่นบนโล่สีดำนี้ยังคงแผ่กระจายออกมาอย่างต่อเนื่อง
พรึ่บ!
พรึ่บ!
พรึ่บ!
ระลอกคลื่นนั้นรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ พลังที่ซ่อนอยู่นั้นน่าทึ่งเป็นอย่างมาก!
ในที่สุดพลังแห่งสวรรค์และโลกก็มารวมตัวกันอีกครั้ง ก่อนจะพุ่งมาทางโล่สีดำอันนี้!
ลำแสงส่องสว่างสายหนึ่ง แผ่กระจายออกมาจากโล่
แม้ว่าจะอ่อนแรงเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่สามารถมองข้ามได้
ทั้งสามคนรู้เป็นอย่างนี้ว่าลำแสงนี้น่ากลัวขนาดไหน!
ซานซานชี้นิ้วไปทางโล่สีดำ มือของเขาสั่นระริกอย่างต่อเนื่อง ท่าทางย่ำแย่เป็นอย่างมาก
“นายท่าน! มันๆ จะเริ่มอีกๆ แล้ว!”
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองมันตาเขม็ง
ความจริงแล้วนางก็อยากจะรู้ว่าโล่สีดำอันนี้ ต้องการจะทำอันใดกันแน่!
เสียงลมพัดหวีดหวิว
พลังที่อยู่รอบข้างกำลังพวยพุ่งมาทางนี้ราวกับคลื่นใหญ่ก็ไม่ปาน
อีกทั้งพลังเหล่านั้นก็พุ่งเข้าสู่โล่สีดำอันนั้นอย่างต่อเนื่อง
พลังที่มีจำนวนมากถ่ายเทลงในหลุมที่ไม่มีก้น ตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่มีระลอกคลื่นใดๆ ปรากฏขึ้นมาเลย
มีเพียงความเปลี่ยนแปลงเดียวที่ฉู่หลิวเยว่สามารถมองเห็น คือยิ่งพลังถูกถ่ายเทมามากเท่าไร ลำแสงของโล่สีดำอันนั้นก็จะสว่างเจิดจ้ามากขึ้นเท่านั้น
ในที่สุด วินาทีหนึ่งก็มีเสียงแตกอันแผ่วเบาดังกระจายออกมา!
แกร๊ก!
“วันนั้นตอนที่อยู่ในพื้นที่มิติขนาดเล็ก เหมือนว่ามันจะลอกได้เร็วกว่านี้เล็กน้อยนะ”
ฉู่หลิวเยว่วิเคราะห์อย่างใจเย็น
หรงซิวกวาดสายตามองรอบข้าง
“อาจจะเป็นเพราะว่า…ที่แห่งนี้มีพลังแห่งสวรรค์และโลกไม่อุดมสมบูรณ์เท่ากับพื้นที่มิติขนาดเล็กแห่งนั้น”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้าอย่างเข้าใจ
ซึ่งเป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว สถานที่แห่งนี้ไม่สามารถเปรียบเทียบกับพื้นที่มิติขนาดเล็กนั้นได้เลย
แต่ว่า…
เปลวเพลิงเหล่านี้กลับปรากฏขึ้นมาจากใต้โขดหิน อีกทั้งยังก่อร่างสร้างเป็นม่านพลังขนาดใหญ่ หรือว่าเป้าหมายที่แท้จริงแล้วก็คือนาง?
ซึ่งกล่าวในอีกนัยหนึ่งก็คือ หมายถึงโล่สีดำอันนั้น
ฉู่หลิวเยว่ก็ไม่แน่ใจ
ซานซานที่ยืนอยู่ด้านข้าง เขาหันมองฉู่หลิวเยว่ที หันมองหรงซิวที ก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ และเขาไม่อยากจะพูดอันใดอีกต่อไปแล้ว
เขาสามารถมองออก ไม่ว่าทั้งสองคนนี้จะเจอสถานการณ์แบบใด พวกเขาก็ยังสามารถสงบนิ่งได้อยู่เสมอ
แม้ว่าไฟจะลนก้นแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่มีความตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย
เขาถูกทิ้งให้กังวลอยู่ตามลำพัง
เมื่อเห็นว่านายท่านของตนเองมีสีหน้าราบเรียบ ซานซานก็รู้สึกสงบใจขึ้นมาได้มากอย่างไม่ทราบสาเหตุ
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกำหมัดกรอด
นี่มีอันใดให้น่ากังวลกัน?
ไม่ว่าอย่างใดก็ตามเรื่องนี้มันได้เกิดขึ้นแล้ว ทางที่ดีที่สุดก็คือต้องยอมรับมัน!
และนอกจากนี้หากยอดเขาหลานชิงได้ซ่อนของวิเศษเอาไว้จริงๆ ดูจากแนวโน้มในตอนนี้แล้ว มันก็จะกลายเป็นของนายท่าน!
แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องดี!
คิดได้ดังนี้ซานซานก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก
ไม่ว่าอย่างใดก็ตามพี่ใหญ่ก็ยังอยู่ที่นี่ พวกเขาจะยอมให้คนของสำนักกระบี่ทมิฬมารังแกได้หรือ?
