ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1983 คุณชายหลิน รูปงามหรือไม่
ตอนที่ 1983 คุณชายหลิน รูปงามหรือไม่
………………..
ฉู่หลิวเยว่มองผิดไปเล็กน้อย จึงมองไปทางเยี่ยนชิงที่เดินออกมาจากหัวมุมถนนด้านหน้า
ได้ยินหรงซิวพูดว่าวันนี้เยี่ยนชิงไปส่งคนผู้นั้นที่พระราชวังเมฆสวรรค์ออกนอกเมืองแล้ว
เมื่อไม่นานมานี้เหตุเพราะมีการคาดเดาว่าทางตระกูลหนานจะมีความเคลื่อนไหวบางอย่าง หรงซิวจึงส่งคนจำนวนมากจากพระราชวังเมฆาสวรรค์เข้าไปอย่างลับๆ
บัดนี้เมื่อทุกอย่างได้คลี่คลายลงแล้ว จึงไม่มีประโยชน์อันใดที่พวกเขาจะอยู่ที่นี่ต่อ ดังนั้นหรงซิงจึงให้พวกเขากลับไป และเหลือคนไว้เพียงบางส่วนเท่านั้น
ไม่คิดว่าจะบังเอิญเช่นนี้ที่ได้พบกันพอดี
เยี่ยนชิงเดินเข้ามา
น้องแปดหันหลังให้เขาและเมื่อได้ยินชื่อของเขา นางแข็งค้างไปทั้งตัวอย่างควบคุมไม่ได้
แม้ว่านางไม่ได้หันไปมองแต่ยังคงได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาที่ค่อยๆ ก้าวเข้ามาใกล้อย่างชัดเจน
นางกำมือแน่นโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
“ถวายบังคม พระชายา”
เยี่ยนซิงยืนนิ่งทำความเคารพ
เขายืนอยู่ข้างน้องแปดกับหลินจือเฟยไม่ไกลกันมากนัก
เมื่อน้องแปดค่อยๆ ชำเลืองมองก็เห็นชายรูปร่างสูงใหญ่ที่สวมชุดดำทั้งร่างผู้นั้น
ไม่รู้เหตุใดนางถึงรีบร้อนนัก
“เมื่อครู่นี้ข้าน้อยได้ส่งคนสุดท้ายออกไปแล้วขอรับ”
เยี่ยนซิงเอ่ยขึ้น
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้ารับ
เยี่ยนชิงทำเรื่องต่างๆ ได้เรียบร้อยมาโดยตลอด
“ไม่ทราบพระชายา นี่คือ…”
เยี่ยนชิงเห็นพวกเขาเหมือนกับมีแผนอะไรบางอย่าง เมื่อคิดดูแล้วจึงเอ่ยถามขึ้นหนึ่งประโยค
ฉู่หลิวเยว่ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย
“ไม่มีอันใดหรอก ก็แค่ทางด้านประตูแดนสวรรค์เกิดเรื่องเล็กน้อย ข้าคิดจะไปดูด้วยตนเองเสียหน่อย ไปแล้วก็จะกลับมา เจ้าก็ทำธุระของเจ้าต่อเถอะ”
เยี่ยนชิงตอบกลับรับคำขึ้น
หลังจากนั้นจึงหันไปชำเรืองมอง น้องแปดและหลินจือเฟยที่ยืนอยู่ด้านข้าง
จนกระทั่งน้องแปดสัมผัสได้ถึงสายตาของเขา แทบเหมือนพลังงานบางอย่างที่กวาดไปทั่วทั้งร่างของตน!
