ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1870 อักขระลึกลับ
ตอนที่ 1870 อักขระลึกลับ
………………..
ทันทีที่สิ้นเสียง สีหน้าของคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นก็ล้วนตกใจเป็นอย่างยิ่ง
พี่ใหญ่หมายความว่าอย่างใด?
มอบหน้าที่การดูแลความปลอดภัยของจวนเยว่ทั้งหมดให้แก่เยี่ยนชิงอย่างนั้นหรือ?
เขาเชื่อใจเยี่ยนชิงมากขนาดนั้นเชียวหรือ!
เมื่อได้ยินดังนั้น ในแววตาของเยี่ยนชิงก็มีร่องรอยของความสับสนปรากฏขึ้น
เห็นได้ชัดว่า เขาเองก็ตกใจกับการตัดสินใจของเฉินอีเช่นเดียวกัน
แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ระงับอารมณ์ลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
เฉินอีพูดกำชับขึ้นมาอีกสองประโยค จากนั้นก็สาวเท้าออกไป เงาร่างสีเขียวหายไปจากครรลองสายตาของทุกคนอย่างรวดเร็ว
เยี่ยนชิงหรี่ตาลงเล็กน้อย
เฉินอีผู้นี้…
เหมือนว่าเขาจะรู้อันใดมาไม่น้อยเลย
ภายในห้องโถงแห่งนั้นถูกความเงียบปกคลุมอยู่ครู่หนึ่ง
ยังดีที่ช่องเวลาก่อนหน้านี้พวกเขาเข้ากันได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงนับว่าคุ้นเคยกันอยู่
อู่เหยาและคนอื่นๆ ภายในห้องโถงก็ยอมรับกับคำสั่งของพี่ใหญ่ได้อย่างง่ายดาย หลังจากเขาทักทายเยี่ยนชิงแล้ว พวกเขาก็แยกย้ายกันไป
แต่ว่าตั้งแต่ต้นจนจบ เขายังไม่เห็นน้องแปดเลย
ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้นางไปสืบข่าวจนเหนื่อยล้า หรือว่านางรู้ว่าเยี่ยนชิงอยู่ที่นี่ นางจึงตั้งใจไม่มา
เดิมทีเยี่ยนชิงก็อยากจะถามใครบางคน แต่สุดท้ายเขาก็นึกได้ว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเขา
การที่ให้เฉินอีเข้ามาแทรกแซงก็สร้างความวุ่นวายมากพอแล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นให้คนอื่นเข้ามาก้าวก่ายเรื่องนี้ด้วย
หลังจากครุ่นคิดไปแล้ว เขาก็ไม่ได้พูดอันใดออกมา
…
ตอนที่เฉินอีมาถึงยอดเขาหลานชิงก็เป็นเวลากลางดึกแล้ว
ความมืดที่ดำสนิทมีเพียงเปลวเพลิงจากยอดเขาหลานชิงเท่านั้นที่ส่องสว่างอยู่
คนจำนวนมากก็ยังรวมตัวกันอยู่ที่แห่งนั้น
ไม่มีใครสังเกตถึงการมาถึงของเฉินอีเลย
เขาจึงเลือกยืนอยู่ในตำแหน่งที่ไม่สะดุดตา พร้อมเอามือสองข้างไพล่ไปด้านหลัง แล้วมองไปทาง
เยี่ยนชิง
มีบางคนหันมามองเขา แต่ก็ไม่ได้สนใจอันใด
เรื่องนี้เกิดความวุ่นวายโกลาหลยิ่งใหญ่ มีคนเข้ามาสังเกตสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา
พวกเขาเห็นมาเยอะจนรู้สึกชินแล้ว
“นี่ก็ผ่านไปหนึ่งชั่วยามแล้ว เถ้าแก่ซานก็ยังไม่ออกมาเลย หรือว่าเขาจะ…”
“ไม่หรอกมั้ง ทางด้านผาธารใสยังคงเงียบสงบอยู่ตลอด ถ้าเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับเขาจริงๆ ละก็ ทางนั้นไม่มีทางเงียบกริบอย่างนี้แน่…”
“จะว่าไปแล้วก็ใช่!”
“แต่พวกเขาก็ยังไม่ยอมออกมาเลย ไม่มีใครรู้ว่าด้านในเกิดเรื่องอันใดขึ้น จะให้พวกเรารอคอยเช่นนี้มันก็ทรมานจริงๆ!”
“หึ หากเจ้ารอไม่ไหวแล้วเจ้าก็กลับไปสิ ที่เจ้ายังอยู่ที่นี่ ก็เพราะว่าอยากรู้ไม่ใช่หรือว่าภายในยอดเขาหลานชิงแห่งนั้นได้ซ่อนอันใดเอาไว้อยู่กันแน่? อีกทั้งเถ้าแก่ซานผู้นั้นจะสามารถแย่งชิงมันออกได้หรือไม่?”
“เจ้า…หึ ข้าก็แค่มาร่วมชมความสนุกเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้เพ้อฝันอย่างคนเหล่านั้นที่จะพยายามแย่งของของสำนักกระบี่ทมิฬ!”
“เจ้าพูดบ้าอันใดกัน!”