“นายท่าน เหมือนว่าโล่อันนั้นของท่านจะสามารถควบคุมเปลวเพลิงได้นะขอรับ?”
หลังจากที่ซานซานได้ขจัดความคิดที่วุ่นวายมากมายออกไปแล้ว เขาก็จับประเด็นสำคัญได้อย่างรวดเร็ว
ดวงตาของฉู่หลิวเยว่สว่างวาบ ความคิดปรากฏขึ้น
“…เหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ …”
ก่อนหน้านี้นางไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย แต่เมื่อซานซานกล่าวเตือน นางก็ตระหนักขึ้นมาได้ และเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ ด้วย
นางหันไปมองที่ด้านหลัง
บนพื้นมีรอยแตกร้าวกระจายอยู่
เปลวเพลิงสีน้ำเงินพวยพุ่งออกมาจากจุดนั้น!
…
ท่ามกลางความมืด ในตอนนี้ที่ห้องโถงจวนเยว่กลับมีแสงสว่างเจิดจ้า
เฉินอีและคนอื่นๆ กำลังรวมตัวกันอยู่ที่นั่น
บรรยากาศอึมครึม
“พี่ใหญ่ คนของสำนักกระบี่ทมิฬพานายท่านและคนอื่นๆ ไปที่ยอดเขาหลานชิง เกรงว่าพวกเขาจะต้องไม่มีเจตนาดีแน่นอน พวกเราจะไปที่นั่นดีหรือไม่?”
อู่เหยาพูดเปิดประเด็นเป็นคนแรกเพื่อทำลายความเงียบ
นอกจากเฉินอี ภายในที่แห่งนี้เขามีตำแหน่งสูงที่สุด
ทางด้านสำนักกระบี่ทมิฬเพิ่งจะเกิดเรื่อง พวกเขาก็ได้รับข่าวแล้ว
เพียงแต่ว่าไม่รู้เหตุใด พี่ใหญ่ถึงยังไม่เคลื่อนไหวเลย
ทุกคนก็อดรนทนไม่ไหวจึงได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่
อวี๋จิ่วกล่าวเสริม
“นอกจากนี้หากพวกเราไม่ไป อาจจะทำให้คนของสำนักกระบี่ทมิฬสงสัยมากกว่าเดิม!”
ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้บุ่มบ่าม นั่นเป็นเพราะว่าข่าวของซานซานยังถูกขังอยู่ภายในสำนักกระบี่ทมิฬ
แต่ในตอนนี้เหมือนว่าทุกคนจะรู้เรื่องเหล่านี้แล้ว ดังนั้นพวกเขาก็ไม่มีอันใดที่จะต้องกังวล
เฉินอีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขายังไม่ได้ตอบกลับในทันที จากนั้นก็หันไปมองหน้าเยี่ยนชิง
“พี่เยี่ยนคิดว่าอย่างใด?”
สายตาของคนที่อยู่ภายในห้องโถงล้วนมองมาที่เขาอย่างพร้อมเพรียง
เฉินอีเป็นคนเรียกเยี่ยนชิงมาที่นี่
เมื่อเห็นว่าเขาอยู่ที่นี่ อู่เหยาและคนอื่นๆ ก็รู้สึกมึนงงไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ถามอันใดมาก
แต่ในตอนนี้คาดไม่ถึงว่าเฉินอีจะเป็นฝ่ายขอความคิดเห็นจากเยี่ยนชิงเอง พวกเขาก็ยิ่งสับสนมากขึ้นกว่าเดิม
เกิดอันใดขึ้นกับพี่ใหญ่เนี่ย?
เขาต้องการสานสัมพันธ์กับเยี่ยนชิงหรือ?
เยี่ยนชิงพยักหน้า
“ตอนนี้ทางด้านของฝ่าบาทไม่มีอันใดที่ต้องเป็นห่วงชั่วคราว ดังนั้นข้าจึงไม่ต้องลงมือ แต่ว่า…หากทุกท่านรู้สึกเป็นห่วงจริงๆ และจะไปที่นั่นก็ไม่มีปัญหา สิ่งที่อวี๋จิ่วพูดก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล เรื่องของยอดเขาหลานชิงแพร่สะพัดออกไปจนทั่วแล้ว หากพวกเรายังไม่เคลื่อนไหว เหมือนว่าจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไร”
พวกเขาทั้งหลายสบสายตากัน
เยี่ยนชิงไม่มีท่าทีเป็นกังวลเลยแม้แต่น้อย…
หรือว่าเขาจะรู้สึกมั่นใจจริงๆ?
เฉินอีได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้น…ข้าก็จะไปด้วยตนเอง”
เมื่อพูดจบเขาก็ลุกขึ้นยืน
“พี่ใหญ่…”
คนที่เหลือเรียกขานโดยพร้อมกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการติดตามไปด้วย
“พวกเจ้าอยู่ที่นี่”
เฉินอีไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้พูด แต่กลับหันมามองทางเยี่ยนชิง
“เรื่องภายในจวนเยว่คงต้องมอบให้พี่เยี่ยนจัดการชั่วคราวแล้ว”
………………..