ทำให้นางรู้สึกเกร็งมากขึ้นเรื่อยๆ ชั่วขณะนั้นจึงยังไม่กล้ามองหน้าเยี่ยนชิง
อย่างใดก็ตามสายตาของเยี่ยนชิง แทบจะไม่หยุดนิ่งเหมือนสายน้ำไหลข้ามผ่านไป
“ที่แท้เป็นคุณชายหลิน”
เยี่ยนชิงผงกศีรษะ
หลินจือเฟยตอบกลับอย่างสุภาพ
“คารวะใต้เท้าเยี่ยนชิง”
เยี่ยนชิงรู้โดยสัญชาตญาณว่าหลินจือเฟยเป็นคนของฉู่หลิงเยว่ เมื่อกล่าวทักทายแล้วยิ่งไม่มีอันใดต้องถามให้มากความ เขาจึงหันตัวเดินออกมา
จนกระทั่งร่างของเขาหายไปในประตูใหญ่ของจวนเยว่ จู่ๆ ฉู่หลิวเยว่พลันนึกอันใดขึ้นมาได้ จึงหันกลับไปมองด้วยความประหลาดใจ
เมื่อครู่…
เหมือนเยี่ยนชิงไม่ได้ทักทายน้องแปดคนเดียวอย่างนั้นหรือ
ไม่ใช่ว่าเขาเพียงพยักหน้าให้เฉินอีอย่างง่ายดายเท่านั้น
แต่จากสถานการณ์เมื่อครู่ ดูเหมือนน้องแปดไม่ค่อยอยากพูดกับเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พูดอันใดมากนัก
เดิมทีพวกเขาทั้งสองมีความขัดแย้งกัน ไม่แน่ว่ายังคงทะเลาะกันอยู่…
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดเงียบๆ คนเดียว
เยี่ยนชิงไม่ใช่คนเจ้าอารมณ์เช่นนั้น ดูแล้วเป็นคนใจกว้างแต่ตรงไปตรงมาอย่างมาก
ในทางกลับกันเป็นน้องแปด ตั้งแต่เยี่ยนชิงเข้ามานางเหมือนอึดอัดใจเล็กน้อย
เหตุผลที่เยี่ยนชิงไม่ทักทายนาง อาจเป็นกังวลว่าหากทำเช่นนี้ยิ่งทำให้น้องแปดไม่สบายใจ
แม้ว่าเขาเป็นคนเงียบขรึม นิสัยเย็นชา แต่เป็นคนที่ฉลาดมาก
ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ได้เป็นคนสำคัญของหรงซิว
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วอย่างปวดหัวเล็กน้อย สุดท้ายนางจึงปล่อยเรื่องเหล่านี้ทิ้งไป
ไม่สนใจพวกเขาแล้ว
ถึงแม้ว่าน้องแปดขี้งอนและเอาแต่ใจในบางครั้ง แต่ก็รู้จักกาละเทศะมาโดยตลอด
แม้ว่ามีความขัดแย้งบางอย่างกับเยี่ยนชิง ท่าทางที่เหมือนน้ำแข็งของเยี่ยนชิง หลังจากมีท่าทีเย็นชามาสักระยะหนึ่ง คาดว่าตัวน้องแปดเองคงรู้สึกไม่มีอันใดน่าสนใจ คงจบแบบค้างคาเสียแล้ว
“ไป ไปดูที่ประตูแดนสวรรค์กัน”
ฉู่หลิวเยว่ก้าวเท้าและเดินตรงไป
เฉินอีและหลินจือเฟยตามหลังไปในทันที
น้องแปดกลับยืนอยู่ที่เดิม ราวกับตกอยู่ภวังค์โดยไม่รู้ว่านางกำลังคิดอันใดอยู่
หลังจากฉู่หลิวเยว่ออกมาได้สักพักหนึ่งถึงรู้ว่านางไม่ได้ตามด้วยมาจึงหันไปเรียกนาง
“น้องแปด?”
น้องแปดรู้สึกตัวขึ้นมาในทันที
“อืม? อ่อ มาแล้ว!”
ขณะที่พูดนางก็เดินมาอย่างรวดเร็ว
เพียงแต่ตอนนี้นางไม่ได้ยืนอยู่ข้างหลินจือเฟย แต่กลับตามหลังเฉินอีอย่างเชื่อฟัง
ฉู่หลิวเยว่มองที่นางพลางครุ่นคิด ชั่วครู่จึงเลิกคิดและหันกลับไปทางที่มุ่งหน้าไปประตูแดนสวรรค์
…
อีกด้านหนึ่งเยี่ยนซิงกลับไปจวนเยว่
ฝีเท้าของเขานิ่งสงบ ใบหน้าหล่อเหลาและเย็นชา แต่ไม่ได้แสดง ความรู้สึกอันใดออกมา
มีเพียงดวงตาทั้งคู่นั้นเหมือนมีคลื่นเล็กๆ ล้นออกมา
“เยี่ยนซิง? เยี่ยนซิง!”
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น
เยี่ยนซิงเงยหน้าขึ้น
อวี๋มั่วไม่รู้ว่าเขามาปรากฏตัวต่อหน้าเมื่อใด ในเวลานั้นจึงจ้องมองเขาด้วยความสงสัยและโบกมือไปมาตรงหน้าของเขา
“คิดอันใดอยู่ ถึงได้เหม่อลอยเช่นนี้!”
