ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1969 กำปั้นแข็งมาก
ตอนที่ 1969 กำปั้นแข็งมาก
………………..
ในตอนแรกอี้เหวินเทาไม่เข้าใจว่าคำพูดของฉู่หลิวเยว่นั้นหมายถึงอันใด
จนกระทั่งเขาค้นพบว่าพลังของค่ายกลเหล่านั้นแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ !
รูม่านตาของเขาหดเล็กลง จากนั้นก็ตระหนักขึ้นได้ว่าฉู่หลิวเยว่ยังคงใช้พลังปราณดั้งเดิมของตนเองสนับสนุนค่ายกลเหล่านี้!
พลังปราณดั้งเดิมของนางนั้นไม่เพียงไม่หมดไปตามที่เขาหวัง แต่กลับยังสมบูรณ์เป็นอย่างมาก มากเสียจนสามารถควบคุมค่ายกลเหล่านั้น และต่อสู้ร่างศักดิ์สิทธิ์แปดทิศในเวลาเดียวกัน!
พลังที่น่ากลัวจำนวนนับไม่ถ้วนแผ่กระจายออกมาจากค่ายกล ก่อนพุ่งมาทางอี้เหวินเทา!
ต้องบอกก่อนว่า หากไม่มีการคุ้มครองจากร่างศักดิ์สิทธิ์แปดทิศ พลังกายของอี้เหวินเทาก็มีจำกัดเป็นอย่างมาก
แม้ว่าเขาจะเป็นระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ แต่ถ้าไม่มีร่างศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่มีทางต้านทานค่ายกลเหล่านั้นด้วยตัวคนเดียวได้!
…ด้านในนั้นคือค่ายกลระดับปรมาจารย์ที่มีจำนวนไม่น้อย!
รอบกายเขามีเพียงอาณาเขตเทพเซียนอย่างเดียวที่กำลังจะพังทลาย!
แรงกดดันที่หนักหน่วงถาโถมลงบนร่างกายของเขา เขารู้สึกทั้งหนักและเจ็บปวดมาก!
ความเจ็บปวดอันแสนสาหัสแผ่กระจายออกไปทั่วร่างกาย!
ตกใจมากจนแทบจะพูดอันใดไม่ออก
ฉู่หลิวเยว่เป็นเพียงแค่ระดับเทพขั้นสูงเท่านั้น
พวกเขาเคยประมือกันมาก่อน ดังนั้นเขาจึงมั่นใจเป็นอย่างมาก
แต่… นางเก็บซ่อนพลังปราณดั้งเดิมที่น่าตกใจเอาไว้ภายในร่างกายได้อย่างใดกัน?
ต่อให้เป็นเขา ในตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่าเขาด้อยกว่าหนึ่งขั้น!
ไม่ใช่อี้เหวินเทาคนเดียวที่มีคำถามเช่นนี้
ความจริงแล้วในตอนที่ฉู่หลิวเยว่ลงมือควบคุมค่ายกลเหล่านั้นอีกครั้ง ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ต่างตกใจกันทั้งหมด!
ร่างกายของผู้บำเพ็ญเพียรก็เหมือนกับภาชนะใบหนึ่ง
นั่นคือสิ่งกีดขวางของระดับพลังที่มองไม่เห็น
โดยปกติแล้ว พลังปราณที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูง ไม่สามารถเทียบได้กับพลังปราณของผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์แน่นอน
บางครั้งระยะห่างเหล่านี้อาจมากถึงหลายสิบเท่าเลยทีเดียว!
แต่ตอนนี้…
ทุกคนสามารถมองเห็นว่าฉู่หลิวเยว่เหนือชั้นกว่าอี้เหวินเทามากนัก!
พลังเหล่านั้นพวยพุ่งออกมาจากร่างกายของนางอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับไม่มีวันหมดสิ้น!
ใบหน้าของอี้เหวินจั๋วประดับด้วยรอยยิ้มแข็งทื่อ
“นี่มัน…เหตุใดภายในร่างกายของนางจึงมีพลังปราณสะสมมากมายขนาดนั้น แต่เมื่อมีมากมายขนาดนี้แต่ร่างกายก็ยังไม่ระเบิดตายอีก?”
หากเป็นคนอื่นละก็ เกรงว่าหยวนตันและกายเนื้ออาจจะไม่สามารถรับไหวแล้ว?
เดิมทีคนฝั่งตระกูลหนานและตระกูลอี้คึกคักครื้นเครง ก็เหมือนถูกแช่แข็งในทันที!
…
อี้เหวินเทาครุ่นคิดอย่างบ้าคลั่ง ภายในสมองของเขามีความคิดปรากฏขึ้นนับไม่ถ้วน
เขาไม่สามารถนั่งรอความตายแบบนี้ได้!
เขารู้ดีว่าหากอยู่ตรงนี้ต่อไปเขาก็จะถูกค่ายกลเหล่านั้นเข้าโอบล้อม แต่จุดจบจะเป็นอย่างใดกันเล่า!
เขาจำเป็นจะต้องหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ก่อน!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ อี้เหวินเทาก็เงยหน้าขึ้น เขาต้องการจะเรียกร่างศักดิ์สิทธิ์แปดทิศของตนเองกลับคืนมา
แต่ในตอนนั้นเองหมัดของฉู่หลิวเยว่ก็เปลี่ยนเป็นฝ่ามือ ก่อนคว้าจับข้อมือของร่างศักดิ์สิทธิ์แน่น!
