ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2005 หลุมพราง!
ตอนที่ 2005 หลุมพราง!
………………..
ไม่มีผู้ใดเคลื่อนไหว
เมื่อถึงเวลานี้หากยังมองปัญหาไม่ออก พวกเขาก็คงโง่กันทั้งตระกูลจริงๆ
“ใต้เท้าหงอัน ที่แห่งนี้คือที่ใดกัน นายท่านผู้นั่นที่ท่านเรียก…เป็นใครกัน”
มีคนกล้าเอ่ยปากขึ้น…
สายตาของทุกคนต่างจ้องมองไปที่ตัวหงอัน
เขาหัวเราะขึ้น
“ที่นี่คือที่ใดกัน พวกเจ้าเห็นชัดหรือไม่ ที่นี่คือการเข้าสู้พื้นที่เล็กๆ ที่อยู่ติดอาณาจักรเสิ่นซวี่! ส่วนนายท่าน…แน่นอนว่าก็เป็นนายท่าน ข้าไม่เคยพูดว่าข้าคือผู้ฝึกฝนทั่วไปใช่หรือไม่”
เมื่อเห็นว่าสีหน้าทุกคนเกิดความระแวดระวัง เขาจึงแอบด่าเรื่องไม่ดีในใจว่าเจ้าหน้าบาก แต่เขากลับไม่แสดงสีหน้าออกมา
“ข้าขอพูดตามตรงกับทุกท่าน อันที่จริงเดิมทีพวกเราเป็นหนึ่งในกองกำลังงของอาณาจักรเสิ่นซวี่ แต่ที่นี่เราเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เกี่ยวกับการทดสอบ บอกทุกท่านตามตรงเลยว่า จริงๆ แล้วข้าก็มีความเห็นแก่ตัวเช่นกัน จุดประสงค์ก็คือต้องการดึงดูดทุกคนเข้ามา สุดท้ายทุกท่านที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนมีความสามารถที่โดดเด่น หากพวกเจ้าสามารถเข้าร่วมได้ ก็มีศักยภาพเพิ่มราวกับติดปีกให้เสือ[1] ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของคนจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนอ่อนลงอย่างมาก
ที่แท้ต้องการรับคนเพิ่ม!
คำพูดเช่นนี้จึงเข้าใจได้ไม่ยากนัก
เพียงแต่…
“หากเป็นเช่นนี้ แค่ใต้เท้าหงอันอธิบายมาตามตรง เหตุใดต้อง…”
เหตุใดต้องปิดบัง ทำให้เกือบจะเข้าใจผิดกันเสียแล้ว
หงอันยิ้มเล็กน้อย
“ทุกท่านอาจไม่รู้ว่าอาณาจักรเสิ่นซวีมีกฏของอาณาจักร การรับคนมาจากข้างนอก เดิมทีก็ไม่ค่อยเหมาะสมนัก ข้าจึงรอคอยและไม่ได้ปล่อยข่าวให้ใหญ่โต และคิดว่าหลังจากพาพวกเขาเข้าไปแล้ว นับว่าเป็นคนในอาณาจักรเสิ่นซวีและค่อยจัดการรับคนเพิ่มอีกครั้ง คิดไม่ถึงว่าเมื่อไม่ได้พูดเรื่องนี้ให้ชัดเจน เกือบทำให้ทุกคนเข้าใจผิด”
สุดท้ายแล้งไม่ว่าอย่างใดก็ตาม ความแข็งแกร่งของเขายังวางไว้ที่นี่
อีกทั้งที่แห่งนี้เต็มไปด้วยพลังแห่งสวรรค์และโลก จึงเป็นสถานที่ที่ดีต่อการฝึกฝนอย่างแท้จริง
เหตุใดผู้มีอำนาจเช่นนี้ จึงหลอกลวงพวกเขาได้
“แน่นอนว่า หากทุกท่านรู้สึกไม่พอใจกับคำพูด หลังจากที่เข้าไปที่อาณาจักรเสิ่นซวี่ ก็สามารถเลือกสำนักอื่นได้ ข้าไม่มีทางรั้งไว้อย่างแน่นอน”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มเยาะในใจ
พูดได้น่าฟัง
คนเหล่านี้ไม่เคยไปที่อาณาจักรเสิ่นซวี่ และไม่รู้อันใดเลยเกี่ยวกับสถานการณ์ทางนั้น
อันที่จริงในอาณาจักรเสิ่นซวี่มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล ในแต่ละตระกูลขุนนางใหญ่ล้วนอยู่ห่างกันไกลออกไป
หากมุ่งหน้าไปโดยไม่ไตร่ตรองเช่นนี้ และยังประเมินการไม่แน่ชัดว่าเป็นออกใต้ตกเหนือ คงได้ตายบนทางไปแล้ว!
เช่นนี้แล้ว แต่คนที่เข้าใจอาณาจักรเสิ่นซวี่อยู่บ้าง ต่างรู้ว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระมากเพียงใด
แต่คนเหล่านี้ที่อยู่ในเหตุการณ์ หากรู้ว่าคำพูดเหล่านี้ตั้งแต่เริ่มต้น ก็จะไม่มาเข้าร่วมที่เรียกว่าการทดสอบนี้!
