ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1926 แม่นาง ห้ามพลาดสักอัน
ตอนที่ 1926 แม่นาง ห้ามพลาดสักอัน
………………..
เมื่อได้ยินคำพูดของหรงซิว ฉู่หลิวเยว่ก็หันขวับกลับมามองหน้าเขาด้วยความตกใจอย่างมาก
เขาหมายความว่าอย่างไรกันแน่
ลั่วเหยี่ยนเป็นพี่ชายแท้ๆ ที่เกิดจากมารดาเดียวกันกับหนานอีอีหรือ
มารดาของหนานอีอีกับหนานอวี่สิงมีชื่อว่า เยี่ยเตี๋ย และเป็นนายหญิงของตระกูลหนาน
ได้ยินมาว่าหลังจากคลอดหนานอีอีได้ไม่นานนางก็เสียชีวิตลง ดังนั้นหนานอีฝานจึงรักลูกสาวคนนี้เป็นอย่างมาก
แต่ข่าวลือภายนอกมักบอกว่าลั่วเหยี่ยน เขาเป็นญาติห่างๆ ของเยี่ยเตี๋ย เพราะว่าในตระกูลไม่เหลือใครแล้ว ไม่มีที่พึ่งพา แต่เพราะพรสวรรค์ของเขาเป็นเลิศ ดังนั้นจึงถูกพามาที่ตระกูลหนานด้วย จนกลายเป็นคนของตระกูลหนานครึ่งหนึ่ง
หลายปีที่ผ่านมานี้ ลั่วเหยี่ยนก็ไม่ได้ทำให้ทุกคนผิดหวัง เขาบำเพ็ญเพียรได้อย่างราบรื่น เลื่อนขั้นจนกลายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์
อีกทั้งมีความสัมพันธ์กับเยี่ยเตี๋ย เขาจึงมีฐานะสูงส่งในตระกูลหนาน
แต่ไม่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงดูแลหนานอวี่สิงและหนานอีอีเป็นพิเศษ
แต่ฉู่หลิวเยว่คิดไม่ถึงเลยว่า ลั่วเหยี่ยนจะเป็นพี่ชายแท้ๆ ของเยี่ยเตี๋ย?
ทั้งดูจากปฏิกิริยาของลั่วเหยี่ยน เรื่องนี้จะต้องเป็นความจริงอย่างแน่นอน!
เมื่อเข้าใจทุกอย่างแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็อดที่จะอ้าปากค้างไม่ได้
หากเป็นเช่นนี้ล่ะก็…ลั่วเหยี่ยนชอบหนานอีอี…
มิน่าล่ะก่อนหน้านี้เขาถึงไม่ยอมรับ!
หากคนภายนอกรู้เรื่องนี้ เช่นนั้นชื่อเสียงของเขากับหนานอีอีต้องถูกทำลายจนป่นปี้แล้ว!
ต่อให้หนานอีอีตายไปแล้ว แต่ลั่วเหยี่ยนยังมีชีวิตอยู่!
ชื่อเสียงฉาวโฉ่เช่นนี้ หากเกาะติดแล้วจะล้างอย่างไรก็ล้างไม่ออก!
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก แต่จิตใจของลั่วเหยี่ยนภายในห้องฉันกำลังจะพังทลายแล้ว
ใช่แล้วเขาเป็นพี่ชายแท้ๆ ของเยี่ยเตี๋ย
หากพูดให้ถูกต้องก็คือเขาเป็นพี่ชายต่างแม่
…เขาคือลูกนอกสมรสของพ่อของเยี่ยเตี๋ย
หลายปีที่ผ่านมานี้ ฐานะของเขาถูกปกปิดอย่างดีมาโดยตลอด
นอกจากพ่อแท้ๆ ของเขาและเยี่ยเตี๋ยก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้มาก่อน
โดยเฉพาะที่ทั้งสองคนนั้นจากไปตั้งแต่สิบกว่าปีก่อนแล้ว ความลับนี้ ถูกฝังลงดินเป็นระยะเวลานานแทบจะไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน
เยี่ยเตี๋ยดีต่อเขาเป็นอย่างมาก น่าเสียดายที่จากไปเร็ว
เขาจึงอยากจะดูแลลูกทั้งสองของนางให้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะหนานอีอี นางมีใบหน้าคล้ายกับเยี่ยเตี๋ยเป็นอย่างมาก เขาจึงรักและเอ็นดูนางมากเป็นพิเศษ
แต่แม้กระทั่งตัวเขาเองก็ยังคิดไม่ถึงเลยว่า วันเวลาผ่านไป ความรู้สึกของเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป
เขาไม่กล้าเผชิญหน้า ได้แต่หลบซ่อนตัว และไม่คิดอะไรทั้งนั้น
เขาจะคิดอย่างไรก็ไม่อาจทราบได้เลยว่า หรงซิวนั้นรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร!