หัวใจของอี้เหวินเทาจมดิ่ง!
“ซั่งกวนเยว่! เจ้ากล้าดีอย่างใด!”
ฉู่หลิวเยว่ทำเป็นเหมือนไม่ได้ยิน พลังปราณรอบกายของนางพวยพุ่งขึ้นอย่างบ้าคลั่งแล้วรวบรวมอยู่ที่ฝ่ามือทั้งสองข้างของนาง!
เอวเรียวบางบิดตัว!
ร่างศักดิ์สิทธิ์แปดทิศที่มีขนาดร่างกายใหญ่กว่านางตั้งไม่รู้กี่เท่าถูกฉู่หลิวเยว่โยนออกไปอย่างแรง!
ในตอนนั้น อี้เหวินเทากำลังเสียสมาธิ ไม่ได้ตั้งตัว ฉู่หลิวเยว่จึงสามารถโยนร่างศักดิ์สิทธิ์แปดทิศออกไปได้ไกลมาก!
“ตึงๆ”
เสียงฝีเท้าที่หนักหน่วงและรีบร้อนมากขึ้น ร่างศักดิ์สิทธิ์แปดทิศทิ้งรอยเท้าเอาไว้บนพื้นลึก และมันไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคง
แต่ในตอนนั้นเอง ฉู่หลิวเยว่อยู่ตำแหน่งตรงกลางระหว่างร่างศักดิ์สิทธิ์และกายเนื้อของอี้เหวินเทา
อี้เหวินเทาขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน
เห็นได้ชัดว่าฉู่หลิวเยว่ตั้งใจทำอย่างนี้
เขาโกรธจนถึงขีดสุดแล้ว เส้นประสาทของอี้เหวินเทาตึงเครียด!
ระหว่างคิ้วของเขามีสัญลักษณ์หนึ่งปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว!
จากนั้นเงาร่างของเขาก็พุ่งตัวไปด้านหน้าด้วยความเร็วสูง!
ในตอนนั้นเองเงาร่างสีดำสายหนึ่งก็ปรากฏกายขึ้นที่ด้านหลังของอี้เหวินเทาอย่างกะทันหัน!
นั่นคือ จื่อเฉินนั่นเอง!
สายตาของเขาที่มองไปทางอี้เหวินเทาเต็มไปด้วยความเย็นชาและดูถูก ราวกับกำลังมองมดปลวก
อี้เหวินเทารู้สึกเสียวสันคอวาบ จึงรีบหันกลับไปมองในทันที
ค่ายกลจำนวนมากกำลังโอบล้อมเขาเป็นตาข่ายยักษ์อย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ได้กินพื้นที่เกือบสามส่วนสี่แล้ว เหลือเพียงส่วนสุดท้ายเท่านั้นที่ยังเหลือเป็นพื้นที่ว่าง
แต่คิดไม่ถึงเลยว่า จื่อเฉินจะปรากฏกายตรงนั้น!
อี้เหวินเทารู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดี
จากนั้นก็มีเสียงคำรามหนึ่งดังขึ้นออกมาจากร่างกายของจื่อเฉิน!
นั่นเป็นคำรามของอินทรีสามตา อีกทางยังแฝงด้วยเสียงคำรามของมังกร!
เสียงอาวุธที่แหลมคมแทงเข้าไปในเนื้อ เสียงดังขึ้นสั้นๆ แต่ทำให้ผู้คนรู้สึกเสียวมาก
อี้เหวินเทาหลบไม่ทัน โดยอาวุธนั้นปาดไหล่ของเขาไปในทันที!
เลือดไหลสาดกระจาย!
อี้เหวินเทากระอักเลือดออกมา ทั้งรู้สึกโกรธระคนตกใจ!
“เจ้า…”
แกว๊ก!
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เสียงร้องของหงส์ที่กระจ่างใสก็ดังขึ้น!
อีกด้านหนึ่งขนนกทองคำบรรพบุรุษก็วาดเส้นที่ห้าได้สำเร็จแล้ว!
เปิด…เส้นชีพจรที่ห้า!
แรงกดดันบนร่างกายของถวนจื่อก็ระเบิดขึ้นมาในทันที!
เปลวเพลิงสีทองคำชาดยังคงลุกไหม้อยู่บนร่างกายของนาง กลุ่มก้อนที่คล้ายเปลวเพลิงพุ่งเข้าใส่อี้
เหวินเทาอย่างรวดเร็ว!
“เหลือแขนข้างนั้นให้ข้า!”
เงาร่างของฉู่หลิวเยว่วูบไหว ก่อนเตะไปที่ร่างศักดิ์สิทธิ์แปดทิศอย่างแรง!
ร่างศักดิ์สิทธิ์แปดทิศนั้นยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมากันเอาไว้ด้านหน้า!
กร๊อบ!
เสียงกระดูกหักดังขึ้นอย่างชัดเจน!
จากนั้นทุกคนก็เห็นว่าแขนทั้งสองข้างของร่างศักดิ์สิทธิ์แปดทิศนั้นผิดรูปผิดร่างไป
คาดไม่ถึงว่าคนที่ตกลงมานั้นจะเป็น…ร่างศักดิ์สิทธิ์แปดทิศของอี้เหวินเทา!