ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2014 เทพสังหาร
ยิ่งไปกว่านั้น ในบรรดาคนทั้งสาม คนหนึ่งเป็นถึงผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ อีกสองคนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูง!
ในสถานการณ์ปกติ ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์สามคนเข้าประมือกับเขาพร้อมกัน เขาเองก็แทบจะเอาชนะได้อย่างแน่นอน
แต่ว่า…
ในบรรดาทั้งสามคนนี้ หากตัดเชียงหว่านโจวออกไป คนที่เหลืออยู่คนหนึ่งก็คือฉู่หลิวเยว่ ส่วนอีกคนหนึ่งคือหรงซิว!
ทั้งสองคนนี้ต่างมิอาจจัดการได้ด้วยง่ายทั้งคู่!
ท่ามกลางสะเก็ดไฟและประกายอัสนี ปราณกระบี่ของฉู่หลิวเยว่ก็ตวัดฟาดลงมา!
มั่วสือเชียนมิอาจหลบหลีกได้ทัน จึงจำต้องเลือกประมือซึ่งหน้า!
เขาสะบัดข้อมือคราหนึ่ง หมอกดำที่อยู่รอบตัวก็หลอมรวมเข้ากลายเป็นดาบยาวเล่มหนึ่ง!
ดาบยาวเล่มนั้นแข็งไปทั้งเล่ม ล้อมรอบด้วยประกายแสงดำมืด บนตัวดาบทอประกายแดงโลหิตออกมาจางๆ ที่ลากเชื่อมต่อกันดูราวกับลวดลายอันใดบางอย่าง
เคร้ง!
คนทั้งสองเข้าโรมรันพันตู!
ชิ้ง…
เสียงอาวุธมีคมเข้าเสียดสีกันดังลั่น!
สะเก็ดประกายไฟกระจายไปทั่วสี่ทิศในชั่วขณะ!
พละกำลังอันแข็งแกร่งทำเอาง่ามมือของฉู่หลิวเยว่สั่นระริกจนเหน็บชา
นางจ้องมองลวดลายบนดาบยาวเล่มนั้นของมั่วสือเชียน ก่อนพบว่ามันคือสัญลักษณ์ของถ้ำปีศาจทมิฬ!
“เดิมทีข้าคิดอยู่เลยว่าต้องใช้วิธีการใดถึงจะล่อให้เจ้าออกมาจากท่าเรือดอกท้อได้ คิดไม่ถึง… ว่าเจ้าจะมาด้วยตัวเอง!”
มั่วสือเชียนแค่นหัวเราะเย็นเยียบ ก่อนจะพลิกฝ่ามือกวัดแกว่งดาบ!
ยามเขาเคลื่อนไหว ช่องว่างของบริเวณโดยรอบล้วนบิดเบี้ยวตามการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว!
รอยแยกช่องว่างสีดำเส้นหนึ่งพลันฉีกขาดลงเบื้องหน้าของฉู่หลิวเยว่!
สีหน้าของนางพลันแข็งทื่อ เปลวเพลิงสีทองอร่ามเหล่านั้นแปรเปลี่ยนเป็นหงส์ทองคำขนาดมหึมาตัวหนึ่งอย่างรวดเร็ว!
ฉู่หลิวเยว่หย่งตัวกระโดดเคลื่อนหลบไปอยู่ด้านหลังของถวนจื่อ
พรึ่บ…
ถวนจื่อสยายปีกออกกว้าง!
ความคิดในหัวของฉู่หลิวเยว่พลันแล่นพล่าน!
เมื่อครู่นี้นางเพียงทำไปเพื่อทดสอบพลังของมั่วสือเชียนเท่านั้น
เขาเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์!
ทั้งยัง… บุกทะลวงถึงระดับสูงสุดแล้วอย่างแน่นอน!
ก่อนหน้านี้ฉู่หลิวเยว่เคยประมือกับอี้เหวินเทามาแล้ว
ตัวอี้เหวินเทาก็ถูกยอมรับว่าเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ที่โดดเด่นในหมู่ผู้แข็งแกร่งด้วยกันภายในอาณาจักรเสิ่นซวี่
แต่มั่วสือเชียนที่อยู่เบื้องหน้าแข็งแกร่งกว่าไม่รู้ตั้งกี่เท่า!
ลำพังพึ่งแค่พลังของตัวนางเองย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย
การโจมตีเมื่อครู่ นางใช้พลังไปแปดส่วน แต่กลับสร้างบาดแผลให้มั่วสือเชียนมิได้เลย
ที่วันนั้นนางเอาชนะอี้เหวินเทาได้ เพราะสถานที่ เวลา คนพรักพร้อม ทุกอย่างเอื้ออำนวย แต่วันนี้มันไม่เหมือนกัน
ที่นี่… เป็นอาณาเขตของมั่วสือเชียน!