ท่าทางสงบเยือกเย็นของหรงซิวจางหายไปในพริบตา!
เขามองหรงซิวด้วยใบหน้าบ้าคลั่ง เหมือนกับจะฆ่าเขาให้ตาย
แต่น่าเสียดายที่การโจมตีประเภทนี้ไม่มีผลอะไรต่อหรงซิวเลยแม้แต่น้อย
ใบหน้าของเขาราบเรียบเย็นชาเป็นปกติ ภายใต้แสงไฟที่สลัวส่องสะท้อนด้านหนึ่งมืด ด้านหนึ่งสว่าง
ในสายตาของลั่วเหยี่ยน เขาเหมือนกับเทพเจ้าแห่งความตายที่เพิ่งออกมาจากนรก
“หากหนานอีฝานรู้เรื่องนี้ น่าจะ…ไม่ยอมรับเจ้าใช่หรือไม่”
เขาพูดขึ้นเสียงเบาแล้วเลิกคิ้วขึ้นยกยิ้ม
“อ่า นั่นก็ไม่แน่ ท้ายที่สุดแล้วหนานอีอีก็ตายด้วยน้ำมือของเขา ไม่ว่าอย่างไรคนที่รู้สึกผิดต่อหนานอีอีที่สุดก็คงเป็นเขา แล้วเขาจะก็มีสิทธิ์อันใดมากล่าวโทษเจ้า”
กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ทุกชนิดที่แทบจะทำให้คนต้องกลั้นหายใจเข้าไปในจมูกของเขาอย่างบ้าคลั่ง เขากลับไม่รับรู้ถึงเรื่องนี้อีกแล้ว
คำพูดของหรงซิวแหลมคมดังมีดกระบี่ ฉีกตัวตนที่หลบซ่อนของเขาออกมา ทำให้เขาหายจากอาการด้านชา
หนานอีฝาน…
เป็นเขาจริงๆ ด้วย!
ใช่แล้ว ถ้าไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใครได้
เขาเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดทั้งสองคนนี้ ช่วงเวลาที่หนานอวี่สิงฟื้นฟูพลัง เขาก็อยู่ข้างกายของอีกฝ่ายตลอดเวลา
เขาไม่ได้เป็นคนทำ เขาจะต้องสัมผัสถึงสิ่งผิดปกติได้ตั้งแต่แรกแล้ว!
แต่เขาไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง
ซุกความผิดใต้พรม ปิดฟ้าข้ามทะเล!
ความเจ็บปวดอันมหาศาลแล่นพล่านเข้ามา แทบจะทำให้ลั่วเหยี่ยนเหมือนเรือที่จมลงไปในคลื่น!