…
เสียงกระซิบกระซาบทุกประเภทดังขึ้นมาจากรอบข้าง
เฉินอียืนฟังมันด้วยความเงียบงันและสีหน้าราบเรียบ
ต่อให้นายท่านสามารถออกมาได้อย่างราบรื่น…
แต่ว่าพวกเขาก็ยังต้องจัดการกับด่านนี้อยู่ดี
เฉินอีกำหมัดกรอด
…
คนที่อยู่ด้านนอกรู้สึกร้อนใจเป็นอย่างมาก
ส่วนคนที่อยู่ภายในก็เกือบจะหลงลืมวันเวลาที่เคลื่อนผ่านไปอย่างเชื่องช้าแล้ว
ฉู่หลิวเยว่นั่งขัดสมาธิ นางวางโล่สีดำเอาไว้ตรงหน้า
บนโล่สีดำนั้นมีพลังหนึ่งหมุนวนอยู่
ในตอนนี้พลังแห่งสวรรค์และโลกที่อยู่รอบข้างถ่ายเทเข้ามาภายในอย่างต่อเนื่อง
ตอนแรกฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกตกใจ สงสัย และคาดเดาไปต่างๆ นานา แต่เมื่อถึงตอนนี้ความคิดของนางก็สงบลงมากแล้ว
และตอนนี้นางก็กำลังรอคอยอยู่
…นางกำลังรอคอยว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อใด
เปลวเพลิงที่อยู่รอบข้างยังคงลุกโชนอย่างต่อเนื่อง
ใช่ว่าฉู่หลิวเยว่จะไม่รู้สึกสงสัยว่าเปลวเพลิงเหล่านี้มาจากที่ใดกันแน่ ภายใต้ยอดเขาหลานชิงซ่อนอันใดไว้อยู่กันแน่
แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ต้องการให้นางสำรวจ
ดังนั้นความสนใจของนางทั้งหมดจึงมุ่งอยู่ที่โล่สีดำของตนเอง
แกร๊ก!
เสียงที่แผ่วเบาดังขึ้นมาอีกครั้ง
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกยินดีมาก
…ในที่สุดสนิมแผ่นสุดท้ายก็หลุดลอกออกมาจนหมดสิ้นแล้ว!
ฉู่หลิวเยว่ถอนหายใจยาวๆ ออกมาด้วยความโล่งอก
แต่ว่ายังดีที่ในที่สุด…
พรึ่บ!
เสียงดังลั่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้เสียงนั้นไม่ได้มาจากโล่
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้ามองทั้งสองคน
“พวกเจ้า…ได้ยินเสียงอันใดบ้างหรือไม่?”
ซานซานพยักหน้า
“ได้ยินขอรับ! เหมือนกับ…”
หรงซิวหรี่ตาลงเล็กน้อย
“เสียงมันดังมาจากด้านล่าง”
ทันทีที่สิ้นเสียง ฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกว่าใต้ฝ่าเท้าของนางสั่นสะเทือนอย่างรวดเร็ว!
“นายท่าน! ดูนั่นสิ!”
ทันใดนั้นซานซานก็เหมือนจะมองเห็นอันใดบางอย่างที่น่าตื่นตะลึง เขารีบชี้ไปทางด้านหลังของฉู่หลิวเยว่
ฉู่หลิวเยว่หันกลับไปมอง
ในตอนนั้นเองนางก็เห็นว่ามีอันใดบางอย่างพุ่งตัวออกมาจากเปลวเพลิงสีน้ำเงิน สิ่งนั้นกลายเป็นลำแสงสว่างเจิดจ้า และพุ่งตัวมาทางนี้อย่างรวดเร็ว!
ฉู่หลิวเยว่จดจำได้อย่างแม่นยำ
ตำแหน่งนั้นเป็นจุดที่เปลวเพลิงสีน้ำเงินระเบิดขึ้นมาเป็นครั้งแรกบนยอดเขาหลานชิง!
ส่วนสิ่งที่พุ่งตัวออกมาก็คือ…
ฉู่หลิวเยว่ยังไม่ทันได้มองอย่างชัดเจน ของสิ่งนั้นก็พุ่งมาที่ด้านหน้าของนางแล้ว ก่อนจะตกลงบนโล่สีดำที่อยู่ตรงหน้านาง!
ฉู่หลิวเยว่ถอนสายตากลับมา ก่อนจะจ้องมองตาเขม็ง
นางเห็นว่าตำแหน่งที่สนิมหลุดลอกไปนั้น ในตอนนี้ถูกปกคลุมด้วยผลึกสีน้ำเงิน
ผลึกเหล่านั้นเป็นแผ่นบาง เหมือนกับเกล็ดน้ำแข็งสีน้ำเงิน หลังจากที่มันสัมผัสกับโล่สีดำแล้ว มันก็ผสานกันอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย!
วินาทีถัดมาตำแหน่งที่มีรอยบุบก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน!
ฉู่หลิวเยว่ขยับเข้าไปมองใกล้ๆ
ลายเส้นที่ซับซ้อนปรากฏขึ้นคล้ายมีคล้ายไม่มี!
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไป
บนโล่สีดำนั้นมีอักขระลึกลับถูกสลักขึ้น!
ในตอนนี้อักษรที่ว่าได้ปรากฏขึ้นมาอย่างเลือนราง
ความลับที่ถูกปิดผนึกเอาไว้มานาน ในที่สุดก็ได้เปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมาแล้ว!
………………..