ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1915 ผู้ติดตามนับหมื่น
ตอนที่ 1915 ผู้ติดตามนับหมื่น
………………..
ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็ปรากฏเข้ามาในสมองของฉู่หลิวเยว่
ร่างศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นการรวมตัวจากพลังทัณฑ์ทลายเทพ!
แม้แต่นางที่คิดได้ขึ้นมา ก็อดที่จะสูดลมหายใจเย็นๆ เข้าปอดไม่ได้ อีกทั้งหัวใจยังเต้นกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง!
ร่างศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสร้างมาจากพลังแห่งทัณฑ์ทลายเทพ…
แค่คิดก็รู้ว่ามันจะต้องแข็งแกร่งอย่างมากแน่นอน!
ฉู่หลิวเยว่เคยจินตนาการมานับครั้งไม่ถ้วนว่าร่างศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองนั้นจะเป็นแบบใด
แต่ในวันนี้ นางกลับรู้สึกตกใจอย่างมากจนไม่สามารถดึงสติกลับมาได้
นางหลุบตาลงต่ำเล็กน้อย
ในตอนนั้นเอง บนร่างกายของนางมีเกราะอ่อนมาปกคลุมจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
ร่างศักดิ์สิทธิ์ภายในตันเถียนก็กำลังควบรวมตัวตามกันมา จากสีโปร่งแสงค่อยๆ กลายเป็นสีสันที่งดงาม!
…
ลำแสงบนท้องฟ้า ส่วนหนึ่งพุ่งตรงเข้าไปยังอาณาเขตเซียนเทพเทพสามพัน แต่ส่วนใหญ่แล้วมัน
นางหลับตาลง และเริ่มบำเพ็ญเพียรด้วยการกลั้นลมหายใจ
พลังรอบกายถ่ายเทเข้าสู่ร่างกายของนางอย่างต่อเนื่อง
ลมปราณบนร่างกายนางเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
ทุกคนมองอย่างสายตาภาพเหตุการณ์นั้นอย่างนิ่งค้าง
ภายในท่าเรือดอกท้อมีเพียงความเงียบสงัด
ภาพเหตุการณ์ทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนพวกเขาไม่สามารถตอบสนองได้
ในเสี้ยววินาทีที่ต้องเผชิญหน้ากับอันตราย แต่ในวินาทีต่อมาอันตรายเหล่านั้นก็จบสิ้นลงแล้ว?
การโจมตีเหล่านี้มันยิ่งใหญ่มากเกินไป
ลูกสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของพ่อก็มีสีหน้ามึนงงไป
นางยื่นมือออกมาแล้วชี้ขึ้นฟ้า แล้วพูดขึ้นว่า
“ท่านพ่อ ฟ้าสว่างแล้ว”
เมื่อได้ยินดังนั้น ชายวัยกลางคนก็ชะงักไป ก่อนเงยหน้าขึ้นมองในทันที
เมื่อเห็นภาพนั้นก็ทำให้เขาตกตะลึงมากยิ่งขึ้น
เดิมทีท้องฟ้ายังขมุกขมัวดำคล้ำ แต่ตอนนี้กลับมีลำแสงลอดออกมาสายหนึ่ง
แม้ว่าจะมีเพียงเล็กน้อย แต่…มันก็ยังมีอยู่จริงๆ
อีกทั้งลำแสงสายนั้นเหมือนแผ่กระจายเป็นวงกว้างอย่างต่อเนื่อง
หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็เหมือนสัมผัสอันใดบางอย่างได้ เขาจึงเบิกตากว้าง
“ม่านพลังของท่าเรือดอกท้อเริ่มกลับคืนสู่สภาพเดิมแล้ว?”
เสียงดังสนั่นเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
เมื่อทุกคนได้ยินประโยคนั้น พวกเขาก็รู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก
สายตาทุกคู่หันมองไปมองท้องฟ้า
“เหมือนว่า…เหมือนว่าม่านพลังกำลังกลับคืนสู่สภาพเดิมแล้วจริงๆ ด้วย?”
“พวกเจ้ารู้สึกหรือไม่ว่า ลำแสงที่กำเริบเสิบสานนั้นก็ลดจำนวนลงไปมาก?”
“ดูสิ! ไฟป่านั้นก็ค่อยๆ ดับลงแล้ว!”
