ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1880 หนี!
ตอนที่ 1880 หนี!
………………..
หากทั้งสองคนนี้ถูกสังหารที่นี่…
ไม่เพียงแต่จะสามารถชดเชยความผิดพลาดจากเรื่องยอดเขาหลานชิงได้ เขายังได้รับความสำคัญจากประมุขอีกด้วย และทำให้ระดับของเขาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งระดับ!
ตำแหน่งของเขาไม่มีทางเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้ แต่ด้านโอกาสและทรัพยากรอื่นๆ เขาจะต้องได้รับมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน!
ก่อนหน้านี้มั่วอวิ๋นเคยได้ยินชื่อของพวกเขาทั้งสองมาก่อน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะมาหาถึงที่นี่ด้วยตนเอง!
เมื่อได้ยินคำพูดของมั่วอวิ๋น หัวใจซานซานก็จมดิ่งลงในทันที
คาดไม่ถึงว่ามั่วอวิ๋นจะมีความอาฆาตต่อนายท่านและฝ่าบาทมาตั้งนานแล้ว!
แต่สำนักกระบี่ทมิฬกับพวกเขาไม่มีความแค้นต่อกัน เหตุใดถึง…
เขายังไม่ทันได้ครุ่นคิดอย่างชัดเจน มั่วอวิ๋นก็พุ่งตัวออกไปในทันทีแล้ว!
ในขณะเดียวกันนั้นเองกลางฝ่ามือของเขาก็มีกระบอกไม้ไผ่ปรากฏขึ้น
เขาดึงมันอย่างแรงโดยไม่ลังเล!
วี้ด!
เสียงหวีดแหลมแหวกอากาศ!
ตู้ม!
ดอกไม้ไฟลูกหนึ่งระเบิดขึ้นกลางท้องฟ้าอย่างรุนแรง!
ดอกไม้ไฟเหล่านั้นบานสะพรั่ง กลายเป็นสัญลักษณ์กระบี่คู่ส่องสะท้อนกับดวงจันทร์อันเป็นสัญลักษณ์ของสำนักกระบี่ทมิฬ!
ซานซานเบิกตากว้างขึ้นในทันที แล้วพูดออกมาว่า
“แย่แล้ว!”
เขากำลังเรียกรวมตัวกำลังพลของสำนักกระบี่ทมิฬทั้งหมด!
ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในชั่วพริบตา
ซานซานสบถคำด่าภายในใจ
ในเวลาแบบนี้แล้ว สำนักกระบี่ทมิฬจะมาร่วมสนุกอะไรเล่า!
“มั่วอวิ๋น! ข้าคิดว่าข้ามิเคยล่วงเกินสำนักกระบี่ทมิฬของเจ้านะ เหตุใดเจ้าถึงต้องซ้ำเติมจวนเยว่ของพวกเราเช่นนี้ด้วย!”
ซานซานถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งครึม
มั่วอวิ๋นเหลือบสายตาหันมามองหาเขา
ถ้าพูดให้ถูกต้องก็คือ มองมาที่พวกเขา
“เถ้าแก่ซาน เรื่องนี้เจ้าจะโทษข้าไม่ได้นะ ปีสองปีที่ผ่านมานี้ เจ้าก็ได้ทำคุณประโยชน์ให้แก่สำนักกระบี่ทมิฬมากมาย หากเจ้าจะตัดขาดจากความชั่วร้าย แล้วหันหน้าเข้าแสงสว่าง ข้าก็ยังสามารถไว้ชีวิตเจ้าได้อยู่”
ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังต้องการของวิเศษภายในพื้นที่มิติขนาดเล็กนั้นอยู่
ซานซานได้ยินดังนั้นก็ถ่มน้ำลายออกมาอย่างรุนแรง
“ถุ้ย!”
มั่วอวิ๋นผู้นี้ไร้ยางอายเป็นอย่างมาก!
เขากลืนกินไปมากขนาดนั้น แต่คาดไม่ถึงว่าสุดท้ายก็ยังทำตัวเป็นคนที่ให้ทานผู้อื่น
หากไม่ใช่เพราะว่าเขาต้องการหาเงินให้แก่นายท่าน เขาไม่มีทางทนอยู่กับสำนักกระบี่ทมิฬนานขนาดนี้หรอก!
แต่ตอนนี้มั่วอวิ๋นกลับเปลี่ยนสี ตั้งใจจะลงมือโจมตีนายท่านของเขา…
เขาจึงไม่จำเป็นจะต้องอดทนอีกต่อไปแล้ว!
