ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1881 ทิศทางของนาง
ตอนที่ 1881 ทิศทางของนาง
………………..
ฉู่หลิวเยว่มีความเร็วสูงมาก
แต่ตอนนี้หนานอวี่สิงอยู่ในระดับเทพศักดิ์สิทธิ์แล้ว หากออกแรงเต็มกำลัง เขาก็ยังเหนือกว่านางหนึ่งขั้น
ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนนั้นก็หดเล็กลงเรื่อยๆ
“ข้าจะขอดูสิว่าวันนี้เจ้าจะวิ่งไปถึงไหน!”
สีหน้าของหนานอวี่สิงเย็นชา และยังแฝงไปด้วยความดุร้าย
ความปรารถนาที่อยากจะแก้แค้นได้กลืนกินเขาไปทั้งร่างแล้ว
ในตอนนี้เขาไม่ได้ยินเสียงอื่นใดทั้งนั้น และมองไม่เห็นข้อเท็จจริงใดๆ
ทั้งความคิดทั้งสายตาของเขามีแต่ฆ่าฉู่หลิวเยว่!
นางคือพระชายาของหรงซิว และเป็นคนที่หรงซิวหวงแหนมากที่สุด
หากฆ่านางแล้ว มันทำให้หรงซิวทุกข์ทรมานยิ่งกว่าตายเสียอีก!
ดังนั้นเป้าหมายของหนานอวี่สิง จึงมีเพียงแค่ฉู่หลิวเยว่ตั้งแต่เริ่ม!
พวกเขาออกจากเมืองมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เดินทางมาถึงเทือกเขายาวสลับซับซ้อน
เพียงแค่กวาดตามองก็จะเห็นว่าทุกพื้นที่เต็มไปด้วยดอกท้อสีขาวชมพู
ภายในอากาศอบอวนไปด้วยกลิ่นดอกท้อเข้มข้น
ทิวทัศน์ครึกครื้น
แต่หนานอวี่สิงไม่ได้คิดเช่นนั้น
หรือฉู่หลิวเยว่คิดว่า นางสามารถใช้เทือกเขาที่คดเคี้ยวหลบเลี่ยงการถูกตามไล่ฆ่าได้อย่างนั้นหรือ?
ไร้เดียงสา
ก่อนที่เขาจะมาถึงท่าเรือดอกท้อ เขาได้สืบสถานการณ์ของที่นี่เอาไว้แล้ว
เมื่อเขาจัดการเรื่องนี้เสร็จเรียบร้อย เขาก็จะจากไป
ท่าเรือดอกท้อ…มันมีอะไรให้น่ากังวลกัน?
อีกทั้งเขายังเห็นว่า ที่แห่งนี้นอกจากพลังแห่งสวรรค์และโลกที่เต็มเปี่ยม ทิวทัศน์ที่สวยงาม ก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีเลย
หนานอวี่สิงกวาดสายตามองโดยรอบโดยไม่ใส่ใจ หลังจากนั้นไม่นะเขาก็ถอนสายตากลับไปอีกครั้ง
ระยะห่างของเขากับฉู่หลิวเยว่เล็กลงอย่างต่อเนื่อง
หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งเค่อ เขาก็จะสามารถ…
พรึ่บ!
เงาร่างสีทองคำชาดปรากฏขึ้นที่ด้านข้างของฉู่หลิวเยว่อย่างกะทันหัน!
ปีกขนาดใหญ่สยายออกมา เปลวเพลิงที่หลบโชนแทบจะทำให้อุณหภูมิรอบข้างเพิ่มสูงขึ้นมาในทันที!
หงส์ทองคำ!
ฉู่หลิวเยว่กระโดดตัวเบาๆ แล้วขึ้นไปบนแผ่นหลังของถวนจื่อ
นางลูบศีรษะของถวนจื่อเบาๆ
แกว๊ก!
เสียงร้องของนกดังกระจ่างขึ้น และส่งกระจายออกไปทั่วทั้งฟ้าดินในทันที
ในตอนนั้นเอง สัตว์อสูรจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่ภายในเขาด้านล่างก็คุกเข่าลงกับพื้น พร้อมมองไปยังร่างที่บินผ่านฟากฟ้าไปอย่างรวดเร็วด้วยความหวาดกลัว
ระยะห่างของทั้งสองฝ่ายนั้นเพิ่มมากขึ้นอีกครั้ง!