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้…ดูเหมือนว่าพวกเราจะเข้าใจท่านผิดแล้ว…”
คนที่ตั้งคำถามในตอนแรกขอโทษเขาอยู่หลายหน
ท่าทางของทุกคนกลับเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
สถานที่อันล้ำค่าแห่งการฝึกฝนที่ไม่เคยพบมาก่อนหน้า รวมทั้งการปรากฏตัวอย่างต่อเนื่องของผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูง จึงเป็นเรื่องง่ายอย่างมากที่ทำให้ผู้คนเกิดความสับสนขึ้น
เดิมทีฉู่หลิวเยว่คิดจะเอ่ยปากพูด แต่หลังจากคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว นางจึงเลือกที่จะคอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงอยู่เงียบๆ ไปก่อน
นางต้องการดูว่าคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้เป็นอย่างที่นางคิดไว้ทั้งหมดหรือไม่!
“ทุกท่านเพิ่งมาถึง โปรดตามข้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ”
ทันทีที่ทุกคนต่างสงบลงแล้ว ความรู้สึกของหงอันก็วางลงได้ เขาหันกลับและพุ่งไปยังยอดเขา
ทุกคนตามหลังเขาไปอย่างใกล้ชิด
และระหว่างทางพวกเขาไม่ได้พบกับคนอื่นๆ เลย
“ช่วงนี้ทุกท่านโปรดรออยู่ที่นี่ก่อน หลังจากหนึ่งเดือนที่ประตูแดนสวรรค์เปิด ทุกคนค่อยออกเดินทาง”
ในเวลานี้ทุกคนเชื่อคำพูดของหงอันตามปกติ ส่วนข้อเสนอก็ล้วนแสดงออกอย่างเห็นด้วย
ยอดเขาสูงตระหง่าสามารถรองรับคนได้ห้าสิบคนก็เกินพอแล้ว
หงอันยังมอบยาอายุวัฒนะชั้นดีให้กับเด็กหนุ่มคนนั้นที่ได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้โดยเฉพาะ เพื่อให้เขาหายจากอาการบาดเจ็บ
การกระทำแต่ละอย่างนี้ทำให้ทุกคนยิ่งเชื่อใจในตัวเขามากขึ้นเป็นธรรมดา
หลังจากทำสิ่งเหล่านี้เสร็จเรียบร้อย หงอันก็คิดที่จะหันตัวกลับและจากไป
อย่างใดก็ตามเขาเพิ่งจะก้าวออกไป ท้องฟ้าก็มืดครึ้มลงในทันที!
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมอง
เพียงเห็นเมฆหมอกสดใสบนท้องฟ้องเมื่อครู่นี้ แต่กำลังมีเมฆดำมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว!
หัวใจของนางอ่อนยวบลง
ฉากนี้…มันดูคุ้นเคยจนอธิบายไม่ถูก…
“เกิดอันใดขึ้นที่นี่”
เฮ่อจื่อหลานถามขึ้นเสียงเบา
“ไม่ใช่ว่ามีชิ้นส่วนสมบัติสวรรค์มาสู่โลกนี้หรอกหรือ”
“ฮ่าฮ่า! ทุกท่านไม่ต้องกังวล เพียงแค่มีคนบนยอดเขาทางด้านนั้นต้องการบุกเข้ามา”
หงอันเงยหน้าขึ้นและชี้ไปทางยอดเขาที่อยู่ด้านข้างพร้อมพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“ข้างนอกยอดเขานี้มีค่ายกลอยู่ ไม่มีทางได้รับผลกระทบอันใด”
ขณะที่พูดเมฆดำก็มารวมตัวกัน ลมฟ้าส่งเสียงคำรามออกมา!
มีคนตกใจพลางพูดเสียงกระซิบขึ้น
“การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เช่นนี้ เป็นเพราะมีคนต้องการทะลวงขั้นระดับเทพขั้นสูงหรอกหรือ”
หงอันกระพริบตาเบาๆ
“ในอาณาจักรเสิ่นซวี่ การทะลวงขั้นระดับเทพขั้นสูง ถือว่าไม่มีอันใดปกติไปกว่านี้อีกแล้ว ด้วยความสามารถขอทุกท่าน ใช้เวลาฝึกฝนในที่แห่งนี้ บางทีอาจสามารถทำลายพันธนาการชั้นนั้นได้!”
คำพูดเพียงประโยคเดียวทำให้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกร้อนใจ
ฉู่หลิวเยว่แหงนศีรษะขึ้น มองดูท้องฟ้าที่มืดครึ้มขึ้นเรื่อยๆ และหรี่ตาลง
มองดูเช่นนี้กลับไม่เหมือนที่ถูกเรียกมาจากที่นั่น…
ตู้ม!
เสียงฟ้าร้องดังขึ้น ทันในนั้นมันก็พุ่งออกมาจากก้อนเมฆที่รวมตัวอยู่! เสียงดังสนั่นหวั่นไหว!
ต่อมาทุกคนเห็นทัณฑ์สวรรค์คล้ายงูเงินมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว!
หัวใจของฉู่หลิวเยว่สั่นระรัว!
ทัณฑ์สวรรค์นี้…มันพุ่งมาทางนี้!
ความคิดนี้เพิ่งแวบเข้ามาในหัว ทัณฑ์สวรรค์นั่นที่ทรงพลังอย่างน่าประหลาดใจได้ฟาดลงมาจนเสียงดังสนั่น!
และพุ่งเข้ามาหาทุกคนโดยตรง!
นางหันหน้ามาอย่างรวดเร็ว แต่กลับเห็นหงอันถอยออกไปไกลโดยไม่รู้เมื่อใด!
[1] ติดปีกให้เสือ หมายถึง การช่วยเหลือคนไม่ดี