ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1886 ขอเพียงแค่นางคิด
ตอนที่ 1886 ขอเพียงแค่นางคิด
………………..
ฉู่หลิวเยว่ฟันกระบี่ลงไปเป็นครั้งที่สองอย่างไม่ลังเล!
เสียงกระบี่คำรามดังกึกก้อง ฟ้าดินสั่นสะเทือน!
ปราณกระบี่ที่น่าหวาดกลัวผ่าท้องฟ้าออกเป็นเสี่ยง!
เปรี้ยง!
ได้ยินเพียงแค่เสียงดังกัมปนาท แต่ยอดเขาที่อยู่ด้านข้างก็ถูกผ่าออกอีกครั้ง!
ยอดเขาที่สูงชันแห่งนั้นมีรอยร้าวที่เฉียบคมปรากฏขึ้นบริเวณยอดเขา!
เปรี้ยง!
เปลวเพลิงสีน้ำเงินอีกกลุ่มหนึ่งก็ระเบิดขึ้นมาแล้วพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า!
…
รูม่านตาของหนานอวี่สิงหดเล็กลง รู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดีอย่างมาก
มั่วหลินและคนอื่นๆ ที่อยู่ห่างออกไปก็ยิ่งรู้สึกหวาดผวา
เหตุใดถึงเป็นแบบนี้…
เหตุใดถึงเป็นแบบนี้!
ไม่ใช่แค่ยอดเขาหลานชิงเพียงแห่งเดียวหรือที่ซ่อนโชคชะตาที่น่าตกใจเอาไว้?
แต่ตอนนี้ภายใต้ยอดเขาที่อยู่โดยรอบ ทำไมถึงมีเปลวเพลิงปะทุขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง!
ฉู่หลิวเยว่เพียงฟันกระบี่ลงไปเพียงแค่สองครั้ง แต่คาดไม่ถึงว่าเปลวเพลิงจะระเบิดขึ้นมาทั้งคู่!
เป็นการฟันที่แม่นยำอย่างมาก!
ความรู้สึกตื่นตระหนกภายในใจของมั่วหลินก็พวยพุ่งออกมา
ตอนนี้เขาจับสังเกตได้แล้ว ฉู่หลิวเยว่นั้นได้เตรียมการมาเป็นอย่างดี!
เมื่อนึกถึงสิ่งที่อยู่ในเปลวเพลิงนั้น เขาก็นึกถึงฉากที่ของอะไรบางอย่างพุ่งเข้าไปในโล่สีดำของนาง ภายในสมองของมั่วหลินก็รู้สึกสับสนมากยิ่งขึ้น
เขาจ้องมองเงาร่างนั้นอย่างใกล้ชิด ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกคุ้นตาขึ้นมาเล็กน้อย
จากนั้นเขาก็เบิกตากว้าง!
หรือว่า คนที่ติดตามซานซานไปยอดเขาหลานชิงจะเป็นนาง?
มิน่าล่ะเหตุใดนางถึงอัญเชิญเปลวเพลิงจากยอดเขาหลานชิงออกมาอีกครั้งได้อย่างง่ายดาย?
ส่วนคนอื่นๆ ก็ยังอยู่ที่ไหล่เขา
จะต้องเป็นนาง…เป็นนางอย่างแน่นอน!
ในที่สุดมั่วหลินก็เข้าใจได้อย่างกระจ่างแจ้งแล้ว!
ตั้งแต่ต้นจนจบ เปลวเพลิงเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับฉู่หลิวเยว่!
ถ้าเป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ ละก็ เช่นนั้น…ของที่อยู่ด้านล่างยอดเขาหลานชิงก็ถูกฉู่หลิวเยว่ครอบครองไปตั้งนานแล้ว?
ทันทีที่ความคิดนี้ปรากฏเข้ามาในสมองก็ทำให้เหงื่อเย็นๆ ไหลท่วมกายมั่วหลิน
“พวกเจ้าเฝ้าเอาไว้! ข้าจะไปรายงานท่านรองประมุข!”
ขณะที่พูดเขากำลังจะหมุนตัวเดินกลับไป แต่เขาก็ได้ยินเสียงกึกก้องกัมปนาทจากบนท้องฟ้าขึ้นมาอีกครั้ง
ทุกคนหันกลับไปมอง สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
เพราะว่า…คาดไม่ถึงว่าจะมีคนมาหนึ่งกลุ่ม
หากพูดให้ถูกต้องก็คือ พวกเขาทั้งหลายกำลังต่อสู้อยู่ในระยะประชิด
ซึ่งมั่วอวิ๋นก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย!