หนานอวี่สิงมองตามไปด้วยความไม่พอใจอย่างมาก
เขาลืมไปเสียสนิทว่า นางได้ทำพันธสัญญากับอสูรศักดิ์สิทธิ์เอาไว้หนึ่งตัว!
ด้วยการช่วยเหลือของหงส์ทองคำ หากนางคิดจะหลบหนีมันก็ง่ายมากขึ้น!
เงาร่างของหนานอวี่สิงไม่ได้หยุดนิ่ง เขากระตุ้นพลังปราณดั้งเดิมที่อยู่ภายในอย่างบ้าคลั่ง!
…
ด้านหลังของฉู่หลิวเยว่กับหนานอวี่สิง ก็คือหรงซิวกับลั่วเหยี่ยน
ในตอนแรกลั่วเหยี่ยนเป็นห่วงว่าหากหรงซิวกับฉู่หลิวเยว่ร่วมมือกัน หนานอวี่สิงคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา
ท้ายที่สุดแล้วหรงซิวก็เป็นระดับเทพศักดิ์สิทธิ์!
แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พบว่า สถานการณ์นั้นผิดปกติไป
เหมือนว่าหรงซิว…จะไม่ได้ใช้ความเร็วเต็มกำลัง
ในตอนแรกเขายังเห็นได้ไม่ชัดเจน แต่หลังจากเวลาผ่านไป ระยะห่างของหรงซิวกับหนานอวี่สิงกลับอยู่ในระดับเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ลั่วเหยี่ยนถึงได้รู้ว่า เป้าหมายของหรงซิวไม่ได้ติดตามหนานอวี่สิง
หรงซิวอยู่ในระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่ง! หากเขาต้องการจะไล่ตามจริงๆ ทำไมจนถึงตอนนี้แล้วระยะห่างของทั้งสองคนถึงไม่ลดลงเลยล่ะ?
เขามองไปทางชายร่างสูงใหญ่สวมชุดสีขาวที่อยู่ตรงหน้า ลั่วเหยี่ยนถึงได้รู้ว่า
ความจริงแล้วหรงซิวเพียงแค่ต้องการขวางเขาเอาไว้!
ทุกครั้งที่เขาต้องการจะวิ่งนำหน้า หรงซิวมักจะปรากฏตัวทั้งอย่างตั้งใจและไม่ตั้งใจเพื่อขวางทางของเขาเอาไว้ ทำให้เขาไม่สามารถติดตามต่อไปได้
หลังจากผ่านไปหลายครั้ง ความอดทนของลั่วเหยี่ยนก็หมดลง
“หรงซิว! ที่เจ้ากำลังขวางทางข้าอยู่มันเสียเวลาเปล่า! หรือว่าเจ้าไม่เป็นห่วงความปลอดภัยของพระชายาของเจ้าอย่างนั้นหรือ?”
นางอยู่ในระดับเทพขั้นสูง หนานอวี่สิงอยู่ในระดับเทพศักดิ์สิทธิ์!
หากทั้งสองคนปะทะกัน นางก็จะต้องแพ้อย่างแน่นอน!
อีกทั้งด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของหนานอวี่สิง หากเขาสามารถตามทัน เขาจะต้องต่อสู้กับอีกฝ่ายจนตัวตายอย่างแน่นอน!
ไม่ตายไม่เลิกรา!
คิดไม่ถึงว่าหรงซิวจะใจกว้างมาก…
แล้วเหตุใดตอนนี้ถึงไม่สนใจแม้กระทั่งความเป็นความตายของนางล่ะ?
