ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1996 คำเตือน
ตอนที่ 1996 คำเตือน
………………..
เสี่ยวโจวดึงมือกลับและถอยไปหนึ่งก้าวพลางพูดขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ข้าไม่ต้องการเข้าร่วมทดสอบแล้ว ข้าขอถอนตัว”
ทันทีที่เขาพูดทุกคนต่างพากันตกใจ
สถานการณ์ตกอยู่ในความเงียบจนน่าอึดอัดใจในทันที
คนไม่น้อยมองดูกันไปมา
นี่มันเกิดอะไรขึ้น
พูดว่าไม่ต้องการเข้าร่วมก็ไม่เข้าร่วมแล้วอย่างนั้นหรือ
เมื่อครู่แขนครึ่งหนึ่งเข้าไปได้แล้ว เจ้าพูดว่าอยากจะถอนตัวอยู่อีกหรือ
เช่นนี้มันง่ายเกินไปกระมัง!
เห็นได้ชัดว่าหงอันก็นึกไม่ถึงว่าเสี่ยวโจวจะพูดคำเช่นนี้ออกมา อีกทั้งสีหน้าของเขาดูเยียบเย็น
“เจ้าแน่ใจ?”
มีฝึกตนมากมายที่ต้องการเข้าร่วมการทดสอบนี้ และเป็นครั้งแรกของหงอันที่ได้เห็นบางคนจัดการไปครึ่งหนึ่ง และจู่ๆ ต้องการจะถอนตัว
ยิ่งไปกว่านั้น ยังแสดงออกอย่างชัดเจนว่าสามารถรับสถานการณ์ที่ต้องผ่านการตรวจสอบได้
“ถอนตัวก็ดี! เช่นนี้พวกเราก็มีคู่แข่งน้อยลงแล้ว!”
“ก็จริง! เขาไม่ต้องการเข้าร่วม แต่มีคนที่ต้องการเข้าร่วม!”
“ช่างไม่รู้เรื่องรู้ราวจริงๆ!”
…
เสียงวิจารณ์ต่างๆ ค่อยๆ แพร่กระจายออกไป
สีหน้าของเสี่ยวโจวดูลังเลขึ้น
เขาเม้มริมฝีปาก ชั่วครู่ พูดขึ้นอย่างลังเลว่า
“ข้าขอคิดดูก่อน”
เมื่อพูดจบ เขาก็ถอยหลังไปสองสามก้าวและออกจาตำแหน่งไป
เสียงหัวเราะดังขึ้นในฝูงชน
คิดดูอีกครั้ง?
เขาคิดว่าตนเองเป็นใครกัน ถึงได้เล่นตัวเช่นนี้
อารมณ์ของผู้คุมประตูนั้น คงไม่ได้หายได้ง่ายขนาดนั้น!
หงอันก็ขมวดคิ้วขึ้นเช่นกันและรู้สึกเบื่อหน่ายอย่างมาก
มาถึงที่แห่งนี้ได้ ทุกคนต่างมาเพื่อฝึกฝนตนเองกันทั้งนั้น
ใครจะกลับไปกลับมาเช่นนี้
ขณะที่เขากําลังจะเอ่ยปากตำหนิขึ้น สายตากลับแน่นิ่งขึ้นมาในทันที
เด็กหนุ่มคนนั้น…เป็นผู้ฝึกตนระดับเก้าอย่างนั้นหรือ
และดูเหมือนว่าห่างจากการทะลวงขั้นของเทพขั้นสูงเพียงก้าวเดียว!
เหมือนว่าอายุก็ดูไม่ได้โตนัก…
ในผู้คนเหล่านี้เขาเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดแล้ว
เมื่อคิดได้เช่นนี้คำพูดที่ปากก็ถูกกลืนกลับไป
ถ้าหากให้เขาไปเช่นนี้จริงๆ คงเสียหายไปไม่น้อยเลย…
หงอันลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าดูผ่อนคลายขึ้น
“เช่นนั้นก็…ให้เวลาเจ้าคิดอีกสักหน่อยก็แล้วกัน”
ทุกคนเกิดความแตกตื่นขึ้น
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่คิดว่าหงอันจะเปิดใจให้จริงๆ ที่จะให้เด็กหนุ่มผู้นั้นได้มีโอกาศกลับคำอีกครั้ง!
เสี่ยวโจวได้ยินว่าบนใบหน้าอันงดงามละเอียดอ่อนของเขา กลับดูเหมือนไม่ค่อยมีสีหน้าประหลาดใจเกินไป มีเพียงแค่พยักหน้าเท่านั้น
“คนต่อไป!”