มั่วหลินกำลังจะเดินไปด้านหน้า แต่ทันใดนั้นเขาก็บอกว่า คนเหล่านั้นที่กำลังประมือกับมั่วอวิ๋นอยู่นั้น เป็นคนแปลกหน้าแต่กลับมีฝีมือแข็งแกร่งมาก!
“เถ้าแก่ซานก็อยู่ด้วย!”
ซานซานไม่เพียงแค่อยู่ในนั้น แต่กลับ…ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของมั่วอวิ๋นด้วย และในตอนนี้การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด!
ดูแล้วเหมือนว่าเขากำลังขวางทางมั่วอวิ๋นและคนอื่นๆ อยู่…
แต่ในทางกลับกัน เหมือนว่าจะมีผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งที่เขาไม่คุ้นหน้ากำลังร่วมมือกับมั่วอวิ๋น
สถานการณ์สับสนวุ่นวายอย่างมาก
มั่วหลินและคนอื่นๆ มึนงงไป
นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
พวกเขาเพียงแค่เฝ้าคุ้มกันอยู่ที่นี่สองวัน ทำไมถึงได้เกิดเรื่องมากมายขึ้นเช่นนี้ได้?
พรึ่บ!
แขนเสื้อของหรงซิวสะบัดขึ้น ม่านพลังสีทองจางๆ สกัดกั้นมั่วอวิ๋นและคนอื่นๆ เอาไว้ที่ด้านนอก!
เมื่อสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่น่าตกใจ มั่วอวิ๋นก็รู้สึกตกใจระคนโมโห
หรงซิวผู้นี้…จัดการได้ยากยิ่งนัก!
และยังมีเฉินอีคนนั้น ฝีมือของพวกเขาแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้เสียอีก!
สายตาของมั่วอวิ๋นมองผ่านหรงซิวและคนอื่นๆ ไป ก่อนจะหันไปมองทางยอดเขาหลานชิงที่อยู่ด้านหลัง
เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ดังนั้น หัวใจของเขาก็จมดิ่งลงในทันที!
เปลวเพลิงเหล่านั้นปะทุขึ้นมาอีกครั้งแล้ว!
แต่ประเด็นสำคัญก็คือ นอกจากยอดเขาหลานชิงแล้ว ยอดเขาสองแห่งที่อยู่ด้านข้างก็มีเปลวเพลิงสีน้ำเงินที่กำลังลุกโชนขึ้นอย่างบ้าคลั่ง!
ดูจากสถานการณ์แล้วเหมือนว่ามีคนผ่าภูเขาแยกออกมา!
ในที่สุดสายตาของมั่วอวิ๋นหันไปเห็นเงาร่างเพียวระหงที่อยู่บนยอดเขา
นางหันหน้าไปตามทิศทางลม มือซ้ายถือโล่ มือขวาถือกระบี่
ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิท ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้นเอง นางก็ลืมตาขึ้นพร้อมยกโล่สีดำในมือขึ้นมา!
พรึ่บ!
ลำแสงนั้นตกกระทบลงบนโล่ แสงสว่างระยิบระยับพร่างกระจายออกมา!
ทว่าเพียงชั่วพริบตาเดียว ลำแสงเหล่านั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว!
เหมือนกับว่าถูกโล่สีดำอันนั้นกลืนกินลงไปจนหมด ราวกับก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ในตอนนั้นหัวใจของมั่วอวิ๋นเหมือนถูกอะไรบางอย่างรัดเอาไว้อย่างแรง!
เขาเป็นคนฉลาดมาก
เพียงแค่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า เขาก็สามารถอธิบายปัญหาออกมาได้แล้ว!
ม่านพลังของยอดเขาหลานชิงที่หายไปอย่างกะทันหันในวันนั้น และเปลวเพลิงที่ค่อยๆ มอดดับ มันจะต้องเป็นเพราะนางอย่างแน่นอน!
