ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1893 พูดความจริง!
ตอนที่ 1893 พูดความจริง!
………………..
บาดแผลนั่นยาวเกือบชุน[1]และลึกอย่างมาก แทบมองเห็นกระดูกข้างใน
การการะทำของลั่วเหยี่ยนมีความลังเลในชั่วพริบตา
อันที่จริงสถานการณ์เช่นนี้สำหรับเขาที่เคยชินกับความเป็นความตายมาแล้ว รวมทั้งผู้อาวุโสหลายท่านที่อยู่ข้างๆ ล้วนไม่มีประโยชน์อันใด
พวกเขาประหลาดใจเช่นนี้ เป็นเพราะบาดแผลนี่ที่ปรากฏออกมาอย่างกระทันหันเกินไป!
เมื่อครู่นี้แม้ว่าจะยังไม่มีการรบกวนของพลังภายใน แต่ก็เห็นได้ชัดว่ากายเนื้อของหนานอวี่สิงมีปัญหา!
ร่างของคนปกติจะเกิดบาดแผลเช่นนี้ได้อย่างไรกัน
หลังจากนั้นโดยไม่รอพวกเขาตอบกลับมา มืออีกข้างของหนานอวี่สิงก็ปรากฏบาดแผลที่คล้ายกันขึ้นมา!
อาจเป็นเพราะถูกเผาอยู่ในกองไฟใหญ่นานเกินไป แผลที่แขนทั้งคู่ของเขาส่วนใหญ่จึงหดตัวลง
ทว่าปากที่เปื้อนเลือดนั่นจู่ๆ ก็ปรากฏออกมาเช่นนั้น
ผิวหนังและกล้ามเนื้อผิดรูปดูเหมือนถูกของมีคมบางอย่างเฉือนออกไป ไม่มีหยดเลือดแดงสดไหลออกมา แต่คงไม่อาจวางใจได้!
“ลั่วเหยี่ยน นี่…”
ผู้อาวุโสหลายท่านมองไปทางลั่วเหยี่ยนโดยไม่รู้ตัว
แม้ว่าพวกเขาล้วนเป็นถึงผู้อาวุโส แต่หากเทียบสถานะของลั่วเหยี่ยนแล้วยังด้วยกว่าเล็กน้อย
ดังนั้นหากมีเรื่องเกิดขึ้นในเวลานี้ พวกเขาล้วนถามความเห็นของลั่วเหยี่ยนก่อนเป็นอันดับแรกในทันที
ทว่าในใจของลั่วเหยี่ยนในตอนนี้ก็ยุ่งเหยิงไปต่างกัน!
ดวงตาทั้งสองคู่ของเขาจ้องเขม็งไปที่บาดแผลทั้งสองที่ปรากฏขึ้นบนตัวของหนานอวี่สิ่ง
มองเพียงครู่เดียวเขาก็รับรู้ได้ว่าบาดแผลนี้เกิดปัญหาจากร่างกายของหนานอวี่สิงเอง!
เห็นเช่นนี้แล้ว…เป็นไปได้อย่างมากว่าพลังเดิมในร่างของเขาได้สูญเสียการควบคุมจนหมดสิ้นแล้ว!
ในร่างของผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ได้รวมรวบพลังมหาศาลเอาไว้
หนานอวี่สิงขดตัวอยู่บนพื้นแทบไม่ได้สติและสั่นไปทั้งตัว
“ช่วย…ช่วยข้าด้วย…”
ใบหน้าของเขาถูกเผาไหม้อย่างรุนแรงและไม่อาจลืมตาขึ้นได้
เสียงที่เปล่งออกมาอย่างตระกุกตระกัก ทำให้เขารู้ว่าลั่วเหยี่ยนและคนอื่นๆ น่าจะอยู่ใกล้ๆ เขาในเวลานี้
หนานอวี่สิงเอาความตั้งใจสุดท้าย เพื่อขอความช่วยเหลือด้วยเสียงอันบางเบา
ใจของลั่วเหยี่ยนสั่นระรัวและคิ้วขมวดแน่น
แน่นอนว่าเขาต้องการช่วยหนานอวี่สิง!
ไม่เช่นนั้นก็คงไม่เสี่ยงอันตรายมากมายเช่นนี้เพื่อมาที่นี่!
แต่ว่า…สถานการณ์ในตอนนี้ ควรทำอย่างไรดี
เมื่อเห็นบาดแผลบนตัวของหนานอวี่สิงมากขึ้นเรื่อยๆ ลั่วเหยี่ยนทำได้เพียงดับประกายไฟเล็กๆ น้อยๆ บนตัวเขาในทันทีแล้วจึงวางแผนพาคนกลับไปก่อน
ทว่ายังไม่ทันได้สัมผัสร่างของหนานอวี่สิง จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงตะโกนพึมพำอยู่ในลำคอของเขา
“…อีอี…ขอ…ขอโทษนะ…”
การเคลื่อนไหวของลั่วเหยี่ยนหยุดลงในทันที เมื่อมองไปทางใบหน้าของหนานอวี่สิงโดยไม่รู้ตัว
ใบหน้าที่ถูกไฟไหม้อย่างรุนแรงแทบไม่อาจมองดูได้ในเวลานี้
แต่ทว่าในคำพูดเหล่านั้น ลั่วเหยี่ยนกลับได้ยินอย่างชัดถ้อยชัดคำ
เขาตกตะลึงไปพักหนึ่งโดยไม่ขยับตัว
ขอโทษอย่างนั้นเหรอ
เหตุใดหนานอวี่สิงถึงได้พูดคำเช่นนี้ออกมา
ก่อนหน้านี้เขาโทษตนเองว่าปกป้องหนานอีอีไม่ได้ใช่หรือไม่
แต่ฟังดูแล้วไม่ค่อยเหมือนนัก…
เมื่อเห็นลั่วเหยี่ยนหยุดเคลื่อนไหวทันทีและไม่ขยับตัว ราวกับจมอยู่ในความคิด จนผู้อาวุโสหลายท่านต่างพากันแปลกใจเล็กน้อย
เสียงนี้กลับทำให้ลั่วเหยี่ยนกลับมามีสติอีกครั้ง
“…ไม่เป็นไร”
เขารีบตอบกลับไปและกำลังจะพูดต่อ จู่ๆ เขาก็สัมผัสได้ถึงลมปราณเส้นหนึ่งที่ล้นออกมาจากบาดแผลที่ฉีกขาดบนร่างของหนานอวี่สิง
พลังนี้ช่างมีจุดด่างพ้อยแต่กลับผสานกับลมปราณที่คุ้นเคยอย่างมาก!