ในตอนที่มั่วสือเชียนคิดจะไล่ตามต่อนั่นเอง พลันมีลมหนาวปราดหนึ่งพัดเข้าโจมตีจากด้านหลัง!
ในใจของเขารู้ว่าไม่ดีแน่ จึงรีบหันกายกลับไปมองทันที!
ด้ายสีทองเส้นบางเบาเส้นหนึ่งพุ่งเข้าเกี่ยวรัดดาบยาวในมือของเขาอย่างรวดเร็ว!
กิ๊ง!
หรงซิวดึงข้อมือกลับ ด้ายสีทองเส้นนั้นพลันรัดแน่นขึ้นมาทันใด!
เสียงระเบิดกัมปนาทอันรุนแรงดังขึ้นมา
เป็นหรงซิวที่ใช้นิ้วชี้กดลงบนด้ายสีทอง ก่อนจะดีดมันอย่างรุนแรง!
เส้นด้ายสีทองสั่นไหวระรัว ทำให้ดาบเล่มยาวที่เชื่อมติดกันอยู่ได้รับผลจากพลังอันน่าหวาดหวั่นที่แผ่ขยายออกมา ก่อนจะแตกสลายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในพริบตา!
…
การต่อสู้กลางอากาศนั้นเกิดแรงระเบิดปะทะอย่างรุนแรง
บรรดาฝูงชนที่จับตามองการต่อสู้ต่างตะลึงงันจนนิ่งค้างอยู่กับที่
ในตอนนั้นเอง ปฏิกิริยาตอบสนองของโต้วหมิ่นกลับไวอย่างยิ่ง
ยามเห็นว่าคนเหล่านั้นลงมือต่อสู้กันแล้ว เขาก็แผดเสียงตะโกนออกไปอย่างดุดัน
“ทุกคนฟังคำสั่ง! ลงมือกำราบเจ้าสามคนนั้นเดี๋ยวนี้!”
พูดจบ เขาก็ทะยานนำหน้าพุ่งไปก่อน!
แม้ว่าท่านเจ้าสำนักจะมีพลังกล้าแกร่ง แต่การถูกคนล้อมโจมตีในอาณาเขตของตัวเองจะอย่างใดก็อภัยให้ไม่ได้
ทว่าเขายังไม่ทันไปถึงจุดหมาย หรงซิวก็สะบัดชายเสื้อคลุมคราหนึ่ง
ตูม!
เปลวเพลิงสีทองราวกับกระแสน้ำเชี่ยวกรากที่พวยพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะก่อร่างกลายเป็นค่ายกลสีทองขนาดใหญ่กลางอากาศ โอบล้อมคนทั้งสี่เอาไว้ด้านใน!
โต้วหมิ่นพลันถูกสกัดกั้นเอาไว้ด้านนอกทันที
แสงสว่างจากเปลวเพลิงสีทองบดบังสายตาของทุกคนอย่างหนาแน่น!
โต้วหมิ่นประสานมือทั้งสองไว้ด้านหน้า
ค่ายกลอันหนึ่งรวมตัวกันอยู่ ณ เบื้องหน้าของเขาอย่างรวดเร็ว!
โฮก!
กี๊!
แรงกดดันมหาศาลจากพลังแห่งสายเลือดที่เปี่ยมด้วยอำนาจของอสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับบรรพกาลสยบเสือคำรามบนค่ายกลอันนั้นได้ชะงัด!
ร่างมายาที่เดิมกำลังก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาเองก็แตกสลายพร้อมด้วยเสียงอันดัง!
ยามโต้วหมิ่นได้ยินเสียงร้องของหงส์ก็รู้ทันทีว่าไม่ดีแน่ ทว่ายังไม่ทันจะได้ล่าถอย ค่ายกลก็ระเบิดออกต่อหน้าเขาเป็นที่เรียบร้อย!
สีหน้าของเขาขาวซีด กลิ่นคาวเลือดเข้มข้นพลันตีตื้นขึ้นมาในลำคอ!
“หงส์ทองคำรึนี่!”
หงอันตกตะลึงเสียจนเสียงแหบแห้ง
แม้ตอนนี้พวกเขาจะอยู่ด้านนอก มองไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านใน แต่ตอนที่หงส์ทองคำปรากฏตัวเมื่อครู่ บรรดาคนที่อยู่ในที่แห่งนี้ล้วนแต่เห็นกันชัดเจนเต็มสองตา
พวกเฮ่อจื่อจี้ที่ยืนอยู่ด้านล่างไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นภายในอาณาจักรเสิ่นซวี่ ยามเห็นภาพฉากนี้แล้วรู้สึกตื่นตะลึงย่อมเป็นปกติ
แต่เรื่องพวกนี้นั้น… พวกเขาต่างหากที่รู้ดีกันอยู่แล้ว!
