ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1916 ชีวิตชีวา
ตอนที่ 1916 ชีวิตชีวา
………………..
ฉู่หลิวเยว่หวีดร้องออกมา!
หลอมร่างศักดิ์สิทธิ์สำเร็จแล้ว!
เกราะอ่อนที่งดงามปกคลุมร่างกาย พร้อมทั้งมีประกายงดงาม!
ลำแสงตกลงมาจากฟากฟ้า ส่องสะท้อนเข้าที่ร่างของนางทำให้แสงสว่างพรั่งพราว
นางเบิกตากว้าง!
ลมปราณยิ่งใหญ่และมหาศาลระเบิดภายในร่างกายของนาง!
ทุกคนรู้สึกตื่นตะลึงอย่างมาก!
ตอนนี้ฉู่หลิวเยว่เป็นเพียงแค่ผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูง แต่แรงกดดันของร่างศักดิ์สิทธิ์สามารถเทียบเท่ากับผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ได้ทีเดียว!
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ภายในร่างกาย ฉู่หลิวเยว่ก็ถอนหายใจออกมายาวๆ
“เฮ้อ…”
ที่แท้การมีร่างศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นความรู้สึกแบบนี้นี่เอง…
นางหลุบตาต่ำ
ตอนนี้ท่าเรือดอกท้อเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย
ภายในเมืองยังปกติดี แต่เทือกเขาสลับซับซ้อนที่อยู่ด้านนอกเมืองแทบจะถูกทำลายไปทั้งหมดแล้ว
หุบเหวร่องลึกมีร่องรอยของเปลวเพลิงปรากฏอยู่ทุกที่
กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งหนาแน่น
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
ท่าเรือดอกท้อกลายเป็นสภาพนี้ นางจะต้องรับผิดชอบส่วนหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย
นางยกโล่ที่อยู่ในมือขึ้น
ก่อนสาวเท้าก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าว
ระลอกคลื่นเบาๆ จากอาณาเขตเซียนเทพที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าก็จางหายไปด้วย!
ก้อนหินเหล่านั้นค่อยๆ เก็บอาณาเขตเซียนเทพ ก่อนกลับคืนสู่สภาพสีขาวเทาดังเดิม
ฉู่หลิวเยว่โบกมือขึ้น ก้อนหินเหล่านั้นค่อยๆ ลอยกลับไป
ก้อนหินที่อยู่ด้านหน้าของนางกระโดดโลดเต้นอยู่สองสามครั้ง ท่าทางมีความสุขอย่างยิ่ง ราวกับกำลังรอคำชมเชยจากนาง
ส่วนก้อนหินที่อยู่ด้านหลังก็กระโดดตามไปด้วย เพราะกลัวว่าจะรั้งท้าย
หากก่อนหน้านี้ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้สอนใครพวกเขาเชื่อฟังคำสั่ง ไม่แน่ว่าพวกมันอาจจะแซงแถวกันไปแล้ว จนทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายมากยิ่งขึ้น
เมื่อเห็นว่าก้อนหินเหล่านี้กระโดดไปมา มุมปากของฉู่หลิวเยว่ก็ยกยิ้มขึ้นอย่างอดไม่ได้ ในแววตาก็ยังแฝงด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เลวเลย”
เมื่อได้ยินคำชมเชย ก้อนหินทุกก้อนก็รู้สึกตื่นเต้นยินดี และกระโดดเข้าไปในแหวนเฉียนคุนของนาง
ทุกคนเบิกตากว้างอ้าปากค้าง
เป็น…เป็นแบบนี้ได้อย่างใด
แต่ฉู่หลิวเยว่กลับไม่สนใจพวกเขา
ไม่ว่าเรื่องที่ควรเห็นหรือเรื่องที่ไม่ควรเห็น พวกเขาก็ได้เห็นหมดแล้ว
ดังนั้นจึงไม่มีอันใดต้องปิดบังกันอีก
นอกจากนี้ นางก็ยังฉวยโอกาสนี้ให้ทุกคนในท่าเรือดอกท้อทราบถึงนิสัยของนาง
ความจริงแล้วในตอนแรกนางก็ไม่ได้คิดอันใดมาก
แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วก็ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์
พลังส่วนใหญ่ภายในทัณฑ์ทลายเทพล้วนถูกฉู่หลิวเยว่กลืนกินไปทั้งหมดเพื่อนำมาหลอมร่างศักดิ์สิทธิ์แล้ว
อีกหนึ่งส่วนที่เหลือก็ถูกหลอมรวมกับภายในก้อนหินเหล่านั้น
ซึ่งนี่เป็นเรื่องน่ายินดีมาก
สุดท้ายฉู่หลิวเยว่พลิกข้อมือแล้วหยิบของสิ่งหนึ่งออกมา
คนที่อยู่ด้านล่างก็มองเห็นได้ไม่ชัดเจน
“ในมือของนางนั้นคืออันใดกัน”
“ไม่รู้สิ…ของชิ้นนั้นมันเล็กมาก”
“เหมือนว่าจะเป็นต้นอ่อน?”