“พระชายาของข้านั้นสามารถปกป้องตัวเองได้ เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมากังวลแทน ลั่วเหยี่ยน ตอนนี้เจ้ายังมีเวลา เจ้าลองคิดดูก่อนสิว่าหากหนานอวี่สิงตายที่ท่าเรือดอกท้อ แล้วเจ้าจะกลับไปอธิบายให้หนานอีฝานฟังว่าอย่างใด”
หรงซิวชะงักฝีเท้าลงอย่างกะทันหัน ก่อนจะหมุนตัวกลับมาพร้อมมองลั่วเหยี่ยนด้วยรอยยิ้มคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
ดวงตาหงส์ล้ำลึก เหมือนกับสามารถมองทุกอย่างออกอย่างปรุโปร่ง
หัวใจของลั่วเหยี่ยนเต้นกระหน่ำอย่างรุนแรง เขาขมวดคิ้วขึ้นมาในทันที จากนั้นก็เบนสายตาออกไป
“ข้า…ที่พวกเรามาที่นี่ในครั้งนี้ ท่านประมุขไม่ทราบ เราไม่จำเป็นต้องเอาท่านประมุขมากดดันเรา”
หรงซิวมองหน้าเขาแล้วหัวเราะเบาๆ
เหมือนกับว่ากำลังได้ยินเรื่องน่าขำอะไรบางอย่าง
“ความกล้าหาญของหนานอีฝานก็เหมือนว่าจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เขาโยนความผิดเกี่ยวกับความตายของหนานอีอีให้แก่พระราชวังเมฆาสวรรค์ แต่เขากล้าปล่อยให้หนานอวี่สิงกับลั่วเหยี่ยนมาล้างแค้นถึงที่นี่…
เขาไม่กลัวผลลัพธ์ต่อจากนี้เลยสินะ
จังหวะหัวใจของลั่วเหยี่ยนเต้นกระหน่ำมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ไม่รู้ว่าทำไม เมื่ออยู่ต่อหน้าหรงซิว เขาไม่สามารถปิดบังหลบซ่อนตัวเองได้เลย
เห็นได้ชัดว่าหรงซิวมีอายุน้อยกว่าเขามาก แต่ทุกครั้งที่พบกัน ลั่วเหยี่ยนกลับรู้สึกว่า เขาไม่สามารถมองหรงซิวออกได้เลย
สำหรับเขาแล้ว เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้น้อยครั้งมาก
ตอนที่เผชิญหน้ากับหนานอีฝานเขาก็ไม่ได้รู้สึกอย่างนี้
มีเพียงหรงซิวคนเดียวเท่านั้น!
ผู้ชายคนนี้…เก็บซ่อนความลับเอาไว้มากมาย
ในตอนที่การเจรจาของพวกเขากำลังเข้าสู่ทางตัน ด้านหลังของลั่วเหยี่ยนก็มีเสียงลมพายุคำรามขึ้นมา
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไมมั่วอวิ๋นผู้นี้ถึงต้องการจะสังหารหรงซิวและฉู่หลิวเยว่ แต่ตอนนี้นับว่าพวกเขาอยู่ฝ่ายเดียวกันแล้ว…
ลั่วเหยี่ยนพูดขึ้นมาอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย
“ผู้น้อยคือลั่วเหยี่ยนจากตระกูลหนาน ไม่ทราบว่ารองประมุขมั่วสนใจจะร่วมมือกันหรือไม่?”
มั่วอวิ๋นเหลือบสายตามองเขาครู่หนึ่ง และพยักหน้าขึ้นลงอย่างไม่มีความลังเล
“ได้!”
ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเป้าหมายของพวกเขาก็เหมือนกัน หากสามารถร่วมมือกันได้ ก็ทำให้ประหยัดแรงไปได้มาก!
ทั้งสองคนตกลงเป็นพันธมิตรกันในทันที
มั่วอวิ๋นเหลือบสายตามองทางหรงซิว แต่กลับพบว่าสีหน้าของเขายังสงบราบเรียบเช่นเดิม เหมือนกับว่า…เดิมทีเขาไม่เห็นเรื่องเหล่านี้อยู่ในสายตาเลย
นี่เป็นความมั่นใจที่มีอยู่จริงๆ หรือว่า…เสแสร้งขึ้นมา?
มั่วอวิ๋นไม่รู้ และไม่อยากจะรู้
ตระกูลหนานนี้ เขาก็ไม่รู้จัก
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นเลย พวกเขาสามารถนำตัวผู้อาวุโสระดับเทพศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากออกมาได้ ก็นับว่าไม่อาจดูเบาได้แล้ว!
ขอเพียงแค่พวกเขาร่วมมือกัน วันนี้หรงซิว…
โครม!
เสียงดังสนั่น ดังลั่นมาจากในระยะไกล!
มั่วอวิ๋นและลั่วเหยี่ยนหันไปมองตามทิศทางของเสียงนั้นอย่างพร้อมเพรียง แต่กลับเห็นเพียงเปลวเพลิงสีน้ำเงินสายหนึ่งพวยพุ่งขึ้นมาจากด้านบนของภูเขา และพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า!
ลั่วเหยี่ยนมีสีหน้ามึนงง แต่มั่วอวิ๋นเหมือนคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ สีหน้าของเขาจึงเปลี่ยนแปลงไปในทันที!
ทิศทางนั้น มันคือยอดเขาหลานชิง!
คาดไม่ถึงว่าฉู่หลิวเยว่จะไปที่ยอดเขาหลานชิง!