ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1967 การต่อสู้ของร่างศักดิ์สิทธิ์
ตอนที่ 1967 การต่อสู้ของร่างศักดิ์สิทธิ์
………………..
การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนในเหตุการณ์ตกตะลึงเป็นอย่างมาก พวกเขาทยอยกันเงยหน้าขึ้นมอง
“นี่มันเรื่องอันใดกันแน่?”
“หรือว่าจะมีคนทะลวงด่าน? เป็นเพราะ…ทั้งสองคนนี้กำลังประมือกันอยู่น่ะหรือ?”
“ไม่น่าใช่…”
ทุกคนกระซิบกระซาบกัน ความสงสัยปรากฏขึ้น
อี้เหวินเทากับฉู่หลิวเยว่ประมือกันมาได้สักพักหนึ่งแล้ว
หากการเคลื่อนไหวนี้เกิดจากพวกเขาทั้งสองคนจริงๆ ก็ควรจะเกิดขึ้นตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือ ไม่ควรเพิ่งเกิดในตอนนี้?
จากนั้นพลังแห่งสวรรค์และโลกที่เต็มเปี่ยมก็หมุนวนกลายเป็นกระแสน้ำวนขนาดใหญ่แล้วพุ่งตัวลงมา!
เมื่อพวกเขาเห็นทิศทางของกระแสน้ำวนนั้นอย่างชัดเจน คนจำนวนไม่น้อยก็ต้องอ้าปากค้างไป
…คาดไม่ถึงว่ามันจะพุ่งไปทางหงส์ทองคำตัวนั้น?
จื่อเฉินสามารถตระหนักรู้ได้อย่างรวดเร็ว แล้วหันมองถวนจื่อที่อยู่ในอ้อมกอด
ถวนจื่อเงยหน้าขึ้น ดวงตาดำขลับราวลูกองุ่นสะท้อนแสงอันมืดมิดจากท้องฟ้า!
จื่อเฉินวางถวนจื่อลง ก่อนจะถอยหลังลงไปสองสามก้าว แต่สายตาของเขายังจดจ้องอยู่ที่ถวนจื่อเช่นเดิม
ทันทีที่เขาถอยหลังออกมา พลังบนฟากฟ้าก็ผ่าลงมา พร้อมถาโถมเข้าในร่างกายของถวนจื่อด้วยความรวดเร็ว!
ร่างกายของนางเหมือนหลุมไร้ก้น นางสามารถดูดซับพลังเหล่านั้นได้อย่างบ้าคลั่ง!
…
ฉู่หลิวเยว่หันกลับไปมองทางถวนจื่อ ภายในแววตามีประกายความตกใจ
นี่นาง…
พรึ่บ!
แต่ครั้งที่แล้วที่นางเพิ่งเปิดเส้นชีพจร มันเพิ่งผ่านมาได้ไม่นานไม่ใช่หรือ?
ภายในระยะเวลาสั้นๆ คาดไม่ถึงว่าถวนจื่อจะ…
ทันใดนั้นภายในสมองของนางก็มีแสงหนึ่งสว่างวาบ
พลังของอี้เหวินเทาที่ถูกถ่ายเทเข้าไปในร่างกายของนางนั้น นางได้แปรเปลี่ยนให้กลายเป็นของตนเองแล้ว!
และนั่นคือพลังของผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริง!
ความจริงแล้วหลังจากฉู่หลิวเยว่ทะลวงด่านเมื่อครั้งที่แล้ว นางก็พบว่าจื่อเฉินและถวนจื่อนั้นแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมไม่น้อยเลย
และครั้งนี้อี้เหวินเทาก็ยังถ่ายเทพลังมาช่วยเสริมอีก…
หากถวนจื่อจะทะลวงด่านก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลแล้ว
…
นอกจากฉู่หลิวเยว่ คนอื่นที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างไม่มีใครเคยเห็นหงส์ทองคำเปิดเส้นชีพจรด้วยตาตนเอง
หลังจากเขาเห็นว่ามีขนนกสีทองคำชาดปรากฏขึ้น คนส่วนใหญ่ก็ชะงักไป
ในตอนที่ขนนกอันนั้นมาหยุดอยู่ตรงหน้าถวนจื่อ ในที่สุดพวกเขาก็ตระหนักขึ้นได้ว่า
“นั่นมัน…ขนนกของหงส์ทองคำ!”
ทันทีที่สิ้นเสียง ในที่สุดคนจำนวนไม่น้อยก็ดึงสติกลับมา
นั่นเป็นขนนกของหงส์ทองคำแน่นอน มันเป็นสีทองคำชาดทั้งหมด ซ้ำยังส่องแสงแพรวพราว
แต่…เหตุใดของสิ่งนี้ถึงมาปรากฏขึ้นที่นี่ได้ล่ะ?
ในตอนที่ทุกคนกำลังมึนงง ขนนกอันนั้นก็เริ่มสั่นไหวขึ้นเล็กน้อย
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ถวนจื่อก็หลับตาลง เปลวเพลิงรอบกายลุกโชนขึ้นอย่างบ้าคลั่ง!
ลมปราณบนร่างกายของนางนั้นก็เริ่มพุ่งสูงขึ้น!
โหมวฝูซานสามารถดึงสติขึ้นได้เป็นคนแรก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
“นี่นางจะเปิดเส้นชีพจรหรือ?”