…
ตอนที่ทุกคนกำลังเต็มไปด้วยความสงสัย พวกเขาก็เห็นว่าฉู่หลิวเยว่โบกมือไปมา
ใบไม้สีเขียวขจี พริ้วไหวตามสายลม
พลังที่อุดมสมบูรณ์ระหว่างฟ้าดินก็เริ่มพวยพุ่งขึ้น!
พรึ่บ…
พลังราวกับกระแสน้ำ พลุ่งพล่านดุจระลอกคลื่น!
ลำแสงจากฟากฟ้าสะท้อนลงมา
ค่ายกลของท่าเรือดอกท้อที่อยู่ในระยะไกลกลับคือสู่สภาพเดิมอีกครั้ง
“นั่นมัน…เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์?”
คนหนึ่งพูดขึ้นเสียงทุ้มต่ำอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ทุกคนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
นั่นมันเป็นของวิเศษที่หาได้ยาก!
คาดไม่ถึงว่าฉู่หลิวเยว่จะมีของสิ่งนี้ด้วย?
บนตัวนางมีไพ่ไม้ตายมากมายเท่าใดกันแน่
…
ที่ฉู่หลิวเยว่เอาเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ออกมานั้น มีเป้าหมายง่ายมาก
ก่อนหน้านี้ที่ผ่านการเหตุการณ์มากมาย ท่าเรือดอกท้อจึงพังทลายจนมีสภาพเช่นนี้ พลังระเบิดขึ้น เรียกได้ว่าพื้นที่แทบทั้งหมดถูกทำลายจนแหลก
แม้ว่านางจะสามารถทะลวงทัณฑ์ทลายเทพได้แล้ว แต่ความวุ่นวายทั้งหมดที่เกิดที่นี่ ก็ยังต้องได้รับการจัดระเบียบ
เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์สามารถควบคุมพลังแห่งสวรรค์และโลกได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นจึงไม่มีอันใดเหมาะไปกว่าของชิ้นนี้อีกแล้ว
เพียงแค่นางครุ่นคิด เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ก็เริ่มจัดการพลังที่วุ่นวายเหล่านั้น
ค่ายกลของท่าเรือดอกท้อได้รับการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว เพียงแต่มีอย่างหนึ่งที่แตกต่างออกไป
…บนม่านพลังนั้นมีลำแสงที่งดงามประกายออกมาจางๆ
หากมองจากในระยะไกล เหมือนเห็นประกายแสงหลากสีสาดกระจายอยู่บนนั้นก็เปล่งประกายออกมา นั่นคือเศษพลังที่เหลือจากทัณฑ์ทลายเทพ
นอกจากสิ่งที่สามารถมองเห็นได้แล้ว และสิ่งที่แตกต่างมากกว่าเดิมก็คือ ม่านพลังในครั้งนี้แข็งแกร่งกว่าของเดิมหลายเท่าตัว!
ความจริงแล้วหลังจากผ่านทัณฑ์ทลายเทพทำให้ทั่วทั้งท่าเรือดอกท้อเหมือนได้เกิดใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง!
ความว่างเปล่าที่ไม่มั่นคง หลังจากการพังทลาย ทั้งยังอาศัยพลังของทัณฑ์ทลายเทพ ทำให้ได้ก่อสร้างขึ้นใหม่และยังมั่นคงมากกว่าเดิม
พลังแห่งสวรรค์และโลกที่อุดมสมบูรณ์พวยพุ่งขึ้นมา
เมื่อสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่ละเอียดอ่อน ฉู่หลิวเยว่ก็ถอนหายใจออกมาอยู่ในใจ
หลังผ่านประสบการณ์เลวร้ายก็จะเข้มแข็งมากขึ้น
ซึ่งกลายเป็นท่าเรือดอกท้อในปัจจุบันนี้!