“มั่วอวิ๋น! เจ้าอย่าให้ความสำคัญกับตนเองเกินไปนัก! เหตุใดต้องไม่ลองส่องฉี่ของตนเองดูบ้างล่ะ ลองส่องดูว่าตอนนี้เจ้าเป็นอย่างไรบ้างแล้ว! ข้ายังไม่ได้คิดบัญชีกับเจ้าเลยนะที่เจ้าแย่งของวิเศษข้าไปมากมายเท่าใด ตอนนี้ยังจะมารังแกนายท่านของข้าอีก เจ้าไม่เห็นหัวข้าแล้วหรืออย่างใด?”
ปกติแล้วใบหน้าของซานซานจะมีรอยยิ้มประดับเอาไว้อยู่เสมอ น้อยครั้งนักที่จะเผยสีหน้าอื่นให้ผู้อื่นเห็น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคำหยาบเลย
แต่ในตอนนี้เขาได้ระเบิดออกมาอย่างกะทันหัน จึงทำให้คนจำนวนไม่น้อยต่างต้องตกใจไป
“ซานซาน! ให้สุรามงคลเจ้าไม่ดื่ม แต่กลับอยากดื่มสุราลงทัณฑ์สินะ!”
ซานซานหัวเราะด้วยเสียงเย็นยะเยือก มือข้างหนึ่งเท้าเอว ส่วนอีกข้างหนึ่งชี้ไปทางมั่วอวิ๋น แล้วด่าขึ้นมาเสียงดังลั่นว่า
“แม้กระทั่งข้ามีชื่อว่าอะไรเจ้ายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ! แต่เจ้ายังจะมาทำตัวกำเริบเสิบสานที่นี่อีกหรือ! หน้าไม่อายจริงๆ!”
มั่วอวิ๋นไม่เคยถูกใครชี้หน้าด่าแบบนี้มาก่อน ทำให้ในตอนนั้นเขานึกอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าควรจะโต้เถียงอย่างไร เขาโกรธจนตัวสั่นสะท้านไปทั้งร่างกาย
“จะ…เจ้า!”
เขาโกรธจนหัวเราะออกมา
“ดี! ในเมื่อเจ้าพูดเช่นนี้ออกมาแล้ว วันนี้สำนักกระบี่ทมิฬของพวกเราก็มิต้องไว้ไมตรีกับเจ้าอีกต่อไปแล้ว!”
หากซานซานตายไป สำหรับเขาแล้วก็เกิดการสูญเสียไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่หากสามารถจับตัวฉู่หลิวเยว่กับหรงซิวไปได้ละก็ เรื่องอื่น…ล้วนไม่สำคัญ!
ตึกๆ!
ในตอนที่ทั้งคู่กำลังปะทะกัน รอบข้างก็มีคนจำนวนนับไม่น้อยพุ่งตัวออกมา!
คนเหล่านั้นคือคนของสำนักกระบี่ทมิฬที่รับหน้าที่จับตามองจวนเยว่
นอกจากนั้นแล้ว บริเวณห่างออกไปยังมีเงาร่างอีกจำนวนมากที่กำลังพุ่งตัวมาที่นี่อย่างเร่งร้อน
พวกเขาล้วนเป็นคน ของสำนักกระบี่ทมิฬ!
เมื่อครู่นี้มั่วอวิ๋นได้ส่งสัญญาณออกไป คนของสำนักกระบี่ทมิฬก็รีบเร่งรุดมาที่นี่โดยทันที
เมื่อเห็นว่ามีคนมารวมตัวกันอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งภายในอากาศก็มีจิตสังหารคละคลุ้ง ในตอนแรกหนานอวี่สิงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก แต่ต่อมาเขาก็หัวเราะเสียงเย็น
“ซั่งกวนเยว่! หรงซิว! ดูเหมือนว่าศัตรูเก่าของเจ้าจะไม่ได้มีเพียงแค่ตระกูลหนานสินะ!”
ภายในสถานที่แบบนี้ก็ยังสามารถเจอกับคนที่ต้องการจะสังหารพวกเขา…
เห็นได้ชัดว่านวันทั่วไปนั้นเขาจะทำตัวกำเริบสาน ล่วงเกินผู้คนไปไม่รู้กี่มากน้อย!
มั่วอวิ๋นตั้งใจลงมือกับพวกเขาจริงๆ!
แม้กระทั่งซานซานเขาก็ไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว!
ในตอนนั้นความคิดของฉู่หลิวเยว่หมุนวนอย่างรวดเร็ว
นางจำไม่ได้ว่านางกับหรงซิวเคยไปล่วงเกินคนของสำนักกระบี่ทมิฬเมื่อใดกัน
หลังจากที่พวกเขามาถึงท่าเรือดอกท้อ นางถึงได้รู้ว่าที่นี่มีคนเหล่านี้อยู่
หลังจากผ่านไปสักพักสำนักกระบี่ทมิฬก็ได้มาหาเรื่องซานซาน พวกเขาก็ยังอดทนไว้ตลอด
ใครจะรู้เล่าว่าหลังจากที่มั่วอวิ๋นได้ยินชื่อของพวกเขาท่าทีก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหันเช่นนี้
ไม่ทันได้พูดจาอะไรสักคำอะไรเลย ก็หมายจะเอาชีวิตกันแล้ว!