แต่บางครั้งพวกเขาก็รู้จักอีกฝ่ายดีกว่าตนเองเสียอีก
นอกจากนี้โหมวฝูซานยังอยู่ในฐานะผู้อาวุโสขั้นสูง เขาจึงเคยเห็นหงส์ทองคำเปิดเส้นชีพจรด้วยตาตนเองมาแล้ว ดังนั้นเมื่อเขาเห็นภาพเหตุการณ์นี้ เขาก็สามารถรู้ได้ในทันที
ทันทีที่สิ้นเสียง เหมือนกับก้อนหินก้อนหนึ่งหล่นลงไปกลางแม่น้ำจนทำให้เกิดแรงกระเพื่อมจำนวนนับไม่ถ้วนขึ้น!
ทุกคนตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย!
เปิดเส้นชีพจร!
แม้ว่าคำนี้จะไม่พบเห็นบ่อยนัก แต่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจความหมายของคำเหล่านี้
ด้วยฐานะและความแข็งแกร่งของคนที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าใจว่าอีกฝ่ายนั้นหมายถึงเรื่องอันใด
“หงส์ทองคำตัวนั้นเพิ่งจะอายุเท่าไรเอง? แต่จะเปิดเส้นชีพจรหรือ?”
“ในเมื่อนางสามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้แล้ว นั่นก็หมายความว่านางได้เปิดเส้นชีพจรเรียบร้อยแล้ว! แต่ประเด็นสำคัญก็คือ เหตุใดตอนนี้นางถึงได้เปิดเส้นชีพจรอีกครั้ง? แล้วนี่…มันเส้นชีพจรที่เท่าไรกันแน่?”
“ไม่ใช่ หากนางต้องการเปิดเส้นชีพจร เช่นนั้น…นางที่มีฐานะเป็นนายน้อยแห่งเผ่าหงส์ทองคำ อี้เจาและคนอื่นต้องทราบเรื่องนี้ด้วยอย่างแน่นอน?”
“…เมื่อครู่นี้นางยังมีทีท่าว่าจะหมดแรงอยู่โดยไม่ใช่หรือ แล้วเหตุใดตอนนี้ถึงได้มาเปิดเส้นชีพจรอย่างกะทันหันได้…อสูรศักดิ์สิทธิ์ในพันธสัญญาของซั่งกวนเยว่ผู้นี้คาดเดาไม่ได้เหมือนกับนางเลย!”
ทุกคนต่างส่งเสียงกระซิบกระซาบ
อี้เหวินเทาสังเกตเห็นถึงสถานการณ์ทางด้านนี้แล้ว ในตอนนั้นเขาจึงขมวดคิ้วมุ่น
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เข้าใจถึงปัจจัยหลักของเรื่องนี้แล้ว จึงต้องกัดฟันกรอดอย่างอดไม่ได้
หงส์ทองคำตัวนั้นเจ้าเล่ห์จริงๆ! นางไม่เพียงแต่จะไม่พ่ายแพ้ต่อการโจมตีของพลังเขา แต่กลับเปลี่ยนพลังของเขาเป็นของตนเอง แล้วยังเปิดเส้นชีพจรโดยตรงเช่นนี้อีก!
อี้เหวินเทาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ให้ตนเองใจเย็นลง
ต่อให้เปิดเส้นชีพจรแล้วก็ไม่มีอันใดพิเศษอยู่ดี
ความคิดนี้เพิ่งจะปรากฏขึ้นภายในใจ แต่ตอนนั้นเขาก็เห็นว่าตรงหน้าของถวนจื่อมีลำแสงสีทองหลายเส้นปรากฏขึ้น
หนึ่ง สอง สาม…
สี่!
ขนนกสีทองคำชาดนั้นกำลังวาดลายเส้นเป็นเส้นที่ห้า!
สมองของอี้เหวินเทาเหมือนถูกอันใดบางอย่างทุบอย่างรุนแรงจนทำให้เขามึนงงไป
เส้นที่ห้า…นี่นางกำลังเปิดเส้นชีพจรเส้นที่ห้าอยู่ใช่หรือไม่?
บ้าไปแล้ว!
ทั้งเผ่าหงส์ทองคำมีคนที่สามารถเปิดเส้นชีพจรที่ห้าได้จำนวนน้อยมาก!
และยิ่งไปกว่านั้น อายุของนางยังไม่โตเต็มวัยด้วยซ้ำ…
หัวใจของเขาเต้นกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง
จะต้องขัดขวางนาง!
ไม่อย่างนั้นแล้วล่ะก็ เกรงว่าสงครามในวันนี้เขาจะต้องตกอยู่ในอันตรายแล้ว!
เมื่อคิดได้ก็ลงมือทันที
ในตอนนั้นอี้เหวินเทาได้ทำลายม่านพลังหลายชิ้นต่อเนื่องกัน หลังจากเห็นการเคลื่อนไหวของ
ถวนจื่อร่างศักดิ์สิทธิ์แปดทิศของเขาก็พุ่งตัวไปด้านหน้าอย่างไม่ลังเล!
เปรี้ยง!
เงาร่างที่สูงใหญ่และแข็งแกร่งพุ่งตัวไปด้านหน้า พื้นแผ่นดินสั่นสะเทือน เหลือทิ้งเอาไว้เพียงรอยเท้า!
ในตอนนั้นเองบนร่างของฉู่หลิวเยว่ก็มีลำแสงสว่างวาบขึ้น!
เกราะอ่อนอาบลำแสงที่งดงามปกคลุมร่างกายของนางในทันที!
แรงกดดันอันน่าหวาดกลัวแผ่กระจายออกมา!
คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง
“ร่างศักดิ์สิทธิ์?”
………………..