พวกเขาที่อยู่ในเหตุการณ์จึงสามารถมองเห็นการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน
ก่อนหน้านี้พื้นที่ยังมีการบีบและหดตัวอย่างบ้าคลั่งอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เหมือนมันหยุดอย่างกะทันหันแล้ว อีกทั้งก็ค่อยๆ กลับคืนสู่สภาพเดิม
แรงกดดันที่แทบจะทำให้ผู้คนหายใจไม่ออก แต่ตอนนี้ได้จางหายลงไปแล้ว
ต้วนชิงเฉวียนพูดพึมพำด้วยเสียงต่ำอย่างอดไม่ได้
เยี่ยนชิงถอนหายใจยาวๆ ออกมา
พระชายา…
แข็งแกร่งจริงๆ
ใช่ว่าก่อนหน้านี้ภายในใจของเขาจะไม่มีความกังวลเลย
แต่นายท่านยืนยันว่าจะไม่ลงมือ อย่างมากที่สุดก็แค่ค่ายกลหนึ่งเท่านั้น
แต่ไม่ทันได้ส่งคนลงสนาม พระชายาก็สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้อย่างราบรื่นแล้ว!
ภายในกลุ่มคนค่อยๆ มีคนดึงสติกลับมาได้
“…ทะ…ทั้งหมดนี้คือความดีความชอบของซั่งกวนเยว่ใช่หรือไม่…”
…ทันทีที่สิ้นเสียงนี้ เสียงกระซิบกระซาบที่เพิ่งดังขึ้นก็กลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง
สีหน้าของทุกคนซับซ้อน
ความจริงแล้ว ก่อนหน้านี้พวกเขาตำหนิฉู่หลิวเยว่ไปไม่น้อยเลยทีเดียว
ถ้าไม่ใช่เพราะนางล่วงเกินสำนักกระบี่ทมิฬและตระกูลหนาน บางทีอันตรายเหล่านี้ก็ไม่มีทางเกิดขึ้น
แต่หลังจากผ่านเรื่องราวทั้งหมดแล้ว พวกเขานั้นรู้ดีว่า ที่คนจำนวนมากในท่าเรือดอกท้อรอดตายมาได้ก็เพราะฉู่หลิวเยว่!
นางต้านทานทัณฑ์ทลายเทพด้วยกำลังเพียงคนเดียว!
และนางก็สามารถช่วยชีวิตทุกคนได้ทันเวลาพอดี!
ส่วน…ท่าเรือดอกท้อที่กำลังจะพังทลายลง ในตอนนี้ก็ค่อยๆ ฟื้นฟูสู่สภาพเดิม
ใครจะพูดได้ว่านี่ไม่ใช่คุณงามความดีของนางกัน?
ความจริงแล้วพวกเขาก็รู้เป็นอย่างดี หากพูดกันอย่างละเอียดแล้ว นางถือว่าเป็นคนที่บริสุทธิ์ที่สุดในเรื่องนี้
ความจริงแล้วคนที่เริ่มต้นข้อพิพาทเหล่านี้คือ ตระกูลหนานกับสำนักกระบี่ทมิฬ
แต่ในตอนนี้ ทุกคนได้รับการช่วยเหลือจากนาง…ไม่ว่าอย่างใดก็ไม่สามารถเอาความผิดนี้ไปลงที่นางได้
“หึ! ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นเลย ชีวิตของข้านี้ถูกซั่งกวนเยว่เป็นคนช่วยเหลือมา! ข้าจะต้องตอบแทนบุญคุณนางอย่างแน่นอน!”
ชายฉกรรจ์รูปร่างกำยำผิวเข้มคล้ำคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มชนก็พูดขึ้นมาอย่างโมโห
เขาประสานหมัดแล้วหันหน้าไปทางฉู่หลิวเยว่เพื่อทำความเคารพ
“ต่อจากนี้ไป หากใครจงใจหาเรื่องนางก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!”
ความเงียบปกคลุมชั่วครู่หนึ่ง เสียงต่างๆ ก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ข้าก็ด้วย! บุญคุณของการช่วยชีวิตนั้นยิ่งใหญ่ ต้องควรจดจำไว้ให้ดี! ได้ยินมาว่าเถ้าแก่ซานแห่งจวนเยว่ ก็คือคนของนาง? หึๆ ข้าอยากไปดูจวนเยว่ตั้งนานแล้ว รอเรื่องนี้จบ ข้าจะไปดูหน่อยว่าที่จวนยว่มีงานอันใดทำหรือไม่!”