หากต้องเผชิญหน้ากับหนานอวี่สิงเพียงคนเดียวก็ไม่ได้น่ากลัวเท่าไร
ต่อให้หนานอวี่สิงพาผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์มาอีกสักกี่คน พวกเขาก็ไม่มีทางพ่ายแพ้
แต่ท้ายที่สุดแล้วจวนเยว่ก็เป็นถิ่นของซานซาน
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็มีไพ่ไม้ตายอยู่จำนวนไม่น้อย
หากประมือกัน ใครจะแพ้ใครจะชนะ เรื่องนี้ก็ยังไม่ทราบแน่ชัด!
แต่…
ตอนนี้มีสำนักกระบี่ทมิฬเข้ามาร่วมด้วย เรื่องจึงยุ่งยากมากขึ้นแล้ว!
แม้ว่าก่อนหน้านี้สำนักกระบี่ทมิฬจะสูญเสียไปกับยอดเขาหลานชิง แต่กำลังพลของเขาก็มีจำนวนมาก ดังนั้นจึงไม่เห็นเรื่องการสูญเสียนี้อยู่ในสายตาเลย!
สำนักกระบี่ทมิฬอยู่ภายในท่าเรือดอกท้อ และเขาแทบจะทำตัวเป็นอันธพาลครองเมือง
หากพวกเขาตั้งใจที่จะสังหารคนทั้งหมด…เกรงว่าสถานการณ์คงจะไม่สู้ดีนัก
แม้ว่าคนที่อยู่ภายในจวนเยว่จะมีฝีมือไม่เลว แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนเหล่านี้!
ตึง!
เขาทั้งตกใจระคนโมโห
เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้อยู่ในระดับเทพขั้นสูงเท่านั้น แต่วิถีกระบี่ของนางนั้นไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าเขาเลย!
สีหน้าของหนานอวี่สิงเขียวสลับขาว
หากเขาแพ้ในสถานการณ์แบบนี้ เขาก็ไม่มีหน้าอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไปแล้ว!
เมื่อนึกถึงการตายของหนานอีอี ความโกรธที่อยู่ภายในใจของเขาก็พวยพุ่งขึ้นอย่างบ้าคลั่งกว่าเดิม!
“พวกเจ้าสมควรตาย!”
เขาตะโกนขึ้นเสียงดัง จากนั้นก็พุ่งตัวไปยังฉู่หลิวเยว่อีกครั้ง!
ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ แล้วตัดสินใจอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
นางชะงักฝีเท้า จากนั้นก็หลบวิถีดาบไปด้านข้างอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย นางสูดลมหายใจเข้า แล้วหมุนตัวกลับไป ก่อนจะพุ่งตัวไปทิศทางหนึ่งด้วยความเร็วสูง!
ท่าร่างของนางคล่องแคล่วว่องไวเป็นอย่างมาก อีกทั้งความเร็วยังสูงกว่าที่คาดการณ์เสียอีก!
เดิมทีผู้อาวุโสตระกูลหนานตั้งใจจะเข้าล้อมตัวนางเอาไว้ แต่ผลสุดท้ายยังไม่ทันได้ทำอะไร เงาร่างเพรียวระหงก็ฝ่าพวกเขาออกไปแล้ว!
“คิดจะหนีหรือ? มันไม่ง่ายดายขนาดนั้นหรอก!”
หนานอวี่สิงโจมตีพลาด แล้วเขาจะยอมรับได้อย่างไร?
เมื่อเห็นว่าฉู่หลิวเยว่กำลังวิ่งหนีไป เขาก็ติดตามไปในทันที!
หรงซิวที่กำลังประมือกับลั่วเหยี่ยนก็สะกิดปลายเท้าเล็กน้อย แล้วพุ่งตัวออกไป!
ลั่วเหยี่ยนจึงได้แต่ติดตามไปด้วยอย่างไม่มีทางเลือก
ภายในชั่วพริบตาเดียวนั้นเองเงาร่างของคนทั้งสี่ก็ห่างไกลออกไปแล้ว!
ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ต่างมองหน้ากันไปมา
คือว่า…พวกเขากำลังจะไปที่ไหนกันหรือ?
มั่วอวิ๋นกำหมัดกรอด รีบพุ่งตัวติดตามไปอย่างเต็มกำลังในทันที!
วันนี้ไม่ว่าพวกเขาจะหนีไปที่ใด เขาก็จะต้องสังหารอีกฝ่ายให้ได้!