…
ฉู่หลิวเยว่ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
ก่อนหน้านี้นางเคยคาดเดาเอาไว้แล้วว่าคนลงมือจะใช่หนานอีฝานหรือไม่
แต่นางก็ยังไม่กล้ามั่นใจ
ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นลูกสาวแท้ๆ ของนาง เขาดูแลประคบประหงมนางอย่างดีราวกับไข่มุกในมือ
นางจำได้อย่างแม่นยำว่า หลังจากหนานอีฝานเห็นว่าหนานอีอีได้รับบาดเจ็บ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและปวดใจ
นั่นไม่ใช่สิ่งที่สามารถแสดงได้
และเพราะเหตุนี้ นางจึงไม่อยากจะเชื่อว่าเขาเป็นคนทำเรื่องนี้จริงๆ
ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นลูกเหมือนกัน แต่ทำไมเขาถึงลงมือได้โหดเหี้ยมขนาดนี้
ฉู่หลิวเยว่เม้มริมฝีปากแน่น
แย่งชิงชีพจรดั้งเดิมของคนหนึ่งเคลื่อนย้ายไปที่ร่างกายของอีกคน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ซับซ้อนอย่างมาก อีกทั้งยังต้องสูญเสียพละกำลังอย่างมหาศาล
หนานอีฝานไม่ใช่เซียนหมอ เขาไม่สามารถทำเรื่องนี้ได้ด้วยตนเอง
ความจริงแล้วทั่วทั้งอาณาจักรเสิ่นซวี่ คนที่มีความสามารถเช่นนี้ก็นับว่ามีไม่มาก
หลังจากผ่านไปสักพัก ในที่สุดลั่วเหยี่ยนก็ลุกขึ้นยืนตรง
ฉู่หลิวเยว่สังเกตได้ว่า เขาเอามือยันที่กำแพงเอาไว้ เพราะว่าใช้แรงมากเกินไปจนเลือดไหลออกมาจากแผล
“พวกเจ้าอยากจะถามหาสิ่งใด และคิดจะทำอันใดกับข้า”
ลั่วเหยี่ยนถามขึ้นอย่างเชื่องช้า
ใบหน้าของเขานั้นซีดเผือด เหมือนกับพลังชีพ พลังกาย พลังจิตถูกดึงหายไปทั้งหมด ร่างกายของเขาห่อเหี่ยว เหมือนกับศพเดินได้
เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เขาไม่มีความแรงที่จะกลับไปเป็นเช่นเดิมแล้ว
หรงซิวกับฉู่หลิวเยว่มองหน้ากัน
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้าเล็กน้อยแล้วเดินขึ้นมาหนึ่งก้าว พร้อมถามว่า
“ครั้งนี้ หนานอีฝานเป็นคนสั่งให้มาลอบสังหารพวกเราหรือ”
ลั่วเหยี่ยนพยักหน้า
ก่อนหน้านี้เขาไม่พูดไม่จาอยู่ตลอด เป็นเพราะว่าในใจของเขายังกอดภาพมายาส่วนสุดท้ายเอาไว้
แต่คำพูดของหรงซิวได้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว
ตระกูลหนาน?
หนานอีฝาน?
พวกเขาล้วนเป็นตัวการที่ทำร้ายหนานอีอี!
อีกทั้งความชั่วร้ายที่ซ่อนอยู่ภายในใจ ตอนนี้ก็ถูกคนค้นพบแล้ว
เขาไม่จำเป็นจะต้องปกปิดอะไรอีก
ฉู่หลิวเยว่ลองหยั่งเชิงถาม
ลั่วเหยี่ยนหลับตาลง
“ไม่รู้”
ตอนแรกเขาเป็นคนพาหนานอีอีไปที่พระราชวังเมฆาสวรรค์ แต่หลังจากถูกปฏิเสธให้เข้าพบ เขาก็เกลี้ยกล่อมหนานอีอีอยู่นานกว่าอีกฝ่ายจะกลับ
แต่เมื่อทั้งสองคนมาถึงเขาลูกหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากพระราชวังเมฆาสวรรค์พวกเขาก็ถูกโจมตี
ตอนนั้นเขาก็สลบไป เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็อยู่ที่ตระกูลหนานแล้ว
ในตอนนั้นเขาก็ได้ยินว่า หนานอีอีตายแล้ว
ระหว่างนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาก็ไม่รู้เลย
ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้ถามอะไรอีก
ดูจากท่าทางแล้ว ลั่วเหยี่ยนน่าจะไม่รู้จริงๆ
แต่ในเมื่อเขายอมรับเช่นนี้ ครั้งนี้ก็สามารถชี้ไปทางหนานอีฝานได้ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
เรื่องราวที่เป็นความลับขนาดนี้ หากนางอยากรู้ หนานอีฝานก็คงไม่ยอมบอกใครง่ายๆ หรอก
ฉู่หลิวเยว่ยื่นมือออกมา
“ของสิ่งนั้น ตอนนี้อยู่กับเจ้าไปก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าเช่นนั้นให้ข้ามาดีกว่า?”
ลั่วเหยี่ยนชะงักไปเล็กน้อย ต่อมาเขาก็เข้าใจความหมายของฉู่หลิวเยว่แล้ว
สิ่งที่นางต้องการก็คือ ภาพเมฆาเคลื่อนคล้อย!
………………..