อวี๋มั่ว มากับทหารองค์รักษ์ในวังเมื่อสองสามวันก่อน
เพียงแต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจและไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าผู้คน
แม้แต่ในจวนเยว่ มีหลายคนที่ไม่รู้ว่าอวิ๋มั่วอยู่ที่นี่
ในเวลาส่วนใหญ่เขามีหน้าที่รายงานข่าวจากข้างนอกให้นายท่านของตนทราบเท่านั้น หลังจากนั้นจึงถ่ายทอดคำสั่งออกไป
เพราะในบางเรื่องต้องแอบแฝงตัวอย่างลับๆ ดังนั้นเขาจึงตั้งใจลดการมีตัวตนของเขา
แต่สถานที่แห่งนี้เป็นจวนภายใน อีกทั้งยังเป็นที่พักของเยี่ยนชิง คนทั่วไปไม่มีทางเข้ามา ได้ อวี๋มั่วจึงปรากฏตัวออกมาโดยตรงเช่นนี้
เยี่ยนชิงขยับไปหนึ่งก้าวเพื่อหลีกทางให้เขา
“ไม่มีอันใด”
นิสัยของเขาเย็นชามาโดยตลอด ถามสามประโยคล้วนตอบกลับมาแค่ประโยคเดียว อวี๋มั่วจึงเคยชินกับนิสัยของเขามานาน
เพียงแต่ท่าทางเช่นนี้ของเขา…ดูแปลกไปเล็กน้อยจริงๆ!
ทั้งสองทำงานด้วยกันมาหลายปี จึงเข้าใจกันเป็นอย่างมาก
เขาจึงรีบตามไปพลางเอ่ยขึ้น
“วันนี้เจ้าไปส่งคนมาไม่ใช่หรือ หรือว่ามีเรื่องยุ่งยากอันใดเกิดขึ้น”
เยี่ยนชิงเหลือบมองเขาและไม่พูดอันใด
แต่ความหมายนั้นแสดงออกอย่างเห็นได้ชัด
อวี๋มั่วเกาหัวไปมาและรู้สึกว่าการคาดเดานี้ช่างไม่เหมาะสมยิ่งนัก
คนที่ไปส่งล้วนเป็นคนของพระราชวังเมฆาสวรรค์ อีกทั้งสถานะเยี่ยนชิงสูงส่ง คนที่ช่วยเหล่านั้นคงไม่กล้าประมาท
เช่นนั้น…ก็แทบจะไม่มีเหตุผลอื่นแล้วอย่างนั้นหรือ
นับตั้งแต่ที่พระชายาต่อสู้ชนะอี้เหวินเทาอย่างสมเกียรติในศึกครั้งนั้น สภาพแวดล้อมทั้งหมดของท่าเรือดอกท้อได้เปลี่ยนเป็นความคึกคักและมีชีวิตชีวาอย่างมาก
ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของทุกคนในเมืองและความเชื่อมั่นที่มีต่อนางเกินกว่าที่คาดคิดไว้มาก
หากพวกเขาไม่แทรกแซง เรื่องทั้งหมดของท่าเรือดอกท้อยิ่งก้าวหน้าไปในทิศทางที่ดีขึ้น
เมื่อพระชายาอารมณ์ดี ฝ่าบาทก็อารมณ์ดีเป็นปกติเช่นเดียวกัน
แม้กระทั่งพวกเขาก็ยังดูท่าทางมีความสุขเป็นพิเศษอยู่แล้วส่วน!
วันดีๆ เช่นนี้มีอันใดต้องกังวลกันเล่า?
เยี่ยนชิงเดินมาถึงบนลานและนั่งลงบนม้าหิน และหลุบสายตาต่ำลง ราวกับครุ่นคิดอันใดบางอย่าง
อวี๋มั่วเดินเข้าไปหาเขาและรินชาให้ตัวเองถ้วยหนึ่ง
“ทุกคนล้วนเป็นพี่น้องกัน มีเรื่องยุ่งยากอันใดก็พูดกันได้ไม่ใช่หรือ ระหว่างเจ้ากับข้ามีอันใดต้องเกรงใจกันอีกหรือ”
ประโยคนี้เหมือนทำให้เยี่ยนชิงรู้สึกตัวขึ้น
ใจของเขาสั่นไหวเล็กน้อย และเงยหน้ามองอวิ๋มั่ว
อวี๋มั่วที่กำลังนั่งดื่มชา
กลิ่นชาที่หอมกรุ่น สดชื่นและหอมหวาน
เยี่ยนชิงเป็นคนสนิทของหรงซิว ค่าตอบแทนของจวนเยว่สูงมาก อีกทั้งซานซานสั่งให้คนส่งของดีๆ มามากมายโดยเฉพาะ
ขณะที่อวี๋มั่ว กำลังถอนหายใจอยู่นั้นก็ได้ยินเยี่ยนชิงถามขึ้นอย่างกระทันหัน
“เจ้าคิดว่า คุณชายหลิน…รูปงามหรือไม่”
“พรวด…”
น้ำชาในปากของอวี๋มั่วพุ่งพรวดออกมา! กระจายเปรอะเต็มตัวเขาในชั่วพริบตา!
ในขณะที่เขาไม่ได้สนใจถึงเรื่องนี้เลย
เขาเบิกตากว้าง และจ้องมองเยี่ยนชิงด้วยความตื่นตระหนกอย่างมาก
“เจ้าพูดอันใดน่ะ!”
………………..