“ฮ่าๆ! เด็กนี่มีความคิดยอดเยี่ยมจริงๆ เจ้าอยากทำ แต่คนอื่นเขาอาจจะไม่เต็มใจรับเจ้าก็ได้! จวนเยว่มีการตรวจสอบที่เข้มงวดมาก! ข้าว่าข้าเหมาะสมมากกว่า…”
“ถุ้ย พวกเจ้านั้นเห็นแก่ตัวมากเกินไปแล้ว ข้านั้นไม่เหมือนกับพวกเจ้า ข้าจะไม่เข้าไปทำงานที่จวนเยว่ แต่หากจวนเยว่ต้องการความช่วยเหลืออันใด ข้าจะบุกป่าฝ่าดงไปให้!”
…
คนจำนวนไม่น้อยแสดงความคิดเห็น บรรยากาศครึกครื้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ต้วนชิงเฉวียนมองไปที่เยี่ยนชิงด้วยสายตาที่แตกต่างออกไป
ทั้งสองคนสบสายตากันอย่างรวดเร็ว
เยี่ยนชิงเลิกคิ้วขึ้น
เรื่องนี้พวกเขาไม่ได้จัดเตรียมเอาไว้จริงๆ
ดูเหมือนว่าจะมีคนเข้ามาฝากเนื้อฝากตัวกับพระชายาและจวนเยว่จริงๆ
แต่เมื่อครุ่นคิดอย่างละเอียด นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
สำนักกระบี่ทมิฬถูกทำลายไปแล้ว จวนเยว่ก็กลายเป็นจวนอันดับหนึ่งภายในท่าเรือดอกท้อ
แม้ว่าจะมีบางคนที่สามารถแข่งขันอย่างสูสีได้ แต่หลังจากผ่านเรื่องในครั้งนี้ เกรงว่าคงจะไม่มีใครสามารถเอาชนะได้แล้ว
ท้ายที่สุดแล้ว ตอนนี้ทุกคนก็รู้ว่านายท่านที่แท้จริงของจวนเยว่คือ ฉู่หลิวเยว่
จากการต่อสู้ในวันนี้ เท่ากับว่าฉู่หลิวเยว่ได้ช่วยท่าเรือดอกท้อเอาไว้ทั้งหมด
ทุกคนล้วนติดหนี้บุญคุณของนาง
ข้อได้เปรียบอย่างนี้ ใครจะสามารถมีได้บ้าง
นอกจากเรื่องนี้แล้วฉู่หลิวเยว่ก็ยังสามารถแสดงพลังในระดับสูงสุด ซึ่งสามารถทำให้ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนเลื่อมใสและติดตามนาง!
ด้วยผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูง สามารถอัญเชิญทัณฑ์ทลายเทพมาได้ แล้วยังเอาชนะได้อีก!
พรสวรรค์และพลังในการต่อสู้เช่นนี้ มีใครบ้างจะสามารถเทียบเทียมได้?
ภายในท่าเรือดอกท้อ ผู้แข็งแกร่งเป็นใหญ่!
ทว่าฉู่หลิวเยว่ จากการต่อสู้ครั้งนี้ นางจะได้กลายเป็นคู่แข่งแกร่งระดับสุดยอดที่ทุกคนยอมรับอย่างไม่ต้องสงสัย!
…
ฉู่หลิวเยว่รวบรวมสมาธิกลั้นลมหายใจ
นางค่อยๆ ดูดกลืนพลังแห่งทัณฑ์ทลายเทพ
เกราะอ่อนจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังผสานเข้ากับร่างกายของนาง แม้กระทั่งใบหน้าและลำคอก็ยังถูกเกราะอ่อนกึ่งโปร่งแสงที่งดงามนี้ครอบคลุม
ในที่สุดลำแสงสายสุดท้ายก็ตกลงบนคิ้วของนาง!
ทันทีที่สัมผัสเข้ากับร่างกาย ระหว่างคิ้วของนางนั้นก็มีอุณหภูมิสูงขึ้นราวกับถูกแผดเผา!
ทันใดนั้นสัญลักษณ์หนึ่งก็ปรากฏขึ้น!
………………..