ฟากโต้วหมิ่นก็รู้สึกเสียใจไม่หายเช่นกัน
เขาเพียงแค่คิดจะทำดีลบล้างความผิด แต่กลับลืมไปได้เสียนี่ว่าฉู่หลิวเยว่เองหาใช่คนที่จัดการได้ง่ายๆ ไม่!
อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่นางทำพันธะด้วยไม่เพียงเป็นหงส์ทองคำ แต่ยังครองตำแหน่งนายหญิงน้อยของเผ่าหงส์ทองคำด้วย!
นางสามารถเอาชนะอี้เหวินเทาได้ พลังของนางย่อมดูถูกไม่ได้เด็ดขาด!
อุณหภูมิร้อนลวกที่แผ่กระจายออกมาจากค่ายกลทำเอาโต้วหมิ่นยิ่งสั่นระริกไปด้วยความหวาดผวา
ภายหลังเขาหาวิธีลองหลายครั้งต่อหลายครั้ง พบว่าไม่ต้องพูดถึงเรื่องทลายค่ายกลเลย แค่จะเข้าใกล้ยังลำบากยากเย็นมากแล้ว
ในตอนนั้นเอง บริเวณโดยรอบมีคนทยอยพุ่งเข้าไปอย่างต่อเนื่อง จัดการโอบล้อมด้านนอกค่ายกลขนาดมหึมาเอาไว้
แต่พอเผชิญกับค่ายกลอันนี้แล้ว พวกเขาต่างก็หมดหนทางกันถ้วนหน้า
“นี่จะทำอย่างใดดี?”
ใครบางคนถามขึ้นมา
เดิมเขาคิดจะร่วมมือกับบรรดาฝูงชนใช้กำลังบุกทะลวงค่ายกลเข้าไปจากด้านนอก
ทว่าหลังจากลองตรองดูอย่างรอบคอบแล้ว ก็รู้สึกว่าวิธีการนี้ใช้การไม่ได้โดยสิ้นเชิง
อย่างใดเสียท่านเจ้าสำนักก็ยังอยู่ด้านใน!
หากประมาทแม้แต่นิด เกรงว่าจะ…
พวกเขาย่อมแบกรับผลลัพธ์ที่ตามมาภายหลังกันไม่ไหวแน่
ตอนนี้ทำได้แค่หวังให้เจ้าสำนักสามารถเอาตัวออกมาได้ก่อนแล้ว…
“ผู้นำพิธีโต้วหมิ่น แล้วจะทำอย่างใดกับคนพวกนั้นดีขอรับ?”
โต้วหมิ่นหันศีรษะกลับมามองแวบหนึ่ง สีหน้าฉายแววรำคาญขึ้นมาหลายส่วน
“จับพวกมันขังเอาไว้ก่อน!”
เวลานี้แล้ว ใครมันจะยังมีกะจิตกะใจมาคิดเรื่องพวกนั้นอยู่อีกกัน?
“ขอรับ!”
ภายในถ้ำปีศาจทมิฬ นอกจากมั่วสือเชียนที่มีศักดิ์เป็นเจ้าสำนักแล้ว ผู้ที่มีสิทธิ์มีเสียงมากที่สุดก็คือบรรดาผู้นำพิธีทั้งหลาย
อีกทั้งตอนเรื่องเกิดขึ้นโต้วหมิ่นก็อยู่ด้วยพอดี ดังนั้นตอนนี้บรรดาฝูงชนจึงเคารพนับถือเขาไปโดยไม่รู้ตัว
แม้ก่อนหน้านี้จะก่อปัญหาเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับสถานการณ์ในตอนนี้แล้วย่อมไม่ควรค่าแก่การพูดถึง
จนแทบไม่มีใครไปใส่ใจเรื่องนั้นอีกด้วยซ้ำ
ดังนั้น ภายใต้การชี้นำของโต้วหมิ่น ถ้ำปีศาจทมิฬทั้งหมดก็ตื่นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว!
ทุกคนเว้นช่องว่างและใช้ค่ายกลสีทองขนาดมหึมาอันนั้นเป็นศูนย์กลาง จัดเรียงขบวนเป็นชั้นๆ ตั้งกำลังรบรอเต็มสูบ!
“ผู้นำพิธีโต้วหมิ่น เจ้าสำนักเจอศัตรูสามคนรุมเข้าโจมตี คงไม่เกิดปัญหาอันใดใช่หรือไม่ขอรับ?”
บรรดาฝูงชนมากน้อยก็ยังค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่หลายส่วน
“โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้ว ตัวหรงซิวเองก็มาด้วย…”
ผู้พูดกดเสียงต่ำ
สีหน้าของโต้วหมิ่นพลันฉาบด้วยความเคร่งขรึม
คนอื่นน่ะช่างมันไปเถอะ แต่หรงซิว…
นั่นน่ะคือเทพสังหารตัวจริงเสียงจริง!
หลายปีก่อน มีคนไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไรในถ้ำปีศาจทมิฬที่ตายตกอยู่ในเงื้อมือของเขา!
…
………………..