ของที่อยู่ด้านล่างนั้น น่าจะ…
แต่หน้านี้ตอนที่เขาสืบเรื่อง เห็นได้ชัดว่ามีเพียงยอดเขาหลานชิงเท่านั้นที่มีของเหล่านั้น แต่เหตุใดตอนนี้ยอดเขาที่อยู่ด้านข้างกลับ
ข้อมูลจำนวนมากที่เขาได้รับมาอย่างกะทันหัน แทบจะทำให้สมองของมั่วอวิ๋นขาวโพลน
ซึ่งในขณะเดียวกันนั้นเอง ฉู่หลิวเยว่หลุบตาลงต่ำเพื่อมองโล่สีดำที่อยู่ในมือของตนเอง
เป็นอย่างที่คาดการณ์เอาไว้ หลังจากสนิมหลุดลอกออกไป น้ำหนักของโลกก็เพิ่มมากขึ้น
เมื่อผ่าภูเขาสองลูกก็สามารถอัญเชิญพลังที่ซ่อนอยู่ภายในภูเขาออกมาได้ แล้วยังผสานพลังเข้ากับโล่สีดำอันนั้นด้วย
เดิมทีโล่อันนั้นมีพื้นผิวราบเรียบ แต่ตอนนี้มันก็ขรุขระขึ้น
รอยบุบตื้นๆ ปรากฏขึ้น ลวดลายอักขระที่ซับซ้อนค่อยๆ ปรากฏให้เห็นอย่างเลือนราง
ฉู่หลิวเยว่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมอง
กว่านางจะสามารถลอกสนิมบนโล่นี้ได้ทั้งหมด เกรงว่าจะต้องเป็นขั้นตอนที่ยาวนานและทรมานอย่างมาก
นางเม้มริมฝีปากแล้วหันมองยอดเขาลูกต่อไป!
…
เมื่อเห็นว่าฉู่หลิวเยว่กำลังมุ่งหน้าไปที่ยอดเขาถัดไป หัวใจของมั่วอวิ๋นก็เกิดความไม่สบายใจขึ้นมาอย่างรุนแรง
เขาแทบจะสามารถคาดเดาได้แล้วว่าฉู่หลิวเยว่กำลังจะทำอะไร!
ความโกรธที่มีภายในใจพวยพุ่งมากขึ้น จนแทบจะระเบิดออกมา!
กลางฝ่ามือของมั่วอวิ๋นมีพลังปราณดั้งเดิมพวยพุ่งขึ้น จากนั้นเขาก็ส่งฝ่ามือไปด้านหน้าอย่างรุนแรง!
“ฝ่ามือบุกเมฆา!”
ฝ่ามือสีดำเขียวขนาดใหญ่ควบแน่นรวมตัวกันอยู่ในความว่างเปล่า!
ก่อนจะมุ่งหน้าไปทางม่านพลังของหรงซิวอย่างรวดเร็ว!
พลังทั้งสองฝ่ายปะทะ พัวพัน กลืนกินกันอย่างไร้เสียง!
บนม่านพลังนั้นมีระลอกคลื่นแผ่กระจายออกมา แต่ตั้งแต่ต้นจนจบมันก็ยังไม่แตกสลาย ซึ่งมันแข็งแกร่งและยืดหยุ่นอย่างมาก!
ในทางกลับกันนั้นฝ่ามือของมั่วอวิ๋น เมื่ออยู่ในการต่อสู้ที่บ้าคลั่ง พลังของมันค่อยๆ อ่อนแรงลง
มั่วอวิ๋นมองด้วยสายตาร้อนรนดุจหัวใจโดนแผดเผา
ในตอนที่ปะทะกันนั้น มั่วอวิ๋นไม่มีความมั่นใจเลยว่าจะสามารถเอาชนะหรงซิวได้!
แต่เวลานี้กำลังฉุกเฉินเป็นอย่างมาก!
หากเขาปล่อยให้ฉู่หลิวเยว่ทำต่อไป เกรงว่าผลลัพธ์จะต้องน่ากลัวจนไม่สามารถจินตนาการได้แน่นอน!
“หรงซิว! เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่านางกำลังจะทำสิ่งใด? หากนางทำลายท่าเรือดอกท้อทั้งหมดแล้ว เจ้า…!”
มั่วอวิ๋นตะโกนขึ้นมาเสียงดัง ใบหน้าเขียวคล้ำ
หรงซิวเลิกคิ้วกระบี่ขึ้นเล็กน้อย
“ขอเพียงแค่นางคิดจะทำสิ่งใด นางก็ทำได้ทุกอย่าง แค่ท่าเรือดอกท้อแห่งเดียว หากถูกทำลายไปแล้ว ข้าสามารถรับผิดชอบได้!”