“เยว่เอ๋อร์ยินดีด้วย”
หรงซิวขยับตัวแล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าของฉู่หลิวเยว่
รอยยิ้มสดใสและอ่อนโยนประดับอยู่บนใบหน้าของเขา ในแววตาความภาคภูมิใจและรักใคร่อย่างปิดไม่มิด
นี่คือเยว่เอ๋อร์ของเขา
ตั้งแต่ต้นจนจบเขายืนหยัดที่จะไม่สอดมือเข้าไปช่วย
แม้ว่าจะปวดใจแต่เขาก็รู้ว่านางจะต้องทำได้แน่นอน
และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปท่าเรือดอกท้อที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ก็จะกลายเป็นฐานที่มั่นของนางแล้ว!
บนโลกนี้จะไม่มีใครสามารถเทียบเทียมกับนางได้อีก
นางเป็นไข่มุกพี่ส่องสว่างและเปล่งประกายมากที่สุด ไม่ว่านางจะอยู่ที่ใดก็สามารถบานสะพรั่งต้านลมฝน!
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจ้องไปในดวงตาหงส์ที่ลึกล้ำ มุมปากก็ยกยิ้มขึ้น
เพียงแค่มองตากันครู่เดียว พวกเขาก็สามารถเข้าใจความคิดของกันและกันได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
นางรู้ว่าหรงซิวกำลังภูมิใจในตัวนาง และยินดีแทนนาง
“เจ้าคิดเรื่องเหล่านี้มานานแล้วหรือ”
ฉู่หลิวเยว่ถามขึ้นอย่างสนใจ
หรงซิวกดรอยยิ้มลึกขึ้น
“ข้าไม่ได้คิดถึง…ทัณฑ์ทลายเทพ”
เขาคิดไม่ถึงเลยว่ามันจะมาเร็วขนาดนี้
ในตอนแรกเขาจะไม่สอดมือเข้ามาช่วย เพราะรู้ว่านางไม่พอใจสำนักกระบี่ทมิฬและตระกูลหนาน ดังนั้นนางจึงอยากลงมือด้วยตัวเอง ระบายอารมณ์และต่อสู้อย่างมีความสุข
แต่ต่อมา…
มันเกินกว่าสิ่งที่เขาคาดการณ์เอาไว้นัก
นางสามารถทำให้เขาประหลาดใจได้ตลอด
ท้องฟ้าค่อยๆ สว่างขึ้น
เปลวเพลิงของทุกแห่งหนถูกดับมอดไปนานแล้ว พลังแห่งสวรรค์และโลกที่อุดมสมบูรณ์พวยพุ่งออกมาจากภายใน
สำนักกระบี่ทมิฬมีพลังแห่งชีวิตที่แข็งแกร่งมาก
ในสถานการณ์แบบนี้จึงมีประโยชน์อย่างมาก
ฉู่หลิวเยว่เหลือบสายตามอง ทันใดนั้นนางก็เห็นว่าที่ด้านล่างมีแสงส่องประกายวิบวับ
นางจึงมองอย่างตั้งใจและเห็นว่ามีทะเลสาบแห่งหนึ่งปรากฏขึ้นระหว่างกลางเทือกเขาตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ
แสงอาทิตย์ส่องสะท้อน ผิวทะเลสาบกระเพื่อมขึ้น
ริมทะเลสาบมีโขดหินวางระเกะระกะ สายน้ำไหลลงมากลายเป็นลำธารที่ใสสะอาด
ต้นอ่อนสีเขียวเติบโตขึ้นที่ริมทะเลสาบ
ฉู่หลิวเยว่เบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย
ดูแล้วทะเลสาบแห่งนี้…เหมือนนางเคยเห็นที่ไหนมาก่อน…
ทันใดนั้นเองภายในสมองของนางก็มีแสงสีขาวสว่างวาบขึ้น
…นั่นคือพื้นที่มิติขนาดเล็กของซานซานใช่หรือไม่
ด้านบนนั้นยังมีม่านพลังครอบอยู่ ด้านนอกจึงดูเหมือนทะเลสาบแห่งหนึ่ง
เพียงแต่ลำธารแห่งนั้นขยายเขตกว้างออกไปทั่วทั้งภูเขา
ไม่ว่ามันจะผ่านไปที่ใดทิวทัศน์ก็เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา
กลิ่นหอมสมุนไพรจางๆ ลอยมาตามอากาศ