หงอันออกคำสั่ง คนอื่นๆ จึงไม่สนใจเสี่ยวโจวอีก แต่ละคนเริ่มเข้าแถวเพื่อรับการตรวจสอบอีกครั้ง
ขั้นตอนหลังจากนั้นดำเนินการราบรื่นอย่างมาก
เฮ่อจื่อจี้กับเฮ่อจื่อหลานผ่านได้สำเร็จ แต่คนที่เหลือที่ตามมาพร้อมกับพวกเขา กลับถูกคัดออกทั้งหมด
ต่อมาเฮ่อจื่อจี้หันกลับไปมองทางหรงซิวและฉู่หลิวเยว่ทั้งสองคน
เขาจะแปลกใจอย่างมากที่ทั้งสองคนไม่สามารถไม่ผ่านได้
หรงซิวเดินไปด้านหน้า
ขาเดินไปข้างหน้าด้วยสีหน้าปกติ ผิวของกระจกทองสัมฤทธิ์นั่น ไหลผ่านบนร่างของเขาราวกับสายน้ำไหล
เพียงก้าวเดียวเขาก็ผ่านกระจกทองสัมฤทธิ์ได้สำเร็จ!
ฉู่หลิวเยว่ตามหลังหรงซิวไป
หลังจากหรงซิวเข้าไป ก็ถึงตาของนางพอดี
เมื่อคิดถึงปฏิกิริยาของเสี่ยวโจวก่อนหน้านี้ ฉู่หลิวเยว่จึงหรี่ตาลงเล็กน้อยและเตรียมร่างกายเพื่อพร้อมรับมือ
แน่นอนว่าเสี่ยวโจวไม่มีทางทำเช่นนั้นโดยไม่มีเหตุผล
เขามีความคิดเป็นของตนเองและเป็นการเตือนนางด้วยในขณะเดียวกัน!
ฉู่หลิวเยว่กดพลังของตนไว้ในระดับต่ำ หลังจากนั้นจึงเดินหน้าไป
หึ่ง!
ทันทีที่สัมผัสผิวกระจกนั่น นางระฆังก็ดังขึ้นในใจของนางอย่างรุนแรง!
หยดน้ำที่ลอยตัวอย่างเงียบๆ ในจุดตันเถียน ดูเหมือนจะถูกเรียกออกมาด้วยพลังบางอย่างในทันที และเริ่มเคลื่อนไหวขึ้น!
โชคดีที่ฉู่หลิวเยว่เตรียมการไว้ก่อนหน้าแล้ว จึงชิงลงมือก่อน โดยบีบบังคับและควบคุมพลังที่หมุนวนในร่างกาย เพื่อหยุดการไหลเวียน!
ความผันผวนที่เกิดขึ้นนั้น จึงถูกควบคุมด้วยพลังอันแข็งแกร่งลงเช่นนี้ได้!
มือของนางผ่านเข้าไปในผิวกระจกที่เหมือนกับสายน้ำ
หลังจากนั้นนางก้าวไปข้างหน้าและผ่านได้สำเร็จ
กระบวกการทั้งหมดใช้เวลาเพียงชั่วอึดใจเท่านั้น
ตั้งแต่นั้นมาท่าทางของฉู่หลิวเยว่ไม่ผันผวนเลยแม้แต่น้อย ดังเช่นความสงบที่เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา
ใครก็มิอาจรู้ได้ว่า เมื่อชั่วพริบตาเดียวนั่นนี้แท้จริงแล้วนางกับอะไรมา
หรงซิวยื่นมือออกไปหานาง
เมื่อถูกมืออันอบอุ่นและแห้งกุมเอาไว้ ฉู่หลิวเยว่จึงรู้สึกได้ว่าฝ่ามือของตนเปียกโชกไปทั้งมือ
ปลายนิ้วของหรงซิวสัมผัสบนหลังมือของนางอย่างแผ่วเบา
ในใจของฉู่หลิวเยว่สงบลง
แววตาของนางมองไปที่กระจกทองสัมฤทธิ์นั่น ด้วยความสับสน
ด้านในนั้นมีพลังประหลาดอย่างมากซ่อนอยู่
เมื่อนางเดินผ่านจุดนั้นก็รู้สึกอย่างชัดเจนว่ามีคนกำลังจับตามองนางอยู่!
ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้แผ่นหลังของนางเย็นวาบขึ้น
แต่เห็นได้ชัดเจนว่าคนเหล่านั้นที่อยู่รอบๆ กลับไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกตินี้เลย
คนที่ผ่านการทดสอบ ต่างตื่นเต้นยินดี
คนที่พ่ายแพ้ ต่างเศร้าเสียใจ
ฉู่หลิวเยว่หลบตาลงเล็กน้อยและครุ่นคิดกับตัวเอง
เสี่ยวโจวน่าจะรู้สึกถึงการมีอยู่ของพลังประหลาดนั่นมาก่อน ถึงได้…
“พี่ไป๋หลี ได้ยินว่าบนเขาไท่อินอันตรายยิ่งนัก พวกเราขึ้นเขาไปพร้อมกันและช่วยดูแลกัน ท่านคิดเห็นอย่างไร”
เฮ่อจื่อจี้รออยู่ที่นี่ เห็นได้ชัดว่าเพื่อแผนการนี้
แม้ว่าเฮ่อจื่อหลานจะไม่พอใจอยู่บ้าง แต่เห็นหรงซิวและนางผ่านการตรวจสอบสำเร็จทั้งคู่ ก็ไม่เป็นการดีที่จะพูดอะไรออกมา
หรงซิวกับฉู่หลิวเยว่สบตากันครู่หนึ่ง
“ได้!”
หลังจากหารือกันแล้ว หลายคนจึงมุ่งหน้าขึ้นเขาไปด้วยกัน
ความเร็วของพวกเขาว่องไวนัก ไม่นานก็เข้าไปในเขาหลินได้
หลังจากเดินออกมาระยะหนึ่ง ฉู่หลิวเยว่จึงหันกลับไปมองครู่หนึ่ง
ถูกคั่นด้วยป่าไม้เป็นพุ่มๆ ยังคงมองเห็นภาพที่กระจกทองสัมฤทธิ์นั้นได้
ขณะที่นางหันมา เสี่ยวโจวกำลังก้าวเท้าข้ามกระจกทองสัมฤทธิ์ได้สำเร็จพอดี
ทั้งหมดดูไม่แตกต่างจากคนอื่นๆ
แต่เขาไม่ได้จับกลุ่มกับใคร ยังคงไปๆ มาๆ เพียงลำพัง
หลังจากที่ยื่นนิ่งตรงที่เดิมอยู่ครู่หนึ่ง เขาเลือกไปเพียงลำพัง
ฉู่หลิวเยว่เบือนสายตากลับไป
…
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วเพียงชั่วพริบตาเดียว
ฉู่หลิวเยว่และคนอื่นไม่กี่คนกำลังเข้าไปในเขาหลิน ทุกอย่างดูเป็นปกติ
ลมพัดผ่านเขาหลิน ทำให้เกิดเสียงหวีดหวิวขึ้น
“ที่แห่งนี้ดูเหมือนจะไม่มีอันตรายอย่างที่ตำนานกล่าวไว้เช่นนั้นหรือ”
เฮ่อจื่อหลานบ่นพึมพำด้วยเสียงทุ้มต่ำขึ้น
นับเป็นเรื่องดี นางกังวลใจมานาน
“นี่เพิ่งเข้ามาจะมีอันตรายหรือไม่นั้น หนทางยังอีกยาวไกลก็จะรู้กัน”
สีหน้าของเฮ่อจื่อจี้กลับเคร่งขรึมอย่างมาก
“เฮ่อจื่อจี้ ก่อนหน้าเจ้าพูดว่าการทดสอบในครั้งนี้ใช้เวลาหนึ่งเดือนเชียวหรือ”
ฉู่หลิวเยว่เอ่ยถามขึ้นในทันที
“ถึงแม้เขาไท่อินนี้จะสูงชันและอันตราย แต่หากจะปีนขึ้นไปบนยอดเขาก็น่าจะใช้เวลาไม่นานขนาดนั้นหรอก”
หากเป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้ฝึกฝนอันใด ประมาณสองสามวันก็ปีนถึงเช่นกัน
หากเปลี่ยนเป็นผู้ฝึกตน ก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น
แม้ตรงกลางจะมีกับดักและอันตรายอยู่บ้าง ในระยะเวลาหนึ่งเดือนก็นับว่านานไปจริงๆ
เฮ่อจื่อจี้เอ่ยขึ้น
“เพราะนี่เป็นเพียงครึ่งหนึ่งของการทดสอบเท่านั้น!”
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“อันที่จริงที่เจ้าพูดมาก็ถูก โดยปกติการปีนขึ้นยอดเขาอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น อีกทั้งลำดับการปีนขึ้นไปบนเขายังเป็นข้อกำหนดของการทดสอบ แต่หลังจากนั้นทุกคนจะต้องอยู่บนเขาสักระยะหนึ่ง เมื่อถึงเวลาหนึ่งเดือนผู้คุมจะพาทุกคนไปที่อาณาจักรเสิ่นซวี่”
………………..