ลั่วเหยี่ยนเบิกตากว้างในทันที! จ้องมองไปทาหนานอวี่สิ่งด้วยความตกใจอย่างสุดขีด!
ลมปราณนี้…
ลมปราณนี้คือ!
เขาแทบไม่อาจควบคุมตัวเองได้ เขาเอื้อมมือไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและจับข้อมือของหนานอวี่สิงเอาไว้!
“โอ้ว…ลั่วเหยี่ยนเป็นอันใดไปหรือ”
สีหน้าของลั่วเหยี่ยนผิดแปลกไปอย่างมาก จึงให้ผู้อาวุโสที่อยู่ข้างๆ อดเป็นกังวลขึ้นมาไม่ได้
เห็นชัดว่าเมื่อครู่ยังดีๆ อยู่เลย เหตุใดผ่านไปเพียงครู่เดียวก็…
อย่างไรก็ตามลั่วเหยี่ยนในเวลานี้กลับไม่ได้ยินเสียงของพวกเขา
เขาแยกพลังปราณเดิมออกจากกันและฝืนเข้าไปในร่างของหนานอวี่สิง
หากเป็นอย่างที่คิดไว้พลังภายในร่างของหนาอวี่สิงได้ยุ่งเหยิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่ที่สำคัญคือ…
พลังนี้ลั่วเหยี่ยนคุ้นเคยอย่างมาก!
และชีพจรเดิมนั่น…
มือของลั่วเหยี่ยนสั่นขึ้นมาเล็กน้อย ใบหน้าของเขาขาวซีดลงจนเห็นเส้นเลือดปรากฏขึ้นบนหน้าผาก
ความโกรธที่ฝังอยู่ในส่วนลึกของจิตใจได้แผ่กระจายออกมาจากร่างของเขา
เมื่อลั่วเหยี่ยนไม่ค่อยได้เปิดเผยสีหน้าเช่นนี้ ก็ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้น
ในขณะที่พวกเขาเต็มไปด้วยความสงสัย กลับเห็นลั่วเหยี่ยนปล่อยข้อมือของหนานอวี่สิงลง หลังจากนั้นก็บีบคอเขาในทันที!
“ลั่วเหยี่ยน!”
“คุณชายใหญ่!”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันทำให้ผู้อาวุโสทุกคนล้วนตกใจกันหมด และอดพูดขึ้นไม่ได้ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก!
ในขณะนั้นด้วยตาทั้งคู่ของลั่วเหยี่ยนแดงก่ำ เผยให้เห็นสีหน้าอันโหดเหี้ยมและจ้องมองด้วยความน่ากลัวอย่างยิ่ง!
เขาจ้องมองหนาอวี่สิงอย่างเอาเป็นเอาตายและเอ่ยถามทีละคำขึ้นว่า
“พูดสิ! จริงๆ แล้วอีอีตายได้อย่างไร!”
ขณะที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมาบรรดาผู้อาวุโสทั้งหมดต่างตกตะลึง
นี่ เวลาในตอนนี้จู่ๆ ลั่วเหยี่ยนก็ตั้งคำถามนี้เช่นนี้ หมายความว่าอย่างไร
การตายของหนานอีอีจะเกี่ยวข้องกับคุณชายใหญ่อย่างนั้นหรือ
แต่จะเป็นไปได้อย่างไร
เดิมที่ท่าทางของหนาวอวี่สิงกำลังสับสนเหมือนคนตายไปครึ่งหนึ่ง เมื่อถูกลั่วเหยี่ยนกระตุ้นสักหน่อยเช่นนี้ ถึงได้มีสติขึ้นมาบ้าง
เมื่อเห็นสายตาของลั่วเหยี่ยนที่จ้องมองมาความน่ากลัวอันรุนแรงจึงพุ่งเข้ามาในใจของเขา
คำพูดพึมพำของหนานอวี่สิงแทบเป็นปฏิกิริยาตอบกลับในทันที
“…ข้า…ข้าไม่รู้…”
ปัง!
ลั่วเหยี่ยนลงมือในทันที เขาบีบคอของหนานอวี่สิงและจับหัวของเขากระแทกพื้นอย่างแรง!
“พูดความจริง!”
[1] ชุน มาตราวัดของจีน 1 ชุนเท่ากับมากกว่าหนึ่งนิ้วเล็กน้อย ชุน หมายถึง นิ้ว